ตอนดอร์ทมุนไม่ได้หมดไฟนะ แต่คุมห่วยเอง ปั้นชิโร่อยู่นั้นจนทีมจะตกชั้นเอา ตอนทีมจะตกชั้นก็ยืนยันว่าจะไม่ออกน่ะ จะอยู่รับผิดชอบให้ถึงที่สุด(แม้แต่จะตกชั้น) แต่พอเลิกใช้ชิโร่ ทีมชนะรัวๆขึ้นมาจนปลอดภัย แกถึงประกาศลาออกเอง แล้วหลังแกประกาศลาออกทีมก็ชนะรัวๆ จนแกให้สัมภาษณ์ว่ารู้งี้ประกาศลาออกนานแล้ว

หรือย้อนไปตอนคุมไมน์ แกก็ไม่ได้หมดไฟนะ ทำทีมตกชั้น แกก็ขอสู้ต่อ ขอพาทีมให้กลับขึ้นชั้นให้ได้ แต่ก็ทำไม่ได้ ก็เลยลาออก

โรสเตือนคุณแล้ว

ผมว่าปัญหาเรื่องงบซื้อนักเตะเทียบกับคู่แข่งเป็นประเด็นใหญ่ๆอันหนึ่ง

ถ้าจำได้ปกติคลอปจะไม่สัมภาษณ์ถึงนักเตะทีมอื่นถ้ายังไม่ซื้อมา แต่ตอนจะซื้อไคเซโด้คลอปให้สัมประมาณดีใจมากๆที่จะได้มาจอยกัน ซึ่งผิดวิสัยคลอปมากๆ เหมือนFSGยอมทุมกระปุกให้คลอปช่วงท้ายตลาดซะที แต่ก็สุดท้ายไม่ได้

ตอนต้นฤดูกาลคลอปยังสัมว่าวางแผนฤดูกาลหน้ากันแล้วดูเหมือนจะต่อสัญญายาวๆแล้วด้วย

แต่ด้วยงบเสริมทีมเทียบกับซิตี้ แมนยู เชลซี น่อล นี่มันยากมากๆที่จะต่อยอดความสำเร็จในการแข่งเข้มข้นขนาดนี้ มันคงต้องหาช่องว่างในตลาดซื้อขายที่ทุกทีมก็มีData scienceหลังบ้านกันหมดแล้ว หรือวิธีการเล่นที่stableเก็บชัยชนะได้ทั้งฤดูกาลแบบเป๊ป ทั้งที่ขนาดทีมเล็กกว่า ไม่มีเงินซื้อตัวสำรองหรือนักเตะมาลองเล่นกับทีม50-60ล้าน ถ้าลองจินตนาการถึงพลังสมอง พลังกายที่ต้องสู้ในการแข่งขันแบบนี้ทุกปีมา9ปี ก็เข้าใจได้นะครับว่าทำไมมันเหนื่อยและหมดไฟ คุณจะหวังให้คนๆหนึ่งสร้างผลงานชนะเลิศทั้งที่ให้ทรัพยากรน้อยกว่าคู่แข่งครึ่งหนึ่งและมีทีมหลังบ้านsupportพอๆกับคุณมันก็ยากใช่มั้ยครับ