มี plan จะเปลี่ยนรถปลายปีนี้ครับหลังจากใช้ crv g4 มา 10ปี ผมก็ยังมองไปที่ crv g6 1.5 turbo. จนเพื่อนผมบอกทำไมไม่ EV หรืออย่างน้อยๆก็ hybrid.
เหตุผลที่มองไปที่ รถน้ำมันล้วน
1.ผมใช้รถทีใช้ยาวครับ 8ปี+
2.ผมเป็นคนเดียวที่ขับรถในครอบครัวครับ (มีคันเดียวพอ)
3.ผมมีประสบการณ์ไม่ดีกับการเข้าศูนย์ครับ ซึ่งรถ ev พอหมดประกัน ผมมองว่าอู่นอกอาจจะยังไม่ชำนาญ

แต่จากที่เห็นกระแสยอดจองรถ ev ผมเลยมานั่งคิดว่า หรือเราจะตกยุคแล้ววะ
เพื่อนๆคนไหน มีข้อแนะนำเรียนเชิญนะครับ เผื่อผมจะเอนเอียงไป EV ครับขอบคุณครับ

ผมมองจากมุมมองคนมีอายุแล้วนะ

ใช้อะไรที่”เรา”สบายใจครับ ไม่ว่าจะมือถือ รถ แฟชั่น ที่เที่ยว หรือกระทั่งการใช้ชีวิตก็ตาม

คนอื่นไม่ได้ขับกับเรา คอนดิชั่นในชีวิตไม่ได้เหมือนเรา ผมว่าเราเป็นตัวของเราสบายใจที่สุดครับ ถ้าซื้อเพราะโลกเค้าซื้อกันหมด แต่”คุณไม่สบายใจ” แบบนั้นความสุขของคุณอยู่ที่ไหนครับ เราต้องการการยอมรับจากสังคมหรือจากตัวเองครับ

ผมนี่เพิ่งออก hybrid มาด้วยซ้ำ ทั้งๆที่คนรอบตัวบอกว่า hybrid ปัญหาเยอะ จุกจิก ฯลฯ แต่ผมชอบไง ผมนั่งขับแล้วผมชอบ ผมสบายใจ แล้วตัวเลือกอื่นที่ใกล้เคียงกันผมไม่ชอบก็แค่นั้น ออปชั่นก็ไม่ได้ล้นเหมือนคู่แข่ง ระบบ infortainment หรือหน้าตารถก็ดูแก่ (คนรอบตัวผมไปออก Model Y กะ GLC กันทั้งนั้น) ฯลฯ

เป็นตัวของตัวเองนะครับ
รถสันดาบก็ยังพอมีอนาคต 8 ปียังไงๆก็ไปต่อไหว
รถไฟฟ้ามันก็คืออนาคตเช่นกัน

ถ้าจะมาเปรียบเทียบแบบไม่ได้เอาเรื่องอารมณ์มาตั้ง ทุกๆเทคมันมี cycle ของมันครับ มี hype มี early adopter มี early majority และ late majority… ถ้าตราบใดยังไม่ไดเป็น laggard ผมว่าทุกอย่างก็ยังโอเคนะครับ พวก laggard จะเหมือนพวกไม่ยอมเปลี่ยนไม่ตามโลกมากกว่า ซึ่งแบบนั้นจะไม่ดีต่อทั้งชีวิตส่วนตัวหรือถ้าเป็นบริษัทนี่เตรียมเจ๊งได้เลยครับ

เอาที่มันเหมาะกับเราครับ รถ ev community ยังไม่เยอะก สัก สามปีน่าจะมาคุยกันหลังจากเรื่อง ma

ผมก็ใช้ CRV G4 MC เหมือนกันครับ แต่ก็ยังคิดจะใช้ไปต่อเรื่อย ๆ เพราะรถมันโอเคอยู่ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย

ช่วงนี้รถ EV กำลังมาแรง ก็คิดอยู่นะ แต่คิดไปคิดมา ก็ว่าจะรออีกปี-2ปีก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบ รีบแล้วได้ส่วนลดกว่าเหรอ ก็ไม่ใช่

อีกอย่าง ก็รอพวกพี่โต พี่ฮอน ออกรถไฟฟ้ามาสู้จีนอยู่ครับ ตอนนั้นใครชนะก็ได้ตังค์ผมไป

ครับเคยได้ยินมาว่า ค่ายญี่ปุ่นไม่ยอมทำ EV ง่ายๆครับ ไม่งั้นหลายอุตสาหกรรมที่ลงทุนมามหาศาล เตรียมตัวตายครับ

ผมมองจากมุมมองคนมีอายุแล้วนะ

ใช้อะไรที่”เรา”สบายใจครับ ไม่ว่าจะมือถือ รถ แฟชั่น ที่เที่ยว หรือกระทั่งการใช้ชีวิตก็ตาม

คนอื่นไม่ได้ขับกับเรา คอนดิชั่นในชีวิตไม่ได้เหมือนเรา ผมว่าเราเป็นตัวของเราสบายใจที่สุดครับ ถ้าซื้อเพราะโลกเค้าซื้อกันหมด แต่”คุณไม่สบายใจ” แบบนั้นความสุขของคุณอยู่ที่ไหนครับ เราต้องการการยอมรับจากสังคมหรือจากตัวเองครับ

ผมนี่เพิ่งออก hybrid มาด้วยซ้ำ ทั้งๆที่คนรอบตัวบอกว่า hybrid ปัญหาเยอะ จุกจิก ฯลฯ แต่ผมชอบไง ผมนั่งขับแล้วผมชอบ ผมสบายใจ แล้วตัวเลือกอื่นที่ใกล้เคียงกันผมไม่ชอบก็แค่นั้น ออปชั่นก็ไม่ได้ล้นเหมือนคู่แข่ง ระบบ infortainment หรือหน้าตารถก็ดูแก่ (คนรอบตัวผมไปออก Model Y กะ GLC กันทั้งนั้น) ฯลฯ

เป็นตัวของตัวเองนะครับ
รถสันดาบก็ยังพอมีอนาคต 8 ปียังไงๆก็ไปต่อไหว
รถไฟฟ้ามันก็คืออนาคตเช่นกัน

ถ้าจะมาเปรียบเทียบแบบไม่ได้เอาเรื่องอารมณ์มาตั้ง ทุกๆเทคมันมี cycle ของมันครับ มี hype มี early adopter มี early majority และ late majority… ถ้าตราบใดยังไม่ไดเป็น laggard ผมว่าทุกอย่างก็ยังโอเคนะครับ พวก laggard จะเหมือนพวกไม่ยอมเปลี่ยนไม่ตามโลกมากกว่า ซึ่งแบบนั้นจะไม่ดีต่อทั้งชีวิตส่วนตัวหรือถ้าเป็นบริษัทนี่เตรียมเจ๊งได้เลยครับ

ผมก็น้ำมันเหมือนเดิมครับ

ขอบคุณค้าบบบ

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าน้ำมัน รถน้ำมันล้วน ยังไงก็ยังสะดวกสุดๆอยู่นะ


รถไฟฟ้า คงต้องสัก 4-5 ปี รอเทคโนโลยีความเร็วในการชาร์จให้เร็วขึ้น รวมถึงจุดชาร์จครอบคลุม


รวมถึงเวลาดวงแตก รถเสีย ก็เข้าอู่ที่ไหนก็ได้


ต่อให้วันข้างหน้ามันเริ่มตกยุค ภายใน 10 ปี ก็ไม่น่าจะหาที่เติมน้ำมันยากจนขับไม่ได้หรอก

ผมเคยรีวิวรถไฟฟ้าตอน 1ปี1เดือน ตอนนี้ 1ปี2เดือนวิ่งไป 65,000กิโลแล้วครับ ประหยัดเงินไปแสนหน่อยๆแล้ว

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2341884

ชาร์จบ้าน 100%ยังไม่เคยชาร์จนอกบ้าน ก่อนนอนก็ชาร์จตื่นมาก็เต็มเหมือนโทรศัพท์

อู่ไม่กลัวเข้าศูนย์อย่างเดียว ชิ้นส่วนมันน้อยกว่าเครื่องยนต์เยอะมากๆ ของเหลวก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เติมลมกับเติมน้ำฉีดกระจกอย่างเดียว

ใช่ครับส่วนหนึ่งก็เรื่องนั้น และอีกส่วนหนึ่งคือรอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีกว่าปัจจุบันด้วยครับ และถ้ามีรถคันเดียวในบ้าน ต้องใช้ทุกเรื่อง ทางใกล้ทางไกล ผมก็ยังใช้น้ำมันอยู่ เพราะเรื่องการเติมปั๊มนี่แหล่ะ รถไฟฟ้าอาจจะยังไม่สะดวกนักในตอนนี้ แต่ในอนาคต เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง มันก็ต้องเปลี่ยนตามแหล่ะครับ ถ้าอุตสาหกรรมไม่เปลี่ยน ก็รอวันตายแหล่ะ

แลดูชีวิตง่ายขึ้นเยอะเหมือนกันนะครับ

ผมให้อีก10ปีเลย ยังไงรถน้ำมันโดยเฉพาะจากค่ายญี่ปุ่นที่ขายในบ้านเรา ก็ไม่มีทางตกยุค อาจจะขายได้น้อยลงจากเดิม (ก็เเหงล่ะ รถไฟฟ้ามันมาเเเล้ว) เเต่ไม่มีทางที่รถไฟฟ้า100% จะฮุบตลาดรถยนต์บ้านเราได้ใน10ปีนี้ครับ

ง่ายขึ้นเยอะครับ นี่กำลังจะขายรถน้ำมันไปไฟฟ้าอีกคันครับ บ้านผมใช้รถเยอะ ประหยัดไปเยอะมากๆ

ผมก็พึ่งซื้อรถน้ำมันไปเมื่อสิ้นปีที่แล้ว
ในช่วงที่เทสล่าเปิดให้จองพอดี ก็เฉยๆครับ
วันใดวันนึงก็คงได้มีเทสล่าอยู่ในบ้าน

แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ก็ไปถอยรถไฟฟ้ามาอีกคัน
เหตุเพราะอยากลอง เลยเริ่มจากตัวถูกๆอย่าง Dolphin Ext
แล้วก็เน้นขับไปทำงานจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น
ไม่ได้กังวลเรื่องอะไหล่ หรือบริการเท่าไร

ผมว่าดีซะอีกที่ยังมีคนซื้อรถน้ำมัน หรือไฮบริด
ทุกที่มันต้องมีคนส่วนมาก และส่วนน้อย
ผสมกันเป็นเรื่องปกติครับ

ต้นปีเพิ่งถอยรถน้ำมันมาสนองความต้องการเพราะชอบเสียงเครื่องยนต์มันเพราะดี นี่กำลังจะเปลี่ยนรถอีกคันปีหน้า ก็ตั้งใจน้ำมันเพราะเหมาะและอำนวยความสะดวกกับผมมากกว่าในการใช้ชีวิตครับ