BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 15:59
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
sleter พิมพ์ว่า:
Spoil
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  


ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  
 

อีกแล้วเหรอ อย่าเหมารวม เหมือนราชการตำรวจทหารป่ะ  


งั้งสรุปคือ ข้าราชการตำรวจทหาร เป็นเหมือนกันหมดสิ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 18410
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 16:01
ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ
พูดเหมือนราชการ เข้าง่าย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 883
ที่อยู่: Somewhere On Earth
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 16:02
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ขอตอบในสายงานไอทีนะครับ สมมุติว่าเข้าราชการ หรือว่า รัฐวิสาหกิจ ที่ไม่ได้แข็งๆอย่าง กฟภ กฟน ปตท พวกนี้ ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ 4 เงินเดือน 15-18k แต่งานไอทีเอกชน อายุ 30 ได้ 3-4 หมื่นสบายๆ ไหนจะพวกโบนัส ประกันสุขภาพก็ใช้เอกชนได้ปีนึง 3หมื่นขึ้น บางที่ให้ค่ารักษาคนในครอบครัวอีก ไหนจะ provident fund 5-10% อีก นี่ไม่ได้นับบางคนเทพๆเป็น full stack เงินเดือนเป็นแสนตั้งแต่ 20 ต้นๆก็มี แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปทำงานราชการนั่งพิมพ์งานด้วยตัวเลขไทยให้ปวดหัว แล้วรับเงินเดือนแค่นั้นครับ อันนี้ไม่ได้ดูถูกนะ แต่จะบอกว่าเอกชนที่มันดีมากๆมันก็มี แล้วมีงานราชการที่ไหนไหมครับที่จ่ายเงินเดือน โปรแกรมเมอร์ full stack ได้หลัก 5-6 หมื่น
แก้ไขล่าสุดโดย teamzpawat เมื่อ Tue Sep 19, 2023 16:06, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7321
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 16:08
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  

 

ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  


ผมไม่แน่ใจว่าราชการมีตัวเลขตรงนี้เท่าไหร่ แต่คุณพอทราบมั้ยครับว่า attrition rate หรือเรทพนักงานที่ออกจากงานในภาคเอกชนเนี่ย มีประมาณ 11-15% ต่อเดือนนะครับ (อันนี้เป็นตัวเลขจากอุตสาหกรรมที่ผมทำงานอยู่ มีพนักงานรวมๆกันประมาณ 20,000 คนครับ) นั่นแปลว่าออะไร นั่นแปลว่ามีคนออกจากงานเฉลี่ยถึงเดือนละ 2000 - 3000 คน ขณะที่ termination rate จะอยู่ที่ประมาณ 24% ของตัวเลขนั้น นั่นแปลว่าการให้ออกจากงานของภาคเอกชนในบางอุตสาหกรรมสูงถึง 500 - 700 คน/เดือน

ซึ่งนี่เราพูดถึงการชดเชยแบบถูกต้องนะครับ ไม่ได้รวมตัวเลขที่เราเรียกว่าบีบให้ออกก็ได้ นั่นแปลว่าอะไร นั่นแปลว่าคนที่คุณภาพไม่ถึงสำหรับตลาดแรงงาน มีถูกให้ออกจากงานถึง 700 คนจาก 20,000 คนต่อเดือน (3%) และนั่นเป็นอุตสาหกรรมเดียวนะ และไม่ได้รวมพนักงานสัญญาจ้างด้วย ซึ่งถ้ารวมก็อาจจะมากกว่านี้

ขณะที่ข้าราชการ จากตัวเลขชุดเดียวที่ผมเห็นคือจากกรมแรงงาน ซึ่งมีข้าราชการประมาณ 1,200 คน และมีตัวเลขคนลาออกเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังที่ปีละ 60 คน (เฉลี่ยเดือน 5 คนหรือเท่ากับ 0.41% ต่อเดือน) ซึ่งนั่นแปลว่าตัวเลขการลาออกมันน้อยมากๆครับ ยังไม่ต้องลงไปถึงระดับการให้ออกเพราะไม่ perform เลยครับ
Spoil
https://personnel.labour.go.th/attachments/article/2075/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf  


