1.ปีที่เอ็ดเวิร์ดออก คือปีที่เซ็นติอาโก้ พยายามต่อสัญญาซาล่า ถ้าแนวทางเอ็ด ยังไงก็ไม่ทำแน่ๆ


2พอเอ็ดมา คล็อปออก กลางฤดูที่ ฟอร์มกำลังดีทิศทางกำลังดี
แน่นอน เอ็ดมาเมื่อ เดือนกุมพา แต่วงในคล็อปน่าจะรู้ ตั้งแต่
ตุลาแล้วมั้ง

พอเอ็ดมาคล็อป

3เอ็ด มีข่าวว่าไม่พอใจ การซื้อตัว 2-3ปีทึ่เขาหายไป

รอลุ้นกันไปอนาคต ผมก็ชอบคล็อปนะ แต่ผมไม่ชอบระบบลูกรัก

ทำทีมฟุตบอลผมว่า ใครฟอร์มดีก็ควรได้ดี ใครฟอร์มตกก็นั่ง ถ้าได้โอกาศแล้วก็ควรกลับมาให้ไว

ถ้าตกยาวๆ ผมว่าก็ควรขายทิ้ง ไม่ใช่ ดันทุรังเอาลงเพราะ ลูกรักกู

ต้องบอกว่าคลอปจะออกเอ็ดถึงกลับมา คลอปบอกบอร์ดก่อนประกาศหลายเดือนแล้ว บอร์ดถึงไปง้อเอ็ดกลับมา

มันมีปัญหาอยู่แล้วแหละคือคนละแนวทางกัน คลอปเน้นครอบครัว เซ็นซื้อใจนักเตะ เอ็ดเน้นผลงานใครดีก็อยู่ ใครไม่ไหวก็ปล่อย

แล้วดูผลงานซื้อตัวตอนไม่มีเอ็ด เข้าเป้ากี่คน ไม่อยากบ่นเยอะ แต่มันดูจากผลงานได้

จริงๆมันต้องคนละครึ่งทางถึงจะไปกันได้ดี ไปทางใดทางนึงแบบสุดกู่ไม่ได้หรอก ถ้าคล็อปไปแล้วเอาแนวทางเอ็ดแบบไปสุดทางมาแทนผมว่ามันไม่เวิร์คเพราะมันจะทำให้กลายเป็นทีมเน้นปั้นขายเอาน่ะสิเพราะอายุใกล้ๆ30แกคงจับขายหมดทั้งๆที่บางคนยังเล่นระดับสูงต่อได้แถมประสบการณ์ของซีเนียร์ก็จำเป็นกับทีมเหมือนกัน

2.พอเอ็ดมา คล็อปออก กลางฤดูที่ ฟอร์มกำลังดีทิศทางกำลังดี

ไล่ timeline ใหม่ดูมั๊ยฮะ..

https://www.bbc.com/sport/football/68104699

26 / 1 / 67 : คลอปป์ประกาศอำลาสโมสร (บอกว่าจริงๆคิดไว้ตั้งแต่ พ.ย.66 แล้ว)

https://www.thisisanfield.com/2024/01/michael-edwards-has-rejected-offer-to-return-to-liverpool-fc/

30 / 1 / 67 : เอ็ดเวิร์ต ยัง reject ที่จะกลับหงส์อยู่เลยฮะ เพิ่งมายอมรับอีกทีใกล้ๆ มี.ค.67



คือทั้งคู่แนวทางการทำทีมอาจจะไม่ตรงกัน จนคนนึงต้องไปอาจจะจริง..แต่จะบอกว่าเพราะเอ็ดมาคลอปป์เลยไป ผมว่ามโนผิดอ่ะ

หงส์ จะกลับไปทำทีมแบบตอนช่วงยุคคล็อปมาตอนแรกๆ

ตอนนี้อำนาจหลักอยู่ที่ DOF ตอนนั้นเป็นเอ็ดเวิร์ด

ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น ฮิวจ์ โดยมี เอ็ดเวิร์ดเป็น back

แนวทางไม่ตรงกัน และเจ้าของต้องชอบใจแนวทางเอ็ดมากกว่า ความเห็นส่วนตัวผมมองว่าที่คลอปป์ลาออกทั้งๆที่พึ่งต่อสัญญาไปน่าจะมีส่วนจากทางฝ่ายบริหารด้วย เหมือนอำนาจคลอปป์มากเกินไปการต่อสัญญาและซื้อขายไม่น่าถูกจริตfsg ตัวคลอปป์เองต้องรู้สึกได้อยู่แล้วทางออกคือไปดีกว่า และไม่ตัองหวังว่าคลอปป์จะบอกเรื่องภายในนะมันไม่ใช่ตัวเค้าอยู่แล้ว หวังว่าทางเลือกfsgจะถูกนะ แต่แนวนี้ผมทำใจละสร้างมูลค่าอย่างเดียวสโมสรมั่นคงแต่ลุ้นแชมป์แล้วแต่บุญกรรม สิ่งที่เอ็ดถนัดคือต่อรองซื้อขายมากกว่า เป็นห่วงเรื่องผลงานในสนามจริงๆว่าคลอปป์ไปจะไหวมั้ย

ผมเข้าใจนะว่า ผจก ทุกคนต้องการ final say อาจมีปัญหาทีมซื้อขายทีมที่วิเคราะห์ ผมเดานะว่าคล็อปแกชอบซื้อนักเตะที่เล่นต่อหน้าแกดีจริงๆเช่น ฟานไดร์จ มาเน่ เลยพยายามใช้โมเดลนี้กับมินามิโนะ นูนเยส ลองดูรีแอคของแกที่โดน 2 คนหลังยิงสิ หน้าแบบมึงเจ๋งหวะ แต่มันก็แค่แมทซ์ๆเดียวส่วน ฟานไดร์จ มาเน่ มาจากลีคอังกฤษ 3-4 ปีมานี้ไม่เคยซื้อตัวที่เล่นดีๆในลีคเลยผมก็แปลกใจนะปกติเราชอบดึงตัวจากในลีค อีกเรื่องคือตอนนี้ค่าเฉลี่ยส่วนสูงทีมเราผมว่าเข้าขั้นแย่ เตี้ยสะส่วนใหญ่ แดนกลางนี่เข้าขั้นแคระเลย ซึ่งมันเหนื่อยนะว่าเจอทีมที่ชอบใช้พี่มืดจากกาฬทวีป

ไอหนูน 80ล้าน ซื้อมายิงนกตกปลาจับบอลไม่เป็น

โซบอสไล 70ล้าน ซื้อมาวิ่งควาย ผิดตำแหน่งจนห่วย

กักโป 35ล้าน ราคาไม่แรงแต่เอาจับเล่นหน้าจนเกือบเสียตัวตน

กราเวนเบิร์ช 40ล้าน แต่โจนส์ก่อนเจ็บเล่นดีกว่าเยอะ มีช่วงนึงแย่ขนาดคล้าก ยังยึดตำแหน่งได้สั้นๆ สรุปซื้อมาทำไม เอลเลียตยังทำได้ดีกว่า

รวมๆกัน220ล้านบวกลบ ความคุ้มเทียบตอนมาเน่ ซาล่า คนละ30ล้านไม่ได้ซักกะนิด

เอ็ดเวิร์ดกลับมาอะดีละครับ

เอาจริงๆผมว่าเอ็ดเป็นคนที่ช่วยปิดจุดอ่อนให้คล็อปป์เลย ไอ้ลูกรักอยู่แบบครอบครัวเนี่ยทำทีมชิบหายเลย

แต่เมื่อความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องแยกทาง ซึ่งก็เห็นชัดนะว่าช่วงที่เอ็ดหายไปการซื้อขายมันตกไปจากเดิมมากๆ

แต่ถ้าคล็อปป์ไม่อยู่ต่อให้ซื้อขายดี ผลงานอาจจะสวนทางก็ได้ จริงๆผมเสียดายคู่นี้นะ ถ้าคล็อปป์ยอมทำตามเอ็ดผลงานทีมอาจจะดีกว่านี้ก็ได้

ยังไงการจิ้มเลือกนักเตะผมเชื่อมือเอ็ดมากกว่า ช่วงหลังเอ็ดออกไปซื้อสะเปะสะปะมาก

ระบบที่ดีคือการคานอำนาจการซื้อนักเตะนี่แหละ จะดียิ่งขึ้นถ้าคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายอะนะ

ผมเบื่อมากกับระบบครอบครัวของคล็อปซื้อใจนักเตะได้แต่สุดท้ายฟอร์มไม่ดีก็เข็นให้ลง

ต่อสัญญาจนแก่แล้วปล่อยฟรี เจ็บออดๆแอดๆก็ยังจะต่อไรงี้ มันควรจะบาลานซ์กันตรงกลาง

พอดีๆไม่ใช่แบบทุกวันนี้ ก็หวังว่าผจก.ทีมคนใหม่มาจะทำงานร่วมกับระบบแบบเอ็ดได้ดีนะ

ผมว่า ลอร์ดเอ็ดเลือกนักเตะมา แล้วให้โค้ชใช้อ่ะดีกว่า ผลงานมันเห็นๆกันอยู่ หลักการทำงานไม่สอดคล้อง มันก็ไม่ถูกกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว รอดูซีซั่นหน้าเลยว่ายังไง จะเวิร์คเหมือนเดิมไหม เพราะตอนนี้สิทธ์กลับมาอยูที่เอ็ดเวิดส์ แล้วแค่มีฮิวจ์มาทำหน้าที่ชนให้

ผมก็ดูtimeline ในข่าวแบบคุณ

แต่คุณคิดว่า โปรเจ็คการการคุยกับเอ็ดที่ไม่ออกสื่อเนี่ย มันต้องมีมาก่อนแล้ว
1. ไม่ตั้ง ผอ กีฬาซะที แปลกไหม?
2. วงในระดับคล็อป น่าจะรู้ก่อนเอ็ดเวิร์ดเซ็นก่อนนะ เพราะเจรจากับ้อ็ดไม่ใช่เจรขา 10-15วันเสร็จมั้ง ต้องมีขอบเขตหน้าที่ อำนาจ เงินๆทองๆ แถมเอ็ดไม่ได้มาคนเดียว เอาฮิวส์ มาด้วย ดังนั้น การเจรจา มันน่าจะเริ่มก่อนข่าวที่เรารับรู้กันหลายเดือน ซึ่งพอสัญญาไกล้เสร็จ คล็อปก็รู้แล้วล่ะ


ไอ้ข่าว reject แสดงว่า70-80%แล้ว
ผมในฐานะคน ทำธุรกิจ ได้ได้คุยกินข้าวกันแสดงมีโอกาสร่วมงานกันสูง
ถ้าผมไม่สนproject ผมก็จะตอบว่าไม่สะดวกคุยครับ

แนวทางต่างกันอยู่แล้ว เอ็ดเน้นแต่ผลประกอบการมาก่อน เอาใจเจ้าของ
ส่วนคล๊อปเน้นผลในสนาม เอาใจแฟนบอล

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2402041

คล็อปป์ : ผมโอเค มีสุขภาพแข็งแรงดี เท่าที่คนวัยผมจะมีได้ มีป่วยนิดป่วยหน่อยบ้าง แต่ไม่มีอะไรรุนแรงถึงขั้นต้องกังวล ดังนั้นทุกอย่างปกติดี
จริงๆ ผมบอกเรื่องนี้กับสโมสรในเดือนพฤศจิกายน...



แปลว่าบอร์ดคุยกับเอ็ดเวิร์ดจบเรียบร้อยโอเค 70-80% ตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้วเลยป่ะฮะ?? (คลอปป์รู้เลยบอกลาออกสโมสรในเดือน พ.ย.)

แล้วคลอปป์รู้อย่างงั้น แล้วจะรออะไรถึงเพิ่งมาประกาศอำลาทีมแบบ official ตั้งเดือน ม.ค.67??

แล้วทำไมเอ็ดต้องรอประกาศกลับหงส์ตั้ง มี.ค.67?? ก็ในเมื่อคุยกันจบตั้งแต่ก่อน พ.ย.66 (จนคลอปป์ไม่พอใจขอลาออก) แล้ว

คืออย่างที่บอกแหละฮะว่ามโนได้หมด แค่ผมมองว่าไม่ make sense..คือไอ่สิ่งที่คลอปป์บอก ผมไม่เข้าใจว่ามันไม่น่าเชื่อตรงไหน

ตัวเองหมดพลังงานในการทำทีม (นัดหลังๆท่าทางแกก็แสดงออกชัดเจน) แกก็ขอลาทีม พอไม่มีแก เอ็ดก็ตัดสินใจกลับมารับงานหงส์

ง่ายๆแค่นั้น ผมไม่เห็นจะต้องไปสร้างทฤษฎีสมคยคิดอะไรให้มันวุ่นวาย