ปัญหาคือเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ จบนะ

ไม่ต้องถึงกับSoft powerหรอกครับ แต่แค่ยอมรับและอย่าให้มีพวกส่วยมาสะเออะก็พอ

เป็น soft power ที่ทำให้เกิด hard power

เคยสินะ

ทุกวันนี้ก็เป็นอยู่ครับ

มันก็เป็นมานานแล้วนะ ก่อนศัพท์ softpower จะมาอีก

ไม่ต้องทำอะไร เค้ามองแบบนั้นไปแล้ว ยกย่องเค้าสิ ไม่ใช่ไล่จับเค้า

มันสร้างรายได้ให้ประเทศได้ ทำไมจะไม่ล่ะ
หัวโบราณเยอะเหมือนกันนะ

หมูกะทะไม่ใช่ softpower ฉันใด กระหรี่ก็ไม่ใช่ softpower ฉนั้น เมื่อไรคนไทยจะเข้าใจนิยามของมันซะที

ส่วนตัวไม่มีปัญหากับการขายบริการแต่คำพูดที่ใช้เรียกอย่างเหยียดเลยนะครับ
พูดอย่างประเทศไทย ไม่มีผู้ชายขายตัว
แนะนำควรเรียกsex woker ดีกว่านะครับ

ทำได้หมดแหละ แต่จะไปชู sex worker ก่อนทำไม
ในเมื่อมีอีกหลายอย่างต้องทำก่อน
ไอ่ soft power เนี่ย ไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูด นทท. อันดับต้นๆซักหน่อย

บ้านเรามัน soft power เรื่องอาหารและการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน
มันก็ควรจะไปทำเรื่องของอาหาร สรรพคุณสมุนไพรและพืชผลทางการเกษตรไทยเพื่อ
Add value ก่อน พอทำวงจรข้างบนเสร็จค่อยมาเก็บตกเรื่องอื่นๆเช่น sex worker
หรือ night life

เพราะทั้ง sex workerและ night life มันก็กระจุกอยู่แค่สถานที่บางแห่งเท่านั้น
Soft power ถ้าจะชูให้เป็นนโยบายระดับชาติจริงๆ
ควรทำให้มันเกิดผลทั้งประเทศ มากกว่า

แต่บ้านเรามันย้อนแย้ง

ย้อนแย้งด้วยผลประโยชน์ ย้อนแยงด้วยภาพลักษณ์
เอาเรื่องที่ทำได้ก่อนและลดปัญหา+เสริมรายได้ให้คนในระดับภาพกว้างก่อน

จะโอเครึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่มันเป็นไปแล้วน่ะสิ

กรี่ประเทศไหนก็มี แต่ถ้าไทยเน้นกรี่ที่เป็น lady boy รับรอง no.1

จะให้ดีต้องชูความ tolerance ต่อ sex worker และความ progressive ด้านกฏหมายดูแลสิทธิ์ของพวก

เขาครับ