คนที่เขาซื้อมือถือมีจำนวนไม่น้อยเลยที่ซื้อเพราะถ่ายภาพออกมาสวยไหม เห็น iphone ความละเอียดของเลนส์กล้อง ณ ตอนนี้ อยู่ที่ 48M pixel เลนส์เดียว แต่อีกสองเลนส์แค่ 12M pixel
.
ผมเลยสงสัยว่าพวกความละเอียดของกล้องมีผลต่อการถ่ายภาพแล้วสวยไหมครับ แอปเปิ้ลถึงไม่สนใจปล่อยให้มือถือฝั่งแอนดรอยส์ได้กล้องที่ความละเอียดสูงกว่า

เพราะกั๊กแล้วยังขายได้ไง จะอัดสเปคเพิ่มต้นทุนไปทำไม

ต้องออกทุกปีไม่กั๊กใว้จะเอาอะไรมาขายอ่ะ

1 ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความละเอียดขนาดนั้นในการใช้งาน Social Netwoork และการถ่ายภาพเคลื่อนไหว
2 ไม่กินทรัพยากรเครื่องเยอะ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไหร่บางชิ้นส่วนในเร็วๆนี้
3 อะไหร่หลายรุ่นใช้ชิปและเซ็นเซ่อตัวเดียวกันทำให้ดูแลง่ายกว่า และทำงานได้ดีกว่า มีหลากรุ่น

ไอโฟนเมื่อไหร่กล้องหน้ามันจะสวยสักที

ผมว่ากั๊กนะ แต่ส่วนตัวแทบไม่สนใจกล้องเลย เลยไม่มีปัญหา

Pixel เยอะไปก็เท่านั้น
ลง Social ก็ถูกบีบอัดลงเหลือ 2048 px อยู่ดี

เอา ai มาช่วยแต่งรูปให้สวยดีกว่า ไม่ต้องไปลงทุนกับ hardware เยอะ

ไม่จำเป็นมั้ง ขอแค่ 12-18 mp Noise น้อยๆ ไฟล์ละ 4mb ก็พอละ

Pixel มันได้เรื่องความภาพใหญ่ ถ้าใหญ่แล้วย่ออาจจะได้ภาพดี อันนั้นก็อาจจะเป็นจุดดีแบบอ้อมๆ
อย่างกล้อง Mirrorless บางตัวก็ไม่ได้อัด Pixel ไปมากมาย 48M ยังเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ไป 100M แบบมือถือบางรุ่นเลย

ที่สำคัญน่าจะเป็นเรื่องเซ็นเซอร์รับภาพกับชิป
แต่ฝั่งแอปเปิ้ลเอาจริงๆก็ไม่ได้ไปพัฒนาเซ็นเซอร์อยู่ดีแหละ ยังเชื่อใน Hardware ผสาน Software ของตัวเองอยู่

ซึ่งหลังๆนักรีวิวเขาก็ไปจี้จุดแล้วว่าถ้ากล้องเพียวๆไม่ได้เปิดระบบช่วย iphone จะแพ้มือถือฝั่ง Android ที่ราคาถูกกว่าอีก

ผมมองว่าความละเอียดไม่จำเป็น โพสลงโซเชียลก็โดนปรับอยู่ดี ความละเอียดสูง ไม่ได้หมายถึงมันถ่ายสวยกว่า มันมีเรื่อง การลดนอยส์ การถ่ายกลางคืนอะไรพวกนี้อีก

แต่ถ้าถามว่ากล้องแย่กว่ามั้ย ก็คือแย่กว่าจริง แต่ในบางเรื่อง สิ่งที่ฝั่งแอนดรอยด์ทำได้ดีกว่าคือ
ai ปรับภาพใบหน้าคน ฝั่ง apple จะเน้น real ซึ่งมันไม่สวย แต่ถ้าถ่ายวิว ก็พอกันไม่ได้ดีไม่ได้แย่กว่ากัน
เรื่องการซูม ที่ด้วยกว่าอย่างชัดเจน อันนี้กั๊ก ยังไม่ยอมทำมา
เรื่องถ่ายวีดีโอ apple ทำได้ดีกว่าในโหมดภาพพยนต์

สุดท้ายเน้นอีกรอบ ความละเอียดสูงไม่ได้หมายถึงกล้องดี ครับ มีอีกหลายเรื่องอยู่

จะทำ 400m หรือ 1000m ก็ทำได้ครับ คำถามคือทำไปทำไม

ต้นทุนต่อเครื่องตอนนี้ถูกกว่า แอนดรอยเครื่องละ 15k อีก ส่วนไอเรื่องขนาด/ความละเอียดไม่จำเป็นนู้นนี่นั้น มันเป็นแค่ข้อเอามาอ้างในการปิดจุดด้อยเท่านั้นแหละ เด๋ววันนึงทำ 100-200m ก็จะแบบว้าว ล้ำ สุดจัด ไอที่แถๆก็กลืนกลับลงไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

ยอดขายถ้าเอาแค่ stat ตามตัวเลข แม้จะลดลง แต่มันก็แปรผันตามสภาพเศษฐกิจ sentiment รวมของตลาด ซึ่งเมื่อคิดในภาพใหญ่ และตัวเลขกำไรที่มากขึ้นจาก eco of scale มันไม่ได้มีปัญหาอะไร จริงๆมันมากขึ้นด้วยซ้ำ

ในเชิง mkt วาง position ตัวเองเป็นผู้นำ(เค้า set ตัวเองแบบนั้น) ก็ไม่จำเป็นต้องขยับหนีนิ ถ้าผู้ตามเค้าไม่ขยับตามหรือมาจี้ตูดเท่าไหร่ ไว้มาจี้ใกล้ๆค่อยขยับ ให้คู่แข่งเปิดไพ่ก่อน เพราะเค้าเป็นระบบปิด เค้ามั่นใจว่าไม่มีใครกล้าย้ายหนีเค้าได้

จุดแข็งที่สุดของบริษัทเค้าไม่ใช้ product แต่คือการตลาด เค้าใช้ Fear/Faith Base Marketing เล่นกับมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยม
- *ความเชื่อ* อยู่กับคนอื่นไม่ดี อยู่กับเราดี เช่นถ้าออกตัวพับมา คนอื่นพับกาก ของเราพับเทพกว่า กล้อง 200m คนอื่นกาก ของเราล้ำกว่า เชื่อสิ
- *ความกลัว* ย้ายไปใช้ยากนะ เรียนรู้ใหม่หมดนะ เด๋วงานหายนะ เด๋วรูปหายหมดนะ ไอที่สมัครๆ/ซื้อไว้หายหมดนะ มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนกลัวการเปลี่ยนแปลง


สรุปคือ ต่อให้กล้อง 12mp ยอดขายก็เท่าเดิม แล้วจะทำ 200m ไปเพื่ออะไร ???


ปล. แม้จะดูน่าขันและตลกร้ายหน่อย แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มันเป็นแบบนั้น เค้าเจาะกลุ่มถูกและเล่นกับจิตของมนุษย์ได้ดีมาก แต่เชื่อว่าวันนึงก็จะคนส่วนใหญ่ก็จะ evolve ได้ และจะเลือกในสิ่งที่อยู่เหนือความกลัวและความเชื่อได้ เมื่อนั้นคงได้เห็นการแข่งขันที่เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากกว่านี้

ปล2. สิ่งที่ยอดเยี่ยมของบริษัทนี้สำหรับผมมีสิ่งเดียวคือ การตลาด ที่ฉลาดและแข็งโป๊ก

ทำไปทำไมก่อน เหมือนสาวกโปเกม่อนอะ ออกเกมห่วยขนาดไหนมาก็ขายได้คนซื้อถล่มทลาย ต่อให้แอนด๋อยจะดีกว่าขนาดไหนสาวกก็จะซื้อไอโฟน ในเมื่อขายได้อยู่แล้วจะต้องลงทุนพัฒนาอะไรมาก

ขนาดของพิกเซลไม่ได้หมายความว่าจะถ่ายสวยครับ มันให้เรื่องความชัด ละเอียดในระยะซูม ดิจิตอล

แต่ไอโฟน กล้องห่วยแตกมานานแล้วแหละ

จริงครับโหมดวิดีโอนี่ไอโฟนทำได้ดีเลย การเคลื่อนไหวอะไรต่างๆสมูทดีครับ

แต่ถ่ายภาพนิ่งแย่กว่าแอนดรอยจริงๆ
เน้นภาพสมจริงแบบถ้าเราหน้าตาแย่งี้ก็ถ่ายออกมาให้เห็นเรียลๆเลย

แอนดรอยมันทำให้คนดูดีขึ้นกว่าตัวจริงเวลาถ่ายภาพ