ซึ่งนั่นแปลว่าการแข่งขันในภาคเอกชนมันสูงกว่าแน่ๆ เพื่อที่จะไม่ได้ถูกคัดออก

ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าคนทำงานราชการไม่ใช่คนดี (คุณไปอ่านความเห็นแรกผมก็ได้ ว่าผมพูดถึงว่าอะไรบ้าง) แต่บอกว่าระบบมันไม่เอื้อให้คนเก่งโต มันไม่เอื้อให้คนอยากทำให้ดีขึ้น (incentivize) ขณะที่คนไม่เก่ง ก็อาจจะยังอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องแข่งขันอะไร (penalize) ขณะที่การทำเอกสาร ทำ paperwork ต่างๆก็ล้าหลัง ไม่ให้เกิด efficiency ในระบบขึ้นอีก คือองคาพยพของระบบราชการนั่นแหล่ะ ที่มีปัญหา และเราควรจะยอมรับมันให้ได้ว่ามันมีปัญหา และหาทางแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจังต่างหากครับ

 


ภาพรวมมันดูมีปัญหา และต้องแก้ไขจริงๆ ครับ แต่ด้วยความเป็นราชการ มันมีระเบียบกฎหมายกำกับไว้ ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเป็นสำคัญ บางครั้งอาจจะมีปัญหาที่ติดระเบียบกฎหมาย ที่ไม่สามารถทำได้โดยสะดวกเหมือนเอกชนที่ยืดหยุนกว่า

ราชการ กับ เอกชน จุดประสงค์มันต่างกันอยู่แล้วครับ ราชการ ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ เอกชนทำเพื่อกำไร จะเอามาเปรียบเทียบกันตรงๆ มันก็ยังไงอยู่

ก็อย่างที่ผมสรุป ชอบเอกชนเลือกทำงสยเอกชนครับ ต้องการเติบโตมีรายได้เยอะๆ ก็ไปเอกชน
ชอบงานราชการ อยู่แบบมั่นคง มีสวัดิการ สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพแบบไม่ลำบากในต่างจังหวัดได้ ก็พยายามสอบข้าราชการให้ได้
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ควรให้เกียร์ติกันทุกอาชีพครับ

แล้วข้อมูลที่ท่านยกมาเรื่อง ขรก. ลาออก นั้นเป็นข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แค่กรมเดียวครับ ไม่ใช้ข้อมูลของ ขรก ทั่วประเทศ  


ผมก็บอกนะ ว่าผมเห็นตัวเลขจากแค่หน่วยงานเดียวไม่ใช่ทั้งหมด (ผมใช้คำว่าตัวเลขชุดเดียว) ขณะที่ในฝั่งเอกชน ผมก็ใช้ตัวเลขแค่อุตสาหกรรมเดียวเช่นกัน (เพราะไม่กล้าพูดข้ามอุตสาหกรรมเหมือนกัน)

ผมเองไม่ให้ไม่ให้เกียรติราชการ (ญาติผมเองก็ทำราชการ) แต่ผมไม่ให้คุณค่าในแบบเดียวกันกับผมให้กับระบบของเอกชนต่างหากครับ ระบบมันมีปัญหา กระบวนการก็มีปัญหา มันก็เหมือนอารมณ์เรามองรถ MG นั่นแหล่ะครับ คือรถ EV ของ MG นี่โคตรดี แต่ชื่อมันเสียไปตั้งแต่รถ ICE แล้วไง ก็อารมณ์เหมือนกับราชการนั่นแหล่ะครับ ในส่วนที่ดีก็มี ส่วนที่แย่มันก็มีเหมือนกัน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Aug 2009
ตอบ: 262
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 16:53
[RE]ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ
vampireasuna พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

 


การทำผลงานอย่างทำชำนาญการพิเศษนี่เค้าจะใช้ระบบชี้ตัวให้ทำครับซึ่งการที่เค้าจะชี้ใครก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและแน่นอนคนมีคุณสมบัติมีหลายคนซึ่งการจะชี้ตัวให้ใครทำคนนั้นต้องใกล้นาย ส่วนเรื่องทำผลงานบางครั้งนะครับจ้างกันทำ ส่วนเรื่องสอบขึ้นตำแหน่งอันนี้ผมไม่รู้แฮะเพราะหน่วยงานที่มีคนรู้จักทำอยู่ทำผลงานเอาอย่างเดียวไม่มีสอบแต่เคยได้ยินอยู่ว่ามีบางหน่วยงานมีสอบชำนาญการพิเศษ
 


