ไทยรักไทยมาเพื่อไทยที่ชนะเลือกตั้งไม่ใช่เพราะแค่ใช้กลยุทธ์ดึง สส.บ้านใหญ่ครัย แต่เพราะรู้ว่าต้องใช้กลยุทธไหนถึงจะชนะเลือกตั้ง แน่นอนว่าครั้งนี้อาจจะประเมินผิดไปเยอะ แต่บทเรียนครั้งนี้ก็จะทำให้เพื่อไทยปรับกลยุทธและวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ของพรรคใหม่

ก็รอดูกันต่อไปครับ ผมอาจจะให้เครดิตเพื่อไทยเยอะไป
หรือไม่ท่านก็ให้เครดิตเพื่อไทยน้อยไป

ผมเพิ่งตามการเมือง ขอถามหน่อย เมื่อก่อนบ้านเราไม่มีซ้ายเลยเหรอ
ที่ผ่านมาก็ เพื่อไทย ปชป ก็ขวาหมด ขวาโดนขวาด้วยกันจัดการผมเข้าใจถูกไหม
หรือว่าตอนนั้น9ยังอยู่ซ้ายเลยเกิดยาก
ถ้ารอบนี้ก้าวไกลเป็นซ้ายแรก ที่ชนะ ผมว่าได้อีกสมัยอยู่นะ เพราะคนยังเห่อของใหม่
ยิ่งถ้าทำได้ดีก็ติดลมยาว

เป็นไปได้ ถึงเวลานั้นขอให้กติกามั่นคง ตรวจสอบได้ ไม่มีรัฐประหาร ไม่มีบิดกฎหมาย ใครจะชนะได้หมด อยากเห็นการเมืองแบบใหม่สู้กันทางอุดมการณ์

ในระยะ 20 ปีผมว่าจะเป็นแบบนั้นครับ และก้าวไกลจะกลายเป็นพรรคซ้ายกลาง แต่ในช่วง 10 ปีนี้ยังต้องชักกะเย่อกันไปมาอีกสักพักครับ ผมว่าสังคมยังไม่ได้ shift ไปทางซ้ายขนาดนั้น

ต้องย้อนไปยุคก่อน 2520 นู้นเลยครับ ตอนคณะราษฎร สมุดปกเหลืองของ อ.ปรีดีก็ซ้ายใช้ได้อยู่ครับ แต่พอหลัง 2519 ที่คอมมิวนิสต์ถูกทำให้กลายเป็นปิศาจ พรรคซ้ายก็ไม่มีที่ทางในการเมืองไทยเลยครับ

ถ้า อนาคตเป็นแบบนี้ได้ สู้ด้วยอุดมการณ์ วันนั้นผมเลือกฝั่งใดแล้วแพ้ ผมก็ยอมรับในการเลือกตั้งครับ

พรรคที่มีโอกาสเป็นคู่แข่งหมายเลขหนึ่งอย่างเพื่อไทยอาจจะอ่อนแรงลงไปก่อนถ้ายังไม่รีแบรนด์พรรค
ก้าวไกลยังไงก็มีโอกาสสูงในการชนะเลือกตั้ง แต่จะได้เป็นรัฐบาลมั้ยก็อีกเรื่องนึง

ผมไม่ติดขัดเรื่องที่ก้าวไกลจะแพ้เลย ผมติดอยู่เรื่องเดียว คือขอให้บ้านเรามันมีประชาธิปไตยจริงๆเสียที

ไม่น้อยไปหรอกครับ เมื่อวานผมดูรายการสรยุทธ ที่มี ชูวิทย์ และ ศิธา มานั่งด้วย มีนักวิขาการท่างนึงพูดเหมือนที่ผมคิดทุกอย่างว่าจริงๆแล้ว ก้าวไกลนี่แหละ คือศัตรูที่แท้จริงของเพื่อไทย อีกสี่ปีข้างหน้าเพื่อไทยจะต้องแข่งกับก้าวไกล แต่เพื่อไทยจะแผ่วลงและกลายเป็นพรรคเล็กในที่สุด เค้าพูดแบบนี้นะ

ถามผมนะ เพราะโจทย์การเลือกสส หรือ พรรค ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพื่อไทยใช้กลยุทธ์เดิม เหมือนภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ หรือ รวมพลังประชารัฐ คือที่ผมพูดมาข้างบน ในเมื่อมันใช้ได้ผลมาเป็นหลายสิบปี มันก็ควรจะใช้ได้ต่อ กลยุทธ์เดียวกันแต่แค่เพื่อไทยตัวฟูลกว่า เงินก็หนา แถมแบรนด์แข็งแกร่งสุด เค้าก็เขื่อว่าสู้ได้ แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ มีแค่ก้าวไกลที่ตีโจทย์แตกอยู่พรรคเดียว(จริงๆก็คือคติของพรรคมันไปตรงกับโจทย์พอดี)คือไม่เอาทหารหรือการเมืองแบบเดิม คำว่าแบบเดิมก็คือ การเมืองแบบที่เพื่อไทยหรือ ไทยรักไทยเดิม ประชาธิปัตย์หรือภูมิใจไทย เคยเป็นมายี่สิบสามสิบปีก่อนคือเน้นเจาะประชานิยมแต่สุดท้ายก็เอาผลประโยชน์พรรคเป็นที่ตั้ง ตอนนี้มันเหมือนเริ่มใช้ไม่ได้ และจะยิ่งใช้ไม่ได้รุนแรงขึ้นแบบ exponential คือจู่ๆก็ใช้มุกนี้ไม่ได้อีกแล้วภายในเวลาแค่สิบปี? ส่วนก้าวไกลก็แข็งแกร่งขึ้น จากการที่กลัดกระดุมเม็ดแรกถูกและความเก๋าของการคลุกคลีกการเมืองเป็นสิบปีทั้งเป็นฝ่ายค้านที่หาข้อมูลมาค้านจริงๆหรืออาจจะเป็นรัฐบาลในรอบนี้

มันแบบห้าสิบปีร้อยปีผ่านมา ทุกคนรู้ว่านักการเมืองเข้ามาจะพูดสวยงามอะไรก็ช่างแต่สุดท้ายแล้วคือเพื่อผลประโยชน์ ประชาชนรู้ว่าพวกนี้เจ้ามาเพื่อผลประโยชน์แต่ทำอะไรไม่ได้ แล้วมีกลุ่มคนๆนึงเจาะมาเลยว่าผมไม่ผลเอาประโยชน์นะ เพราะพวกผมแมร่งเบื่อสภาพแวดล้อมแบบนี้มาเต็มทนแล้ว แล้วจุดประกายประชาชนที่ทนกับพวกนี้มานาน แล้วคนแรกที่เจาะได้ได้เปรียบเสมอ แล้วที่จะผมถาม คือถามคำเดียวว่าว่าระยะยาวเพื่อไทยจะเอาอะไรไปสู้แค่นั้นแหละ

ผมว่าอนาคตก้าวไกลจะเป็นโมเดลซ้าย แล้วเพื่อไทยจะเป็นโมลเดลขวา แล้วเป็นการสู้กันระหว่างฝ่ายซ้ายกับขวา ก็น่าสนใจิยู่ครับว่าเป็นยังไง ขออย่าให้มีรปห.พอ เพราะจะทำให้ปชต.หยุดเติบโต แต่คงสลับๆกันไปแหละผมว่า ไม่มีฝ่ายไหนอยู่ยั่งยืนยงหรอก
ปล.ชอบบทวิเคราะห์มากครับ อ่านครบทุกบรรทัดเลย

เดี๋ยวเอาพวกคณะรัฐประหารมายำได้ กระจายอำนาจปกครองไปแต่ละจังหวัด ผมว่าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรัฐประหารแล้วครับ

ที่เหลือแข่งกันตามกติกาต่อ

ครั้งหน้าอาจจะเร็วไป แต่ก็เป็นไปได้ ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ
ตัวอย่างก็มีให้เห็นจากฝั่งอเมริกา ขวา ซ้าย สลับกันขึ้นมามีอำนาจอยู่ตลอด
แต่สิ่งที่จะยังอยู่คือรากฐานของสังคมนิยม รัฐสวัสดิการ แบบประเทศแถบสแกนดิเนเวีย

ผมจะพูดถึงกราฟนี้เป็นหลัก


ไม่ว่ารัฐสมัยถัดไปจะเป็นใคร ผมก็คิดว่าเขาคงไม่ยกเลิกรัฐสวัสดิการของก้าวไกลแน่ๆ
มีแต่จะผลักประเทศให้เข้าใกล้สังคมนิยมไปเรื่อยๆ ด้วยนโยบาลประชานิยมที่ชอบหาเสียงกัน

และผมก็เห็นด้วยกับคุณ
ที่บอกแนวโน้มว่าอนุรักษ์นิยมจะกลับมามีปากมีเสียงเพิ่มขึ้น
บางทีชนวนอาจเป็นสงครามทางความคิดระหว่าง Generation ของ Gen Y, Gen Z New Voter ก็ได้

ผมยังชอบสถานะปัจจุบันของก้าวไกล ที่ไม่เป็นสังคมนิยมจนเกินไป แต่ถ้าลึกไปกว่านั้นผมก็อาจจะไม่เห็นด้วย

เพื่อไทย สส. ที่ทำงานทำพื้นที่ดีเยอะมากครับ ที่ครั้งนี้แผ่วเพราะ 1.ไม่ได้เป็นรัฐบาลอย่างที่ถนัด 2.ยุทธศาสตร์พรรคที่ผิดพลาดจากฝ่ายบริหาร

จะเชื่อหรือไม่ สส.เพื่อไทยที่มีคุณภาพในยุคไทยรักไทย ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ายุคนี้ของก้าวไกลครับ (แต่ สส.ไม่มีคุณภาพก็เยอะเช่นกัน เพราะกวาดมาหมด)

เรื่องแนวนโยบาย shift แน่นอนครับ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คือเครื่องสะท้อนว่าประชานิยมขายไม่ได้เท่าเก่าแล้ว

แต่เพื่อไทยก็ทำสวัสดิการรัฐเป็นครับ ทำมาก่อนด้วย 30 บาท เป็นต้น

ผมก็ว่า Shift มาทางนี้แหละ สวัสดิการถ้วนหน้า
เร็วๆนี้คงยังไม่มีใครหาเสียงด้วยการยกเลิกสวัสดิการ
ประเทศเราดูทรงแล้วจะมาแนวนี้อีกพักใหญ่ๆเลย ซึ่งดีนะ
แต่นโยบายในการหาเสียงในอนาคตจะรุนแรงขึ้น และต้องมีต้นทุนที่ต้องแบกอีกเพียบเลย

นี่อาจเป็นอีกจุดที่เหล่า Conservative จะเริ่มส่งเสียง