BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: It's not that I'm evil I just don't like to preten
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Apr 2008
ตอบ: 26720
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 13:42
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ผมคนนึงก็ไม่ชอบงานเอกชน ผมไม่ชอบที่เขาปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยดีเท่าไร บีบ กดดัน

ผมทำราชการ งานมันเหมาะผมมากกว่าด้วย

แต่ทั้งนี้ ความเห็นผมเอาไปใช้ตัดสินอะไรไม่ได้เลย เพราะสิ่งที่ผมเจอมา มันไม่ใช่ตัวแทนของทุกที่ และผมเจอมาแค่นิดเดียว บอกอะไรไม่ได้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 21628
ที่อยู่: -
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 13:43
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงเงินเดือน 16-25k บอกได้เลย 90%มี2เหตุผลใหญ่ๆ
1. สอบไม่ติด 2. สอบติดแต่ไม่ใช่หน่วยที่อยากได้ อีก 10% ก็เหตุผลอื่นๆ

แต่กลุ่ม 25k ขึ้นไปนี่แทบไม่มองงานราชการกันเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 13:44
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Feb 2008
ตอบ: 5942
ที่อยู่: Long Beach, CA
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:04
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ผมไม่ชอบ ชุดกากีของราชการครับ มันดูล้าหลังยังไงก็ไม่รู้ ใส่แล้วมันหมองๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2023
ตอบ: 327
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:06
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

 


การทำผลงานอย่างทำชำนาญการพิเศษนี่เค้าจะใช้ระบบชี้ตัวให้ทำครับซึ่งการที่เค้าจะชี้ใครก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและแน่นอนคนมีคุณสมบัติมีหลายคนซึ่งการจะชี้ตัวให้ใครทำคนนั้นต้องใกล้นาย ส่วนเรื่องทำผลงานบางครั้งนะครับจ้างกันทำ ส่วนเรื่องสอบขึ้นตำแหน่งอันนี้ผมไม่รู้แฮะเพราะหน่วยงานที่มีคนรู้จักทำอยู่ทำผลงานเอาอย่างเดียวไม่มีสอบแต่เคยได้ยินอยู่ว่ามีบางหน่วยงานมีสอบชำนาญการพิเศษ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:20
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
vampireasuna พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

 


การทำผลงานอย่างทำชำนาญการพิเศษนี่เค้าจะใช้ระบบชี้ตัวให้ทำครับซึ่งการที่เค้าจะชี้ใครก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและแน่นอนคนมีคุณสมบัติมีหลายคนซึ่งการจะชี้ตัวให้ใครทำคนนั้นต้องใกล้นาย ส่วนเรื่องทำผลงานบางครั้งนะครับจ้างกันทำ ส่วนเรื่องสอบขึ้นตำแหน่งอันนี้ผมไม่รู้แฮะเพราะหน่วยงานที่มีคนรู้จักทำอยู่ทำผลงานเอาอย่างเดียวไม่มีสอบแต่เคยได้ยินอยู่ว่ามีบางหน่วยงานมีสอบชำนาญการพิเศษ
 


ชำนาญการพิเศษ (ชพ.) ข้าราชการพลเรือน ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด ยกตัวอย่างบางกรม ข้าราชการมีทั่วประเทศ จะสอบขึ้น ชพ. ก็ต้องสอบกันทั่วประเทศ ผู้ที่มีคุณสมบัติมาสอบแข่งกัน มีคะแนน 2 ส่วน คือ คะแนนข้อเขียน กับคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม

ที่ถูกต้้งแง่ ว่าเป็นเด็กใคร ก็คงในส่วนของคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม แหละมั้ง

ส่วนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 (ก) (ข) ขึ้นตำแหน่งด้วยวิธีการ ทำผลงานเพื่อประเมินผลงาน ขึ้นสู่ตำแหน่ง และไม่มีจำนวนจำกัด เหมือน ขรก.พลเรือน
ที่ท่านรู้จักคงเป็น ข้าราชการครูแหละ ที่ประเมินขึ้น แล้วมีการจ้างทำผลงาน (ยืนยันว่ามีจริง)

