[RE: ธุรกิจ 7-11 ในประเทศไทย ถือว่าผูกขาดหรือไม่]
SeQueda พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
ไม่อยากกินต้มไก่ พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
ขาดเชรี่ยๆครับ ดูของญี่ปุ่นมีร้านสะดวกซื้อเยอะกว่าไทยมากๆ แต่แมร่งหลากหลายกว่าเยอะ
ไม่เกี่ยวนะครับ
ผูกขาดหรือไม่ ท่านลองคิดดูนะครับ
ท่านสามารถเปิดร้านแบบ 7-11 ได้
ไม่จำเป็นต้องซื้อของจาก Makro มาขาย ท่านสั่งกับ ซัพพลายเออร์โดยตรงเลย
แต่ท่านต้องสั่งประมาณเยอะนะครับ แล้วต้องคุยกับหลายซัพพลายเออร์
Makro มาแก้ปัญหาตรงนี้ คือรวมหลายๆซัพพลายเออร์มาไว้ที่เดียว
ท่านสามารถเปิดแบบ Makro ได้นะครับ ถ้าทุนพอ กับ คิดว่าสู้เค้าได้
กลับมาที่ร้านแบบ 7-11 ท่านก็สามารถเปิดได้โดยที่ไม่มีกฎหมายอะไรบังคับนะครับ
ว่าต้องมีเงินทุนเท่านี้ ต้องขายได้วันละเท่านี้ ต้องมีนั่นมีนี่ ถูกมั้ยครับ
แต่พอเปิดแล้ว ถ้าลูกค้าไม่ชอบท่าน เค้าก็ไม่มาซื้อ ร้านท่านก็ปิดไปเอง
แปลว่า 7-11 เค้าแค่พัฒนาสินค้าและบริการของเค้าขึ้นแบบสุดๆ โดยที่คู่แข่งตามไม่ทัน
ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือก เค้าก็เลือกสิ่งที่ดีกว่า
แต่ถ้ากลับกัน ท่านไม่อยากใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้า ไม่อยากใช้น้ำประปาของการประปา
ท่านจะทำอะไรได้ครับ แบบนี้เรียกว่าผูกขาดครับ
อย่างของญี่ปุ่น คุณภาพเค้าพอๆกัน ไปญี่ปุ่นผมก็ไม่ค่อยเข้า 7-11 ครับ
เพราะเข้าไปแล้ว ก็ธรรมดา Lawson น่าเข้ากว่า ของกินน่ากินกว่า
มันไม่เกี่ยวกับการผูกขาดหรือไม่ผูกขาดครับ
สมมุติท่านขายไก่ย่าง แล้วแบบ ของท่านโคตรอร่อย บริการโคตรดี
แล้วท่านขยายสาขาไปทั่วประเทศ มีคนซื้อแฟรนไชส์เป็นหมื่นๆเจ้า
ท่านจะคิดว่าท่านผูกขาดไก่ย่างมั้ยครับ
หรือท่านจะคิดว่า ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากใหญ่เกิน ทำแบบคุณภาพกลางๆพอ
เอาให้แบบพอกินได้ บริการก็ดีบ้างแย่บ้าง ไม่ต้องมีการอบรมพนักงาน เอาตามอารมณ์พนักงาน
คนอื่นจะได้สอดแทรกขึ้นมาบ้าง ท่านจะได้ได้กำไรน้อยลงบ้าง แบ่งๆกัน
แบบนี้หรอครับ
เกี่ยวสิครับ กฏหมายกันการผูกขาดต้องมี ไอ่ที่คุณบอกมามันคือทุนนิยมเลยครับ ใครมีตังเยอะกว่าก็ทำของคุณภาพได้ดีกว่าตลอดแล้วก็ครองตลาดตลอด ถ้าไม่มีกฏหมายมาช่วยคุมให้เกิดการแข่งขันคุณก็จะเจอทุนผูกขาดชนะเสมอ
อย่างเช่นหลายประเทศที่เจริญๆมีกฏหมายครับว่าห้ามเปิดแบรนเดียวซ้ำกันภายในระยะกี่กิโล แล้ว supplier ก็หลากหลาย ไม่หเหมือนไทยที่ supplier แมร่งก็ cp แล้วมันจะไปขายไปร้านอื่นทำไมมันก็เก็บไว้ใช้กับ 7-11 เจ้าเดียว
