Rider ไม่ได้ส่งผลกับยอดขายครับ

คนจะสั่งหรือไม่สั่ง ไม่เกี่ยวกับ rider

การจะดูแล rider แบบไหนขึ้นอยู่กับจิตสำนึกครับ

พนักงานรับส่งของ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่ลูกค้า

Rider คนนึงไม่รับงาน ก็มีคนอื่นเต็มใจรับงานอยู่ดี

อาหารไม่อร่อย แต่ดูแล rider ดีมาก ก็ไม่ทำให้ยอดขายดีขึ้น สำคัญที่คุณภาพ และโปร

ทั้งนี้ ก็ควรจะมีจุดรอดีๆ ไม่ตากแดดตากฝน ไม่รบกวนลูกค้าจริงๆในร้าน

ถ้า Rider มานั่งเต็มร้าน แล้วหน้าร้านจะรับลูกค้ายังไง ลูกค้าที่มาจะรู้สึกดีใช่ไหม  

ไรเดอร์คือพาทเนอร์อย่างนึงครับ ที่ถูกต้องร้านควรจัดสถานที่สำหรับไรเดอร์ไว้เลยต่างหาก
ให้แยกจากส่วนของลูกค้า ส่วนการใช้คำพูดก็ควรเป็นระดับเดียวกันเหมือนการพูดกับลูกค้า
 

คิดงี้ดีกว่า ไรเดอร์เหมือนเป็นผู้รับมอบอำนาจให้มารับอาหารแบบไม่เป็นทางการ

เพราะฉะนั้นผมว่าเราปฏิบัติกับลูกค้าแบบไหนก็ต้องปฏิบัติกับไรเดอร์แบบนั้นแหละ

แต่ความพึงพอใจของไรเดอร์กับลูกค้าต่างกัน ไรเดอร์จะชอบความเร็ว(+ความสบาย)

ส่วนลูกค้าจะชอบความอร่อย อยู่ที่ร้านค้าบริหารจัดการหละครับ  

จ้างส่งของเหมือนกัน แบบนี้ส่งเคอรี่ ส่งช้อปปี้ ก็เป็นลูกค้าเหมือนกันหลอครับ ตลก

ผมส่งของ ให้ไปรับของ นี่ผมมอบอำนาจหลอครับ แค่จ้างไปรับของ

ร้านค้าส่งของ นี้มอบอำนาจให้ขนส่งหลอครับ ขนส่งก็ต้องตอบข้อมูลสินค้า รับเคลม รับดูแลด้วยสิแบบนั้น มันใช่หลอ โถ้  

แบบนี้ขนส่งช้อปปีิ เคอรี่ก็เป็นพาร์ทเนอร์นึปล่าวครับ รับจ้างส่งของก็คือรับจ้างส่งของครับ  

เค้าจ้างมาซื้อของ ให้ค่าส่ง เอาอะไรมาเป็นลูกค้า และถ้าบอกไม่มีพวกผมก็ต้องมาซื้อเอง ที่มาทำเราต้องการเงินค่าจ้างเค้าหรือป่าว

ปล. ผมเคยทดลองขับมา 2 ปี ผ่อนรถเสร็จ ผมก็ไม่เคยใช้บริการอีกเลย เพราะคิดกันแบบนี้ไง ถ้าร้านเค้ามีที่ให้รอก็ไปรอ ถ้าไม่มีก็รอข้างนอก ร้านค้าเค้าได้ลูกค้าเพิ่ม แต่เค้าก็แรกมากับการเสีย % หรือลูกค้าหน้าร้านรอนานขึ้น เค้าก็ต้องแรกมา เหมื่อนที่เราแรกกับการใช้ร่างกายตากแดดเพื่อให้ได้เงิน ไม่เข้าใจจะเรียกร้องอะไรกัน