บุคลากรทางการศึกษา 38(ค) ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด คล้ายกับ ขรก พลเรือน

สรุปที่ผมพยายามจะสื่อ คือ มันไม่ได้จะชี้นิ้ว เลือกคนนั้น คนนี้ มานั่งตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งได้ง่ายๆ
มันมีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำกับไว้ทุกขั้นตอน อย่างแย่ๆ จะเอาคนของตัวเองมาขึ้นตำแหน่งได้ คนนั้นก็ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบแหละครับ

เอกชนในเรื่องเส้นสาย เด็กฝาก ก็ใช่ว่าจะไม่มี ยิ่งไม่มีระเบียบแบบแผนกำกับไว้เหมือนของราชการยิ่งแล้วใหญ่ จะจับใครขึ้นมานั่งตำแหน่งก็ง่ายๆ เลย






0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6404
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:21
[RE]ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ
เพราะถ้าเส้นไม่ดีเส้นไม่ใหญ่
ก็เข้าไปทำงานราชการยากครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2023
ตอบ: 327
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:23
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
vampireasuna พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

 


การทำผลงานอย่างทำชำนาญการพิเศษนี่เค้าจะใช้ระบบชี้ตัวให้ทำครับซึ่งการที่เค้าจะชี้ใครก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและแน่นอนคนมีคุณสมบัติมีหลายคนซึ่งการจะชี้ตัวให้ใครทำคนนั้นต้องใกล้นาย ส่วนเรื่องทำผลงานบางครั้งนะครับจ้างกันทำ ส่วนเรื่องสอบขึ้นตำแหน่งอันนี้ผมไม่รู้แฮะเพราะหน่วยงานที่มีคนรู้จักทำอยู่ทำผลงานเอาอย่างเดียวไม่มีสอบแต่เคยได้ยินอยู่ว่ามีบางหน่วยงานมีสอบชำนาญการพิเศษ
 


ชำนาญการพิเศษ (ชพ.) ข้าราชการพลเรือน ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด ยกตัวอย่างบางกรม ข้าราชการมีทั่วประเทศ จะสอบขึ้น ชพ. ก็ต้องสอบกันทั่วประเทศ ผู้ที่มีคุณสมบัติมาสอบแข่งกัน มีคะแนน 2 ส่วน คือ คะแนนข้อเขียน กับคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม

ที่ถูกต้้งแง่ ว่าเป็นเด็กใคร ก็คงในส่วนของคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม แหละมั้ง

ส่วนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 (ก) (ข) ขึ้นตำแหน่งด้วยวิธีการ ทำผลงานเพื่อประเมินผลงาน ขึ้นสู่ตำแหน่ง และไม่มีจำนวนจำกัด เหมือน ขรก.พลเรือน
ที่ท่านรู้จักคงเป็น ข้าราชการครูแหละ ที่ประเมินขึ้น แล้วมีการจ้างทำผลงาน (ยืนยันว่ามีจริง)

บุคลากรทางการศึกษา 38(ค) ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด คล้ายกับ ขรก พลเรือน

สรุปที่ผมพยายามจะสื่อ คือ มันไม่ได้จะชี้นิ้ว เลือกคนนั้น คนนี้ มานั่งตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งได้ง่ายๆ
มันมีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำกับไว้ทุกขั้นตอน อย่างแย่ๆ จะเอาคนของตัวเองมาขึ้นตำแหน่งได้ คนนั้นก็ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบแหละครับ

เอกชนในเรื่องเส้นสาย เด็กฝาก ก็ใช่ว่าจะไม่มี ยิ่งไม่มีระเบียบแบบแผนกำกับไว้เหมือนของราชการยิ่งแล้วใหญ่ จะจับใครขึ้นมานั่งตำแหน่งก็ง่ายๆ เลย






