เลิกแปรอักษรแล้วเปลี่ยนไปขายบัตรเข้าชมแทนไหม หารายได้เข้าโรงเรียนด้วย ทำแบบบอลช่องสามอะ

ขึ้นฟรี ไม่มีค่าตัว ไม่ได้หน้า

ตากแดดร้อน ซ้อมหนัก เป็นผมก็ไม่ไป

สมัยเรียนก็น่าจะเจอกันหมด บังคับไปนั่งสแตนกีฬา สุดท้ายก็ต้องหนีไปลงชมรมกีฬาแทน

บอล บาส ปิงปอง เปตอง เอาแม่งสักอย่างอ่ะ ถ้าไม่ได้ขอเป็นสวัส ก็ยังดีวะ

มันยังไม่มีมาตรการรองรับมากกว่า หากคนไม่พอ ขึ้นสแตนด์แล้วคนไม่เต็ม จะทำไง

เห็นด้วยเรื่องเกณฑ์คนสมัครใจมาช่วยแปล ถ้ารักขนาดนั้นก็ขึ้นไปช่วยน้องเลย ไม่ใช่หาเรื่องไปบังคับน้องแล้วหาข้ออ้าง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว

เท่าที่อ่านมันเสียงแตกแฮะ บางคนชอบบางคนไม่ชอบ

สรุปอยู่ที่ความสมัครใจแหละ

ถ้าคนสมัครไม่พอก็ต้องหานอะไรให้เขาแบบติดไม้ไปบ้าง

ผมไม่ได้จบจากสี่ รร นี้ แต่เคยขึ้นสแตนด์แปรอักษรสมัยงานบอล cu tu ก็โดนบังคับไปนั่นแหละสมัยปีหนึ่งต้องขึ้นเค้าหลอกมางี้นะ ก็นั่งทั้งวันได้ถุงยังชีพมาอันนึงในนั้นก้มีครบ ครีมกันแดดสำคัญสุด ก็นึกแล้วว่าทำไมมันต้องบังคับ ถามว่าสนุกมั้ยตอนนั้มันก้เพลินดี เปลี่ยนโค้ดนั่นนี่ ระวังระวัง พลิกครับ แต่พอจบงานนี่หง่อมเลยตากแดดทั้งวันห่านจิก

จริงๆมันเป็นเรื่องของโรงเรียนในเครือจตุรมิตร ซึ่งมีแค่ 4 โรงเรียนเอง

แต่พอมีบางฝั่งเอาไปปั่น สร้างกระแสขึ้นมา ก็เลยใหญ่โตขึ้นมาเฉย

ในฐานะศิษย์เก่าก็ถ้าเด็กไม่อยากขึ้นมาจริงๆ ก็ไปคุยกันเอง จัดงานเฉพาะฟุตบอลก็ได้ ไม่มีปัญหา

งานมันจัด 2 ปีครั้ง แล้วก็แปรแค่วันเปิดกับวันปิด

แต่ที่พูดๆกันเหมือนต้องขึ้นแปรทุกอาทิตย์ หรือขึ้นแปรบ่อยๆ

สุดท้ายก็อยากให้เด็กไปคุยกับโรงเรียนกันเอง ไม่ใช่ให้คนนอกมาปั่น

ก็ตามสมัครใจแหล่ะ จะไปยากอะไร
ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน คนใน คนนอก ก็ไม่ต้องไปกดดันเด็ก ปล่อยให้เขาคิด ตัดสินใจเอง
แล้วก็สมัยคุณมันจะยังไงก็เรื่องของคุณ ไม่ต้องเอาไปยัดใส่คนอื่น อ่านแล้วจะอ้วก

ก็แค่ให้คนที่อยากทำ สมัครใจทำไปขึ้นสิ มันยากยังไง จะศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบัน ใครก็อยากขึ้นก็เรียกไป แค่นั้นเอง

เรื่องอะไรแบบนี้มันตัดปัญหาได้โดยการรับคนที่สมัครไงแค่นั้นอะ

ผมไม่ได้จบจาก 4 โรงเรียนมาหรอก แต่เคยมีประสบการณ์โดยตรงกับการแปรอักษร เพราะมช.ก็มีสแตนเชียร์แบบนี้

ผมได้ยินเพื่อนบ่นกันยับไอ่เรื่องขึ้นสแตนนี่อะ เสียเวลา ร้อนก็ร้อน คนได้หน้าคือพวกลีด พวกคนนำนู่น คนขึ้นสแตนไม่ได้อะไรเลย

เชื่อเถอะ เดี๋ยวสุดท้ายกาลเวลาก็จะปรับอะไรๆให้มันเปลี่ยนไปเองแหละ

ผมก้เปนคนนึงที่ขึ้นไปแปรสมัยเรียนครับ ก้น่าเบื่อพอควรตอนรอการแปร ร้อนอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ไรขนาดนั้น

แต่ผมคิดว่า เอาเป็นแบบสมัครใจขึ้นก้พอละครับ คนที่ไปก้ได้คะแนนพิเศษอะไรหน่อยก้ได้ แต่อย่าไปลงโทษคนไม่ไปเลย

ส่วนตัวมองว่า กิจกรรมมันค่อนข้างคลาสสิคนะ คงไว้ต่อก้ดูมีเอกลักษณ์ดี

อย่างจุฬาธรรมศาสตร์ก้เดินขบวน จตุรมิตรก้แปรอักษรกัดการเมือง ผมว่าแตกต่างกันไปก้สีสันดี

ปล. แอบแปลกใจทำไม ดราม่าดูเข้มข้น จริงๆมันไม่ได้ลำบากขนาดนั้นเลยนะครับ เทียบกับสิ่งที่คุณต้องเจอในชีวิต

ลองถามศิษเก่าดิว่าจบมาแล้วคิดว่าการขึเ้นไปมันดีมั๊ย

น่าจะเกือบทุกคนตอบว่า เออขึ้นไปก้ดี มีความทรงจำดีๆ

ผมว่าประสบการณ์ กิจกรรมมันก็ส่วนนึงสร้างความทรงจำได้แหละ

แต่แดดสมัยนี้กับ 10-20 ปีที่แล้ว มันคนละเรื่องเลยอะซิ

อีกอย่างคนคงมองว่ากันไว้ดีกว่ามาแก้ เพราะมันยังไม่เกินเหตุการณ์แย่ๆมากกว่า ถ้ามันเกิดเราคงต้องมาแก้ไขทีหลังคงไม่ดี

สมัยเรียนเกลียดการขึ้นสแตนด์มากๆ ไม่ถึงกะต้องแปรอักษรด้วยซ้ำ ยกเลิกได้ก็ยกเลิกไปเหอะ ประเทศเราอ้างแต่ฝึกระเบียบวินัย จบออกมามีแต่บุคคลากรไร้วินัยเกือบจะที่สุดในโลก ดูได้ง่ายๆจากการขับรถ 55 แปลว่าที่บอกว่าฝึกๆกันนี่ มันได้ประโยชน์จริงๆหรอ

จริงครับ ทั้งแดด ทั้งฝุ่น สภาพอากาศแย่กว่ารุ่นพ่อมาก

สมัยเรียนผมก็ถูกเกณฑ์ไปแปรอักษรนะครับ คือตอนซ้อมก็บ่นๆ กันแหละว่าร้อนมั่งเมื่อยมั่ง แต่พอไปถึงวันจริงทุกคนจะฮึกเหิมขึ้นมาเลยครับ บรรยากาศมันชวนให้อินจริง ๆ มันเป็นงานที่ชีวิตนึงจะได้ทำแค่ครั้งเดียว พอจบวันงานได้มาดูภาพที่ตัวเองเป็นส่วนนึงในการแปร ผมก็ภูมิใจ

ผมเข้าใจมุมมองคนนอกจตุรมิตรนะ ว่าจะทำไปทำไม บลา ๆ แต่มันก็เป็นธรรมเนียมอะแหละครับ ส่วนตัวมองว่าไม่ควรบังคับเหมือนกัน เท่าที่รู้เด็กรุ่นใหม่(อย่างน้อยๆก็น้องๆที่โรงเรียนเก่าผม)ก็ยังดูแฮปปี้กับการขึ้นแสตนแปรอักษรอยู่

ซึ่งผมว่าถ้าน้อง ๆ ส่วนใหญ่เค้ายังภูมิใจอยู่และเต็มใจทำ คนนอกก็ไม่ต้องไปเสือกหรอก เด็กสมัยนี้เค้าคิดเองได้ เค้าตระหนักรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพพอสมควรแล้ว ถ้าถึงจุดที่เค้าไม่โอเค ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่มีความกล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ผู้ใหญ่ไม่ว่าจะฝั่งไหน จะโปรการบังคับ หรือ ไม่โปรการบังคับ ผมว่าไม่ต้องไปเสือกเรื่องของเค้าหรอกครับ ให้เด็กเค้าคิดเองได้ครับ

เห็นด้วยว่าควรต้องเปลี่ยนเป็นสมัครใจไปเลย จะมาบังคับแบบแต่ก่อนคงไม่ได้

รูปแบบกิจกรรมก็ควรปรับเปลี่ยนหน่อย เช่น ลดระยะเวลาแปรอักษรลง เริ่มสัก 4-5 โมงเย็นก็กำลังดี แดดไม่ร้อนเกิน แล้วแปรไปจบหนึ่งทุ่ม รวมๆ 2-3 ชั่วโมงก็พอแล้ว