บทละครทุกตอน

จำได้ว่ากฎทุกกฎที่ออกมามันต้องผ่านการโหวตของทีมร่วมลีกนิ ซึ่งอาศัยเสียงส่วนมากเกินกว่า10เสียงอยู่แล้ว นั่นแสดงว่าสโมสรส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกฎนั้น

"รายงานยังระบุว่า แมนฯ ซิตี้ ฟ้องพรีเมียร์ลีกเรียกค่าเสียหาย และแย้งว่าระบบการโหวตเรื่องต่างๆของลีกที่ต้องใช้เสียงเห็นพ้องอย่างน้อย 14 เสียงนั้นทำให้เสียงข้างมากมีอำนาจควบคุมมากเกินไป"

ซึ่งผมงงกับการฟ้องเหตุผลนี้ของซิตี้มากว่าคือไร การใช้เสียงส่วนใหญ่มันก็คือประชาธิปไตย

แฟนซิตี้บอก ทีมใหญ่ทีมอื่นก็เป็นลักษณะนี้มาก่อน แค่พอซิตี้มีเจ้าสัวที่รวยมากกว่ามาทำ ก็ไม่พอใจ เอาแค่อังกฤษ ผี หงส์ ปืน มันก็ทำผลงานได้มาก่อน ถึงมีแฟนบอลเยอะกว่า.....รายได้มันก็ตามนั้นอะ

หงส์ที่ว่าเทพๆเมื่อ 30 กว่าปีก่อน มันก็ซื้อตัวแพงๆได้ ก็เพราะรายได้จากการแข่ง

แต่ในเมื่อทีมทีมอื่นมันทำไม่ได้ ก็เลยใช้ทางนี้เอา ก็แล้วแต่จะคิดกันเอาเองละกัน ว่ามันเหมาะมันควรไหม ถ้าลีคมันน่าเบื่อ คนก็ดูน้อยลงเองแหละ

อ้างยุคก่อน เพราะมันล้มละลายไง อย่างลีดส์ เจ้าของก้รวย อย่างสิงห์ก้โรมันมาซื้อ มันถึงออกกฏการเงิน

*******
แนวคิดหลักการเสียงข้างมาก (Majority Rule) และหลักการเคารพในสิทธิของเสียงข้างน้อย (Minority Rights)
ระบอบประชาธิปไตย เป็นการปกครองโดยประชาชนส่วนใหญ่ จึงให้ความสำคัญกับหลักการเสียงข้างมาก (Majority Rule) ในการตัดสินข้อขัดแย้งทุกระดับ[9] โดยหลักการเสียงข้างมากหมายความว่า การตัดสินใจใดๆ ของกลุ่มหรือคณะบุคคล หลังจากที่ได้มีการปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นพอสมควรแล้ว ก็ให้ตัดสินเป็นข้อยุติโดยถือเสียงข้างมากเป็นเสียงชี้ขาด เพื่อให้สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมต่อไปได้[10] เช่น การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ที่ได้รับเลือก หรือในการออกเสียงประชามติ เรื่องที่มีผู้เห็นด้วยมากที่สุดจะได้รับการนำไปปฏิบัติ หรือกรณีการออกเสียงลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็จะใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ตัดสิน เป็นต้น[11]

อย่างไรก็ตาม หลักการเสียงข้างมาก (Majority Rule) ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการเคารพในสิทธิของเสียงข้างน้อย (Minority Rights)[12] ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าฝ่ายเสียงข้างมากจะไม่ใช้วิธีการใดๆ ที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของกลุ่มพวกพ้องตน แต่ต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งหมด เพื่อสร้างสังคมทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข โดยฝ่ายเสียงข้างน้อย (Minority Right) จะต้องได้รับความคุ้มครอง ขณะที่ต้องยอมรับฟังจากเสียงส่วนใหญ่ไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในสังคม

*******

http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81_%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2#:~:text=6%2520%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-,%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2,%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87



ส่วนคำว่า “ Tyranny of the majority “ น่าจะใกล้เคียงกับ “ เผด็จการเสียงข้างมาก ”


******
ระบบเผด็จการโดยเสียงข้างมาก (อังกฤษ: tyranny of the majority) เป็นคำใช้อภิปรายระบอบประชาธิปไตยและการถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ โดยบรรยายถึงกรณีที่การตัดสินใจของเสียงข้างมากยึดผลประโยชน์ของตนเหนือผลประโยชน์ของปัจเจกบุคคลหรือกลุ่มเสียงข้างน้อยมากจนกลายเป็นการบีบบังคับ (oppression) เปรียบได้กับทรราชย์หรือระบบใช้อำนาจเด็ดขาด ทั้งนี้ จอห์น สจวต มิลเป็นผู้เขียนในหนังสือ ว่าด้วยเสรีภาพ (ค.ศ. 1859)[1]
กรณีที่เกิดระบบเผด็จการโดยเสียงข้างมากนั้นเกิดขึ้นในเงื่อนไขที่มีการบิดเบือนประชาธิปไตยกรณีเฉพาะ เช่น
มีการรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางมากเกิน: คือเมื่ออำนาจรวมศูนย์วินิจฉัยสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งในเรื่องที่ควรเป็นของท้องถิ่น อันเป็นการทำลายการผูกมัดต่อหลักการเสริมอำนาจปกครองของสหพันธรัฐ[2]
การละทิ้งเหตุผล: เมื่อการวินิจฉัยสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งอาศัยเพียงจำนวนมากกว่าอย่างเดียว มิได้อยู่บนความชอบธรรมหรือความดีเลิศ[3] แก้ปัญหานี้โดยการปรึกษาสาธารณะ มีองค์กรปรึกษาทางเทคนิค รวมทั้งการทบทวนโดยตุลาการหลังการออกเสียงแล้ว

*******

https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81#:~:text=%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%20(%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%3A%20tyranny%20of%20the,%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94


แต่เรื่องพวกนี้สุดท้ายคงต้องไปดูว่า “ ข้ออ้างของทาง mcfc ว่า ” หลักการ APT ขัดกับกฎหมายจริงหรือไม่ ถ้าขัดจริงขัดส่วนไหน และส่วนที่ขัด(ถ้ามี) มีผลกระทบกับกฎ APT มากน้อยแค่ไหน


ส่วนเรื่องที่ ข้อสรุปกฎ APT เป็น tyranny of the majority จริงหรือไม่ ส่วนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเพราะต้องพิจารณาทั้งเหตุผลของเสียงส่วนมาก และข้อเสนอของเสียงส่วนน้อย ว่าเป็นการเจรจาต่อรองกันของทั้งสองฝ่าย( majority v minority ) หรือเป็นการบีบบังคับจากเสียงส่วนใหญ่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่สนใจความต้องการใดๆของเสียงส่วนน้อยเลย

เพิ่มเติมลองอ่าน “แนวคิดพื้นฐานของประชาธิปไตย เรื่อง การปกครองโดยเสียงข้างมากที่เคารพสิทธิของฝ่ายข้างน้อย ( Majority rule with respect to minority rights ) หน้า 61-63

https://www.kpi-lib.com/flippdf/kpi8467/kpi8467.html#p=73


สิ่งที่ซิตี้ต้องพิสูจน์คือ กฎหมายให้สิทธิพื้นฐานแก่เสียงข้างน้อยในเรื่องนี้แค่ไหน ซิตี้ถึงกล้าฟ้องว่ากฎ APT จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าพิสูจน์ได้ก็น่าจะชนะ ถ้าพิสูจน์ไม่ได้หรือหลักฐานหรือถ้าผลของการโหวตชอบด้วยกฎหมาย ซิตี้ก็จะแพ้

ส่วนตัวผมเองเคยวิจารณ์ กฎ FFP ของ UEFA ที่สุดท้ายเอามาปรับใช้กับ ลีคของประเทศต่างๆมาตั้งแต่ เพิ่งเริ่มเอามาใช้ใหม่ๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน

กฎนี้ ดูเผินๆเหมือนเป็นธรรมช่วยป้องกันการล้มละลายของทีมจากการใช้เงินเกินตัว แต่ถ้าสังเกตดู
สุดท้ายเหมือนคุมกำเนิดทีมใหม่ๆ มาแข่งกับทีมยักษ์ใหญ่
ในความเป็นจริง ทีมที่ถูกเทคโอเวอร์และต้องการลงทุนแข่งอย่างจริงจัง แทบไม่มีโอกาสสู้ทีมใหญ่เก่าๆได้เลย

ดูอย่างซิตี้ช่วงแรกๆ ปีสองปีแรกที่ชีค เข้ามาเทคโอเวอร์ แทบจะไม่สามารถดึงดูดนักเตะเกรด A ได้เลย อย่างดีก็เกรด B

แต่ mcfc อาจจะมีโชคพอสมควรที่ได้นักเตะเกรด B หลายคนที่สามารถพัฒนาเป็นนักเตะ A ในภายหลังได้หลายคน จนประสบคงามสำเร็จในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นนอกจากการลงทุนกับนักเตะ ก็มีการลงทุนกับ facilities ทีมเยาวชน ทีมหญิง และสนับสนุนกิจการของเมืองไปพร้อมกัน

ยุคลงทุนใหม่กับ EDS/สนามซ้อม ไปสองร้อยล้านปอนด์ ช่วงปี 2014 ยังถูกแซวว่าจะรอดเหรอ ผลสุดท้ายตอนนี้ แทบจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกทีมทั้งนอกและในอังกฤษต้องศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับทีมของตนเอง

ส่วนตัวไม่ว่าผลการพิจารณาทั้งหมดออกมาอย่างไร ก็ยอมรับได้นะไม่ได้ติดใจอะไร

เราไม่เห็นรายงานการประชุมก่อนมีการโหวตโดยเสียงส่วนใหญ่ว่า ผลโหวตของเสียงข้างมาก ( majority rule ) ทำไปในลักษณะบีบบังคับหรือจำกัดสิทธิของเสียงข้างน้อยหรือไม่ ( Minority rights )
จนซิตี้ใช้คำว่า Tyranny of the majority เป็นจริงหรือไม่

ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อมีการแสดงหลักฐาน เหตุผล ข้อกฎหมาย ต่อคณะอนุญาโตตุลาการ จนกระทั่งมีคำตัดสินคดีออกมา

อ่านแล้วเหมือนจะสรุปได้ว่า ซิตี้ฟ้องพรีเมียร์ลีคว่าใช้เสียงข้างมากบังคับให้กระทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกลัวอะไรนี่ ใช่มะ

ยังไงก็หวังผลครับ
ถ้าอิงตามกฎหมายและไทม์มิ่ง กฎออกมาดักนิว มันไม่ควรจะเล่นซิตี้ย้อนหลังด้วยกฎนี้ได้
แต่ที่นี่อังกฤษ

ขอบคุณมากๆครับ

จะว่าเกรด B หลายคนก็ไม่น่าใช่ขนาดนั้นนะครับ นักเตะแต่ละคนที่ดึงมานี่แทบจะเกรด A หมดแล้วนะ ผมจำไม่ได้ว่าโรบิญโญ่นี่ยุคทักษิณหรือว่าชีค ซึ่ง ณ ตอนนั้นฝีเท้านี่เกรด A+ ได้เลยสำหรับโรบิญโญ่ อายุก็ยังไม่เยอะ ถ้านับว่าปีแรกของชีคคือโรบิญโญ่ ปีต่อมาก็เตเวซ อเดบายอร์ พวกนี้ก่อนย้ายมาก็มีชื่อเสียงอยู่แล้วพอสมควร ถ้าจะบอกว่าปีสองปีแรกไม่ดึงดูดนี่ไม่ใช่เลย หรือถ้าปีแรกไม่ใช่โรบิญโญ่ แต่เป็นเตเวซ ปีถัดมาก็เป็น เชโก้ ซิลบา ยาย่า บาโลเตลลี่ แล้ว

ช่วงปี 2008 เป็นต้นมาจนถึงราวๆปี 2014 เป็นช่วงตั้งไข่ ส่วนใหญ่ถ้ามาจากทีมใหญ่หากไม่ใช่ดาวรุ่ง หรือมีแนวโน้มว่าจะรุ่ง หรือดูจะเป็นดาวโรยที่ทีมเก่าไม่ต้องการแล้ว
บางคนมาแล้วก็รุ่ง บางคนกลับมารุ่งใหม่ บางคนทรง ๆ บางคนก็ร่วงไปเลย ส่วนตัวแล้วช่วงแรกที่มาถึงยังไม่จัดใครเป็นระดับโลก(เกรด A ) เลยในช่วงนั้น จนตอนนั้นถูกแซวว่าซื้อเกรด B ในราคาเกรด A ซึ่งก็ต้องทน ๆ กันไป

ลองดูรายชื่อจากลิสต์ก็ได้ ส่วนตัวผมติดตาม mcfc อย่างจริงจังเริ่มต้นตั้งแต่ราวๆปี 2006/2007

https://www.transfermarkt.com/manchester-city/alletransfers/verein/281

https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/transfer-news/man-city-best-worst-transfers-15129236