ตอนนี้เศรษฐกิจแย่จริงๆหรือคนคิดกันไปเองครับ เห็นคนบ่นในฟีด Facebook, Tiktok และตามเพจต่างๆมากมาย เช่นตลาดเงียบเหงา คนไม่มีเงินซื้อของ ของแพง บลาๆๆ ส่วนตัวผมคิดว่าแย่จริงๆ ณ ตอนนี้

แย่จริงครับ
ผมเปิดร้านขายของชำ
ยอดขาย หายไปครึ่งนึงอะ งงเลย
อยู่ๆ คนไม่ค่อยใช้เงินเลย
ร้านอื่นก็เหมือนกัน
ไหวป่าวก็ไม่รู้เนี่ย หนักจัด

หลายปัจจัย เศรษฐกิจแย่แค่ส่วนหนึ่ง
โลกเปลี่ยนดิสทรัป วงจรผู้ผลิต>ค้าส่ง>ค้าปลีก>ลูกค้า วงจรนี่พังไปแล้ว
ค้าส่ง ค้าปลีก ไม่อยากรับไปสตอคหรอก

แย่จริงๆครับ แต่ทุกวิกฤติมันมีกลุ่มคนที่รวยขึ้นอยู่ดี เงินแค่เปลี่ยนที่อยู่ ผมคิดแบบนี้นะ

ส่วนตัวทำธุรกิจ แถมให้เครดิตลูกค้า เงินฝืดสุดๆครับ หาเงินมาจ่ายค่าของไม่พอ ลูกค้าที่เซ็นไว้อยู่ดีๆทวงยากแต่จ่ายให้ปวดหัวบ้าง จ่ายครึ่งเดียวบ้าง จ่ายพันเดียวแต่ขอเซ็นของไปใช้งานหาเงินก่อนก็มี

แต่ตลาดที่รู้สึกผมไม่ค่อยเงียบก็ตลาดพระนะผมว่า ทุกครั้งที่ผมแวะไปกินเตี๋ยวเนื้อวัวใกล้ๆวัดบัวขวัญ ผมแวะพันทิพย์งามวงศ์วานไปเดินดูตลาดพระตลอด

ปล.งานสายกฏหมายก็ประมูลคดีกันราคาต่ำลงด้วย ส่วนตัวก็เลิกทำมาหลายเดือนละ จนคิดว่าจะเลิกถาวรเลย

เอาที่เห็นกับตาคือตึกปล่อยเช่า เซ้งเยอะขึ้นมาก

บ้านผมขายวัสดุก่อสร้าง บอกเลยว่าตั้งแต่หลังโควิดมาก็เป็นแบบนี้มาตลอดครับ อาศัยว่าในแถบนั้นมีร้านผมเป็นร้านใหญ่ร้านเดียวเลยพอขายได้เรื่อยๆครับ (คนอื่นขายที่ให้ขึ้นคอนโดหมดแล้ว) แต่ถึงอย่างไรรายได้ของร้านก็เลี้ยงคนทั้งกงสีไม่ไหวจนตอนนี้ผมต้องออกมาทำงานเป็นลูกจ้างให้กับบริษัทเจ้าสัวแทน ส่วนร้านก็ปล่อยให้คนอื่น Run ไป เพราะตัวผมมีทางไปมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นที่เหลือครับ แต่ที่ผมยังรู้ว่าสภาพไม่ดีขึ้นเพราะผมยังคงทำสต็อกให้ร้านอยู่ในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ครับ

อันนี้เห็นกับตาเหมือนกันครับ ตั้งแต่สำเหร่ถึงบางปะแก้ว และช่วงเพชรเกษมหนองแขม อ้อมน้อย ริมถนนตึกแถวร้างมีพอสมควรเลย แบบขึ้นป้ายปล่อยเช่าละไม่มีคนเช่า

เศรษฐกิจแย่จริง คนที่ไม่ทุกข์มาก คือมนุษย์เงินเดือน

มีแค่พวกพนักงานออฟฟิศ (แบบผม) ที่ยังพออยู่ได้

ค้าขาย SME รายจ่ายมากกว่ารายได้ ถึงมีรายได้หักแล้วกำไรก็เหลือน้อย

คนจีน สิงคโปร มาเลย์สายจีน เช่าพระเดือดมากเหมือนมันมีวัฒนธรรมใหม่ในจีน พวกเครื่องบูชานี่ยับๆเลย

มันแย่จริงๆแหละครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละที่มันแย่ไม่เท่ากัน ..... สิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกมันเป็นไปในลักษณะนี้ก็เพราะโลกมันเชื่อมโยงกันมากขึ้น มันหมุนเร็วขึ้น (เพราะเทคโนโลยีต่างๆที่พัฒนาขึ้นในทุกๆวัน)

แล้วโลกทั้งๆโลกก็เป็นทุนนิยมซะส่วนใหญ่

ไอเรื่องในประเทศ คงๆไม่ต้องบอกกันนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมมันไม่ไปไหนสักที

แต่สิ่งที่กระทบเต็มๆในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือมันไม่เหมือนโลกเกือบ 20 ปีก่อนอีกแล้วอะ แค่นั้นเลย

เราแค่เคยชินกับ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เมกา ปรับลดดอกมาตั้งกะก่อน แฮมเบอร์เกอร์ อีก 5% คือตอน 2006 แล้วเหลือ 0.25% ตอน 2008 ไม่นับรวม QE --> เนี่ยเราอยู่กับอัตราดอกเบี้ยต่ำมานานมาก พอจะขึ้นๆเจอ Covid กลับไปที่เดิมอีก แล้ว 2 ปีที่ผ่านมาขึ้นไปที่ 5% กว่า แบบตอนนี้

เงินมันไหลจาก ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำไปสูงอยู่ละ แล้วเราขึ้นดอกมาแค่ 2.5% แค่นี้คนในประเทศมันก็จะอ้วกอยู่ละ ลดก่อนก็เจออีก (ผมเข้าใจ BOT นะ, แล้วก็เข้าใจ รัฐบาล พท ด้วย ที่ความเห็นไม่ตรงกัน) คนกู้เงิน ที่ดอก 3-4% กลายเป็นดอก 7-8% ภาระดอกมันเพิ่มขึ้น 50% อะ

เพราะงั้นไม่ได้คิดไปเองหรอก ค่าครองชีพมันสูงขึ้น คนเก็บเงินมากขึ้นเพราะไม่รู้อนาคตเป็นไง(หรือไม่เหลือเงินให้เก็บก็ไม่รู้) --> พอคนใช้จ่ายน้อยลง รายได้ของอีกคนก็จะน้อยลงไปด้วย

ส่วนที่บ้านมันก็พอขายได้เรื่อยๆ (ร้านชำ และ ร้านขายยา) เพราะมันเป็นของใช้ทั่วๆไป ทมันก็มีลูกค้าเก่าๆที่เลือกร้านของที่บ้าน มากกว่า 7-11 นั้นแหละครับ แต่ยอดมันก็ลดลงเป็นธรรมดา

ส่วนมนุษย์เงินเดือนแบบผม.....ค่าครองชีพสูงขึ้นครับ แต่มันก็พอรับไหวอยู่

สำหรับรอบตัวผม มันแย่จริงๆ ครับ

1. บริษัที่ทำงานอยู่ ยอดตกลงมาก ผมโชคดีไม่โดนเลย์ออฟ แต่คิดว่าปีนี้คงได้โบนัสน้อยหรือไม่ได้เลย

2. ธุรกิจตัวเอง ยอดตกลงมา 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง พยายามยื้อเลี้ยงคนงาน แต่ถ้าปลายปียังไม่ดีขึ้นคงต้องเปลี่ยนแปลง

3. ธุรกิจแฟน ทรงๆ แต่คนงานขอเบิกเงินล่วงหน้ามากขึ้น

ข้อดีมีสองข้อ คือ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ...ไม่ใช่ละ มีคนมาสมัครขอทำงานไม่ขาดครับ แต่ก็รับไม่ได้อยู่ดีเพราะตัวเองก็สาหัสอยู่ กับยังไม่มีลูกนี่ล่ะครับ ไม่งั้นค่าใช้จ่ายหนักไปอีก

ตอนนี้ก็พยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ครับ เสื้อผ้าไม่ซื้อใหม่ กินอาหารนอกบ้านน้อยลง ของฟุ่มเฟือยต่างๆ ไม่ซื้อเลย

ไม่รู้จะผ่านช่วงนี้ไปยังไงเหมือนกัน แต่ก็สู้ๆ กันนะครับ

ตลาดพระบูมเพราะเล่นกับความเชื่อของคนอะครับ ในประเทศเรามันจะเป็นแบบนี้แหละ ไม่มีวันเปลี่ยนหรอก ผมสังเกตดูมันเหมือนจะเป็นขบวนการปั้นเกจิ หรือปั้นฮีโร่ ขึ้นมา พอชื่อพระ หลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อติดตลาดแล้ว ก็ออกเหรียญเป็นร้อยรุ่น คนก็แห่ซื้อบูชา เอามาปั่นต่อตามกลุ่มหรือเพจประมูล เนื้อล่างราคาถูก ก็มาสู้ราคาด้วยโค้ดเลข ใครเลขสวยต่อให้เนื้อล่างก็บวกราคาได้เยอะ ส่วนฮีโร่ (พระ) พอซาๆ ลง ก็หาฮีโร่ คนใหม่ ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่สังคมไทยยังมีพระอยู่ ก็จะมีฮีโร่โผล่มาเรื่อยๆ วงการพระมันไม่ซบเซาหรอกครับ เข้าให้ถูก ลุกให้ไว ลุกช้าคุณก็จ่ายรอบวง

หลักๆ แล้วของแพง แต่ค่าแรงมันเท่าเดิมนั่นแหละครับ

ผมทำงานในกลุ่ม Software, IT ปรกติขาขึ้นตลอด ช่วงโควิดก็ขึ้น มีงานตลอดไม่เคยต้องห่วง จ้างคนเพิ่มเรื่อยๆ แต่ช่วงนี้คือเงียบแบบสังเกตได้ ลูกค้าหลายๆเจ้าที่เป็น corporate ใหญ่เลือกประหยัดงบไว้ก่อน

บริษัทผมเองมีนโยบายไม่จ้างคนเพิ่ม ส่วนบริษัทคู่แข่งที่เคยเจอกันบ่อยๆเวลาไปยื่นประมูล พึ่งปลดคนไปเกือบครึ่ง