 


ที่ผมพูดก็ข้าราชการพลเรือนนี่แหละครับมีข้าราชการพลเรือนหลายสายที่ที่ไม่มีการสอบข้อเขียนเป็นทำผลงานเลยแล้วก็เวลาจะให้ใครทำผลงานก็ใช้ระบบชี้ตัวเอา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 171
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:28
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
ไม่รู้สิ สงสัยเพราะผมเคยอยู่แต่บริษัทเอกชนที่เจ้าของเป็นคนไทยมั้ง เลยมองว่าเอกชน มันไม่ได้ดีขนาดนั้น ให้เงินเดือนเยอะก็จริงแต่เค้าก็ใช้งานเราคุ้มเหมือนกัน เช่น
1.ให้วันลา วันหยุด น้อยมาก แบบตามกฎหมายแรงงานเป๊ะๆ
2.ชั่วโมงการทำงานเยอะกว่าราชการ บางที่ให้ทำวันเสาร์
3.สวัสดิการ ไม่มีอะไรเลย อาจจะมีโบนัส แต่ก็ได้แค่ 1 เดือน อันนี้ขนาดของผมเป็นโรงงานแล้วด้วยนะ
4.ทำงานต้องทำตามสั่ง เอาถูกใจเจ้านาย บางทีก็อยากได้อะไรที่มันงี่เง่าๆ แต่เราก็ขัดไม่ได้
5.หัวหน้า แบบ bossy สุดๆ เวลาเรียกเข้าไปพบนี่ แทบจะต้องหมอบเข้าไป
ตอนนี้ลองออกมาอยู่ราชการ ที่มีเงินอื่นๆเพิ่มให้ วึ่งได้น้อยกว่าเอกชนประมาณนึง แต่สบายใจสุดๆ สี่โมงครึ่งกลับบ้านกันหมด ไม่มีใครเรียกประชุมตอนห้าโมง ไม่ต้องรอเข้า meeting อยากกลับกลับเลย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:44
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
Spoil
vampireasuna พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
vampireasuna พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ

เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง

มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า

เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป

ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว

ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ

 


การทำผลงานอย่างทำชำนาญการพิเศษนี่เค้าจะใช้ระบบชี้ตัวให้ทำครับซึ่งการที่เค้าจะชี้ใครก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและแน่นอนคนมีคุณสมบัติมีหลายคนซึ่งการจะชี้ตัวให้ใครทำคนนั้นต้องใกล้นาย ส่วนเรื่องทำผลงานบางครั้งนะครับจ้างกันทำ ส่วนเรื่องสอบขึ้นตำแหน่งอันนี้ผมไม่รู้แฮะเพราะหน่วยงานที่มีคนรู้จักทำอยู่ทำผลงานเอาอย่างเดียวไม่มีสอบแต่เคยได้ยินอยู่ว่ามีบางหน่วยงานมีสอบชำนาญการพิเศษ
 


ชำนาญการพิเศษ (ชพ.) ข้าราชการพลเรือน ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด ยกตัวอย่างบางกรม ข้าราชการมีทั่วประเทศ จะสอบขึ้น ชพ. ก็ต้องสอบกันทั่วประเทศ ผู้ที่มีคุณสมบัติมาสอบแข่งกัน มีคะแนน 2 ส่วน คือ คะแนนข้อเขียน กับคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม

ที่ถูกต้้งแง่ ว่าเป็นเด็กใคร ก็คงในส่วนของคะแนนสัมภาษ ประวัติ พฤติกรรม แหละมั้ง

ส่วนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 (ก) (ข) ขึ้นตำแหน่งด้วยวิธีการ ทำผลงานเพื่อประเมินผลงาน ขึ้นสู่ตำแหน่ง และไม่มีจำนวนจำกัด เหมือน ขรก.พลเรือน
ที่ท่านรู้จักคงเป็น ข้าราชการครูแหละ ที่ประเมินขึ้น แล้วมีการจ้างทำผลงาน (ยืนยันว่ามีจริง)

บุคลากรทางการศึกษา 38(ค) ใช้วิธีการสอบขึ้นตำแหน่ง และมีจำนวนตำแหน่งจำกัด คล้ายกับ ขรก พลเรือน

สรุปที่ผมพยายามจะสื่อ คือ มันไม่ได้จะชี้นิ้ว เลือกคนนั้น คนนี้ มานั่งตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งได้ง่ายๆ
มันมีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำกับไว้ทุกขั้นตอน อย่างแย่ๆ จะเอาคนของตัวเองมาขึ้นตำแหน่งได้ คนนั้นก็ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบแหละครับ

เอกชนในเรื่องเส้นสาย เด็กฝาก ก็ใช่ว่าจะไม่มี ยิ่งไม่มีระเบียบแบบแผนกำกับไว้เหมือนของราชการยิ่งแล้วใหญ่ จะจับใครขึ้นมานั่งตำแหน่งก็ง่ายๆ เลย

 


ที่ผมพูดก็ข้าราชการพลเรือนนี่แหละครับมีข้าราชการพลเรือนหลายสายที่ที่ไม่มีการสอบข้อเขียนเป็นทำผลงานเลยแล้วก็เวลาจะให้ใครทำผลงานก็ใช้ระบบชี้ตัวเอา  
 


ก็แล้วแต่หน่วยงานด้วยมั้ง บางตำแหน่ง บางวิชาชีพ อาจจะประเมินขึ้น

แต่อย่างน้อยวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งมันก็มีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำหนดไว้ ไม่ได้ขึ้นมาตามอำเภอใจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7321
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 14:46
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มให้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 15:08
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  


ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7321
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 15:36
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  

 

ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  


ผมไม่แน่ใจว่าราชการมีตัวเลขตรงนี้เท่าไหร่ แต่คุณพอทราบมั้ยครับว่า attrition rate หรือเรทพนักงานที่ออกจากงานในภาคเอกชนเนี่ย มีประมาณ 11-15% ต่อเดือนนะครับ (อันนี้เป็นตัวเลขจากอุตสาหกรรมที่ผมทำงานอยู่ มีพนักงานรวมๆกันประมาณ 20,000 คนครับ) นั่นแปลว่าออะไร นั่นแปลว่ามีคนออกจากงานเฉลี่ยถึงเดือนละ 2000 - 3000 คน ขณะที่ termination rate จะอยู่ที่ประมาณ 24% ของตัวเลขนั้น นั่นแปลว่าการให้ออกจากงานของภาคเอกชนในบางอุตสาหกรรมสูงถึง 500 - 700 คน/เดือน

ซึ่งนี่เราพูดถึงการชดเชยแบบถูกต้องนะครับ ไม่ได้รวมตัวเลขที่เราเรียกว่าบีบให้ออกก็ได้ นั่นแปลว่าอะไร นั่นแปลว่าคนที่คุณภาพไม่ถึงสำหรับตลาดแรงงาน มีถูกให้ออกจากงานถึง 700 คนจาก 20,000 คนต่อเดือน (3%) และนั่นเป็นอุตสาหกรรมเดียวนะ และไม่ได้รวมพนักงานสัญญาจ้างด้วย ซึ่งถ้ารวมก็อาจจะมากกว่านี้

ขณะที่ข้าราชการ จากตัวเลขชุดเดียวที่ผมเห็นคือจากกรมแรงงาน ซึ่งมีข้าราชการประมาณ 1,200 คน และมีตัวเลขคนลาออกเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังที่ปีละ 60 คน (เฉลี่ยเดือน 5 คนหรือเท่ากับ 0.41% ต่อเดือน) ซึ่งนั่นแปลว่าตัวเลขการลาออกมันน้อยมากๆครับ ยังไม่ต้องลงไปถึงระดับการให้ออกเพราะไม่ perform เลยครับ
Spoil
https://personnel.labour.go.th/attachments/article/2075/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf  


ซึ่งนั่นแปลว่าการแข่งขันในภาคเอกชนมันสูงกว่าแน่ๆ เพื่อที่จะไม่ได้ถูกคัดออก

ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าคนทำงานราชการไม่ใช่คนดี (คุณไปอ่านความเห็นแรกผมก็ได้ ว่าผมพูดถึงว่าอะไรบ้าง) แต่บอกว่าระบบมันไม่เอื้อให้คนเก่งโต มันไม่เอื้อให้คนอยากทำให้ดีขึ้น (incentivize) ขณะที่คนไม่เก่ง ก็อาจจะยังอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องแข่งขันอะไร (penalize) ขณะที่การทำเอกสาร ทำ paperwork ต่างๆก็ล้าหลัง ไม่ให้เกิด efficiency ในระบบขึ้นอีก คือองคาพยพของระบบราชการนั่นแหล่ะ ที่มีปัญหา และเราควรจะยอมรับมันให้ได้ว่ามันมีปัญหา และหาทางแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจังต่างหากครับ

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jan 2011
ตอบ: 8049
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 15:43
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
Spoil
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  


ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  
 

อีกแล้วเหรอ อย่าเหมารวม เหมือนราชการตำรวจทหารป่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2647
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 19, 2023 15:57
[RE: ทำไมคุณถึงทำงานในภาคเอกชนทั้งๆที่เงินเดือนไม่เยอะ]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
KaiGerrard พิมพ์ว่า:
นั่งอ่านบางเม้นท์ก็นะ ดูถูกข้าราชการซะ
เรื่องเลื่อนตำแหน่งก่อน มันไม่ใช่ว่าแค่เลียแข้งเลียขา ประจบสอพอ ไปวันๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง
มันมีระเบียบหลักเกณฑ์ อายุราชการ ทำผลงานประเมินขึ้นระดับ สอบแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เอกชน มันไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแบบนี้ไง มันเลยเลื่อนตำแหน่งได้ในระยะเวลาที่เร็วกว่า
เอกชน บางที หัวหน้างานลาออก ตำแหน่งว่าง ก็ผลักดันกันขึ้นตำแหน่ง สนิทกับเจ้าของ บริษัท ได้ขึ้นตำแหน่ง
มันก็ใช่ว่าจะไม่มี ถูกใจเจ้านายเจ้านายดันขึ้นตำแหน่งก็มีเยอะแยะไป
ของแบบนี้มาพูดเหมารวม มันก็ไม่ถูก ระบบข้าราชการพลเรือน มันมีระเบียบกำกับไว้ค่อนข้างเคร่งครัด อยู่ดีๆ จะไปเอาคนของตัวเองมานั่งในตำแหน่งไม่ได้หรอก โดนฟ้องศาลปกครองกันมานักต่อนักแล้ว
ส่วน ขรก. - พนักงานส่วนท้องถิ่น ก็อาจจะทำให้ภาพพจน์ ขรก. ดูแย่ จริงๆ แหละ
 


ผมมีญาติเป็นอบจ.คนนึง และมีอีกคนเป็นครูนะครับ ส่วนตัวจะเรียกว่าดูถูกมั้ย ผมว่าผมเองก็ไม่ได้พูดแรงถึงขนาดนั้น แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีเรื่องคะแนนจิตพิสัยจริงๆ ซึ่งเอกชนที่ผมผ่านการทำงาน มีระบบประเมินที่ชัดเจนกว่ามาก ไมว่าจะเป็น peer review หรือให้พนักงานให้เกรดกันเอง ไม่ว่าจะเป็น Calibration Review หรือการเอาคนเลเวลเท่ากันมาเทียบกัน ไม่ว่าจะทำงานแผนกไหนก็ตาม อันนี้เพื่อรีวิวทั้งผลงานว่ามีสิ่งที่ทำมีผลต่อองค์กรขนาดไหน รวมถึงเพื่อวัดเรื่อง EQ และ soft skills อื่นๆด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานเอกชนเป็นบริษัทที่ 6 แล้ว ทุกที่มีการประเมินผลงานในรูปแบบที่เล่าไปไม่มากก็น้อยครับ ต่อให้จะมีลูกรัก พอถึงเวลาทำ calibration ก็ร่วงอยู่ดี เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย

ขณะที่ราชการตามที่ผมรู้จัก ต่อให้ไม่ได้มีผลงานอะไร เงินเดือนก็ขึ้นอยู่ดี การเลือกคนไปสอบวิทยฐานะก็เหมือนกัน ก็จิ้มๆเอาตามอาวุโส ทั้งๆที่มีคนผ่านเกณฑ์หลายคนแต่ก็เลือกคนตามขั้นตอนอยู่ดี หรือกระทั้งปรับขั้นแบบวนกันไปก็มี (ต่างกับเอกชนที่ต้องผลงานมีจริงๆ) และต่อให้ทำงานได้ไม่ดี ก็อยู่กันได้ ไม่มีมีการประเมินเพื่อเชิญออกหรืออย่างไร อันนี้คือที่ผมไม่ชอบครับ มันเพาะบ่มใดห้คนทำงานเรื่อยๆก็อยู่ได้ ไม่ได้ต้องแข่งขันอะไรกันมากนัก

ส่วนที่เหลือที่เป็น process ของการทำงานข้าราชการ ผมว่าเราน่าจะเห็นเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นผมว่าเราไม่น่าจะต้องอธิบายกันเพิ่มเติมเนอะครับ  

 

ที่ท่านพูดมามันก็มีส่วนจริง แต่ตรง ย่อหน้าที่ 2 นี่แหละครับ ที่เหมือนเป็นการดูถูก ข้าราชการ
วิธีการประเมิน เป็นรูปแบบองค์คณะ ไม่ได้ประเมิณคนเดียวนะครับ ส่วนเรื่องทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน
ถ้ามันแย่หรือไม่มีผลงานแบบท่านว่าจริงๆ ประเมิณไม่ผ่านหรอก ผู้ประเมิณเค้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ขอประเมิณ แต่ถ้าช่วยกันก็คงมีบ้าง เอกชนก็คงมีไม่ต่างกัน

ส่วนเรื่องประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน มีครับ บ้างรายบกพร่องทำให้เสียหายต่อราชการก็มีการสอบสวนวินัย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆ จะให้ออกจากราชการเลย แบบที่เอกชนทำ มันก็จะโดนฟ้องนะสิ เอกชนเวลาจะให้ออกยังต้องจ้างออกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเลย หรือใช้วิธีบีบออก กดดันจนทนไม่ได้เอง
แบบนี้เป็นธรรมกับลูกจ้างรึป่าว

ที่อยากจะบอก คือ อย่าเหมารวม ทุกองค์กร หน่วยงาน มันมีบริบทของมัน ชอบเอกชนก็ไปทำเอกชน ไม่ควรมาดูถูกราชการ ข้าราชการดีๆ ตั้งใจทำงานให้ประเทศ มันก็มีเยอะครับ เห็นพูดเหมารวมซะ แย่ไปหมด  


ผมไม่แน่ใจว่าราชการมีตัวเลขตรงนี้เท่าไหร่ แต่คุณพอทราบมั้ยครับว่า attrition rate หรือเรทพนักงานที่ออกจากงานในภาคเอกชนเนี่ย มีประมาณ 11-15% ต่อเดือนนะครับ (อันนี้เป็นตัวเลขจากอุตสาหกรรมที่ผมทำงานอยู่ มีพนักงานรวมๆกันประมาณ 20,000 คนครับ) นั่นแปลว่าออะไร นั่นแปลว่ามีคนออกจากงานเฉลี่ยถึงเดือนละ 2000 - 3000 คน ขณะที่ termination rate จะอยู่ที่ประมาณ 24% ของตัวเลขนั้น นั่นแปลว่าการให้ออกจากงานของภาคเอกชนในบางอุตสาหกรรมสูงถึง 500 - 700 คน/เดือน

ซึ่งนี่เราพูดถึงการชดเชยแบบถูกต้องนะครับ ไม่ได้รวมตัวเลขที่เราเรียกว่าบีบให้ออกก็ได้ นั่นแปลว่าอะไร นั่นแปลว่าคนที่คุณภาพไม่ถึงสำหรับตลาดแรงงาน มีถูกให้ออกจากงานถึง 700 คนจาก 20,000 คนต่อเดือน (3%) และนั่นเป็นอุตสาหกรรมเดียวนะ และไม่ได้รวมพนักงานสัญญาจ้างด้วย ซึ่งถ้ารวมก็อาจจะมากกว่านี้

ขณะที่ข้าราชการ จากตัวเลขชุดเดียวที่ผมเห็นคือจากกรมแรงงาน ซึ่งมีข้าราชการประมาณ 1,200 คน และมีตัวเลขคนลาออกเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังที่ปีละ 60 คน (เฉลี่ยเดือน 5 คนหรือเท่ากับ 0.41% ต่อเดือน) ซึ่งนั่นแปลว่าตัวเลขการลาออกมันน้อยมากๆครับ ยังไม่ต้องลงไปถึงระดับการให้ออกเพราะไม่ perform เลยครับ
Spoil
https://personnel.labour.go.th/attachments/article/2075/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.pdf  


ซึ่งนั่นแปลว่าการแข่งขันในภาคเอกชนมันสูงกว่าแน่ๆ เพื่อที่จะไม่ได้ถูกคัดออก

ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าคนทำงานราชการไม่ใช่คนดี (คุณไปอ่านความเห็นแรกผมก็ได้ ว่าผมพูดถึงว่าอะไรบ้าง) แต่บอกว่าระบบมันไม่เอื้อให้คนเก่งโต มันไม่เอื้อให้คนอยากทำให้ดีขึ้น (incentivize) ขณะที่คนไม่เก่ง ก็อาจจะยังอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องแข่งขันอะไร (penalize) ขณะที่การทำเอกสาร ทำ paperwork ต่างๆก็ล้าหลัง ไม่ให้เกิด efficiency ในระบบขึ้นอีก คือองคาพยพของระบบราชการนั่นแหล่ะ ที่มีปัญหา และเราควรจะยอมรับมันให้ได้ว่ามันมีปัญหา และหาทางแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจังต่างหากครับ

 


ภาพรวมมันดูมีปัญหา และต้องแก้ไขจริงๆ ครับ แต่ด้วยความเป็นราชการ มันมีระเบียบกฎหมายกำกับไว้ ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเป็นสำคัญ บางครั้งอาจจะมีปัญหาที่ติดระเบียบกฎหมาย ที่ไม่สามารถทำได้โดยสะดวกเหมือนเอกชนที่ยืดหยุนกว่า

ราชการ กับ เอกชน จุดประสงค์มันต่างกันอยู่แล้วครับ ราชการ ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ เอกชนทำเพื่อกำไร จะเอามาเปรียบเทียบกันตรงๆ มันก็ยังไงอยู่

ก็อย่างที่ผมสรุป ชอบเอกชนเลือกทำงสยเอกชนครับ ต้องการเติบโตมีรายได้เยอะๆ ก็ไปเอกชน
ชอบงานราชการ อยู่แบบมั่นคง มีสวัดิการ สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพแบบไม่ลำบากในต่างจังหวัดได้ ก็พยายามสอบข้าราชการให้ได้
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ควรให้เกียร์ติกันทุกอาชีพครับ

แล้วข้อมูลที่ท่านยกมาเรื่อง ขรก. ลาออก นั้นเป็นข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แค่กรมเดียวครับ ไม่ใช้ข้อมูลของ ขรก ทั่วประเทศ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel