ถ้ามันสร้างได้จริงอีก Subset นึงที่อยากรู้คือ สร้างได้ยากกว่าภูมิภาคอื่นมั้ย???
มิโตมะคือ 1 ใน กี่ล้านคนในญี่ปุ่น ที่จะไปถึงจุดนั้น
ส่วนคนไทย 1 ในกี่สิบล้านคน ในประเทศที่จะไปถึงจุดนั้น

แต่เรื่องบอลเด็กก็ชัดดี ตอนเด็กกระดูกยังชนกันได้ โตมาชนไม่ไหวซะงั้น
หรือมีงานวิจัยอ้างมั้ย ว่าการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อไม่เท่ากัน

ร่างกายไม่ดี ยังไม่ชอบอยู่ในวินัยอีก กี่โค๊ชต่างชาติวินัยเข้มๆออกไปกันกี่รายแล้ว
ซ้อมเสร็จไก่ย่าง ส้มตำ เอาอะไรมาหล่ำ ยังไม่รวมชอบเป็นพวกสายเที่ยวราตรีอีก
ความฟิตอย่าไปเทียบญี่ปุ่น เกาหลี เลย แค่วินัยยังสู้เงียนไม่ได้

วินัยและโภนชาการครับไทยต้องปั้นแต่เด็กต้องมี รร พละแบบเฉพาะทางจริงๆแบบนักมวยเท่านั้นแหละครับไม่งั้น กลับบ้านไปก็กินอาหารแบบไทยๆโชเดียมตึงๆ ฝึกมาก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร

ยกเรื่องนี้มาดีเลยครับ ผมว่าสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างนักบอลกับนักมวยคือ "แรงกระหาย ความทะยานอยากครับ" เอาง่ายๆคืออยากยกระดัีบชีวิต อยากมีฐานะที่ดีขึ้น อารมณ์คล้ายๆนักฟุตบอลบราซิลที่ฟุตบอลเป็นสิ่งที่ยกระดับชีวิตได้ เพราะฉะนั้นเด็กเขาที่ฐานะทางบ้านไม่ดีก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อถีบตัวเองขึ้นมา คล้ายๆนักมวยบ้านเราหลายๆคน

ผมว่าสิ่งหนึ่งที่นักมวยบ้านเรา เหมือนนักบอลบราซิลคือ "เป็นที่ยอบรับ" ในสายตาชาวโลกครับ ตัดภาพมาที่นักฟุตบอล เราเป็นทีมแรงกิ้ง 112 ของโลกครับ ไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสายตาชาวโลก คนอาจจะถามต่อนักบอลหลายคนก็ฐานะไม่ดีนะ หลายคนก็สู้ชีวิตเหมือนกัน ... ถูกครับ แต่ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เป็นทีมครับ ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่กระหาย เข้าไปในองค์กรที่เช้าชามเย็นชาม มันอยากมากๆนะที่จะรักษาความกระหายให้มีได้ตลอดอะ

ผมว่่มวยบ้านเราก้ไม่แข็งขนาดนั้น


มวยไทยเราแข็งมากตอนนี้เพราะต่างชาติยังไม่มีมาจิงจัง ไอพวกตัวเก่งจิงๆไปฝึกสากลหมด ไม่ก้mma เพราะเงินเยอะ เหลือแต่ปลายๆมา


มวยสากลก้ ถ้าเทียบกันกับทุกประเทศ เราต้นๆขนาดนั้นเลยหรอ ถ้าให้เรียงลำดับแชมปในรอบ50ปี เราอยุ่อับดับเท่าไหร่อะ

ผมว่าหลักๆเลยคือ มวยเป็นกีฬาเดี่ยวครับ กระหาย ตั้งใจฝึกซ้อม มันเห็นผลง่ายกว่า ส่วนฟุตบอลเป็นทีม เราขัน+ฟิต แต่เพื่อนไม่วิ่ง ก็เหนื่อย อีกอย่างที่สำคัญคือ มวยมันจำกัดเวต รุ่นน้ำหนักใกล้ๆกัน แต่ฟุตบอลทีมที่ตัวใหญ่ยักษ์แบบยุโรปสามารถโคจรมาเจอทีมรูปร่างเล็กแบบอาเซียนได้

มิโตมะไม่ใช่ 1 ในล้านครับ เจลีคก็วิ่งกันเกมส์นึง 13 14 โลกันเป็นขนมเลย ปาร์ค3ปอด ซน พวกนี้คือตัวพิศูจน์เลยว่าร่างกายสร้างได้

อีกตัวอย่างนึงที่เม้นบนๆยกไปแล้วคือกีฬาอื่นเราก็ยังสร้างกล้ามเนื้อสร้างความฟิตได้ ทำไปฟุตบอลจะทำไม่ได้ละ

ดูตะวันฉาย ซุปเปอร์บอล โจนัทวุฒิ และนักมวย one อีกหลายคนยังสร้างกล้ามเนื้อความฟิตได้ไม่แพ้พวกยุโรป

ผมว่าของแบบนี้อยู่ที่

1.องค์ความรู้
2.วินัย
3.แรงจูงใจ

ซึ่งผมว่าฟุตบอลไทยไม่มีสักอย่าง

องค์ความรู้ก็ไม่จ้างตะวันตกมาถ่ายทอดเพราะแพงอยู่ในแต่กะลา

วินัยไม่มี

แรงจูงใจต่ำ

ลองมองเล่นๆ แบบเข้าข้างนักบอล หาข้ออ้างให้

- กีฬาต่อสู้ มีแบ่งน้ำหนัก ซึ่งแบ่งน้ำหนักอนุมานได้ว่าแบ่งส่วนสูงด้วยโดยอัตโนมัติ แต่ฟุตบอลไม่มี ชนาธิปกับเฟลไลนี่สู้บนสนามเดียวกัน เจริญศักดิ์กับอดาม่าสู้บนสนามเดียวกัน

- เมกาใต้ เข้าใจว่าเขาอยู่บนพื้นที่สูงจากน้ำทะเล น่าจะทำให้แข็งแกร่งโดยธรรมชาติ ส่วนญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ใครๆก็บอกเมื่อก่อนตัวเล็กกว่าเราอีก น่าจะเรื่องจริง แต่ไอคิวเขาเหนือกว่าเรามาก จึงพัฒนาฟุตบอลได้ทั้งร่างกายและภูมิปัญญา

แต่เอาจริงๆผมเห็นด้วยว่าสร้างได้แต่ไม่สร้าง ตัวอย่างชัดเจนคือ ธนวัฒน์ คนไทยแท้ คุณพ่อคุณแม่ไทย แต่ร่างกายกำยำเหมือนนักบอลต่างชาติ บ่งบอกเลยว่าสภาพแวดล้อมฟุตบอลบ้านเรา ไม่เอื้อต่อการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ

ไม่ติดอะไรเลยครับ แต่ขอแก้ต่างให้ตัวเองนิด
1ในล้านแบบมิโตมะคือ นักเตะชนิดที่พานักบอลยุโรปทัว หรือดวลชนะวอคเกอร์ครับ
เห็นท่านยกวอคเดอร์มา นึกว่าเราคุยต่อกัน

เคยฟังในยูทูปที่เล่าว่านักเตะญี่ปุ่น นัดซ้อมเช้า 9 โมง นักเตะจะมาก่อนเวลานัดเพื่อมาเข้ายิม วินัยแบบนี้ ไม่มีในนักเตะไทย

วินัยการกิน การนอน ทุกอย่างสัมพันธ์กับความฟิตหมด

ประเด็นที่ผมจะสื่อไม่ว่า ใครสามารถเลี้ยงผ่านwalkerได้บ้าง แต่ผมจะสื่อว่าถ้าไม่มีความฟิตคุณไม่สามารถพาwalkerทัวได้ตอนนาที80หรอก ถ้ามิโตมะฟิตขนาดนั้นได้ทั้งๆที่เป็นญี่ปุ่นแท้ ทำไมคนอื่นจะฟิตแบบมิโตะมาบ้างไม่ได้ลัะ

ปัจจุบัน..."ไม่ทราบครับ"

แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ที่นักฟุตบอลไทยไม่ฟิต เอาเท่าที่เคยรู้เอง
เพื่อนคนนึงที่มีชื่อเสียง"ผอมๆ สูงๆ ผิวคล้ำ" สมัยนั้นมันก็บอกกับในกลุ่มเพื่อนเองตอนนั่งกินเหล้า ว่า"แหลกๆไปเหอะ สภาพไหนก็ถูกเรียกติดทีมชาติอยู่แล้ว"

ประเทศนี้ ถ้าอ้างอิงตามคำพูดข้างบน มันก็ไม่ได้ขยับไปไหน แล้วจะเอาอะไรมาปั้นความฟิตล่ะ ลูกรักเต็มไปหมด
แต่ละคนก็แค่ทำๆไป จบแมตซ์รับเงิน...ไม่ง่ายกว่าเหรอ แล้วจะเอาที่ไหนฟิต
คนฟิตไม่ได้เล่น คนเล่นไม่ได้มีความฟิตพอ

เราไม่ได้อยู่ในประเทศที่ดิ้นรนทำมาหากินได้ด้วยการเป็นนักกีฬา และมีความเท่าเทียมในการเลือกขนาดนั้น แค่กระแสฉาบฉวยไม่ได้มีความเป็นมืออาชีพสูงพอหรอกครับ

ความฟิตมันสร้างได้อยู่แล้วถ้าจะทำ เริ่มก็จากการกินการนอนก่อนเลย กินไม่ถึงนอนไม่พอไม่มีแรงซ้อม ซ้อมออกมาไม่ดีไม่มี progress ก็ตายตั้งแต่ต้นน้ำละ ดูจังหวะสวนบอลนอกไม่ต้องไปไกลถึงยุโรปเอาแค่ญี่ปุ่นเขาสปรินต์เติมให้เพื่อนอะวิ่งหน้าตั้งเลย ส่วนของไทยตะตอนยอนไปเรื่อยๆ

ส่วนเรื่องกล้ามเนื้อ ถ้าจะพูดกันจริงๆ มันก็มีเรื่องเชื้อชาติเป็นเพดานอยู่ เอเชียจะด้อยสุดเรื่องนี้เลยมั้ง ส่วนชาติที่เด่นสุดก็พวกแอฟริกาผิวสี แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสร้างไม่ได้แค่อาจจะต้องdedicatenเพิ่มกว่าคนอื่นๆหน่อย สังเกตว่ากีฬาพวกแนววิ่งๆ+ใช้ความแข็งแรงเนี่ย คนผิวสีเขาจะเด่นมากๆเลย โดยเฉพาะคนผิวสีที่อยู่ในประเทศรวยๆพวกยุโรป us งี้ มีพันธุกรรมดีเป็นทุน+วิทยาการความรู้ของประเทศที่เจริญแล้วมันก็เลยออกมาดี

เอาจริงๆนักกีฬาต่อสู้ต่างชาติก็มีสิทธิ์แซงนะ ถ้าเรายังไม่พัฒนาตัวเอง ดูหุ่นไทยเทียบพวกต่างชาติดิ ในพิกัดเดียวกันอะเขาดูลีนกว่าใหญ่กว่าเราอีก ที่ไทยยังอยู่ได้เนี่ยผมว่าอยู่ได้ด้วย ประสบการณ์และทักษะเลย เดี๋ยวถ้าต่างชาติเขาไล่เรื่องทักษะประสบการณ์ทันเมื่อไรก็ตอนนั้นแหละเขาอาจจะชนะเราด้วยกายภาพที่เหนือกว่า

แปลว่าสมมุติต่างชาติเริ่มที่ 20 เราต้องเริ่มที่ 0

นี่ยังไม่รวมที่เพดานแต่ละคนไม่เท่ากันอีก แต่สรุปได้ว่าถ้าใครเริ่มต้นเยอะๆ เพดานก็อาจจะตันในตัวเลขเยอะๆเช่นกัน

หายากที่คนที่เริ่มต้นจาก0จะเพดานสูงลิ่วๆ ส่วนใหญ่จะMaxก่อน คนที่เริ่มต้นก็มากกว่าคนอื่นใช่ไหมครับ

ในกรณีที่พยายามเท่าๆกัน

สร้างยาก ต่อใหฟ้สร้างได้ก็ไม่ทันเขาอยู่ดี เพราะสภาพแวดล้อมภูมิภาคเรามันไม่เอื้อ
โดยเฉพาะสภาพอากาศและอาหาร ความรู้ด้านนี้เราก็ยังตามเขาหลักหลายสิบปี
ถ้าจะสร้างให้ทันเขามีแต่เอาไปปั้นที่ยุโรปเท่านั้น