BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8684
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 17, 2024 23:27
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ใช่ครับ นั้นล่ะความเห็นผม เด็กเรียนเก่งพิเศษก็ต้องอยู่ รร. พิเศษ ถูกแล้ว
เพราะต่อให้การศึกษาพัฒนามากพอ เด็กเก่งพิเศษโดดออกมาจากคนอื่นมันก็เรียนอยู่กับคนอื่นไม่ได้ มันก็ต้องอยู่ที่พิเศษ
รร.พวกนี้คือสำหรับคน +2,+3SD จะให้เด็กโอลิมปิก พวกห้องคิงเด็กเตรียมเด็กMvit มาเรียน รร.มาตราฐาน สำหรับประสบการณ์ส่วนตัว ผมว่าไม่ถูก คนสอนเด็กพวกนี้ได้ มันไม่ใช่ครูตามมาตราฐานบนโลกนี้ มันต้องดีเกินมาตราฐานโลกไปไกลเลย (ไม่มีรร. หรือบุคลากรที่จัดมาเพื่อจะไปแข่งโอลิมปิก จะได้แข่ง? จะได้เหรียญมั้ย? แล้วได้เหรียญโอลิมปิก มันไม่ดีกับการศึกษาไทยยังไง ยังไม่รวม ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับเด็กด้วย ที่จะมีทุน มีโอกาสอะไรเปิดกว้างมากมายหลังจากนี้)

ผมเข้าใจว่าสิ่งที่คุณต้องการคือ ให้ mean มันสูงขึ้น ซึ่งผมว่ามันไม่เกี่ยวการมีนักเรียนกลุ่มนี้นะ แต่ถ้าคุณจะบ่นเรื่องเงินสนับสนุน อันนี้ ผมไม่รู้รายละเอียด
แต่ผมว่าเข้าใจว่าคุณตัดเด็กกลุ่มนี้ คือสายสามัญเหมือนกันหมด ไม่ต่างจากเด็กกลุ่มอื่นๆ มาตราฐานรร.ที่คุณต้องการให้รร.ประเทศไทย ทุกรร. สอนเด็ก -2SD ไปจนถึง+2SD ผมว่าเป้าหมายนี้ไม่สำเร็จแน่นอนครับ
แต่ถ้าตั้งเป้าให้เด็กจบจากรร.ไทย ออกมามีคุณภาพ ก็ใช่ครับ ทำได้ ก็พัฒนา หลักสูตรองค์รวม มีเวลาสถานที่ให้ รร.พัฒนาบุคลากร จัดการทรัพยากรให้เหมาะสม เพียงพอ

ด้วยความเคารพนะขอให้สิ่งที่คุณตั้งมั่นฝันไว้ ประสบความสำเร็จนะครับ ผมคนไทย ถ้าประเทศเราเป็นแบบนั้นคงดีมากๆ แต่ผมก็อยากบอกอย่างมั่นใจเหมือนกันนะ ว่าวันนั้นมาถึงวันที่ "ระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม" รร.สำหรับเด็กเก่งพิเศษเหล่านี้ มันก็ยังอยู่ คนเก่งก็แแย่งกันเข้าเหมือนเดิมครับ

สุดท้ายนี้ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ครับ เห็นว่าทำงานด้านการศึกษา ปัญหาแก้ไม่ได้มันก็คงเยอะแยะไปหมด แต่ก็ขอให้ได้ผลลัพธ์ที่หวังนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Rinsama เมื่อ Wed Jul 17, 2024 23:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Talent bringt dich an den start, Einstellung ans ziel.
พรสวรรค์นำคุณไปที่จุดเริ่มต้น ทัศนคตินำคุณไปสู่เส้นชัย
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2013
ตอบ: 395
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 17, 2024 23:43
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
ขอพูดในความเห็นของผมนะ

โรงเรียนนี้จะสู้กับ เตรียมอุดม , MWIT ได้ไหม

-ผมขอถามกลับว่า สู้ในแง่ไหนดีกว่า ใครเหรียญโอลิมปิกวิชาการเยอะกว่า , หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คณะดีๆได้ดีกว่า หรือ วัดคะแนนเฉลี่ย admission ดีกว่า หรือแข่งกันชิงเหรียญได้เยอะกว่า

คำตอบผมก็คิดว่า น่าจะวนๆกันใน 3-4 อย่างนี้ละ และคงสู้ได้แน่ๆ เพราะโรงเรียนนี้เขาคัดเด็กเก่งไปอยู่กับเขา จริงๆเด็กพวกนี้เดิมทีก็เก่งอยู่แล้ว ได้ครูสอนดีๆ ทรัพยากรดีๆไป ยังไงก็มีโอกาสมีผลการศึกษาที่ดี คำถามคือ ชนะได้ที่ 1 แล้วไงต่อ จะมีเด็กไทยสร้างงานวิจัยอะไรใหม่ๆได้มั้ย ผมคิดว่า ไม่ เพราะผมคิดว่าการผลิตงานวิจัย หรือสร้าง นวัตกรรม มันมากกว่าที่เราเห็นมากเพราะว่า

-ทุนวิจัย
-บริษัทที่มีงบมาลงทุน
-ความรู้ด้านอื่นๆ หรือสายศิลป์ก็ได้ เช่นศิลปกรรม สถาปัตยกรรม การออกแบบ หรือภาษา เช่นสมมุติคุณอยากขายของนี้ให้ต่างชาติ ก็ต้องมีคนออกแบบโฆษณาดีๆ ออกแบบสวยๆ สื่อภาษาให้ต่างชาติเข้าใจ หรือมีคนไปคุยจ้างงานให้คนต่างชาติเข้าใจ
-อาชีวเก่งๆ ผลิตอุปกรณ์ดีๆ

ผมเห็นด้วยคอมเม้นต์ก่อนหน้านี้ว่า การสร้างโรงเรียนม.ปลายระดับท๊อป คัดเด็กเพียง หยิบมือ แล้วทุ่มทรัพยากรเต็มที่หวังให้ประเทศพัฒนาวิทยศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงมันน้อยมากครับ ผมไม่ได้ไม่สนับสนุนโรงเรียนนี้นะ แต่ผมจะบอกการพัฒนา เน้นปั้นความรู้ทางวิทยศาสตร์อย่างเดียว ไม่ทำให้เกิดนวัตกรรมแน่นอน

ผมได้คุยกับคนที่จบรร.เตรียมหรือ MWIT ก็เป็นคนที่มีความคิดเชิงวิทย์และเชิงตรรกะดีมาก คำถามผมคือมี MWIT , มหิดล ก็สร้างบุคลากรเหล่านี้ขึ้นมาอยู่แล้ว คำถามคือ ทำไมต้องสร้างให้มันซ้ำกัน ด้านอย่างอื่นไม่มีเลยหรอ ผมเคยดูรายการของเยอรมัน ที่มีโรงเรียน อาชีวะ ให้เรียน โดยเอารถเก่าๆมาแยกส่วน หลังจากนั้นมาประกอบให้มันกลับไปเหมือนเดิม เรียนจบแล้วมีมหาวิทยาลัย ที่ต่อด้านช่างเทคนิคขึ้นมาโดยเฉพาะ

สรุป ผมคิดว่า ไม่รู้จะแข่งกันสร้างโรงเรียน เพื่อแย่งผลงานวิชาการกันทำไม ทำไมไม่มีโรงเรียน สำหรับสายอาชีวะ หรือวิศวกรรม อื่นๆบ้าง หรือพัฒนาระบบโรงเรียนให้มันเท่าๆกันบ้าง จะได้ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลง
แก้ไขล่าสุดโดย tongkub เมื่อ Wed Jul 17, 2024 23:50, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Mar 2008
ตอบ: 1327
ที่อยู่: อยู่ไทยแล้ว
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 03:40
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้สึกว่า ประสบการณ์ความรู้คุณเยอะนะครับ แต่มันดูผิดที่ผิดทาง ทั้ง logic และดูไม่ออกว่าผลสุดท้ายที่คุณพูดๆมาคือต้องการอะไรแบบไหนครับ มันดู subjective และมีแต่บอกว่าสิ่งนี้ไม่ดี แล้วที่ดีคืออะไรครับ? ผมเห็นด้วยที่การศึกษาพื้นฐานทั่วประเทศมันห่วย มันต้องยกระดับให้ดีกว่านี้ และเข้าถึงได้ทุกคน แต่ผมไม่ปิดกั้นเรื่องโรงเรียนที่เป็นช่องทางพิเศษสำหรับเด็กที่พิเศษจริงๆ ที่จะกรูมเน้นเฉพาะทางเฉพาะความชอบให้เก่งเป็น World class level นะครับ

ยิ่งพูดแต่ "ความเท่าเทียม" เพราะโรงเรียนนึงที่เพิ่งเกิดเป็นเด็กหัวกะทิไปแห่เข้าเป็นความไม่เท่าเทียม???

คือ ผมเห็นด้วยนะครับที่เด็กทุกคนต้องมีความเท่าเทียมในการได้รับการศึกษาที่ดี ที่ส่งเสริมสิ่งที่ชอบและถนัดของตัวเองและเหมาะกับระดับความสามารถรวมถึง learning style type ของตัวเอง

แต่ การที่มีโรงเรียนนึงเกิดขึ้นมาที่เน้นการศึกษาเฉพาะทาง เน้นการทดลอง การจบการศึกษาด้วย research base ไม่ใช่ Academic base ตั้งแต่มัธยม-อุดมศึกษา ผมจะบอกว่าความเท่าเทียมตรงนี้ของผมคือ "การมีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเข้าเรียนเท่าเทียมกัน" แล้วใครได้ ไม่ได้เป็นเรื่องการเเข่งขันตามความสามารถที่เตรียมมา ถ้าความเท่าเทียมคือ เด็กเก่ง ขยัน กับ เด็กไม่เรียน ไม่ขยัน ได้อะไรเท่ากัน ผมไม่เรียกว่าคือความเท่าเทียมนะครับ

ขอสรุปอีกครั้งนะครับ ระบบการศึกษาที่เท่าเทียมในมุมของผมคือ ไม่ใช่ว่าเค้าเก่ง หัวกะทิ หรืออะไร จริงๆแล้วต้องยอมรับครับ เด็กทุกคนไม่ได้เก่งเท่ากัน ไม่ได้มีความถนัดที่เหมือน ไม่ได้มีความชอบที่เหมือนกัน สิ่งที่เป็นความเท่าเทียมทางการศึกษาคือ การได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ที่ส่งเสริมศักยภาพของเด็กตามความชอบความถนัดให้เกิดผลสูงสุดกับการพัฒนาศักยภาพของเด็กแต่ละคนมากกว่าครับ

ผมถามคุณดีกว่าว่าสิ่งชี้วัดการศึกษาที่ดีตามเป้าของคุณคืออะไร และผลสุดท้ายคุณต้องการอะไร ป้อนคนมีคุณภาพเข้าประเทศ-เข้าตลาดเเรงงาน? หรือยอด paper research เยอะๆ? หรือ อะไรครับ?
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Feb 2022
ตอบ: 21
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 04:35
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


จริงๆแล้วประเด็นน่าจะอยู่ที่แต่ละโรงเรียนได้ส่งเสริมเด็กอย่างเต็มศักยภาพหรือยังมากกว่ารึเปล่าครับ เด็กที่ว่ารู้ตัวว่าชอบวิทย์ ก็ควรจะหาโรงเรียนที่เน้นการเรียนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนดังอย่างสวนกุหลาบ แม้จะได้เด็กคนเดียวกันมาตอนม.ต้น ได้ส่งเสริมเค้าอย่างเพียงพอรึยัง หรือหากเด็กคนนี้เลือกเรียนต่อที่สวนกุหลาบ จะเติมเต็มศักยภาพเค้าได้เท่า KVIS รึเปล่า ผมว่าอันนี้เป็นคำถามที่สก.ต้องไปคิดต่อนะครับ ว่าจะปรับตัวยังไง

แทนที่จะคิดว่านี่เป็นการเด็ดยอด น่าจะคิดว่านี่เป็นแนวทางในการพัฒนาเด็กม.ปลายที่ดี โรงเรียนอื่นๆก็ควรจะเอาไปเป็นแบบอย่าง เค้าเรียนยังไง หลักสูตรเป็นอย่างไรจะได้นำมาปรับปรุงของตัวเอง

ส่วนตัวคิดว่า การมองว่านี่เป็นการเด็ดยอดไปเหมือนโฟกัสที่ประโยชน์ของโรงเรียน หวงเด็กไม่อยากให้ไปที่อื่นมากกว่าครับ

ปล. สมัยผมเรียนอยู่ มีพวกวิชาแบบสวนกุหลาบศึกษา เรียนหัตถกรรมจักสาน ซ้อมเชียร์ทีละหลายๆเดือน พวกนี้ผมว่าควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นครับ 5555 แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะ ว่าสมัยนี้พัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว



0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Feb 2022
ตอบ: 21
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 04:47
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ต่างประเทศเค้าพัฒนาเด็กทุกคนเหมือนๆกันจริงหรอครับ ผมว่าต่างประเทศเค้าพยายาม Specialize เด็กไปตาม Potential นะครับ ไม่ใช่แค่ออกมาเรียนวิทย์ แต่เค้ามีโรงเรียนศิลปะ รร.ดนตรี รร.เต้น รร.การแสดง Football academy ที่ให้เด็กเข้าตั้งแต่สิบกว่าขวบแล้ว ผมว่าเราควรมี รร. เฉพาะอย่างนี้ในทุกๆสาขาเลยด้วยซ้ำไป ส่วนเด็กที่ยังไม่รู้ว่าชอบอะไรก็เรียนโรงเรียนทั่วไปที่สอนหลายๆอย่างต่อไปก่อน
แก้ไขล่าสุดโดย zirkon8 เมื่อ Thu Jul 18, 2024 04:48, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Mar 2021
ตอบ: 2418
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 09:08
คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 



ความเท่าเทียมทางการศึกษา มันคนละส่วนกับกันไหม

ถ้าผมอยากเรียนดนตรี ผมอัจฉริยะมาก ให้ผมเรียนรร.เดิมต่อไปเหรอในเมื่อมี รร.เฉพาะทางที่เสนอเงินทุนให้ผมเรียนต่อไปยังสาขาที่ผมต้องการ

แปลกๆนะ เหมือนจะดี แต่ว่าความคิดแบบนี้ขวางอนาคตไปรึเปล่า จับปลาน้ำลึกไปปล่อยบ่อซะเปล่าๆครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8684
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 15:37
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Iceberg_AtHighbury พิมพ์ว่า:
สมัยผม เด็กโอลิมปิกส่วนใหญ่มาจาก เตรียมอุดม สวนกุหลาบ

ถ้ามี ร.ร ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ดีแหละ แต่ถามว่ามันใช่มั้ยนี่ประเทศขนาดคน 60 - 70 ล้านคนมี ร.ร ดี ๆ วนกันอยู่แค่นี้

ถ้าผมเป็นผู้ปกครองคงดีใจมากกว่า ถ้าบ้านเราเลือกจะตามรอยพวกยุโรปตะวันตก หรือสแกนดิเนเวีย ที่ทุก ร.ร มีคุณภาพพอ ๆ กัน (แต่ยังสามารถผลิตคนที่มีคุณภาพออกมาได้) แล้วคนไม่ต้องวิ่งเต้นเข้า ร.ร ดัง ๆ เหมือนประเทศแถบเอเชีย

โมเดล ร.ร เก่ง ร.ร เทพ สุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าการผลิตซุปเปอร์มนุษย์ป้อนธุรกิจ  


ผมว่าประเทศไหนก็มี school ranking นะ
จะแสกน จะยุโรป จะอเมริกา
มันไม่มีเท่ากันจริงหรอก มาตราฐานผ่านหมดใช่ แต่ดีเท่ากันหมด ไม่ใช่

ถ้าคุณเป็นเด็กที่จะเลือกเรียนสักที่ หรือผปคที่จะส่งเด็กไปเรียนยังไงก็เลือก ตามranking
ตัวเลือกมันอาจจะเยอะกว่า แต่ไม่เท่ากัน


อย่างเพื่อนผมอยู่เยอรมัน ระบบการเรียนที่โน่น พ่อแม่หนักใจกว่าเราอีก ใครว่าไม่แย่งรร.ดีๆ ไม่จริง ยิ่งตอนนี่เยอรมันเริ่มคัดเด็กตั้งแต่ชั้น"ประถม" กระทู้นี้พูดเรื่องคัดเด็กม.ปลายก็เสียงแตกละ 555

รร.ประถมที่มันอยากเอาลูกเข้ารับ 100 สมัคร3พัน

ของบ้านเรามันรร.หลุดมาตราฐานเยอะเกิน อันนี้ปัญหาระดับชาติ ที่เรากังวล แต่เอาจริงคหสต รร.พิเศษสำหรับเด็กเก่งมันก็เยอะนะ แต่ผมว่ามันยังไม่พอ  


ผมเรียนจบจากเยอรมัน และลูกผมก็เคยเข้าเรียนที่เยอรมันครับ แต่ไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่เพื่อนท่านว่ามานะครับ ลองเช็คดูกับเพื่อนดูใหม่ครับ
 


เช็คยังไงดีละครับ ไว้เจอรอบหน้าจะถามดูนะ 555
ถ้าจะผิดก็คงภาษาอังกฤษผม หรือ เขาไม่ดีอะนะ แต่ไม่น่าจะผิดจาก บริบทที่เขาจะสื่อมากนักหรอกครับ

ว่าแต่สนใจตรงลูกเคยเรียนที่เยอรมัน พอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำยังไง หรือว่าคุณสัญชาติเยอรมัน? เพราะอันนี้ผมก็เคยถามเพื่อนคนนี้แหละว่าถ้าอยากให้ลูกเรียนเยอรมันทำไง เขาบอกว่าไม่มีทาง ตัดใจเถอะ ยกเว้นเอาเข้านานาชาติที่รับต่างชาติโดยเฉพาะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Talent bringt dich an den start, Einstellung ans ziel.
พรสวรรค์นำคุณไปที่จุดเริ่มต้น ทัศนคตินำคุณไปสู่เส้นชัย
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 674
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 17:10
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


เห็นด้วยตามนี้อย่างมากครับ จุดประสงค์มันคนละแบบกัน
อันนี้เค้าอยากพัฒนาคนที่เชี่ยวชาญ Pure Science
มันก้ต้องเด็ดยอดแบบนี้แหละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 674
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jul 18, 2024 17:27
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ด้วยความเคารพ ผมว่าเพราะท่านอยู่ในวงการการศึกษาตัวจริงแบบนี้นี่แหละ
ทำให้ท่าน Bias ความรู้สึกของท่านลงไปในการตอบคอมเม้นกระทู้นี้

เข้าใจอารมณ์ท่านนนะ แต่เหมือนท่านตอบคำถามคนละคำถามครับ
ท่านอาจจะมองภาพใหญ่ว่า การมีโรงเรียบแบบนี้เยอะๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้การศึกษาโดยรวมดีขึ้น ใช่ครับ ผมเห็นด้วยนะ

แต่จุดประสงค์ของการตั้งโรงเรียนนี้ คืออยากได้นักวิทย์เข้า Vistec
หรืออย่างน้อยไม่ต้องเข้า Vistec ก้ได้ แต่เป็น Pure Science จริงๆ โจทย์เค้าคือแบบนี้

โจทย์ท่านอะคือการพัฒนาวงการศึกษาโดยรวม ผมว่าเอา Logic คนละคำถามมาปนกัน อาจจะไม่ถูกเท่าไรครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: ทูตซ้ายเม้งก่า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2953
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 17:49
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
LoneTrait พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ด้วยความเคารพ ผมว่าเพราะท่านอยู่ในวงการการศึกษาตัวจริงแบบนี้นี่แหละ
ทำให้ท่าน Bias ความรู้สึกของท่านลงไปในการตอบคอมเม้นกระทู้นี้

เข้าใจอารมณ์ท่านนนะ แต่เหมือนท่านตอบคำถามคนละคำถามครับ
ท่านอาจจะมองภาพใหญ่ว่า การมีโรงเรียบแบบนี้เยอะๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้การศึกษาโดยรวมดีขึ้น ใช่ครับ ผมเห็นด้วยนะ

แต่จุดประสงค์ของการตั้งโรงเรียนนี้ คืออยากได้นักวิทย์เข้า Vistec
หรืออย่างน้อยไม่ต้องเข้า Vistec ก้ได้ แต่เป็น Pure Science จริงๆ โจทย์เค้าคือแบบนี้

โจทย์ท่านอะคือการพัฒนาวงการศึกษาโดยรวม ผมว่าเอา Logic คนละคำถามมาปนกัน อาจจะไม่ถูกเท่าไรครับ  


ผมขอให้ท่านลองมองอีกมุมนะครับว่า ทำไมถึงเกิดโรงเรียนอย่าง กำเนิดวิทย์ขึ้นมา โดยการสนับสนุนจากเอกชนเข้ามาสร้างโรงเรียนเฉพาะนี้ขึ้นมา คำตอบคือต้องการสร้างคนที่เก่งวิทยาศาสตร์ หรือสาเหตุที่แท้จริงมาจาก ระบบการศึกษาของประเทศไทยมันยังไม่ดีกันแน่ เขาถึงต้องลงทุนสร้างตรงนี้ขึ้นมาเอง

ถ้าคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างแท้จริง อย่างประเทศที่เขาเจริญแล้ว อย่างระบบโรงเรียนในประเทศแถบยุโรป หรือแถบสแกน ถามว่ามันจะเกิดโรงเรียนในลักษณะเช่นนี้เหรอครับ? เอกชนเขาจะลงทุนสร้างโรงเรียนแบบ กำเนิดวิทย์ ขึ้นมาทำไม ถ้าโรงเรียนที่มีอยู่ มีคุณภาพการศึกษาที่ดี ที่สูงอยู่แล้ว เอกชนในต่างประเทศจะเอาเงินไปลงทุนกับงานวิจัยในระดับมหาวิทยาลัยดีกว่าครับ ป้อนเงินลงไปตรงนั้น ดีกว่า ได้ผลงานมาใช้งานจริงได้อีก

พูดตามจริงครับ ผมไม่ได้ Bias อะไรนะ ผมแค่มองในภาพรวมของประเทศที่มันควรจะเป็น ผมสอนในระดับมหาวิทยาลัย เด็กโรงเรียนดังๆ นะผมสอนมาหมดแล้ว ถามว่าผมชอบไหมเวลาสอนเด็กพวกนี้ คำตอบคือ ชอบดิ เด็กหัวไว เรียนดี ไม่มีอาจารย์คนไหนไม่ชอบหรอกครับ แต่ถ้าเรามองในภาพรวม ภาพใหญ่ของการศึกษาของประเทศไทยละครับ ผมในฐานะอาจารย์ในมหาวิทยาลัย คงจะเอาแต่สอนเด็กพวกนี้อย่างเดียวไม่ได้

สิ่งที่ผมพยายามตอบ พยายามสื่อออกไปทั้งหมด ที่ผมตอบในกระทู้นี้คือ การศึกษาของไทยจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ถ้ามันขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ การลงทุนสร้างโรงเรียนพิเศษเฉพาะ มันก็ไม่จำเป็นต้องมี เอกชนจะป้อนเงินสนับสนุนให้กับการวิจัย การศึกษาในระดับสูง เพื่อต่อยอด มากกว่าที่จะต้องมาลงทุนสร้างฐาน อย่างระดับมัธยมครับ

ก็หวังว่าท่านและคนที่เข้ามาอ่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอยากจะสื่อ และความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาไทยที่ผมอยากจะเห็น เพื่อลูก เพื่อหลาน จะได้มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น สูงขึ้นโดยทั่วหน้า ไม่ใช่ว่าถ้าอยากได้การศึกษาดีดี ต้องมุ่งเข้าโรงเรียนดังๆ เพียงอย่างเดียวครับ ถ้าท่านเห็นในปัจจุบัน ประเทศไทยส่งเด็กชนะเหรียญโอลิมปิกวิชาการมากมาย แต่อีกมุมนึง คะแนนสอบ หรือความสามารถของภาษาอังกฤษโดยรวมของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มันก็เป็นสิ่งที่น่าคิดนะครับว่า ทิศทางการศึกษาที่เป็นอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบันมันคือทางที่ใช่แล้วเหรอครับ

ต้องขอโทษหลายๆคอมเม้นด้วย ที่ผมไม่ได้เข้าไปตอบ ขอตอบในนี้เป็นคำตอบรวมๆเลยละกัน พอดี ผมไม่ค่อยมีเวลา และขี้เกียจไปไล่ตอบ ไล่อธิบายเป็นรายคนครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: ทูตซ้ายเม้งก่า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2953
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 18:06
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Iceberg_AtHighbury พิมพ์ว่า:
สมัยผม เด็กโอลิมปิกส่วนใหญ่มาจาก เตรียมอุดม สวนกุหลาบ

ถ้ามี ร.ร ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ดีแหละ แต่ถามว่ามันใช่มั้ยนี่ประเทศขนาดคน 60 - 70 ล้านคนมี ร.ร ดี ๆ วนกันอยู่แค่นี้

ถ้าผมเป็นผู้ปกครองคงดีใจมากกว่า ถ้าบ้านเราเลือกจะตามรอยพวกยุโรปตะวันตก หรือสแกนดิเนเวีย ที่ทุก ร.ร มีคุณภาพพอ ๆ กัน (แต่ยังสามารถผลิตคนที่มีคุณภาพออกมาได้) แล้วคนไม่ต้องวิ่งเต้นเข้า ร.ร ดัง ๆ เหมือนประเทศแถบเอเชีย

โมเดล ร.ร เก่ง ร.ร เทพ สุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าการผลิตซุปเปอร์มนุษย์ป้อนธุรกิจ  


ผมว่าประเทศไหนก็มี school ranking นะ
จะแสกน จะยุโรป จะอเมริกา
มันไม่มีเท่ากันจริงหรอก มาตราฐานผ่านหมดใช่ แต่ดีเท่ากันหมด ไม่ใช่

ถ้าคุณเป็นเด็กที่จะเลือกเรียนสักที่ หรือผปคที่จะส่งเด็กไปเรียนยังไงก็เลือก ตามranking
ตัวเลือกมันอาจจะเยอะกว่า แต่ไม่เท่ากัน


อย่างเพื่อนผมอยู่เยอรมัน ระบบการเรียนที่โน่น พ่อแม่หนักใจกว่าเราอีก ใครว่าไม่แย่งรร.ดีๆ ไม่จริง ยิ่งตอนนี่เยอรมันเริ่มคัดเด็กตั้งแต่ชั้น"ประถม" กระทู้นี้พูดเรื่องคัดเด็กม.ปลายก็เสียงแตกละ 555

รร.ประถมที่มันอยากเอาลูกเข้ารับ 100 สมัคร3พัน

ของบ้านเรามันรร.หลุดมาตราฐานเยอะเกิน อันนี้ปัญหาระดับชาติ ที่เรากังวล แต่เอาจริงคหสต รร.พิเศษสำหรับเด็กเก่งมันก็เยอะนะ แต่ผมว่ามันยังไม่พอ  


ผมเรียนจบจากเยอรมัน และลูกผมก็เคยเข้าเรียนที่เยอรมันครับ แต่ไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่เพื่อนท่านว่ามานะครับ ลองเช็คดูกับเพื่อนดูใหม่ครับ
 


เช็คยังไงดีละครับ ไว้เจอรอบหน้าจะถามดูนะ 555
ถ้าจะผิดก็คงภาษาอังกฤษผม หรือ เขาไม่ดีอะนะ แต่ไม่น่าจะผิดจาก บริบทที่เขาจะสื่อมากนักหรอกครับ

ว่าแต่สนใจตรงลูกเคยเรียนที่เยอรมัน พอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำยังไง หรือว่าคุณสัญชาติเยอรมัน? เพราะอันนี้ผมก็เคยถามเพื่อนคนนี้แหละว่าถ้าอยากให้ลูกเรียนเยอรมันทำไง เขาบอกว่าไม่มีทาง ตัดใจเถอะ ยกเว้นเอาเข้านานาชาติที่รับต่างชาติโดยเฉพาะ  


ขอมูลท่านก็ไม่ถูกต้องอยู่ดีครับ ทุกคนที่เข้าเยอรมัน และอยู่ในเยอรมันอย่างถูกกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษา (ภาคบังคับ) ครับ ไม่จำกัดว่าคุณจะมาจากเชื้อชาติใด สัญชาติใดครับ

ผมไปเรียนปริญญาเอกที่เยอรมัน และผมก็เอาลูกเข้าเรียนที่เยอรมันด้วยครับ เพราะผมพาลูกและครอบครัวไปด้วย ถ้าลูกผมไม่ไปเข้าโรงเรียน จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะโดนจับครับ

ส่วนที่เพื่อนท่านตอบมานะ ผมคาดเดาว่า น่าจะเป็นเพราะระบบ ความยากของภาษาที่เป็นกำแพงที่สูงมากสำหรับคนต่างชาติ ทำให้หลายๆคนถอยออกมาจากการเรียนในระบบเยอรมัน ที่ใช้ภาษาเยอรมัน  100% เขาถึงบอกว่าให้ไปดูอะไรที่มันเป็นนานาชาติที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้มากกว่านะ

ถ้าท่านสนใจที่จะส่งลูกไปเรียนเยอรมัน ก็ลองหาข้อมูลดูได้ ตามเวปทางการของการศึกษาในเยอรมัน หรือที่ Goethe อยู่ตรงแถวสาธรครับ ท่านน่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง และดีกว่าครับ

ถ้าสนใจจริงๆ จะส่งข้อความมาถามผมก็ได้ครับ เพราะส่วนตัว ก็ให้คำแนะนำไปหลายคนแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8684
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 19:15
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Iceberg_AtHighbury พิมพ์ว่า:
สมัยผม เด็กโอลิมปิกส่วนใหญ่มาจาก เตรียมอุดม สวนกุหลาบ

ถ้ามี ร.ร ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ดีแหละ แต่ถามว่ามันใช่มั้ยนี่ประเทศขนาดคน 60 - 70 ล้านคนมี ร.ร ดี ๆ วนกันอยู่แค่นี้

ถ้าผมเป็นผู้ปกครองคงดีใจมากกว่า ถ้าบ้านเราเลือกจะตามรอยพวกยุโรปตะวันตก หรือสแกนดิเนเวีย ที่ทุก ร.ร มีคุณภาพพอ ๆ กัน (แต่ยังสามารถผลิตคนที่มีคุณภาพออกมาได้) แล้วคนไม่ต้องวิ่งเต้นเข้า ร.ร ดัง ๆ เหมือนประเทศแถบเอเชีย

โมเดล ร.ร เก่ง ร.ร เทพ สุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าการผลิตซุปเปอร์มนุษย์ป้อนธุรกิจ  


ผมว่าประเทศไหนก็มี school ranking นะ
จะแสกน จะยุโรป จะอเมริกา
มันไม่มีเท่ากันจริงหรอก มาตราฐานผ่านหมดใช่ แต่ดีเท่ากันหมด ไม่ใช่

ถ้าคุณเป็นเด็กที่จะเลือกเรียนสักที่ หรือผปคที่จะส่งเด็กไปเรียนยังไงก็เลือก ตามranking
ตัวเลือกมันอาจจะเยอะกว่า แต่ไม่เท่ากัน


อย่างเพื่อนผมอยู่เยอรมัน ระบบการเรียนที่โน่น พ่อแม่หนักใจกว่าเราอีก ใครว่าไม่แย่งรร.ดีๆ ไม่จริง ยิ่งตอนนี่เยอรมันเริ่มคัดเด็กตั้งแต่ชั้น"ประถม" กระทู้นี้พูดเรื่องคัดเด็กม.ปลายก็เสียงแตกละ 555

รร.ประถมที่มันอยากเอาลูกเข้ารับ 100 สมัคร3พัน

ของบ้านเรามันรร.หลุดมาตราฐานเยอะเกิน อันนี้ปัญหาระดับชาติ ที่เรากังวล แต่เอาจริงคหสต รร.พิเศษสำหรับเด็กเก่งมันก็เยอะนะ แต่ผมว่ามันยังไม่พอ  


ผมเรียนจบจากเยอรมัน และลูกผมก็เคยเข้าเรียนที่เยอรมันครับ แต่ไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่เพื่อนท่านว่ามานะครับ ลองเช็คดูกับเพื่อนดูใหม่ครับ
 


เช็คยังไงดีละครับ ไว้เจอรอบหน้าจะถามดูนะ 555
ถ้าจะผิดก็คงภาษาอังกฤษผม หรือ เขาไม่ดีอะนะ แต่ไม่น่าจะผิดจาก บริบทที่เขาจะสื่อมากนักหรอกครับ

ว่าแต่สนใจตรงลูกเคยเรียนที่เยอรมัน พอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำยังไง หรือว่าคุณสัญชาติเยอรมัน? เพราะอันนี้ผมก็เคยถามเพื่อนคนนี้แหละว่าถ้าอยากให้ลูกเรียนเยอรมันทำไง เขาบอกว่าไม่มีทาง ตัดใจเถอะ ยกเว้นเอาเข้านานาชาติที่รับต่างชาติโดยเฉพาะ  


ขอมูลท่านก็ไม่ถูกต้องอยู่ดีครับ ทุกคนที่เข้าเยอรมัน และอยู่ในเยอรมันอย่างถูกกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษา (ภาคบังคับ) ครับ ไม่จำกัดว่าคุณจะมาจากเชื้อชาติใด สัญชาติใดครับ

ผมไปเรียนปริญญาเอกที่เยอรมัน และผมก็เอาลูกเข้าเรียนที่เยอรมันด้วยครับ เพราะผมพาลูกและครอบครัวไปด้วย ถ้าลูกผมไม่ไปเข้าโรงเรียน จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะโดนจับครับ

ส่วนที่เพื่อนท่านตอบมานะ ผมคาดเดาว่า น่าจะเป็นเพราะระบบ ความยากของภาษาที่เป็นกำแพงที่สูงมากสำหรับคนต่างชาติ ทำให้หลายๆคนถอยออกมาจากการเรียนในระบบเยอรมัน ที่ใช้ภาษาเยอรมัน  100% เขาถึงบอกว่าให้ไปดูอะไรที่มันเป็นนานาชาติที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้มากกว่านะ

ถ้าท่านสนใจที่จะส่งลูกไปเรียนเยอรมัน ก็ลองหาข้อมูลดูได้ ตามเวปทางการของการศึกษาในเยอรมัน หรือที่ Goethe อยู่ตรงแถวสาธรครับ ท่านน่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง และดีกว่าครับ

ถ้าสนใจจริงๆ จะส่งข้อความมาถามผมก็ได้ครับ เพราะส่วนตัว ก็ให้คำแนะนำไปหลายคนแล้ว
 


คือเพื่อนที่พูดถึงผมเขาคนเยอรมัน ลูกสอง ตอนนี้อยู่ประถมครับ ภรรยาเขาคนไทยเลยได้คุยกันตอนไปเที่ยวแล้วเขาพูดถึงแบบนั้น ครับ ผมคงไม่เถียงคุณในรายละเอียดหรอกครับ เพราะผมก็ฟังคนเยอรมันเขาพูดมา (เอาจริงๆผมถอดตามประโยคที่เขาพูดเลยนะ)

ประเด็นนิก็จบไปดีกว่าครับ เพราะผมก็ไม่รู้รายละเอียดหรอว่าเด็กเยอรมันมันเรียนยังไงหรือว่าคุณจะว่ามันผิด ก็บอกมาว่ามันผิดยังไง แล้วผมจะได้บอกเขาให้ครั้งหน้าที่เจอนะ 555
(จะไลน์ไปหาบอกว่าทะเลาะกับคนในเนตมาก็ไม่ใช่เรื่อง หึหึ)

ผมว่าผมไม่ได้ถามถึงสิทธิ์พลเมืองนะ (ขอวีซ่าให้เด็กเขาก็ต้องมีที่เรียนก่อน ใช่มั้ย? ) ผมสนใจว่าไปเรียนได้ยังไงเท่านั้นเอง

ต้องขอบคุณสำหรับคำตอบกับคำแนะนำครับ จะส่งต่อข้อมูลไปให้คนที่อยากส่งลูกไปเรียนเยอรมัน แล้วถ้ามีคำถาม ขอความกรุณาอีกรอบนะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Talent bringt dich an den start, Einstellung ans ziel.
พรสวรรค์นำคุณไปที่จุดเริ่มต้น ทัศนคตินำคุณไปสู่เส้นชัย
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: ทูตซ้ายเม้งก่า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2953
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 20:02
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Iceberg_AtHighbury พิมพ์ว่า:
สมัยผม เด็กโอลิมปิกส่วนใหญ่มาจาก เตรียมอุดม สวนกุหลาบ

ถ้ามี ร.ร ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ดีแหละ แต่ถามว่ามันใช่มั้ยนี่ประเทศขนาดคน 60 - 70 ล้านคนมี ร.ร ดี ๆ วนกันอยู่แค่นี้

ถ้าผมเป็นผู้ปกครองคงดีใจมากกว่า ถ้าบ้านเราเลือกจะตามรอยพวกยุโรปตะวันตก หรือสแกนดิเนเวีย ที่ทุก ร.ร มีคุณภาพพอ ๆ กัน (แต่ยังสามารถผลิตคนที่มีคุณภาพออกมาได้) แล้วคนไม่ต้องวิ่งเต้นเข้า ร.ร ดัง ๆ เหมือนประเทศแถบเอเชีย

โมเดล ร.ร เก่ง ร.ร เทพ สุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าการผลิตซุปเปอร์มนุษย์ป้อนธุรกิจ  


ผมว่าประเทศไหนก็มี school ranking นะ
จะแสกน จะยุโรป จะอเมริกา
มันไม่มีเท่ากันจริงหรอก มาตราฐานผ่านหมดใช่ แต่ดีเท่ากันหมด ไม่ใช่

ถ้าคุณเป็นเด็กที่จะเลือกเรียนสักที่ หรือผปคที่จะส่งเด็กไปเรียนยังไงก็เลือก ตามranking
ตัวเลือกมันอาจจะเยอะกว่า แต่ไม่เท่ากัน


อย่างเพื่อนผมอยู่เยอรมัน ระบบการเรียนที่โน่น พ่อแม่หนักใจกว่าเราอีก ใครว่าไม่แย่งรร.ดีๆ ไม่จริง ยิ่งตอนนี่เยอรมันเริ่มคัดเด็กตั้งแต่ชั้น"ประถม" กระทู้นี้พูดเรื่องคัดเด็กม.ปลายก็เสียงแตกละ 555

รร.ประถมที่มันอยากเอาลูกเข้ารับ 100 สมัคร3พัน

ของบ้านเรามันรร.หลุดมาตราฐานเยอะเกิน อันนี้ปัญหาระดับชาติ ที่เรากังวล แต่เอาจริงคหสต รร.พิเศษสำหรับเด็กเก่งมันก็เยอะนะ แต่ผมว่ามันยังไม่พอ  


ผมเรียนจบจากเยอรมัน และลูกผมก็เคยเข้าเรียนที่เยอรมันครับ แต่ไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่เพื่อนท่านว่ามานะครับ ลองเช็คดูกับเพื่อนดูใหม่ครับ
 


เช็คยังไงดีละครับ ไว้เจอรอบหน้าจะถามดูนะ 555
ถ้าจะผิดก็คงภาษาอังกฤษผม หรือ เขาไม่ดีอะนะ แต่ไม่น่าจะผิดจาก บริบทที่เขาจะสื่อมากนักหรอกครับ

ว่าแต่สนใจตรงลูกเคยเรียนที่เยอรมัน พอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำยังไง หรือว่าคุณสัญชาติเยอรมัน? เพราะอันนี้ผมก็เคยถามเพื่อนคนนี้แหละว่าถ้าอยากให้ลูกเรียนเยอรมันทำไง เขาบอกว่าไม่มีทาง ตัดใจเถอะ ยกเว้นเอาเข้านานาชาติที่รับต่างชาติโดยเฉพาะ  


ขอมูลท่านก็ไม่ถูกต้องอยู่ดีครับ ทุกคนที่เข้าเยอรมัน และอยู่ในเยอรมันอย่างถูกกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษา (ภาคบังคับ) ครับ ไม่จำกัดว่าคุณจะมาจากเชื้อชาติใด สัญชาติใดครับ

ผมไปเรียนปริญญาเอกที่เยอรมัน และผมก็เอาลูกเข้าเรียนที่เยอรมันด้วยครับ เพราะผมพาลูกและครอบครัวไปด้วย ถ้าลูกผมไม่ไปเข้าโรงเรียน จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะโดนจับครับ

ส่วนที่เพื่อนท่านตอบมานะ ผมคาดเดาว่า น่าจะเป็นเพราะระบบ ความยากของภาษาที่เป็นกำแพงที่สูงมากสำหรับคนต่างชาติ ทำให้หลายๆคนถอยออกมาจากการเรียนในระบบเยอรมัน ที่ใช้ภาษาเยอรมัน  100% เขาถึงบอกว่าให้ไปดูอะไรที่มันเป็นนานาชาติที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้มากกว่านะ

ถ้าท่านสนใจที่จะส่งลูกไปเรียนเยอรมัน ก็ลองหาข้อมูลดูได้ ตามเวปทางการของการศึกษาในเยอรมัน หรือที่ Goethe อยู่ตรงแถวสาธรครับ ท่านน่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง และดีกว่าครับ

ถ้าสนใจจริงๆ จะส่งข้อความมาถามผมก็ได้ครับ เพราะส่วนตัว ก็ให้คำแนะนำไปหลายคนแล้ว
 


คือเพื่อนที่พูดถึงผมเขาคนเยอรมัน ลูกสอง ตอนนี้อยู่ประถมครับ ภรรยาเขาคนไทยเลยได้คุยกันตอนไปเที่ยวแล้วเขาพูดถึงแบบนั้น ครับ ผมคงไม่เถียงคุณในรายละเอียดหรอกครับ เพราะผมก็ฟังคนเยอรมันเขาพูดมา (เอาจริงๆผมถอดตามประโยคที่เขาพูดเลยนะ)

ประเด็นนิก็จบไปดีกว่าครับ เพราะผมก็ไม่รู้รายละเอียดหรอว่าเด็กเยอรมันมันเรียนยังไงหรือว่าคุณจะว่ามันผิด ก็บอกมาว่ามันผิดยังไง แล้วผมจะได้บอกเขาให้ครั้งหน้าที่เจอนะ 555
(จะไลน์ไปหาบอกว่าทะเลาะกับคนในเนตมาก็ไม่ใช่เรื่อง หึหึ)

ผมว่าผมไม่ได้ถามถึงสิทธิ์พลเมืองนะ (ขอวีซ่าให้เด็กเขาก็ต้องมีที่เรียนก่อน ใช่มั้ย? ) ผมสนใจว่าไปเรียนได้ยังไงเท่านั้นเอง

ต้องขอบคุณสำหรับคำตอบกับคำแนะนำครับ จะส่งต่อข้อมูลไปให้คนที่อยากส่งลูกไปเรียนเยอรมัน แล้วถ้ามีคำถาม ขอความกรุณาอีกรอบนะครับ  


ถ้าเป็นเด็กไปกับพ่อแม่ ยังไงก็ต้องเป็นวีซ่าผู้ติดตามครับ สามารถเข้าเรียนได้เลยไม่มีปัญหาสำหรับการศึกษาภาคบังคับ ยกเว้นถ้าโตแล้ว แล้วจะเข้าไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย อันนั้นอีกเรื่องครับ เพราะถือว่าโตแล้ว และเป็นการศึกษาที่ไม่ใช่ภาคบังคับแล้ว แนวทางในการเข้าเรียนก็จะไม่ต่างจากหลายๆประเทศมากนัก คือต้องเรียนภาษา ต้องสอบภาษา ถ้าเป็นที่เยอรมัน ต้องไปเรียนในโรงเรียนก่อนเข้ามหาวิทยาลัยอีก 1 ปี เพราะระบบมัธยมของบ้านเรา ต่างกับที่เยอรมัน จะเข้ามหาวิทยาลัยเลยไม่ได้ครับ

แต่ถ้าจะส่งแค่เด็กเล็กๆ ไปเรียนโดยไม่มีพ่อแม่ไปด้วย อันนี้คงยากครับ คงไม่ใช่ยากแค่ที่เยอรมัน แต่คงเป็นทุกประเทศ เพราะต้องชี้แจงกันเยอะ ต้องมีญาติ หรือมีคนรับรองกันมากมาย

ปล. ผมว่าผมคุยปกติ และคุยตรงๆนะ ผมก็ไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกว่าเป็นการทะเลาะอะไร เพียงแค่ถ้าข้อมูลอันไหนที่เห็นว่ามัน ไม่ถูกต้อง ผมก็บอกว่ามันไม่ถูก เผื่อคนอื่นที่แวะเวียนเข้ามาเห็นจะได้ไม่เข้าใจผิด ก็แค่นั้นเองครับ โตๆกันแล้ว คุยกัน ถกกันแบบผู้ใหญ่ครับ ผมไม่ใช่เกรียนคีบอร์ดอะไร อายุก็เยอะแล้ว อีกไม่ถึงสิบปี ผมก็จะเกษียณแล้วครับ คงไม่เอาเวลามานั่งเขียนอะไร ทะเลาะอะไรบ้าๆ บอๆ แบบพวกเกรียนคีบอร์ดหรอกครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 674
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 21:08
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
LoneTrait พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ด้วยความเคารพ ผมว่าเพราะท่านอยู่ในวงการการศึกษาตัวจริงแบบนี้นี่แหละ
ทำให้ท่าน Bias ความรู้สึกของท่านลงไปในการตอบคอมเม้นกระทู้นี้

เข้าใจอารมณ์ท่านนนะ แต่เหมือนท่านตอบคำถามคนละคำถามครับ
ท่านอาจจะมองภาพใหญ่ว่า การมีโรงเรียบแบบนี้เยอะๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้การศึกษาโดยรวมดีขึ้น ใช่ครับ ผมเห็นด้วยนะ

แต่จุดประสงค์ของการตั้งโรงเรียนนี้ คืออยากได้นักวิทย์เข้า Vistec
หรืออย่างน้อยไม่ต้องเข้า Vistec ก้ได้ แต่เป็น Pure Science จริงๆ โจทย์เค้าคือแบบนี้

โจทย์ท่านอะคือการพัฒนาวงการศึกษาโดยรวม ผมว่าเอา Logic คนละคำถามมาปนกัน อาจจะไม่ถูกเท่าไรครับ  


ผมขอให้ท่านลองมองอีกมุมนะครับว่า ทำไมถึงเกิดโรงเรียนอย่าง กำเนิดวิทย์ขึ้นมา โดยการสนับสนุนจากเอกชนเข้ามาสร้างโรงเรียนเฉพาะนี้ขึ้นมา คำตอบคือต้องการสร้างคนที่เก่งวิทยาศาสตร์ หรือสาเหตุที่แท้จริงมาจาก ระบบการศึกษาของประเทศไทยมันยังไม่ดีกันแน่ เขาถึงต้องลงทุนสร้างตรงนี้ขึ้นมาเอง

ถ้าคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างแท้จริง อย่างประเทศที่เขาเจริญแล้ว อย่างระบบโรงเรียนในประเทศแถบยุโรป หรือแถบสแกน ถามว่ามันจะเกิดโรงเรียนในลักษณะเช่นนี้เหรอครับ? เอกชนเขาจะลงทุนสร้างโรงเรียนแบบ กำเนิดวิทย์ ขึ้นมาทำไม ถ้าโรงเรียนที่มีอยู่ มีคุณภาพการศึกษาที่ดี ที่สูงอยู่แล้ว เอกชนในต่างประเทศจะเอาเงินไปลงทุนกับงานวิจัยในระดับมหาวิทยาลัยดีกว่าครับ ป้อนเงินลงไปตรงนั้น ดีกว่า ได้ผลงานมาใช้งานจริงได้อีก

พูดตามจริงครับ ผมไม่ได้ Bias อะไรนะ ผมแค่มองในภาพรวมของประเทศที่มันควรจะเป็น ผมสอนในระดับมหาวิทยาลัย เด็กโรงเรียนดังๆ นะผมสอนมาหมดแล้ว ถามว่าผมชอบไหมเวลาสอนเด็กพวกนี้ คำตอบคือ ชอบดิ เด็กหัวไว เรียนดี ไม่มีอาจารย์คนไหนไม่ชอบหรอกครับ แต่ถ้าเรามองในภาพรวม ภาพใหญ่ของการศึกษาของประเทศไทยละครับ ผมในฐานะอาจารย์ในมหาวิทยาลัย คงจะเอาแต่สอนเด็กพวกนี้อย่างเดียวไม่ได้

สิ่งที่ผมพยายามตอบ พยายามสื่อออกไปทั้งหมด ที่ผมตอบในกระทู้นี้คือ การศึกษาของไทยจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ถ้ามันขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ การลงทุนสร้างโรงเรียนพิเศษเฉพาะ มันก็ไม่จำเป็นต้องมี เอกชนจะป้อนเงินสนับสนุนให้กับการวิจัย การศึกษาในระดับสูง เพื่อต่อยอด มากกว่าที่จะต้องมาลงทุนสร้างฐาน อย่างระดับมัธยมครับ

ก็หวังว่าท่านและคนที่เข้ามาอ่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอยากจะสื่อ และความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาไทยที่ผมอยากจะเห็น เพื่อลูก เพื่อหลาน จะได้มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น สูงขึ้นโดยทั่วหน้า ไม่ใช่ว่าถ้าอยากได้การศึกษาดีดี ต้องมุ่งเข้าโรงเรียนดังๆ เพียงอย่างเดียวครับ ถ้าท่านเห็นในปัจจุบัน ประเทศไทยส่งเด็กชนะเหรียญโอลิมปิกวิชาการมากมาย แต่อีกมุมนึง คะแนนสอบ หรือความสามารถของภาษาอังกฤษโดยรวมของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มันก็เป็นสิ่งที่น่าคิดนะครับว่า ทิศทางการศึกษาที่เป็นอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบันมันคือทางที่ใช่แล้วเหรอครับ

ต้องขอโทษหลายๆคอมเม้นด้วย ที่ผมไม่ได้เข้าไปตอบ ขอตอบในนี้เป็นคำตอบรวมๆเลยละกัน พอดี ผมไม่ค่อยมีเวลา และขี้เกียจไปไล่ตอบ ไล่อธิบายเป็นรายคนครับ
 


จริงๆผมเห็นด้วยและเข้าใจกับจุดประสงค์ที่ท่านอยากสื่อทุกอย่างเลยครับ
ถ้ามองในแง่ธุจกิจ As is เราเป็นแบบนี้ ผมเป็นเอกชน ถ้าผมต้องการลงทุนในประเทศนี้ตอนนี้
การทำกำเนิดวิทย์อาจจะเป็นตัวเลือกเดียวนะครับที่ทำได้

ถ้าจะแก้การศึกษาทั้งระบบ ต้องลงลึกไปถึงสถาบันครอบครัว การจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ
สวัสดิการแห่งภาครัฐ​ สาธารนูปโภคพื้นฐาน ซึ่งนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเอกชนรายใดรายหนึ่งเลยครับ
มันคือหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องวางแผนแม่บทกัน 30-40 ปี ซึ่งอุปสรรคมันมากมายสุดๆ
ไม่ใช่การศึกษาแล้ว แต่ไปถึงเรื่องรัฐศาสตร์ด้วย

และทุกวันนี้ เราคือโลกทุกนิยมครับ มันขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ เราไม่ใช่ Utopia
เอกชนลงทุนเพื่อผลประโยชน์ ต้องมี ROI
คำถามคือถ้าวันนี้ผมเป็นเอกชนที่ต้องลงทุนอะไรสักอย่าง
กำเนิดวิทย์ และ VISTEC คือ quick win ที่ผมทำได้ (จริงๆก็ไม่ Quick มากแต่ไม่ใช่ 40 ปีอัพจากการพัฒนาทั้งระบบ)
เอกชนได้ประโยชน์เต็มๆเลย ประเทศได้ประโยชน์นิดเดียว นี่คือ Fact
แต่เอกชนก็มองว่าไอส่วนที่เหลือ มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่ต้องทำ และถึงอยากทำเค้าก้ทำไม่ได้

ดังนั้น
กำเนิดวิทย์แก้ปัญหาการศึกษาในภาพรวมไหม = ไม่แน่ๆแบบที่ท่านบอก
กำเนิดวิทย์ให้ประโยชน์กับประเทศไหม = ให้แน่ๆแต่อาจจะไม่ได้เป็นพลังที่ยืิ่งใหญ่ ขนาดที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้

ถ้าคนสร้างโรงเรียนนี้คือรัฐบาล 100% ผมอาจจะเห็นด้วยกว่านี้ ว่าทำไปทำไม
เพราะมันไม่แก้ปัญหาการศึกษาโดยรวมซึ่งเป็นหน้าที่หลักที่เค้าควรแก้





0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: ทูตซ้ายเม้งก่า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2953
ที่อยู่: KS
โพสเมื่อ: Fri Jul 19, 2024 21:53
[RE: คิดว่าเวลาอีก 10 ปี กำเนิดวิทย์ จะเบียด มหิดลวิทยฯ เตรียมอุดม ได้รึยังครับ]
LoneTrait พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
LoneTrait พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Spoil
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
Rinsama พิมพ์ว่า:
Metalmann 109 พิมพ์ว่า:
ไม่แปลกที่เปิดมาแค่ 10 ปีแล้วขึ้นไปอยู่ในระดับท็อปได้ ก็เพราะพี่เล่นเด็ดเอายอดๆจากโรงเรียนอื่นๆไปรวมกัน แล้วอัดเงินทุนเข้าไป มันก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจตรงไหนเลย

ถ้าพี่บอกว่าพี่ปั้นมาเองกับมือ ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และปั้นต่อเนื่องต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย แล้วขึ้นได้ในระดับท็อปของประเทศภายใน 10 ปี เออ แบบนี้ค่อยน่าชื่นชมหน่อย

เห็นใจโรงเรียนที่โดนเด็ดยอดดีดีออกไป แต่ก็เข้าใจตัวเด็กและผู้ปกครองที่อยากเข้าโรงเรียนดีดี เข้มข้น เพื่อให้สามารถเข้าเรียนในระดับสูงได้

แต่ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเด็ดยอดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่การพัฒนาและยกระดับการศึกษาโดยรวมของประเทศ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรงเรียนทั่วไปก็จะไม่มีทางที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็จะเกิดความห่าง ความเหลื่อมล้ำแบบในปัจจุบันไปเรื่อยๆ

 


ส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับรร.แบบนี้นะ
เพราะนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการศึกษาโดยรวมเลย
เรื่องมาตราฐานการศึกษาทั้งประเทศไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ รร.พิเศษ

เพราะเด็กที่เก่งพิเศษ มันก็ต้องมีอาจารย์เฉพาะที่จะสนับสนุนให้เขาพัฒนาไปได้ไกลที่สุดอย่างเหมาะสม

ต่อให้มีกำเนิดวิทย์ทั้งประเทศ เด็กทั่วๆไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับรร.แบบนี้อยู่ดี

ยกตัวอย่าง เหมือนเอาเด็กธรรมดา ไปนั่งเรียนกับเด็กเตรียมห้องคิง
จะสอนเด็กสองคนนี้เหมือนกันหรอ? ไม่อยู่แล้ว มันต้องสอนคนละวิธี คนละเนื้อหา คนละหลักสูตรเลย

อย่าเข้าใจผมผิด มาตราฐานการศึกษาโดยรวม ต้องดีขึ้น เด็กทุกคนเข้าถึงรร.คุณภาพที่ดี

แต่ผมไม่คิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน การสอนมันต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รร.มันก็ต้องหลากหลาย ให้เด็กมีทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง  


คำว่าหลากหลายของท่านคืออะไรละครับ คือโรงเรียนที่อยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ในประเทศเดียวกัน จบมาเป็นวุฒิ ม.6 เหมือนกัน แต่โรงเรียนนึงเป็นโรงเรียนทั่วไป อีกโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเงินทุน เด็ดยอดๆมารวมตัวกัน

ในมุมผม ผมไม่มองว่าแบบนั้นมันคือความหลากหลายนะครับ แต่มันคือความไม่เท่าเทียมกัน

การบ่มเพาะคนที่มีศักยภาพ มันสามารถทำได้เสมอครับ ถ้าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน มีครู อาจารย์ที่มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องเด็ดเอามาอยู่รวมกันแล้วบอกว่ามันต้องเป็นทางเลือกที่หลากหลายครับ
 


หลากหลายทางความสามารถไงครับ

เด็กเรียนเก่งก็ไปรร.เน้นเรียนไง
เด็กร้องเพลงเก่งก็ไปรร.เน้นศิลปกรรม
เด็กวาดเก่งออกแบบเก่ง ก็ไปรร.เน้นสถาปัต หัตถกรรม
เด็กเก่งกีฬา ก็ไปรร.กีฬา

จะเอารร.ที่สอนทุกสิ่งอย่าง แล้วเราต้องสร้างบุคลากรกันเท่าไรยังไงครับ

ยกตัวอย่าง ครูจบป.โท จบเอก สายตรง pure science เราจะให้ทุกรร.ในประเทศมีครูแบบนี้ ทุกรร. เลยหรอ เพื่อสอนใคร?

คณะนั้น รร.ก็ต้องมีพร้อมกับครูจบวิทยาศาสตร์การกีฬา มาสอนเด็กเล่นกีฬาไปด้วย?

พร้อมกันนั้นต้องมีครูจบ สถาปัต จบศิลปกรรม มาสอนเด็กสนใจศิลป์ ?

ทุกรร?

จะง่ายกว่ามั้ย ว่าเราเรามีสถานที่เหมาะสม สำหรับเด็ก แต่ละคน
มีทุนการศึกษาให้ สถานที่เรียน ที่พัก เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง มันจะไม่เท่าเทียมยังไง

คนเก่งวิทย์ ส่งไปเรียนรร.วิทย์ คนเก่งศิลป์ ส่งไปรร.ศิลป์ คนเก่งกีฬา ก็ส่งไปเรียนรร.กีฬา บุคลากรสถานที่ก็เพิ่มง่ายมีความเชี่ยวชาญ

เอาเด็กหัวไม่ดีไปเรียนรร.อย่างกำเนิดวิทย์ อย่างเตรียม จะเป็นผลเสียกับเด็กสะมากกว่า เรียนก็ไม่รู้เรื่องตามเพื่อนไม่ทัน กลายเป็นเด็กไม่พัฒนาสะอีก

แต่ถ้าคุณคิดว่า เด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจ แนวคิดที่จะ ไม่มีรร.พิเศษนะ  


ผมว่าผมกำลังคุยกันถึงเรื่องโรงเรียนมัธยมศึกษาที่อยู่ในสายสามัญนะครับ ซึ่งก็คือระบบโรงเรียนมัธยมต้น มัธยมปลายในประเทศไทย และทุกโรงเรียนในสายนี้ ก็เน้นเรียนกันทุกโรงเรียน เด็กในโรงเรียนทุกคนก็เน้นเรียนกันทุกคนนะครับ ถ้าเข้ามาเรียนในสายนี้

ถ้าอยากจะหลากหลาย ก็มีสายวิชาชีพอื่นๆรองรับอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สายสามัญนะครับ
 
 


ก็ไอ้ที่เราพูดถึง รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ
มันเป็นรร.พิเศษ สำหรับเด็กเรียนเก่ง "หัวกะทิ" สำหรับสร้างนักวิทย์ นักวิจัย สายวิชาการทั้งหลาย

แล้วผมแค่จะสื่อว่าเอาสร้างให้ทุกรร.เป็นกำเนิดวิทย์ เตรียมอุดม มันไม่มีประโยชน์ เด็กไม่ใช่ทุกคนที่เรียนรร.พวกนี้ได้

ก็เลยสรุปตอนท้ายว่า ถ้าคุณคิดว่าเด็กทุกคนศักยภาพเท่ากัน ผมก็เข้าใจในแนวคิดแบบนั้นเหมือนกัน

ผมยกตัวอย่างหลากหลายให้กว้างๆครับ จะได้เห็นภาพชัด เพราะคนเรียมสามัญมันก็หลาหลายนะ มีทั้งคนไม่เก่ง เก่ง หัวกรฝะทิ และอัจฉริยะ เอาแต่ละความหลากหลายมาจัดกลุ่มแล้วหาบุคลากรที่เหมาะมาสอนดีกว่ามั้ย?
เหมือนทึกอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาแหละครับ สายวิชาชีพก็หลากหลายในตัวมันครับ รร.กีฬาก็หลากหลายในตัวมันเช่นกัน  


สิ่งที่ท่านพูดออกมานะว่า "รร.อย่างเตรียม อย่าง Mvit อย่าง Kvis มันไม่ใช่สายสามัญทั่วไปไงครับ" มันคือสิ่งที่ถูกต้องครับ

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ ก็เพราะว่าโรงเรียนพวกนี้มันเป็นสายสามัญเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆในประเทศไทย แต่เรากำลังทำให้โรงเรียนเหล่านี้มันแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆทั่วไป โดยบอกว่าเด็กพิเศษ ต้องอยู่โรงเรียนพิเศษ

ถ้าระบบการศึกษาของเราพัฒนามากพอ และมีการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแบบนี้ครับ เพราะมาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนสูง และสูงแบบเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งห่างกัน แบบเช่นที่เกิดในประเทศไทย

ผมทำงานด้านการศึกษามา ยี่สิบกว่าปี สอนหนังสือมายี่สิบกว่าปี อยู่ต่างประเทศมาก็หลายปี เห็นระบบการศึกษาในประเทศต่างๆมาเยอะ และก็ติดตามวงการการศึกษาบ้านเรามานาน จับตาดูการพัฒนาของวงการการศึกษาบ้านเรามานาน แต่ก็อย่างที่เห็น เราเน้นกันเฉพาะจุด ให้ความสำคัญเฉพาะจุด โดยคิดว่ามันใช่ มันดี มันได้โอลิมปิกวิชาการมาให้ชื่นชม แต่สุดท้าย แล้วยังไงต่อละ ภาพรวมของการศึกษา คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศละ อยู่ตรงไหนครับ? แล้วเมื่อไหร่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมจะยกระดับสูงขึ้นครับ?

 


ด้วยความเคารพ ผมว่าเพราะท่านอยู่ในวงการการศึกษาตัวจริงแบบนี้นี่แหละ
ทำให้ท่าน Bias ความรู้สึกของท่านลงไปในการตอบคอมเม้นกระทู้นี้

เข้าใจอารมณ์ท่านนนะ แต่เหมือนท่านตอบคำถามคนละคำถามครับ
ท่านอาจจะมองภาพใหญ่ว่า การมีโรงเรียบแบบนี้เยอะๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้การศึกษาโดยรวมดีขึ้น ใช่ครับ ผมเห็นด้วยนะ

แต่จุดประสงค์ของการตั้งโรงเรียนนี้ คืออยากได้นักวิทย์เข้า Vistec
หรืออย่างน้อยไม่ต้องเข้า Vistec ก้ได้ แต่เป็น Pure Science จริงๆ โจทย์เค้าคือแบบนี้

โจทย์ท่านอะคือการพัฒนาวงการศึกษาโดยรวม ผมว่าเอา Logic คนละคำถามมาปนกัน อาจจะไม่ถูกเท่าไรครับ  


ผมขอให้ท่านลองมองอีกมุมนะครับว่า ทำไมถึงเกิดโรงเรียนอย่าง กำเนิดวิทย์ขึ้นมา โดยการสนับสนุนจากเอกชนเข้ามาสร้างโรงเรียนเฉพาะนี้ขึ้นมา คำตอบคือต้องการสร้างคนที่เก่งวิทยาศาสตร์ หรือสาเหตุที่แท้จริงมาจาก ระบบการศึกษาของประเทศไทยมันยังไม่ดีกันแน่ เขาถึงต้องลงทุนสร้างตรงนี้ขึ้นมาเอง

ถ้าคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างแท้จริง อย่างประเทศที่เขาเจริญแล้ว อย่างระบบโรงเรียนในประเทศแถบยุโรป หรือแถบสแกน ถามว่ามันจะเกิดโรงเรียนในลักษณะเช่นนี้เหรอครับ? เอกชนเขาจะลงทุนสร้างโรงเรียนแบบ กำเนิดวิทย์ ขึ้นมาทำไม ถ้าโรงเรียนที่มีอยู่ มีคุณภาพการศึกษาที่ดี ที่สูงอยู่แล้ว เอกชนในต่างประเทศจะเอาเงินไปลงทุนกับงานวิจัยในระดับมหาวิทยาลัยดีกว่าครับ ป้อนเงินลงไปตรงนั้น ดีกว่า ได้ผลงานมาใช้งานจริงได้อีก

พูดตามจริงครับ ผมไม่ได้ Bias อะไรนะ ผมแค่มองในภาพรวมของประเทศที่มันควรจะเป็น ผมสอนในระดับมหาวิทยาลัย เด็กโรงเรียนดังๆ นะผมสอนมาหมดแล้ว ถามว่าผมชอบไหมเวลาสอนเด็กพวกนี้ คำตอบคือ ชอบดิ เด็กหัวไว เรียนดี ไม่มีอาจารย์คนไหนไม่ชอบหรอกครับ แต่ถ้าเรามองในภาพรวม ภาพใหญ่ของการศึกษาของประเทศไทยละครับ ผมในฐานะอาจารย์ในมหาวิทยาลัย คงจะเอาแต่สอนเด็กพวกนี้อย่างเดียวไม่ได้

สิ่งที่ผมพยายามตอบ พยายามสื่อออกไปทั้งหมด ที่ผมตอบในกระทู้นี้คือ การศึกษาของไทยจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ถ้ามันขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ การลงทุนสร้างโรงเรียนพิเศษเฉพาะ มันก็ไม่จำเป็นต้องมี เอกชนจะป้อนเงินสนับสนุนให้กับการวิจัย การศึกษาในระดับสูง เพื่อต่อยอด มากกว่าที่จะต้องมาลงทุนสร้างฐาน อย่างระดับมัธยมครับ

ก็หวังว่าท่านและคนที่เข้ามาอ่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอยากจะสื่อ และความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาไทยที่ผมอยากจะเห็น เพื่อลูก เพื่อหลาน จะได้มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น สูงขึ้นโดยทั่วหน้า ไม่ใช่ว่าถ้าอยากได้การศึกษาดีดี ต้องมุ่งเข้าโรงเรียนดังๆ เพียงอย่างเดียวครับ ถ้าท่านเห็นในปัจจุบัน ประเทศไทยส่งเด็กชนะเหรียญโอลิมปิกวิชาการมากมาย แต่อีกมุมนึง คะแนนสอบ หรือความสามารถของภาษาอังกฤษโดยรวมของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มันก็เป็นสิ่งที่น่าคิดนะครับว่า ทิศทางการศึกษาที่เป็นอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบันมันคือทางที่ใช่แล้วเหรอครับ

ต้องขอโทษหลายๆคอมเม้นด้วย ที่ผมไม่ได้เข้าไปตอบ ขอตอบในนี้เป็นคำตอบรวมๆเลยละกัน พอดี ผมไม่ค่อยมีเวลา และขี้เกียจไปไล่ตอบ ไล่อธิบายเป็นรายคนครับ
 


จริงๆผมเห็นด้วยและเข้าใจกับจุดประสงค์ที่ท่านอยากสื่อทุกอย่างเลยครับ
ถ้ามองในแง่ธุจกิจ As is เราเป็นแบบนี้ ผมเป็นเอกชน ถ้าผมต้องการลงทุนในประเทศนี้ตอนนี้
การทำกำเนิดวิทย์อาจจะเป็นตัวเลือกเดียวนะครับที่ทำได้

ถ้าจะแก้การศึกษาทั้งระบบ ต้องลงลึกไปถึงสถาบันครอบครัว การจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ
สวัสดิการแห่งภาครัฐ​ สาธารนูปโภคพื้นฐาน ซึ่งนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเอกชนรายใดรายหนึ่งเลยครับ
มันคือหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องวางแผนแม่บทกัน 30-40 ปี ซึ่งอุปสรรคมันมากมายสุดๆ
ไม่ใช่การศึกษาแล้ว แต่ไปถึงเรื่องรัฐศาสตร์ด้วย

และทุกวันนี้ เราคือโลกทุกนิยมครับ มันขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ เราไม่ใช่ Utopia
เอกชนลงทุนเพื่อผลประโยชน์ ต้องมี ROI
คำถามคือถ้าวันนี้ผมเป็นเอกชนที่ต้องลงทุนอะไรสักอย่าง
กำเนิดวิทย์ และ VISTEC คือ quick win ที่ผมทำได้ (จริงๆก็ไม่ Quick มากแต่ไม่ใช่ 40 ปีอัพจากการพัฒนาทั้งระบบ)
เอกชนได้ประโยชน์เต็มๆเลย ประเทศได้ประโยชน์นิดเดียว นี่คือ Fact
แต่เอกชนก็มองว่าไอส่วนที่เหลือ มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่ต้องทำ และถึงอยากทำเค้าก้ทำไม่ได้

ดังนั้น
กำเนิดวิทย์แก้ปัญหาการศึกษาในภาพรวมไหม = ไม่แน่ๆแบบที่ท่านบอก
กำเนิดวิทย์ให้ประโยชน์กับประเทศไหม = ให้แน่ๆแต่อาจจะไม่ได้เป็นพลังที่ยืิ่งใหญ่ ขนาดที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้

ถ้าคนสร้างโรงเรียนนี้คือรัฐบาล 100% ผมอาจจะเห็นด้วยกว่านี้ ว่าทำไปทำไม
เพราะมันไม่แก้ปัญหาการศึกษาโดยรวมซึ่งเป็นหน้าที่หลักที่เค้าควรแก้

 


ถูกต้องครับ ในสิ่งที่ท่านได้พูดมา และเข้าใจได้ครับในมุมของเอกชนที่ต้องลงทุนลึกลงไปในระดับพื้นฐานอย่างมัธยม แต่ในมุมของผมที่เป็นประชาชนคนหนึ่งและมีลูกอยู่ในประเทศนี้ ผมกำลังมองหาความเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา เพื่อยกระดับการศึกษาที่ไม่ใช่ Quick win เฉพาะจุดนะครับ ในมุมมองของผมคือถ้าทุกคนเห็นดีเห็นงามกับโปรเจ็ค Quick win ที่มันเป็นอยู่ในปัจจุบัน สุดท้าย แรงผลักดันจากส่วนรวมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาโดยรวมมันจะไม่เกิดขึ้นนะครับ เพราะทุกคนก็จะคิดว่า Quick win แบบที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว เข้าใจครับว่ามันเป็นเรื่องที่ยากในการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงทางด้านการศึกษาในภาพรวม แต่ถ้าเราไม่เริ่ม ไม่สะท้อนสิ่งที่มันควรจะเป็น ไม่สะท้อนความต้องการการเปลี่ยนแปลง แล้วเมื่อไหร่มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงละครับ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะให้ทุกคนมองเห็นในจุดนี้

มันก็คล้ายๆกับ ที่ประชาชนในประเทศเลือกก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่งเพราะต้องการการเปลี่ยนแปลงประเทศนั้นแหละครับ คนที่ทำงานอยู่ในระบบการศึกษาอย่างผมก็ต้องการที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาของประเทศไทยเช่นเดียวกันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel