วางแผนค่าใช้จ่ายให้ชัด อะไรหาร 2 อะไรคุณออกเอง โดยเอารายได้ของแต่ละคนมาคำนวณก็ได้
เงินที่เหลือก็เป็นเงินส่วนตัวเอาไว้ซื้อของที่อยากได้ ใช้หนี้ ให้พ่อให้แม่ของแต่ละฝ่าย ฯลฯ

ผมกับภรรยาตกลงตั้งแต่ยังไม่แต่งงานแล้วว่าหาร 2 ตั้งแต่ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ น้ำไฟ แต่หลายปีผ่านไปผ่อนรถผ่อนบ้านหมดแล้ว ผมมีเงินเดือนเยอะกว่าผมก็ออกเองเป็นส่วนใหญ่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเรียนพิเศษ ค่าอาหารการกินในบ้านนอกบ้าน สรุปตอนนี้ภรรยาผมออกแค่ค่าเทอมลูกครึ่งเดียว

เรื่องเงินทองในครอบครัวต้องค่อยๆ คุย แต่คุยให้เคลียร์ เป็นกำลังใจให้ครับ

คุยไม่ได้เลยหรือครับ ลองวางทิฐิแล้วจับเข่าคุยก่อนไหมครับสงสารเด็ก หรือฟางเส้นสุดท้ายมันขาดไปแล้ว

ทำตารางรายรับรายจ่ายในบ้านไปคุยครับ คุณแลถเค้าเห็นตัวเลขทั้งหมดเค้าจะเข้าใจเอง ว่าจริงๆแล้ว เรามีรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเยอะไหม และน่าจะช่วยกันมากขึ้น แล้วบอกเลยว่าถ้าตึงแบบนี้เราเองก้อไม่ไหว แต่ถ้าดูแล้วยังไม่ช่วย เราก้อมีเหตุผลจะหยุดเส้นทางชีวิตคู่

ลักษณะแบบเตี้ยมอุ้มคร่อม

คือครอบครัวตัวเองก็จะไม่รอด ไปโอนเงินช่วยค่าเรียนคนอื่น ผมเคยเห็นแบบนี้มาแล้วหลายเคส

สุดท้ายไม่รอดทั้งคู่ ก่อนจะช่วยคนอื่นตัวเองเราควรรอดก่อนถึงค่อยแบ่งปัน

ดูเหมือนแล้งน้ำใจนะครับ แต่มันคือข้อเท็จจริง ผมบอกเลย

เหมือนคนจะจมน้ำ เราก็ว่ายน้ำไม่รอด เรือรับน้ำหนักได้คนเดียว พอช่วยอีกคนมารับน้ำหนักไม่ได้เรือล่มตายคู่

อย่างแรกผมคิดว่าแฟนอาจจะต้องกระตือรือร้นมองๆหางานใหม่ดูก่อน ให้อยู่ในเรท 20k-25k เสร็จปุ๊ปทำรายรับจ่าย แล้วก็ภาระในบ้านต้องไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายนึง ค่าใช้จ่ายอาจจะแบ่งกันออก 70/30 กำลังดี เงินเหลือเท่าไหร่ก็ของใครของมันถ้าเค้าจะช่วยก็ช่วยไปแต่ตัวเองก็ต้องหนักแน่นว่าจะไม่ช่วยอะไร

ผมเคยเจอเคสแบบท่านครับ ผมบอกเขาไปตรง ๆ เลย ว่าถ้าใช่ชีวิตแบบนี้ ตัวผมไม่สามารถใช้ได้ ผมขอออกไปเอง คือมันได้ง่ายขนาดนั้นต้องคนเคยโดนเอง

ที่ผมโดนคือแฟนให้ทุกอย่างกับครอบครัวแล้ว แล้วพอไม่พอภาระจะมาหาผมทันที ผมเลยคุยกับเขาไปตรง ๆ เลยว่า ผมอยากสร้างครอบครัวที่คู่มามีความสำคัญเป็นอันดับแรก ถ้าชีวิตคุณมองว่าครอบครัวคุณคือที่ 1 แต่ผมไม่ได้มองแบบนั้นเราใช้ชีวิตด้วยกันไม่ได้ มีแต่จะพังกับพังอย่างเดียว

เคสของผมเรื่องที่ทำให้ผมระเบิดเลยคือ เราตกลงจะไปญี่ปุ่นด้วยกัน ผมคุยกับเขาเลยว่า เธอไปหาค่าตั๋วมา ค่าโรงแรมที่เที่ยวอะไรกับพวกนี้เดี๋ยวผมจัดการให้ เธอก็บอกว่าจะให้ค่าตั๋วตอนโบนัสเธอออก

สรุปตอนโบนัสเธอออกปุ๊ป เธอทำงานบริษัทคนจีนโบนัสจะออกตอนตรุดจีน สรุปคือพอโบนัสออกเธอให้ที่บ้าน แล้วเอาไปตังไปใส่ซองแดง แจกเด็ก ๆ ในครอบครัวเธอ พอผมถามหาค่าตั๋วเธอบอกว่าให้ผมจ่ายไปเลย เธอจะเก็บเงินไว้ให้พ่อแม่เธอ ตอนนั้นผมคิดเลย ว่าเลิกเหอะ อยู่แบบนี้ทั้งชีวิตผมรับไม่ได้หลอก

คือตอนผมบอกเลิกเธอผมพยายามจะพูดว่า สิ่งที่เธอทำมันไม่ได้ผิด แต่ฉันจะหากที่ผิดที่ไม่ใช่คนที่เธอต้องการ ตอนผมคุยกัน ผมจำได้เลย เธอบอกแล้วจะให้เธอทำไง ก็นี่ครอบครัวเธอนี่พ่อแม่เธอ พ่อแม่เลี้ยงมาก็ต้องตอบแทนเขา ผมก็บอกก็ใช้ไง เพราะมันไม่มีทางออก เราถึงต้องเลิกกัน

คห.ส่วนตัวนะครับ จะนำไปปรับหรือไม่ก็ได้ เพราะต่างคนต่างแนวทางกันครับ

ส่วนตัวแนะนำว่า อยากให้วางเรื่องเลิกกันไว้ไกลๆ เลยครับ คือถ้าตั้งธงไว้แต่แรกว่าจะเลิก เราจะหลงทำทุกอย่างเพื่อไปถึงจุดนั้นครับ ควรจะคิดว่าพยายามไม่เลิกก่อน แล้วไม่ไหวค่อยเป็นทางเลือกสุดท้าย

อย่างแรกที่ต้องทำ คือต้องเปิดใจคุยกันครับ เอาจริงๆ ผมว่าเงินเดือน 2 คนรวมกัน ถ้าบริหารดีๆ ก็น่าจะพอเอาตัวรอดได้ครับ แต่ต้องวางแผนให้ดี แล้วเคร่งครัด
ตกลงกันเลยว่าจะต้องวางแผนการเงิน ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะอยู่กันไม่ได้แน่
แล้วมาทำบัญชีเลยครับว่าเงินที่ต้องใช้ส่วนกลางร่วมกัน มีเท่าไหร่ เงินที่สรรไปใช้ส่วนตัวได้ มีเท่าไหร่
ส่วนหลาน ก็บอกไปเลยว่าไม่รับผิดชอบ ถ้าภรรยาอยากช่วย ก็ให้เอาเงินสรรส่วนตัวไปให้เอง ห้ามยุ่งกับตรงกลางเด็ดขาด แล้วก็ห้ามมายืมเด็ดขาด
เคลียร์ให้จบ แล้วคุณก็ขอเป็นคนดูแลและบังคับการเงินของบ้านเอง เพราะภรรยารายได้น้อยกว่า แล้วคุมไม่ค่อยได้
ถ้าตกลงกันได้ ทำตามได้ ก็ไปต่อกันได้ครับ
ถ้าไปกันไม่ได้ ก็ต้องแยกย้าย ไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลอะไรเพิ่ม เพราะมันชัดเจนอยู่แล้วว่าจัดการการเงินไม่ได้ ยังไงครอบครัวก็ล่ม

ผมว่าเหตุผลที่เล่ามาก็เห็นปัญหาชัดเจน สามารถเอามาคุยกันได้ ถ้าเลิกกันเพื่อจบปัญหา จบภาระมันอาจจะดีสำหรับคุณ อาจจะทำให้คุณรอด แต่แฟนจะจมลงไปอีก มุมมองผม แฟนคุณก็คงพยายามสู้แล้ว แต่อาจจะทำได้เท่านี้ อยากให้มองถึงระยะยาว ถ้าแฟนคุณจมลงเรื่อยๆ ชีวิตแย่ลงไปเรื่อยๆ คุณจะรู้สึกยังไง ลูกคุณจะรู้สึกยังไง แต่ถ้าจำเป็นต้องเลิกกันจริงๆ อยากให้มองว่าระยะยาวจะช่วยเหลือกันยังไงได้บ้าง ก็เป็นวิธีที่ดี

คุยกันก่อนครับ สงสารเด็ก

เป็นผมนะ ผมจะเอาขึ้นมาพูดแบบเปิดหมดเลย ให้เค้ารู้ว่าเค้าไม่ได้มองปัญหาตรงกับเราแล้ว
เราพร้อมที่จะแบกแค่ครอบครัวเรา ไม่ใช่แบกคนอื่นอีก ถ้าเค้าคิดว่าฝั่งนู้นสำคัญก็ต้องปล่อย

อยากให้ดูเคสศรราม เมียคุมเงินไม่เป็น ใจไม่แข็ง ทำต่อไปเงินของลูกจะหมด เค้าก็เลิกเลย
แต่ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ก็แยกบัญชีแล้วท่านคุมเงินเอง ถ้าแฟนคิดได้เร็วก็อาจจะไม่เสียครอบครัวด้วยซ้ำ

ปล. บางคนไม้อ่อนไม่ได้ ต้องเจอหักดิบพูดต่อหน้าไปเลยถึงจะกลับไปคิดทบทวนตัวเอง

อันดับแรกหาทางเซฟเงินของท่านก่อนครับ ให้พอใช้ในครอบครัว และตัวเอง

แล้วค่อยหาจังหวะเหมาะๆคุยกับภรรยาเรื่องค่าใช้จ่าย เลิกกันไปท่านก็ยังต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกอยู่ดี ยกเว้นท่านจะไม่ดูแล

อันนี้ขอแนะนำว่าลองถามตัวเองว่า ภรรยา คนนี้ถ้าไม่มีเรื่องเงิน จะเป็นคนที่โอเคคนนึงไหม

ถ้าใช่ ก็ลองหันเหน้ามาวางแผนการเงินกันดูครับ

ลองเริ่มจาก หักคนละ 50% เข้ากองกลาง เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ลูก (ถ้าเหลือในอนาคตก็เก็บออมไว้)

ถ้ายังไม่พอก็ต้องเพิ่มคนละ 20% ครับ หรือถ้าส่วนต่างที่เหลือเราไหวก็เพิ่มให้

ส่วนเงินส่วนตัวภรรยา ก็ให้เค้าจัดการของเค้าเองเพราะถือว่าเราหัก 50% ออกมาแล้ว

แนะนำเพิ่มคือลองให้ภรรยาขยับขยายงานดูไหม เพราะถ้าเค้ามีภาระเค้าต้องหาเพิ่มถ้าเค้าอยากแบกรับตรงนี้ไว้

เรื่องแบบนี้มันคุยกันได้ครับ นอกจากไม่ได้รักภรรยาคนนี้แล้ว ถ้ายังรักอยู่คุยตรงๆกันก่อนครับ

บอกตรงๆตามที่เขียนมานี่แหละ

เปิดใจคุยกันฮะ คยกันด้วยเหตุผล และต้องหาขข้อสรุป หาทางออกร่วมกันว่าจะหาทางไปกันต่อได้มั้ย ยังไงดี หรือไม่ได้ ตัวท่านกับแฟน 2 คนเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้