คือพอตอนเข้าคุมใหม่ๆมีแพสชัน มีไฟ ทำทีมคึกคัก มีชีวิตชีวา แต่พอประสบความสำเร็จ หรือผ่านไปสักระยะ หมดไฟ ไม่ชอบทำทีมต่อยอดในระยะยาว ไม่แน่ใจว่าตอนดอร์ทมุนเป็นแบบนี้มั้ย แต่สภาพก่อนออกก็ดูจะแย่อยู่ เหมือนหมดไฟ (แต่ถ้าว่ากันตามทฤษฎี การหมดไฟมันเกิดจากหลายสาเหตุ มีทั้งงานหนัก ผู้บริหารไม่สนับสนุน เบื่อเพื่อนร่วมงาน งานยากไป งานเกินเงิน ซึ่งอันนี้ไม่มีใครรู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร)

ถ้าจำไม่ผิด ตอนดอร์ทมุนก็เหมือนอยากจะพัก และก็ได้พัก และลิเวอร์พูลก็ติดต่อไป เลยได้มาเป็นโค้ช และก็ประสบความสำเร็จ

รูปแบบแกก็เหมือนคนทำงานปกติ คือทำงานไปสักพักพออิ่มตัวมันเหมือนจะไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนแรกๆ แต่พอได้พักก็จะกลับมามีไฟใหม่

ผมว่าแกเหมาะจะไปบาเซโลน่าอยู่นะ ถ้าหลังจากพักสักปีแล้ว เหมือนแกจะชอบคุมทีมใหญ่ แต่ไม่ถึงใหญ่สุด รองลงมาหน่อย ไม่กดดันสุด มีเวลาให้ แต่ความท้าทายสูง ทำทีมไปสู้มาดริด


แต่ทั้งหมดทั้งมวล ที่ผ่านมา7-8 ปี ต้องขอบคุณคล็อปที่ทำให้แฟนหงส์ได้ลืมตาอ้าปาก ได้เห็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก จบวลีที่ว่า ระหว่างลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีก กับ ทีมชาติไทยไปบอลโลก อะไรจะเกิดขึ้นก่อน

ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ

ถ้าหลังบ้านดี ไม่ต้องปวดกระบาลทุกอย่าง ได้ทำได้ลองอะไรสนุกๆแบบเป๊บ ก็ไม่หมดไฟง่ายๆหรอก

ดูดอร์ทมุนขายนักเตะเป็นงานหลัก แชมป์เป็นงานรอง

เจอหงส์ สร้างทีมมา ไม่ต่อยอดให้ ยวบหนักๆถึงยอมให้เสริมก้อนใหญ่

ทำไป เหนื่อยไปมันก็ท้อ พาลหมดสนุก ผมง่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

ต้องบอกก่อนว่า คล็อปแกไม่ใช่โค้ชประเภทเดียวกับเป๊บอะครับ แกใช้ความสัมพันธ์และแรงใจเป็นตัวขับเคลื่อนทีม ส่วนเป๊บนี่ ถ้าระดับไม่ถึงชั้นที่ต้องการ ก็ไปซะ เด็ดขาด มาตรฐานสูงลิบ

ช่วงแรกๆจะดูหวือหวามากๆ นักเตะพร้อมตายสู้ถวายหัว แต่พอเข้าสู่ช่วงท้ายๆนักเตะมันถึงช่วงหมดอายุ คล็อปเองก็ไม่กล้ากาหัวใครออก เพราะมันผูกพันกันไปแล้ว เฮนโด้ มิลเนอร์ ฟิมิโน่ หมดสภาพไป2ปี ก็ยังจะรั้งขอให้อยู่ต่อ

มันเลยจบที่ลาออกในปีที่7นี่แหละครับ ซึ่งปีนี้ลองฮึดสู้1ปี แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยที่แบบ บรรดาลูกรักเก่าๆย้ายออกไปจนแทบไม่เหลือ คนที่ใช้ความสัมพันธ์แบบครอบครัวในการทำงานแบบคล็อปมันก็ค่อยๆใจสลายทีละนิดๆจนหมดไฟจริงๆ

ด้วยวัยกับความสำเร็จ ความสัมพันธ์ มันไม่ติดค้างอะไรแล้ว ก็เลยไปแม่งดีกว่า ประมาณนี้ครับ

มันไม่เกี่ยวกับเงิน เจ้าของ อะไรทั้งนั้น สโมสรยอมเสียระบบหลังบ้านให้คล็อปใหญ่สุดในสโมสรนี่ก็ตามใจไม่รู้จะยังไงละ ทุกวันนี้แม่งยังโดนด่าอยู่เลยว่าไม่สนับสนุนคล็อป

ผมว่าก็ไม่ถึงกับไม่ซื้อนะ

นูนเยสก็ไม่ใช่ถูกๆ

ดิอาสก็แพงระดับนึง กักโป โซบอสไล พวกนี้ถึงไม่ใช่ 100 ล้าน ก็ 50-60 ล้านอะครับ

แถมยังมีแมค กราฟเวนเบิร์กที่ซื้อมา

ที่ซื้อคุ้ม ดูเหมือนไม่ใช้เงินนั้นช่วงแรกๆที่ประสบความสำเร็จ ช่วงที่เอ็ดยังอยู่ ช่วง2ปีหลังก็ซื้อเยอะเหมือนกันนะ

แต่ประเด็นคือที่ซื้อมาช่วงหลังมันใช้งานไม่ค่อยได้ มันเลยต่อยอดไม่ค่อยได้

จะมีแค่เคสเอนโดะ ที่ได้ตัวถูกมาแทนไคเซโด้

หมดไฟอีกแล้ว คล็อปพูดเองว่า out of energy หมดไฟ กับเหนื่อยกับการทำงานผมว่าไม่มีเหมือนกันเลยนะ
คุณโคตรดูถูกคล็อปเลยนะกับการที่ไม่เชื่อเจ้าตัวอะ กุนซือที่มีแพรชชั่นเกิน100 ทุกเกม มาบอกว่าเค้าหมดไฟ ละคล็อปจะทำไปทำไมวะ

ไอที่แพ้รัวๆ โดนทีมอื่นแก้ทาง หมดมุกแก้เกมไม่ได้ กระตุ้นลูกทีมไม่ขึ้น

ไม่เรียกหมดไฟให้เรียกว่าอะไรครับ ถ้าไม่หมดไฟจริงๆมันต้องหาอะไรมาแก้ทางแล้ว ไม่ใช่กากยังไงก็กากอย่างนั้น

มันก็ความหมายเดียวกันนี่แหละ คล็อปก็คนเหมือนกัน อยากพักเลี้ยงหลาน อยากเอาตัวออกจากแสงไฟมันแปลว่าดูถูกยังไงครับ

ทุกคนรู้และรักคล็อปครับ แต่ไม่ใช่ว่าแตะต้องไม่ได้ มูฟออนไม่ได้ สโมสรก็ต้องเดินหน้าต่อ สิ่งที่ทำก็คือหาข้อผิดพลาดแล้วแก้ไขมันซะ แค่นั้นแหละ

ก็ยังมีปัญหาการต่อยอดทีมอยุ่ดี

เหมือนสมัยดอทมุน ทำทีมเจนสอง แล้วล่มตลอด แต่เจนหนึ่งจะโหดมาก

คุมทีม ทุ่มเต็ม 100 ตลอดแต่ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมันก็ต้องหมดไฟบ้างถูกแล้ว รอเปลี่ยนทีมคุมดีกว่า

ผมว่ามันไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกอะไรนะ แม้แต่กับคนทำงานทุกคน

สมมติเราทำงานเดิมๆซ้ำๆเหมือนกัน วนไปทุกๆปี แล้วไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินแล้ว (ว่าตามตรงคือมีเงินพอใช้ถึงเกษียณนานละ)

แต่งานที่ทำเป็นงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี หยุดก็เหมือนไม่หยุด หน้าที่รับผิดชอบบานเบอะเพราะมูลค่างานสูงมาก

วันนึงเราจะไม่รู้สึกหมด หรืออยากพักอยากหยุดงาน หรือแม้แต่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานเลยหรอ?? ขนาดเล่นเกมส์เดิมๆยังเบื่อเลย

กับเป๊บก็ได้ ผมก็ไม่คิดว่าแกจะคุมซิตี้ฯถึง 10 ปีอ่ะ มาดูกัน

ถ้าไม่หมดไฟจริงๆมันต้องหาอะไรมาแก้ทางแล้ว คำนี้ไม่ดูถูกคล็อปหรอ จะบอกว่าคล็อปไม่แก้ปัญหาหรอ คล็อปแก้จนเหนื่อยละต่างห่าก

หมดไฟสำหรับผมคือ ไม่เอาอะไรแล้ว ไม่กระตุ้นไม่ทำอะไรสักอย่างปลอยจอยไปแล้ว แต่นี้ ที่ผ่านมาหลังจากออกมาประกาศว่าจะออก ไม่ภาพที่คล็อปหมดไฟเลย วิ่งบ้าคลั่ง กระตุ้นเต็มที่เหมือนเดิม
คำว่า ผมอยากจะพักเพราะผมเหนื่อย กับผมอยากจะพักเพราะผมหมดไฟ ถ้าท่านตีความเหมือนกัน ก็แล้วแต่ครับ ผมคนเชียร์ทีมนอก คงไม่ได้รู้ลึกอะไรกว่าแฟนหงษ์อยู่ละ

รอบดอร์ทมุนหมดไฟเพราะทีมเน้นขายนักเตะไม่เน้นแชมป์

ส่วนรอบนี้มีหลายกระแสบ้างก็ว่าหมดไฟเพราะเหนื่อยกับการทำงานที่งบน้อยความคาดหวังสูง

บ้างก็ว่าหมดไฟเพราะเสียลูกรักในทีมไป

ส่วนตัวผมว่าคล็อปป์มืออาชีพพอที่จะไม่ได้มาหมดไฟเพราะนักเตะเก่าๆย้ายออกหรอก

เพราะมันเป็นวัฏจักรฟุตบอลอยู่แล้ว ถ้ามาหมดไฟกับเรื่องแบบนี้คงไม่เลือกมาคุมทีมหรอก

ผมว่าที่หงส์เนี่ยงานมันคาดหวังสูงมาก แล้วเจอคู่แข่งที่พร้อมกว่า ต้องเค้นออกมาทุกอย่างเพื่อให้ผลงานดี

เลยทำให้เหนื่อยจนหมดไฟมากกว่า

ดอทมุนตอนสร้างทีมชุดใหม่เจอกองหน้านักฆาตรกรรมโค้ชไปเหมือนกันด้วยนะ เจ้าไอโมบาย พอกลับไปลีกเดิมยิงจนรองเท้าขาดดาวซัลโวเกือบทุกปีเหมือนเดิม

เขาเรียกซื้อเมื่อสายครับ การต่อยอดคือการเสริมตัวหลังได้แชมป์พรีเมียร์ และยุโรป ให้มีเวลาปรับตัว มีเวลาผลัดใบ รุ่นสู่รุ่นครับ

พูดแบบโคตรดูถูกคล็อปป์อะ

คล็อปป์อยากเลิกกับคล็อปป์ปล่อยจอยไม่เอาอะไรแล้ว คนละความหมายเลย
แฟนหงส์หลายคน ผมเห็นแบบนี้มาหลายเม้นท์ละ พอทีมแพ้ ไม่ได้ผลอย่างที่ตัวเองดั่งใจ ที่ผ่านมาชนะมาตลอด
พอแพ้ พอเสมอ พอยิงไม่ได้
มาเชียว
หมดใจ
ปล่อยจอย
ไม่คิดจะแก้
ไม่ซ้อม
ใจไม่สู้

แล้วคนละเรื่องกับแตะต้องได้ไม่ได้เลย คนละประเด็นเลย
แตะต้องได้ วิจารณ์แทคติคได้
แต่ไอ้แบบที่บอกว่าปล่อยจอย ไม่คิดแก้เกม ไม่คิดหาวิธีแก้ไข
พวกพูดแบบนี้ เคยคุมทีมบอลหรือไง ขนาดเล่นเกม FM เวลาทีมฟอร์มไม่ดี ฟอร์มตก เปลี่ยนแผน เปลี่ยนตัว เปลี่ยนการฝึกซ้อม มันยังแก้ไม่ได้ภายในแค่ 4-5 เกม
นี่คืออะไร พอแพ้และเสมอมา 4-5 นัด บอกแล้วว่า โค้ชปล่อยจอย ไม่คิดแก้ไข ไม่หาทางแก้
คิดว่าพวกทีมโค้ช สตาฟนักเตะทุกคนที่มาซ้อม มาประชุม แล้วเขาคุยกันว่า "เอาแค่นี้พอแหละ" "ลงไปเล่นเหมือนๆ เดิมก็พอ รอโค้ชใหม่แล้วกัน" งี้เหรอ
อย่างงี้แหละที่เรียกดูถูก ไม่ใช่ว่าแตะไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้

จะวิจารณ์ก็วิจารณ์ไปดิครับว่า เล่นอย่างนี้ไม่เวิร์ค แผนไม่ดี
แต่ไปตัดสินว่าเขาไม่สนใจทำอะไรแล้วอย่างนี้ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในห้องแต่งตัว ไม่ได้อยู่ตอนเขาซ้อม
แฟนหงส์อย่างผมเรียกดูถูกคล็อปป์

ปล. แล้วที่หลายคนบอกนักเตะไม่มีใจเล่นแล้ว หมดไฟพร้อมโค้ชแล้ว
เอาแค่สถิติ นักเตะลิเวอร์พูลก็ไม่มีใครเดินเล่น ขนาดเมื่อวานนาที 90 กว่ายังวิ่งไล่บอล ยังพยายามจะต่อบอลยิงให้ได้
แล้วเมื่อวานตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกจนถึงครึ่งชั่วโมงแรกของครึ่งสอง
นักเตะต่อบอลเข้าทำ วิ่งไล่เอาบอลคืนได้ตลอด ทั้งครองบอลเยอะกว่าเกือบสามเท่า
ยิงมากกว่า เตะมุมมากกว่า ต่อบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายมากกว่า
แต่กองหน้ามันยิงทิ้งยิงขว้างกันเอง
มันเป็นเรื่องคุณภาพการเล่นในสนามแล้วที่มันทำไม่ได้
เตะมุมติดกัน 8 ครั้งไม่ได้ประตู พอเขาได้เตะมุมครั้งแรกปุ๊ป เขาได้ประตูทันที
ต้องยอมรับไง ว่าเขาคมกว่ากองหน้าร้อยล้านของเรา