กฏหมายเท่านั้นครับที่จะช่วยควบคุมการผูกขาดได้ ผมไม่ใช่เซียนกฏหมายหรอก แต่กฏหมายต้องทำให้ได้ ทำให้เจ้าๆเดียวไม่สามารถผูกขาดตลาดได้ ไม่ใช่มาบอกว่าให้แข่งด้านคุณภาพกันเอง ใครทำไม่ได้ก็ตายสะ
คำถาม .. คือเขาก็มีเจ้าอื่นในตลาดการแข่งขัน ทำไมผู้บริโภคไม่ไปซื้อทางนั้นแทนเซเว่นล่ะครับ โชว์ห่วยแถวบ้านก็มีทำไมไม่อุดหนุนเขาล่ะ เซเว่นเปิดหน้าบ้านงี้คือการบังคับให้เราเข้าไปซื้อของเซเว่นหรือเปล่า ไม่มีตัวเลือกอื่นหรือเปล่า? มันไม่ใช่การผูกขาดนะครับ แค่ cp มีกำลังทรัพย์มากกว่าเจ้าอื่นในตลาด แต่สุดท้ายแล้วผู้บริโภคเนี่ยแหละที่สร้างพฤติกรรมให้เขามีช่องทางทำแบบนี้เอง ในเมื่อ cp มีเงินเขาไม่ผิดที่จะมาเปิดหลายสาขาจนมาถึงหน้าบ้านพวกคุณได้ ในเมื่อเขามีแหล่งผลิตสินค้าตัวเอง เขาไม่ผิดที่จะผลิตของที่ราคาได้ถูกกว่าเจ้าอื่น
แต่ผู้บริโภคเลือกซื้อเขาด้วยเหตุผลแบบนั้นเองหรือเปล่า? ถ้าไม่ชอบเซเว่นคุณก็ขับรถ เดินไป ขี่มอไซด์ ไปซื้อเจ้าอื่นแถวบ้านคุณก็ได้ใช่ไหมครับ? อย่างเช่นหมูปิ้งในเซเว่น กับ หมูปิ้งหน้าเซเว่น คุณก็ยังซื้อหมูปิ้งหน้าเซเว่นได้เลย ทั้งๆที่คุณภาพหมูเซเว่นอาจดีกว่า ถูกสุขอนามัยกว่า
หรือผมไม่ชอบสินค้าในเซเว่นเลย ผมก็ยังต้องไปหาสินค้าที่ขายในเจ้าอื่นแทนก็มี เช่นพวกเบียร์งี้
ที่ท่านอธิบายนั่นแหละคือคีวามหมายของการผูกขาดเลย

ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกอื่นเลยเพราะของ 7-11 คุณภาพสูงและ พวกร้านอื่นไม่มีของคุณภาพสูงเท่า เพราะฉะรัฐมีหน้าที่ออกกฏหมายที่เป็นแต้มต่อให้กับร้านเล็กครับ ยกตัวอย่างก้าวไกล หวยใบเสร็จ ซึ่งวิธีใช้กฏหมายทำให้การแข่งกันเป็นธรรมมากขึ้นมาอีกมีอีกเยอะครับ
สิ่งที่คุณพูดมันคือทุนนิมยมครับ คือ equality but not justice เท่าเทียมแต่ไม่ยุติธรรมครับ เพราะต้องสร้างความยุติธรรมให้กับรายเล็กโดยการใช้กฏหมายและนโยบายครับแบบก้าวไกลเป็นต้น ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลยให้แข่งกันเอง 100%
ยกตัวอย่างวิ่งแข่งกัน CP แม่งมี supply chain พร้อมเรียบร้อยมีเส้นมีสายมีเงินทุน แมร่งออก start ก่อน 10 นาที พวกร้านอื่นไม่มี supply chain ของตัวเองไม่มีทุนเยอะเท่า แมร่งออกตัวหลัง CP 10 นาทีมันแฟร์ตรงไหนครับท่าน
ไม่ต้องไปโทษผู้บิรโภคครับ ผู้บริโภคมีสิทธิเลือกถูกแล้ว แต่รัฐต้องเป็นคนให้แต้มต่อเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคและให้แต้มต่อรายย่อยครับ ท่าน
คุณคิดไปเองครับ คุณภาพของเซเว่นไม่ได้ดีกว่าเจ้าอื่นเลยครับ คุณลองเข้าไปร้านอื่นๆบ้างไหมครับ ร้านอื่นคุณภาพดีกว่าตามราคาที่เหมาะสมด้วยซ้ำ แต่เซเว่นไม่ได้ดีเท่านั้นแต่เน้นได้ราคาที่ถูกกว่าครับ แต่ผู้บริโภคเลือกที่จะไปทางนั้นกันเอง และของทุกอย่างในเซเว่นก็ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อครับ เพราะฉะนั้นมันอยุ่ที่ผู้บริโภคครับที่ไปสนับสนุนเขาเองอย่างที่ผมบอก เพราะผมก็คิดแบบนี้ผมเลยไม่ได้ซื้อของเซเว่นบ่อย ไปซื้อเจ้าอื่นที่ได้คุณภาพที่คุ้มราคาดีกว่า
และสิ่งที่ cp ทำผมไม่เห็นว่าเอาของคุณภาพดีเท่ากันมาขายในราคาที่ถูกกว่าตรงไหนด้วยซ้ำ เจอแต่ของคุณภาพแย่กว่าซะส่วนใหญ่ คุณคิดว่าข้าวกล่องแดงจะอร่อยกว่าข้าวแกงหรอ? คุณคิดว่าน้ำดื่มราคาต่างจากเจ้าอื่นมากขนาดนั้นหรอ ถ้าเน้นถูกสั่งซื้อตามช้อปปี้ ลาซาด้าก็ได้ครับ ถูกกว่า คุณภาพเท่ากัน แล้วทำไมต้องเซเว่นล่ะ "เพราะมันสะดวกกว่าไง" มันมาเปิดใกล้บ้านคุณไง มันใกล้คุณไง เหตุผลนี้แหละที่เป็นตัวแปรมากกว่าที่คุณบอกข้างต้นครับ ย้ำอีกครั้งจากเช็คคุณภาพสินค้าในเซเว่น คุณมีตัวเลือกอื่นที่ราคาไม่ต่างกันมากแต่คุณภาพดีกว่าเซเว่นมาก แต่พวกคุณไม่เลือกซื้อกันเอง
เพราะถ้ามันคุณภาพดีกว่าหรือเท่ากันด้วยราคาที่ cp ขาย มันจะไม่มีคนที่มีความคิดแบบผมเกิดขึ้นครับ ผมไม่จำเป็นต้องไปซื้อของที่อื่นหรอก เซเว่นหน้าบ้านก็มี
ปัญหามันเกิดจากผู้บริโภคคิดว่าสินค้นมันมีคุณภาพพอทดแทนกันได้และเซเว่นสะดวกกว่าเท่านั้นเอง ซึ่งย้อนกลับไปอ่านข้างบนอีกทีที่ผมบอก เหมือนคนชอบคิดว่าอาหารไทยมันจะต่างกันยังไง กับร้านข้างทางกับร้านดัง มันก็อาหารไทยเหมือนๆกัน ทั้งๆที่ไม่ใช่
และสุดท้ายหากด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นแบบนี้ แล้ว cp เห็นช่องทางทำการตลาดแบบนี้ มันไม่ผิดที่ cp ครับ ถ้ามองมูลค่ากับคุณภาพสินค้าแล้ว เซเว่นและ cp แทบเอาตังจากผมยากมาก แต่เพราะความสะดวกนั่นแหละคือตัวแปรสำคัญที่คนเราต้องเข้าเซเว่นมากกว่าเจ้าอื่นๆ
หรือเอาง่ายๆเลย คุณจะซื้อเบียร์ขวดหนึ่ง เซเว่น กับ บิ๊กซีมาร์ท ราคาเซเว่นถูกกว่า ต่างกันบาทเดียว แต่บิ๊กซีอยู่หน้าบ้านคุณ คุณจะไปซื้อเบียร์ที่ไหน?
หรือเอาง่ายกว่านั้นอีก เซเว่นในปั้มมี allcafe ขายราคาก็ถูกกว่าคุณภาพกาแฟก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่มั้ง แต่ทำไมอเมซอนที่เปิดในปั้มเดียวกันขายดีกว่าเซเว่น? ทำไมคนเขาไม่ซื้อที่เซเว่นถ้าสินค้าเซเว่นผูกขาด?