[RE: จริงไหมครับ ที่ประเทศไม่พัฒนาเพราะแนวคิดเด็กเก่งเป็นหมอ]
จริง แต่ไม่ได้ผิดซะหมด
ต้องยอมรับเรื่องนึงคือบ้านเราเรื่องสาธารณสุขแข็งแกร่งมาก ผมกล้าพูดได้ว่าแกร่งกว่าอเมริกาหรือประเทศเจริญแล้วหลายประเทศเสียอีก ดูช่วงโควิดก็ได้ บริหารบัดซบแค่ไหนก็ยังไม่ล้ม เพราะโครงสร้างมันแข็งแกร่งมาก (ให้เครดิตบุคลากรทุกท่านจริงๆ)
เรื่องพัฒนาหรือไม่นั้นจริงๆต้องดูว่าเราพูดถึงเรื่องไหน
ต่อให้ปั้นนักวิทยาศาสตร์ จ่ายเงินเดือนเท่าหมอก็อาจจะไม่ได้พัฒนาก็ได้ บ้านเราปัญหาไม่ใช่ว่าคนเป็นนักวิทยาศาสตร์น้อย คุณไปดูพวกมหาลัยฯที่มีคณะวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ก็ได้ คุณจะเห็นเลยว่าปีนึงเขาทำเปเปอร์ออกมาได้เป็นพันฉบับ แต่ที่ไปต่อยอดได้จริงๆมันน้อย ทุกวันนี้อาจารย์วิศวะมหาลัยผม(ชมพูนั่นแหละ) เป็นมือปืนรับจ้างคือบริษัทใหญ่ๆไปจ้างวิิจัยให้ ซึ่งหลายๆอย่างที่คุณเห็นออกมาจากบริษัทใหญ่ๆตรงบางซื่อหรือวิภาวดีเอย ก็พวกนั้นแหละครับ ฉะนั้นผมบอกเลยว่าบ้านเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องนวัตกรรมเลย
ปัญหาที่คุณๆว่ากันจริงๆคือการเมืองและนิสัยของคนไทยเป็นหลักมากกว่า
การเมืองจริงๆไม่ควรเดินตามอเมริกาเลย ผมเห็นคนที่เรียกตัวเองว่า "รักประชาธิปไตย" ชอบเอาอเมริกามาเป็นแม่แบบ ซึ่งประชาธิปไตยอเมริกานี่แทบจะเรียกว่าล้มเหลวมาหลายปีมากแล้ว ตั้งแต่การ Lobby เป็นเรื่องยอมรับกันได้ ตั้งแต่ยอมให้นักการเมืองถือหุ้นบริษัทที่มีผลทางการเมืองมากๆแล้ว ประชาธิปไตยไทยควรยึดแบบยุโรปถึงจะถูก
การเมืองอีกเรื่องคือประชาธิปไตยไทยอ่อนแอมาก นักการเมืองเป็นเบี้ยให้นายทุน ออกกฎหมายหรือจะทำอะไรก็เกรงใจนายทุน ไม่ก็เกรงใจทหาร สรุปประเทศตรูนี่ประชาธิปไตยหรือเผ็ดกลาง
ส่วนปัญหาของคนไทย ไม่ยากเลย ทุกวันนี้ยังยึดตัวบุคคลกันอยู่เลย ไม่ว่าจะสีไหน แทนที่จะคิดว่าเป็นแค่คนๆนึงที่เราเลือกมาเป็นตัวแทนประชาชน ไปอวยเขาสุดลูกลืมหูลืมตา ผมย้ำอีกทีนะว่า "ไม่ว่าจะสีไหนก็ตาม"
เอาแค่คนไทยเริ่มจากคิิดด้วย Logic แทนอารมณ์ได้เมื่อไหร่ ค่อยว่ากันครับเรื่องความเจริญ ทุกวันนี้แม่มยึดติดคนไม่กี่คน ไม่ว่าจะสีไหนก็ตาม
คือเอาง่ายๆเลย บ้านเราเจริญทางวัตถุครับ ผมว่าในอาเซียนเราไม่น่าต่ำกว่าอันดับ 3 แล้ว
แต่ความเจริญทางความคิด... อันนี้ผมไม่รู้นะว่าถอยขนาดไหน ถ้าเทียบในอาเซียนอาจจะไม่ไกลมากหรอก แต่เทียบกับทั้งโลกนี่จะพ้น Percentile ที่ 50 ไหมนะ
I'll give him an offer which he can't refuse.