มีหลายหน่วยงานครับ ที่ใช้วิธีการสอบประเมิน

หลายๆคอมเม้นท์ ก็เข้าใจผิดเยอะครับ
น่าจะฟังปากต่อปาก แล้วเลือกที่จะเชื่อแบบนั้น
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Mar 2023
ตอบ: 165
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 19:54
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ตอบในฐานะ คน"เคย" อยู่ในวงการราชการ (ผมเป็นครูฝึกสอนอยู่ 1 ปี) และพ่อก็เป็นข้าราชการทหาร คุณลุงเป็นข้าราชการครู

ผมเริ่มทำงาน เงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการอีก (เริ่ม 12k ในขณะที่ข้าราชการ 9k+ค่าครองชีพ 6k รวม 15k) แต่ที่ถอยห่างราชการเพราะว่า

1. เงินเดือนขึ้นช้า กว่าเอกชนเยอะมากครับ และแต่ละปีมีโบนัส เหมือนได้รับเงินเดือน 13 เดือนเป็นอย่างน้อยต่อ 1 ปี
2. ระบบราชการ การเติบโตทางสายงานเป็นไปตามขั้น ไม่มี fast track ไม่มีวันที่คุณจะข้ามขั้นได้ แม้ความสามารถจะถึง
3. ระบบราชการมีเด็กใคร ๆ ถ้าคนไม่ใช่ จะเติบโตก็ต้องรอคิวท้าย ๆ

จากวันนั้น มาวันนี้ 11 ปี เงินเดือนผมมากกว่าเพื่อนที่เป็นข้าราชการครู 4 เท่าไปแล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2023
ตอบ: 327
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 22:15
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  

 

ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  


ผมไม่แน่ใจว่าราชการมีตัวเลขตรงนี้เท่าไหร่ แต่คุณพอทราบมั้ยครับว่า attrition rate หรือเรทพนักงานที่ออกจากงานในภาคเอกชนเนี่ย มีประมาณ 11-15% ต่อเดือนนะครับ (อันนี้เป็นตัวเลขจากอุตสาหกรรมที่ผมทำงานอยู่ มีพนักงานรวมๆกันประมาณ 20,000 คนครับ) นั่นแปลว่าออะไร นั่นแปลว่ามีคนออกจากงานเฉลี่ยถึงเดือนละ 2000 - 3000 คน ขณะที่ termination rate จะอยู่ที่ประมาณ 24% ของตัวเลขนั้น นั่นแปลว่าการให้ออกจากงานของภาคเอกชนในบางอุตสาหกรรมสูงถึง 500 - 700 คน/เดือน

ซึ่งนี่เราพูดถึงการชดเชยแบบถูกต้องนะครับ ไม่ได้รวมตัวเลขที่เราเรียกว่าบีบให้ออกก็ได้ นั่นแปลว่าอะไร นั่นแปลว่าคนที่คุณภาพไม่ถึงสำหรับตลาดแรงงาน มีถูกให้ออกจากงานถึง 700 คนจาก 20,000 คนต่อเดือน (3%) และนั่นเป็นอุตสาหกรรมเดียวนะ และไม่ได้รวมพนักงานสัญญาจ้างด้วย ซึ่งถ้ารวมก็อาจจะมากกว่านี้

ขณะที่ข้าราชการ จากตัวเลขชุดเดียวที่ผมเห็นคือจากกรมแรงงาน ซึ่งมีข้าราชการประมาณ 1,200 คน และมีตัวเลขคนลาออกเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังที่ปีละ 60 คน (เฉลี่ยเดือน 5 คนหรือเท่ากับ 0.41% ต่อเดือน) ซึ่งนั่นแปลว่าตัวเลขการลาออกมันน้อยมากๆครับ ยังไม่ต้องลงไปถึงระดับการให้ออกเพราะไม่ perform เลยครับ
Spoil
https://personnel.labour.go.th/attachments/article/2075/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf  


ซึ่งนั่นแปลว่าการแข่งขันในภาคเอกชนมันสูงกว่าแน่ๆ เพื่อที่จะไม่ได้ถูกคัดออก

ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าคนทำงานราชการไม่ใช่คนดี (คุณไปอ่านความเห็นแรกผมก็ได้ ว่าผมพูดถึงว่าอะไรบ้าง) แต่บอกว่าระบบมันไม่เอื้อให้คนเก่งโต มันไม่เอื้อให้คนอยากทำให้ดีขึ้น (incentivize) ขณะที่คนไม่เก่ง ก็อาจจะยังอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องแข่งขันอะไร (penalize) ขณะที่การทำเอกสาร ทำ paperwork ต่างๆก็ล้าหลัง ไม่ให้เกิด efficiency ในระบบขึ้นอีก คือองคาพยพของระบบราชการนั่นแหล่ะ ที่มีปัญหา และเราควรจะยอมรับมันให้ได้ว่ามันมีปัญหา และหาทางแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจังต่างหากครับ

 


ภาพรวมมันดูมีปัญหา และต้องแก้ไขจริงๆ ครับ แต่ด้วยความเป็นราชการ มันมีระเบียบกฎหมายกำกับไว้ ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเป็นสำคัญ บางครั้งอาจจะมีปัญหาที่ติดระเบียบกฎหมาย ที่ไม่สามารถทำได้โดยสะดวกเหมือนเอกชนที่ยืดหยุนกว่า

ราชการ กับ เอกชน จุดประสงค์มันต่างกันอยู่แล้วครับ ราชการ ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ เอกชนทำเพื่อกำไร จะเอามาเปรียบเทียบกันตรงๆ มันก็ยังไงอยู่

ก็อย่างที่ผมสรุป ชอบเอกชนเลือกทำงสยเอกชนครับ ต้องการเติบโตมีรายได้เยอะๆ ก็ไปเอกชน
ชอบงานราชการ อยู่แบบมั่นคง มีสวัดิการ สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพแบบไม่ลำบากในต่างจังหวัดได้ ก็พยายามสอบข้าราชการให้ได้
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ควรให้เกียร์ติกันทุกอาชีพครับ

แล้วข้อมูลที่ท่านยกมาเรื่อง ขรก. ลาออก นั้นเป็นข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แค่กรมเดียวครับ ไม่ใช้ข้อมูลของ ขรก ทั่วประเทศ  


ผมคิดว่าราชการสบายกว่าเอกชนนะจากที่คุยกับคนที่ทำเอกชนมาก่อนทุกคนบอกว่าเอกชนหนักกว่า กดดันกว่า บางคนอยู่ในภาคเอกชนมา10ปีแล้วมาสอบราชการเพราะว่าเอกชนพออายุเยอะๆแล้วมันไปต่อไม่ไหวก็เลยมาราชการและอีกอย่างการประเมินขึ้นเงินเดือนของราชการหลายครั้งมันเหมือนเอาเม็ดเงินที่ได้มาหารให้ได้ใกล้ๆกันทุกคน และข้อเสียของราชการมี2อย่างคือ1.ไม่มีการโตอย่างรวดเร็วต่อให้ความสามารถสูงก็ตาม 2.วิชาชีพเฉพาะกับไม่เฉพาะราชการเงินไม่ต่างกันมากอย่างในภาคเอกชนพวกธุรการทั่วๆไปรับกัน15-18kยิ่งถ้าเป็นsmeอาจไม่ถึง15kด้วยซำ้แต่พอเป็นงานที่มันเฉพาะทางแล้วอย่างนักแปลนี่เงินเดือนจะเพิ่มขึ้น ล่ามงี้เงินเดือนจะเพิ่มขึ้น ส่วราชการคุณจะเป็นตำแหน่งไหนก็ช่างป.ตรีก็รับ15kต่อให้เงินประจำตำแหน่งให้พวกวิชาชีพเฉพาะหรือมีปัจจัยในการพิจารณาเงินเดือนแรกบรรจุมาก็ตามมันก็ยังไม่ได้ต่างกันมากกับงานธุรการทั่วๆไป

และอีกอย่างเอกชนมีการแข่งขันหากใครไม่เก่งก็เตรียมตัวเจ๊งได้เลยแต่ราชการไม่มีทำดีทำห่วยก็เป็นแบบเดิมต่อให้ราชการยุคใหม่มี kpi มาก้ตามก็ถือว่ายังสบายกว่าเอกชน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Feb 2011
ตอบ: 6804
ที่อยู่: แถวตู้หนังสือ
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 23:05
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ราชการทั่วไปค่าเฉลี่ยคงน้อยกว่าเอกชน ยกเว้นบางหน่วยงานเฉลี่ยคิดว่าเยอะกว่าเอกชน ยกตัวอย่างหน่วยงานเก่า ที่ผมเคยทำ (องค์กรอิสระ) อยู่มา 9 ปี เงินเดือน+เงินตำแหน่ง+เงินเดินทางไปราชการ+เงินค่าล่วงเวลา เบ็ดเสร็จ ราว ๆ 65k ถามว่าเอกชนทำ 9 ปี เฉลี่ยถึง 65k ไหม ต้องถามคนที่ทำเอกชน น่าจะตอบได้ดีกว่าผม

แต่ปัจจุบันมันเป็นอดีตไปละ เพราะโอนย้ายมาอีกหน่วยงานนึง (สอบได้) เงินเดือนถอยหลังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี ถึงจะกลับไปสู่จุดเดิม แต่ระยะยาวดีกว่าเยอะ และเกษียณอายุราชการเพิ่มจากเดิม 60 เป็น 70 ถ้าไม่ตายก่อนวัยอันควร คิดว่าตัวเองกับครอบครัวคงไม่ลำบาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Aug 2008
ตอบ: 632
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2023 07:35
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
จบวิศวะโยธามา ถ้าไม่อยู่กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท สำหรับตัวผมมันก็เท่านั้น และมันก็สอบไม่ติดด้วยสิ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2023
ตอบ: 327
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2023 14:06
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
Zyxel_Thaibar62 พิมพ์ว่า:
ราชการทั่วไปค่าเฉลี่ยคงน้อยกว่าเอกชน ยกเว้นบางหน่วยงานเฉลี่ยคิดว่าเยอะกว่าเอกชน ยกตัวอย่างหน่วยงานเก่า ที่ผมเคยทำ (องค์กรอิสระ) อยู่มา 9 ปี เงินเดือน+เงินตำแหน่ง+เงินเดินทางไปราชการ+เงินค่าล่วงเวลา เบ็ดเสร็จ ราว ๆ 65k ถามว่าเอกชนทำ 9 ปี เฉลี่ยถึง 65k ไหม ต้องถามคนที่ทำเอกชน น่าจะตอบได้ดีกว่าผม

แต่ปัจจุบันมันเป็นอดีตไปละ เพราะโอนย้ายมาอีกหน่วยงานนึง (สอบได้) เงินเดือนถอยหลังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี ถึงจะกลับไปสู่จุดเดิม แต่ระยะยาวดีกว่าเยอะ และเกษียณอายุราชการเพิ่มจากเดิม 60 เป็น 70 ถ้าไม่ตายก่อนวัยอันควร คิดว่าตัวเองกับครอบครัวคงไม่ลำบาก  


คุ้มนะครับเพราะเกษียณ70คงเปนผู้พิพากษาหรืออัยการซึ่ง2ตำแหน่งในสายงานราชการถ้าไม่นับหมอหรือหมอฟันผมว่าดีที่สุดแล้วไม่หน่วยงานไหนสู้ได้ล่ะ จะองค์กรอิสระหรือศุลกากรหรือฑูตก็สู้ไม่ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2023
ตอบ: 327
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 20, 2023 14:07
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
GoWjUnG พิมพ์ว่า:
จบวิศวะโยธามา ถ้าไม่อยู่กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท สำหรับตัวผมมันก็เท่านั้น และมันก็สอบไม่ติดด้วยสิ  


2กรมนั้นดียังไงเหรอครับเมื่อเทียบกับกรมอื่น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel