1.ทำไมครูต้องมาบ่นว่าเงินเดือนน้อยหรือขอขึ้นเงินเดือนทั้งๆที่ข้าราชการครูรายได้มากกว่าข้าราชการหลายสายงานเพราะว่าข้าราชการส่วนใหญ่จะไปถึงแค่ชำนาญการและชำนาญการพิเศษมีจำกัดและข้าราชการหลายสายงานชำนาญการได้เงินเพิ่ม0บาท ชำนาญการพิเศษได้เงินเพิ่ม3500บาท มีไม่กี่สายงานที่ชำนาญการได้เงินเพิ่ม3500บาทและชำนาญการพิเศษได้เงินเพิ่ม11200บาท แต่ครูชำนาญการได้3500บาท ชำนาญการพิเศษได้11200บาท
2.ทำไมข้าราชการครูถึงหนี้เยอะครับทั้งๆที่รายได้มากกว่าข้าราชการหลายสายงาน(ไม่ต้องมาอ้างนะว่าครูสตาร์ทงานใหม่ได้แค่15000บาทเพราะข้าราชการอื่นหลายข้าราชการเค้าก็สตาร์ท15000บาทเหมือนกันและก็ไม่ต้องอ้างนะว่าครูอยู่บ้านนอกจำเป็นต้องมีรถยนต์ใช้มอเตอร์ไซร์ไม่ได้เพราะข้าราชการอื่นเค้าก็อยู่บ้านนอกเหมือนกันและผมอยากบอกอะไรเพิ่มนิดนึงนะหลายๆคนที่ทำงานที่บ้านนอกเค้าก็ขับมอเตอร์ไซร์ไปทำงานได้)
3.การทำงานในอาชีพครูถ้าไม่เป็นสมาชิกสหกรณ์และไม่กู้สหกรณ์และไม่คำ้ประกันให้ใครทั้งนั้นจะโดนกดดันจากพวกครูคนอื่นในที่ทำงานไหมครับ
4.ทำไมข้าราชการครูต้องมาโวยว่าไม่อยากอยู่เวรในเมื่อข้าราชการอื่นหลายๆข้าราชการถ้าเป็นหน่วยงานเล็กๆเค้าก็ไม่มี รปภ. เค้าก็ได้ผลัดกันนอนเฝ้าสำนักงานเหมือนกับที่ครูนอนเฝ้าโรงเรียน
5.ทำไมครูถึงมาโวยว่าไม่อยากทำงานอื่นนอกจากสอนในเมื่อข้าราชการอื่นเค้าก็ได้ทำงานอื่นนอกจากงานหลักของเค้าเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น นักอุตุบางทีได้ทำพัสดุ ได้ทำงานkpi ได้ทำตารางเวร ได้ทำTOR และอื่นๆทั้งๆที่นักอุตุงานของเค้าน่าจะคือพยากรณ์อากาศเท่านั้น
6.ทำไมครูที่โรงเรียนถึงสอนสู้ติวเตอร์ข้างนอกที่ไม่จบครูสายตรงได้
7.ถ้าให้ครูสอนอย่างเดียวและจัด ชม.สอนต่อสัปดาห์ให้น้อยลงเพื่อที่ครูจะได้มีเวลาไปอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองแบบติวเตอร์แต่จะสอบวัดความรู้ครูหากสอบไม่ผ่านไม่ต้องขึ้นเงินเดือนพวกครูจะเอาไหม
8.ในคณะครู4ปีตกลงเรียนอะไรบ้างครับ
9.ทำไมครูถึงโวยตอนที่เค้าจะเอาคะแนน toeic (ไม่ต้องมาอ้างนะว่าไม่ได้จบเอกอังกฤษมาเพราะอย่าง กฟผ ก็เอา toeic โดยต้องใช้ทุกตำแหน่งป.ตรี วิศว ที่ไม่ได้เรียนทางด้านภาษามาก็ต้องใช้)
10.ในสายอาชีพครูพวกครูอายุน้อยกับครูแก่ๆปริมาณงานเท่ากันหรือใกล้เคียงกันไหมและครูแก่ๆชอบโยนงานมาให้ครูอายุน้อยทำไหมครับ
11.ตกลงอาชีพครูงานหนักจริงเหรอครับเพราะผมเห็นคนรอบๆตัวไปเป็นครูหลายคนอย่างคนนึงจบวิศวเคมีทำงานโรงงานรู้สึกว่างานหนักเลยจะไปต่อโทเพื่อสอบครู อีกคนก็จบวิศวะโยธาทำงานไซร์ก่อสร้างก็ไปต่อโทแล้วก็สอบบรรจุครู
12.อาชีพครูข้าราชการที่รายได้ดีที่สุดที่คนเรียนกลางกับเรียนอ่อนจะสอบเข้าไปทำงานได้ใช่ไหมครับ(จริงๆข้าราชการที่รายได้สูงกว่าครูก็มีเช่น หมอ หมอฟัน ฑูต เป็นต้น แต่ข้าราชการพวกนี้มันสอยยากกว่าครูมาก)
13.ใบประกอบวิชาชีพครูช่วยในการสอนตรงไหนบ้างครับหรือแค่มีไว้กีดกันคนที่ไม่จบครูให้มาสอบบรรจุครูไม่ได้เท่านั้นครับ

1,2 กู้เยอะ ชอบอวด อวดรถ อวดลูก แข่งกันอวด แคร์หน้าตาทางสังคม เงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ กู้ง่าย วงเกินกู้เยอะกว่าเรทคนทั่วไปพอสมควร

3 ไม่เป็นสมาชิกสหกรณ์ ก็ค้ำให้ใครไม่ได้แล้ว เงื่อนไขมันบังคับ

4 ไม่แน่ใจว่ามีค่าอยู่เวรตอนกลางคืนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ไม่ควรมีใครทำงานฟรี ไม่แปลกถ้าจะออกมาบ่น

5 ใครๆก็อยากจะทำหน้าที่ที่เรารับผิดชอบมั้ย ให้ไปทำงานอื่นๆ แต่ผลประเมินหลักๆมาจากเรื่องการเรียนการสอน ลำพังแค่การเรียนการสอนยังทำได้ไม่ดีเลย แล้วเด็กที่ออกมาจะมีคุณภาพได้ยังไง

6 ความเข้มข้นของหลักสูตรมันไม่ได้ลึกอะไรขนาดนั้น แค่พอผิวเผิน ไปสู้กับคนจบวิศวะ หรือ อักษรศาสตร์ ไม่ไหวหรอก แล้วคนที่เรียนเก่งในแต่ละสาขา เค้าก็ไม่มาเป็นครูแน่ๆ ไปทำอาชีพอื่นดีกว่า

7 ส่วนใหญ่ผมว่าเอา เพราะถ้างานหน้าเดียวไม่ต้องทำประเมิน หรืองานอื่นๆ นอกหน้าจากหน้าที่หลัก ใครๆก็เอา ส่วนสอบวัดความรู้ผมว่า มันก็วนอยู่แค่เนื้อหาเดิม

8 ไม่รู้เลย

9 เพราะคิดว่าตัวเองน่าจะสอบไม่ผ่าน

10 ราชการ ตำแหน่ง ซีเนียร์

11 งานราชการ งานไม่หนัก แต่หนักกับคนมากกว่า

12 รายได้ สวัสดิการ จริงๆ ครูเนี่ย สวัสดิการดีรองลงมาจากทหาร ตำรวจ เองนะ หลังเกษียณก็มี

13 ใช่ อ้างเรื่องจรรยาบรรณ

ปล.แม่เป็นอดีตครูที่เกษียณแล้ว บ่นให้ฟังประจำตั้งแต่เด็กๆ

เด็กปิดเทอม แล้วครูทำอะไร

ให้ครูไปใช้ข้อสอบชุดเดียวกับเด็กสอบเข้ามหาลัย Tcat อะไรนั่นอะ แล้ววางไปเลยต้องไป 70% ขึ้นไปถึงผ่านเกณฑ์ มีสิทธิ์รับราชการครู พร้อมเงินเดือนที่สมน้ำสมเนื้อ

เอาไหมล่ะ

เงินน้อย กู้ง่าย สังคมอวดรวย

ผมขอตอบข้อ6.นะครับ
ครูที่โรงเรียนสอนหลักสูตรขั้นพื้นฐานนะครับ ไปทีละขั้นละตอนช้าๆ อยู่ดีๆจะมาสอนลัดสูตร เทคนิคต่างๆ อย่าลืมว่าเด็กในห้องจะมีเด็กที่เรียนรู้ได้เร็ว ปานกลาง และช้า ต้องค่อยๆไปให้เด็กได้ความรู้มากที่สุด

ส่วนติวเตอร์ เขาไม่ได้มาสอนทีละขั้นตามหลักสูตรนิครับ เขาอาจจะสอนเร็ว เน้นเทคนิกต่างๆในการจำและนำไปสอบ เพราะเด็กที่ไปเรียนส่วนใหญ่อาจมีความพร้อมด้านความรู้พื้นฐาน ปัจจัย และความสนใจ ทำให้เด็กได้ไปเร็วๆ

เพราะครูเสียงดังครับ
ทำไมถึงเสียงดัง เพราะมีเยอะครับ
ปัจจุบันมีพอๆกับข้าราชการพลเรือน (ประมาณ เกือบ 4 แสนคน)

คิดดูละกันว่าสรรพากร ศุลกากร ปลัดอำเภอ หมอ พยาบาล เกษตร และอื่นๆ รวมกันเท่าๆกับครูน่ะ
เสียงมีถึงเกือบ 4 แสน เรียกร้องอะไรมันก็ดัง

แม้แต่ก้าวไกลยังมีนโยบายเรื่องครูเป็นหลักเลย เช่น ไม่ต้องอยู่เวร
แต่ในชีวิตจริงข้าราชการกรมอื่นก็นอนเวรกันทั้งนั้นล่ะ

1.อันนี้เห็นด้วยเลย
2. ใช้ชีวิตตามคาดหวังของป้าข้างบ้าน รีบกู้ซื้อรถ ซื้อบ้าน มันก็เป็นทุกสายอาชีพแหละ อยู่ที่คนอ่ะ อยากให้สังคม คนนอกมาชี้วัดความสำเร็จในชีวิตตัวเอง ไอโฟนมั้ง ต้องมีรถขับ มีทองใส
3.ไม่น่าจะโดนอะไรน่ะ
9. ครูบางคนเขาก็ไม่หยั่นหรอก
10.น่าจะเอาเวลาไปทำอาชีพเสริมมั้ง
11 น่าจะเบื่องานแนววิศวะแล้ว อยากมาสอนเคมีมั้ง
12.ขาดแคลนครู
13.มันมีช่องทางอยู่นะสำหรับพวกไม่ได้จบครูมาโดยตรง แต่อยากสอบบรรจุครู เพื่อให้ได้ใบประกอบ

culture ล้วนๆครับ
ซึ่งครูที่มี Attitude ดีๆ มีแค่ส่วนน้อย

ตอบตามความเข้าใจของผมนะ ในฐานะลูกของครู ที่จบจากวิลัยครูรุ่นแรก ที่เกษียณแล้วหลายปี
1. ท่าครูรุ่นเก่าๆจะไม่ค่อยบ่น เพราะแม่ผมไม่เคยบ่นนะว่าสมัยก่อนเงินเดือนน้อยลำบากออกแนวฝืนทนไป เเต่สมัยนี้คนกล้าแสดงออกมากขึ้น คนก็เลยบ่นกันมากขึ้นมั้งนะ อันนี้ผมเดา
2. กู้ง่ายครับ มีช่องทางให้กู้เยอะ ไม่แปลกที่หนี้จะเยอะตาม
3. ไม่โดนกดดันครับเเต่ส่วนใหญ่จะใจอ่อนไปค้ำประกันให้ครูในร.ร เป็นสมาชิกสหกรณ์ดีกว่าครับ ประโยชน์เยอะกว่า ท่าฝากเงินกับสมาชิกสหกรณ์ก็ได้ดอกเบี้ยเยอะกว่าธนาคารทั่วไป เเต่ผมจำไม่ได้นะว่าเท่าไหร่ เเถมได้กู้ด้วย
4. งานเยอะมั้ง ส่วนใหญ่ครูต้องทำงานเเบบ all around แม่ผมไม่ได้จบบัญชียังต้องมาทำบัญชีให้ร.รเลย เเต่แม่ผมไม่เคยโวยเรื่องอยู่เวรนะ คงเพราะ บ้านผมอยู่หน้าร.ร แกเลยจะกลับกีโมงก็ได้
5. คงเพราะ คนเป็นครูเรียนครูมา ก็คงคิดว่า จบมาคงได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียวมั้ง อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน55
6. ผมว่าหลักสูตรครูมันไม่ได้เรียนลึกขนาดนั้นอะมันเเค่ขึ้นพื้นฐานเอง อารมณ์เหมือนจบเอกครูคณิตมา ก็คงคำนวณสู้พวกจบวิศวะมาไม่ได้อะ
7. ผมว่าไม่น่าเอากันนะ เพราะคนที่มาเรียนครูส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนเก่งขนาดนั้นอะ ท่ามาสอบวัดความรู้ น่าจะโวยกันยับอะขนาดมีข่าวว่าจะให้เอกอื่นมาสอบใบประกอบวิชาชีพครูได้ยังไม่เอากันเลย 5555
8. ผมไม่ได้เรียนครูนะเเต่มีเพื่อนเรียนอยู่เเต่จำได้คร่าวๆก็หลักๆเรียนพื้นฐานของเเต่ละวิชา ปี2ทำแผนการสอนมั้ง ปี3 ปี4 ออกฝึกสอนมั้ง เเล้วก็พวกจิตวิทยาของความเป็นครู น่าจะประมาณนี้
9. เดิมทีคณะครูมันไม่ต้องสอบเข้าอะท่าไม่นับพวกมอดัง ผมเรียนมช เพื่อนผมที่เรียนครูมชไม่บ่นนะ เเต่เพื่อนผมที่เรียนราชภัฏบ่นอะ เเค่นี้ท่านก็น่าจะเข้าใจ 5555
10. ใช่ครับครูที่อยู่มานานจะชอบโยนงานมาให้ครูเด็กๆ ยิ่งครูใกล้เกษียณยิ่งไม่เอาอะไรละประมาณ มึงอยากทำไรก็ทำเเล้วเเต่มึงเลย สังคมครูในโรงเรียนมันจะมีความเเบบใครอยู่มานานก็จะมีอำนาจ อย่างแม่ผมอยู่มาตั้งเเต่ก่อตั้งร.รอะตอนก่อนเกษียณ ผอ.ยังเรียกพี่ เวลามีไรยังต้องปรึกษาก่อนเลย
11. แรกๆหนักครับหลังๆค่อนข้างสบาย ตอนเป็นใหม่ๆงานก็จะเยอะหน่อย พออายุราชการเยอะขึ้นก็ไม่หนักเท่าไหร่ละเเต่ก็เเล้วเเต่หน้าที่นะครับ อย่างเเม่ผมหลังๆสัก10ปีก่อนเกษียณเเกได้ทำหน้าที่บัญชีกับสหกรณ์ร้านค้าร.รด้วยก็เลยจะหนักหน่อยเพราะต้องขับเข้าเมืองซื้อของเข้าร้านทุกอาทิตย์
12. ผมว่าครูสอบยากนะ เพราะคนมันเรียนเยอะ ถึงจะมีคนไม่เก่งมาเรียนเยอะเเต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเก่งมาเรียนเลยอย่างรุ่นน้องผมในรรมันสอบติดมชเเต่มันเลือกเรียนครูราชภัฏอะ 555
13. ไม่ได้ช่วยอะไรเเถมกว่าจะได้มาต้องไปเป็นเบ้ให้ครูในร.รใช้งานเยี่ยงทาส เเถมไม่ได้ตังอีก โคตรsad

1. เป็นความต่างของ GEN ครับ ครูรุ่นเก่า หรือ ผอ. ส่วนใหญ่ จะมีแนวความคิดแบบ ไทยภักดี ต้อง ศรัทธา สถาบัน ชอบเรื่องของวรรณะ ลำดับขั้นบังคับบัญชา ให้เสียสละทุกอย่างเพื่อราชการ
ส่วนของรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นอีก GEN สไตน์แบบก้าวไกล ชอบการทำงานแบบ work Life Balance มากกว่า

2. จากที่ผมอยู่สายครูอาจจะไม่ใช่สายตรงมากนัก ที่มาจากสายราชภัฎ ค่อนข้างขาดแคลนทุนทรัพย์ แล้ว จะมีวัฒนธรรมในการ เป็นราชการแล้วสร้างบ้านให้พ่อแม่ เงินก้อนแรก ที่กรุงไทย มาเสนอให้จะถูกนำไปสร้างบ้านหลังโตให้พ่อแม่ หลังจากรับราชการครู แต่บางคนก็อย่างที่ทุกคนทราบกันนั่นแหละครับมือเติบ สมัยก่อนไม่เคยมีพอเริ่มมีเงินเดือนแล้วกู้ได้ ใช้เงินไม่เป็น

3. โดนกดดันครับแต่ว่าไม่ได้โหดขนาดนั้น ผมก็เป็นสมาชิกสหกรณ์ สะสมหุ้นออมเดือนละ 10,000 บาท ผมบอกชัดเจนว่าไม่ต้องมาให้เซ็นค้ำประกันอะไรใดๆทั้งสิ้นเพราะผมไม่กู้

4. อันนี้ก็มีบ้างครับสำหรับ บริบทของศูนยฺการศึกษาพิเศษถ้าสมมุติว่ามีหน่วยบริการอำเภอ ที่บุคลากรน้อย แล้วผู้บริหารเคร่งระเบียบการทำงานจะกลายเป็นว่าบุคลากรเหล่านี้เหมือนกับติดคุกเลยครับต้องอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้ไปไหน แล้วอยู่ตลอดทุกวันลาก็ไม่ได้ เพราะตามระเบียบสถานที่ราชการจะต้องมีคนดูแลอยู่เป็นตลอด 24 ชั่วโมง

5. อันนี้ มันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการในเรื่องของการประเมินวิทยฐานะในรูปแบบใหม่ ที่ให้อำนาจ ผู้บริหารอย่างเต็มที่พิกัดจนล้นพ้น แล้วมันเกิดปรากฏการณ์ งานอื่นที่นอกเหนือจากการสอน พุ่งขึ้นอย่างทวีคูณ เป็นบทบาทที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหาร เช่นให้ไปหาเงิน ไปจัดผ้าป่า ไปเรี่ยไร หรือ ทำผลงานเพื่อให้ผู้บริหาร ขยับไปในระดับ ซีที่ สูงขึ้น หรือบางคน ถูกให้ไปเรียน ป.เอก แทน หรือทำงานส่วนตัวผู้บริหาร โดยโดนบีบด้วย การประเมินวิทยฐานะแบบใหม่ ทำให้งานสอนจริงๆแทบจะน้อยมากหรือคุณภาพไม่ได้เลยเพราะว่ามีงานอื่นมากจนเกินไป

6.พื้นฐานคือไม่ดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ จากที่ทำงานร่วมมา พวกประกันคุณภาพสถานศึกษาอะไรพวกนี้ที่มันจะต้องสังเคราะห์มาจาก ยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมาย แสดงให้เห็นศักยภาพ ของครูอย่างแท้จริง ผมไม่ขอพูดอะไรมากครับ

7. สอนอย่างเดียวแล้วจัด ชม.การสอนให้น้อยลง เพื่ออะไรครับ อันนี้ถามคนคิด ไม่ได้กวนนะครับ กับ "สอนให้น้อยลง" สำหรับเรื่องสอบ ผมโอเคครับ แต่อยากให้สอบผู้บริหารด้วย

8.... 555 อันนี้ไม่ทราบเลยครับ....

9.ภาษาอังกฤษ ของข้าราชการครู รวมไปถึง ผอ.ผมด้วย ประมาณ เด็ก ป.6 โรงเรียนดาราวิทยาลัย

10. ครู ผมมองว่า งานจะน้อย เมื่อถึง ซี8 หรือ คศ.3 ครับ ซึ่งจุดนั้นคือ ไปต่อ ซี9 ยาก คนส่วนใหญ่จะพอแล้ว ผอ.เลยควบคุมกลุ่มนี้ไม่ค่อยได้ เพราะว่า เขาไม่ต้องง้อผอ. ในการประเมินวิทยฐานะเพื่อเลื่อนระดับวิทยฐานะอีก
ส่วน ผอ. มักจะบอกว่าจะเป็นงานหนักแต่จริงๆแล้ว การเป็นผอ.ที่ดีงานหนักจริงครับ แต่ถ้าเป็นผอ.ที่ไม่ดีก็เปรียบเสมือน เป็นตัวกาลกิณีที่มาเสพสุข พลาญงบหลวง จิกหัวใช้ครูที่ต้องประเมินวิทยฐานะ ตัวเองสบายครับ

11.หนักไม่หนักอยู่ที่ ผอ. ครับ ถ้า ผอ.ดี+เก่ง งานจะไม่หนักเกินไป ถ้า ผอ.เลว พวกนี้มักจะมีความ ทะเยอทะยานส่วนตัว เน้นทำผลงานส่วนตัวแต่ว่าให้คนอื่นทำ ถ้าไปเจอ โรงเรียนหรือสถานศึกษาประเภทนี้ อันนี้บอกได้เลยครับว่างานหนักสุดๆ

12. มันถูกคัดเลือกคนตั้งแต่ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วครับ ส่วนเรื่องของการสอบสายครูมันมีการสอบกรณีพิเศษ มันเลยเป็นเรื่องที่ง่ายครับ ซึ่งมันต้องเห็นใจ ในเรื่องของการจูงใจคนที่มีความซื่อสัตย์ต่อองค์กร แล้วเป็นขวัญกำลังใจให้คนทำงาน

13. ใบประกอบวิชาชีพครูก็เหมือนกับ ใบประกอบวิชาชีพอื่นหรือ ใบประกอบโรคศิลป์ ของผม มีทั้ง 2 ใบคือใบวิชาชีพครูกับใบประกอบโรคศิลป์เอาเป็นว่าการมีใบวิชาชีพครูมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการันตีมาตรฐานของตัวคนได้ว่าสามารถประกอบวิชาชีพได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ แต่ปัญหาของการ มีใบวุฒิครู มันจะต่างจากวิชาชีพอื่นตรงที่ว่า ครูจะเรียกร้องให้ เรียนจบมาแล้วได้ใบประกอบวิชาชีพโดยอัตโนมัติเหมือนในอดีตโดยที่ไม่ต้องสอบ ซึ่งวิชาชีพอื่นเขาสอบกันหมด แล้วเมื่อมีการสอบกลายเป็นว่า คนที่จบสายครูโดยตรง สอบตกเยอะกว่า สายอื่นที่มาเรียนเพิ่มเติม

ข้าราชการจริงๆ มีหน้าที่ "ตรวจเวร" ครับ

ส่วนคนนอนเวรจริงๆ มักไม่ใช่ข้าราชการ หรือไม่บางหน่วยก็จ้างคนมาเฝ้าเวรไปเลย

เลยแปลกใจว่าทำไมครูต้องมานอนเวรกันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้น และจริงจังกว่าข้าราชการหน่วยงานอื่นอีก

1. ผมว่าทุกอาชีพมีโอกาสที่จะเรียกร้องให้ตัวเองมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นนะครับ ถ้าไม่ขึ้นเงินเดือนก้ให้โอทีมั้ย มีโบนัสมั้ย วันลาพักร้อน ส่วนพวกเงินประจำตำแหน่ง คศ2 3 4 5 อันนี้ต้องทำผลงานผ่านการประเมินครับ ส่วนใหญ่ก้จะอยู่ที่ 2-3 กันเท่าที่เห็นนะ 4 ยังมีน้อย เป็น คศ2 หรืออยากได้เงินประจำตำแหน่งไวสุดก้อายุ 29-30 ปี แล้วจะขึ้นต่อก้บวกเวลาอย่างน้อย 4 ปี แล้วการจะขึ้นต่อก้ต้องทำเอกสารประเมินเพื่อให้ได้ตำแหน่ง ส่วนใหญ่ที่เรียกร้องน่าจะเป็นครูผู้ช่วยหรือครู คศ1 ที่ทำงานเยอะมากๆ เยอะกว่า คศ3/4 บางคน ฟีลแบบเงินเดือนน้อยแต่ทำงานเยอะกว่าคนเงินเดือนเยอะงี้มากกว่า อีกอย่างมันมีแนวคิดว่าคุณดูแลครูให้ดีซิ เพิ่มเงินเดือนเพิ่มแรงจูงใจให้คนเก่งๆมาเป็นครูซิ ดูอย่างประเทศสิงคโปร์ ฟินแลนด์ บลาๆซิครูเงินเดือนเยอะนะ มันก้มีแนวคิดนี้ตลอด อ๋ออีกกลุ่มที่อยากให้เพิ่มเงินเดือนก้เป็นกลุ่มที่ลาออกไม่ได้เพราะเป็นหนี้สหกรณ์จะด้วยกิเลส หน้าใหญ่ หรือไปค้ำประกันก้ตาม อันนี้อ่ะควรด่านะ อ๋อแล้วจะมีอีกแบบคือครูจ้างที่ต้องเอางบโรงเรียนจ้างเอง เงินเดือน 5k 7k ถามว่าโรงเรียนเอาเงินจากไหนก้ทำผ้าป่าจ้างครู แล้วปัญหามันเกิดจากอะไรก้เพราะครูไม่พอ การจัดสรรตำแหน่งครูไม่สอดคล้อง หรือแม้กระทั่งเกณฑ์การจัดสรรที่ไม่เหมาะสม

2. กู้ง่าย กู้อะไรก้ผ่านง่าย มีให้กู้ทั้งธนาคารทั้งสหกรณ์


3. ไม่นะครับ ผมทำงานมาจะ 7 ปีแล้วไม่สมัครสหกรณ์ มีคนมาขอให้ค้ำก้ตอบไปว่าไม่ได้สมัครเรื่องก้จบไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ จริงๆอยากสมมัครด้วยซ้ำเพราะเห็นดอกเบี้ยเงินฝากดี สิ้นปีก้มีแจกตัง แต่ก้นั่นแหละครับผมไม่ได้คิดลงหลักปักฐาน เขียนย้ายทุกปีก้เลยค่อยว่ากัน

4. สมัครมาเป็นครูครับไม่ได้สมัครมาเป็นยาม อย่างผมนอนเฉลี่ยแล้ว 3 เดือน 2 ครั้งแต่โรงเรียนเล็กๆบางโรงที่มีครูผู้ชายน้อย หรือมีครูผู้ชายคนเดียวก้คือรับเหมาเฝ้าโรงเรียนทุกวัน อีกอย่างคือระเบียบนี้มันมีมานานมากแล้วไม่อัพเดทให้เข้ากับยุคปัจจุบันที่มีกล้องวงจรปิดดีๆส่งเสียงเตือนได้ สมมุติว่าผมนอนเวรแล้วมีโจรมา โรงเรียนคาดหวังอะไรจากผมหละ ต้องออกไปปกป้องทรัพย์สินราชการมั้ย ถ้าไม่แล้วของหายในคืนที่ผมนอนเวรผมจะผิดหรือถูกสอบรึป่าว ถึงบอกว่าระเบียบมันเก่ามากในยุคที่เทคโนโลยีก้ดีแล้ว แต่ทำไมไม่ยอมใช้เทคโนโลยีให้มันเกิดประโยชน์หละครับ ไม่ใช่แค่ครูนะทุกหน่วยงานแหละ

5. เป็นครูเพราะอยากสอนหนังสือครับ ให้ครูไปทำงานอื่น พัสดุ อาคารสถานที่ การเงิน ในกรณีโรงเรียนขนาดเล็กๆถ้าครูต้องทำงานนอกเยอะแล้วจะเอาเวลาไปสอน ครูควรมีเวลาเตรียมการสอน มีเวลาในห้องได้เต็มที่โดยไม่ถูกบดบังจากงานนอกรึป่าว

6. ส่วนใหญ่จริงเพราะครูในโรงเรียนบางส่วนที่สู้ติวเตอร์ไม่ได้เพราะไม่คิดพัฒนาการสอนตัวเอง เคยสอนยังไงก้สอนอย่างงั้นไปเรื่อยๆ ผิดกับติวเตอร์ที่ถ้าคุณสอนดี มีเทคนิคดีๆ เข้าใจง่าย คุณมีชื่อเสียง งานคุณเยอะขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น

7. เอาซิครับ ทุกวันนี้เกณฑ์ชั่วโมงขั้นต่ำที่จะยื่นประเมินคือ 15 ชั่วโมง หรือ 18 คาบ(คาบละ 50 นาที)โดยประมาณ วันนึงมี 8-10 คาบ ก้ตีไปว่าสอนวันละประมาณ 3-4 คาบ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปพัฒนาการสอน พัฒนาภาษา ทำสื่อ เตรียมสอน ผมเอานะครับ

8. 4 ปีเรียนอะไรบ้าง ท่านลองค้นหาในกูเกิลนะครับ สมใจครูมหาวิทยาลัยไหนท่านก้เสิชไปแล้วตามด้วยคำว่า หลักสูตร ท่านก้จะเห็นโครงสร้างแต่ละปีว่ามีวิชาอะไรบ้าง

9. เพราะครูบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาตนเอง ตอบตรงๆก้ชอบความสบาย ชิลๆแบบนี้ก้ดี ฉันจะสอบอิ้งทำไมฉันไมไ่ด้สอนอิ้ง ฉันไม่ได้ใช้นะ หน่วยงานอื่นยังไม่สอบเลย บลาๆ ก้นั่นแหละไปรักสบายกันซะแล้ว

10. แล้วแต่บริบทของโรงเรียนครับ ครูแก่ๆบางคนที่ยังไม่หมดไฟในการทำงานก้ดีเค้ารันงานได้เยอะ ประสบการณ์เยอะ ช่วยสอนงานครูใหม่ได้เยอะมาก หรือคนแก่ที่แก่รอเกษียณไม่เอาอะไรเลย แบบนี้ก้มีซึ่งผมเจอมาทั้ง 2 แบบครับ อ๋อครูแก่ๆบางคนงานเยอะกว่าผมก้มีครับ

11. อยู่ที่บริบทโรงเรียนครับ ท่านนิยามงานหนักไว้แบบไหน งานหนักคือทำงานจนไม่มีเวลากินข้าว สอนจนไม่ได้พัก แบบนั้นก้มีอยู่จริงแต่ไม่ใช่ทุกที่ ทุกโรงเรียน และทุกคน งานสอนจะหนักมากๆในกรณีที่ครูในสาขาวิชานั้นขาดแคลน คือถ้าท่านเป็นครูคนเดียวที่สอนวิชานั้น ท่านก้จะแบกคาบหลังแอ่น ถ้างานหลักคือสอนเยอะแล้วงานนอกอื่นๆก้น้อยลงเพราะท่านไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น หรือกับบางคนที่งานหลักน้อยแต่งานนอกเช่น งานการเงิน ก้ไม่ได้หนักตลอดจะหนักเป็นช่วงๆ เช่น สตง เข้า ปิดปีงบ ช่วงเคลียค่าเทอม เป็นต้นครับ

12. คนเรียนกลางกับอ่อนสอบเข้าได้ งืมเอาไงดีหละถามว่าจริงมั้ยมันก้จริง แต่คนเก่งหรือคนที่อยากเป็นครูจริงๆก้มี แล้วคนเก่งๆหรืออยากเป็นมากๆพอได้เป็นเจอระบบราชการออกไปก้เยอะ ผมว่าปัญหามันน่าจะเป็นที่โครงสร้างเลยตั้งแต่การคัดเลือกคนเข้าเป็นครู มีมาตรฐานรึยัง ถ้ามีแล้วมาตรฐานมันควรเพิ่มขึ้นมั้ย แล้วจะจูงใจคนเก่งยังไง แล้วจะรักษาคนเก่งไว้ยังไง บลาๆ คือมันก้มีจริงๆนะแบบไม่รู้จะเรียนอะไรเรียนครูซิ พอเรียนจริงในกระบวนการเรียน 4 ปีมันต้องเข้าโรงเรียน ต้องสังเกต ต้องฝึกสอน คือถ้าไม่ชอบก้อยู่ยากเหมือนกันนะครับ ผมว่าก้ทุกอาชีพอ่ะถ้าไม่ชอบก้อยู่ยากหมด 55555555

13. ใบประกอบวิชาชีพครูมันมีเพราะครูเป็นวิชาชีพ เช่นเดียวกับอีกหลายๆวิชาชีพ ช่วยในการสอนตรงไหนก้ถ้าสอบไม่ผ่านก้หมายความว่าไม่มีความรู้ในสายนี้ซิ เท่าที่ถามน้องฝึกสอนมาน้องบอกว่าต้องสอบเหมือนกันนะครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ใครเรียนครูจบก้ได้ใบประกอบเลย ส่วนกีดกันมั้ยมันก้เป็นคุณสมบัติของการสมัครงานข้อนึง ถ้าคุณอยากสมัครงานนี้คุณก้ต้องมีคุณสมบัติข้อนี้ ไม่ว่าคุณจะจบอะไรมาถ้าอยากเป็นครูก้ไปเรียน ป.บัณฑิต เพื่อไปสอบ หรือจริงๆบางปีบางจังหวัดคนไม่จบครูก้สอบได้เลยนะครับ ในข้อนี้ผมว่าใบประกอบอย่างๆขอให้ได้ลองสอนมาจะดีกว่า ผมอ่ะอยากให้ รมต.ศธ มาฝึกสอนด้วยซ้ำจะได้รู้บริบทของโรงเรียนจริงๆ 555555555

คือปัจจุบันมีแนวคิดที่ว่า คืนครูสู่ห้องเรียน ลดงานธุรการ ลดการไปอบรมในเวลาเรียน เพื่อให้ครูได้สอนจริงๆมากขึ้น ให้ครูได้อยู่กับนักเรียนมากขึ้น ให้ครูได้มีเวลาเตรียมหรือทำอะไรเกี่ยวกับการสอนมากขึ้น คือถ้าเป็นได้มันก้ดีแต่ติดที่ตอนนี้มันยังเป็นไปไม่ได้

ผมว่าคนเป็นครูส่วนใหญ่อยากสอนนะ ชอบที่จะได้สอน ชอบที่จะได้อยู่กับนักเรียน ยิ่งมีเวลาอยู่กับนักเรียนมากก้จะยิ่งรู้จัก พอรู้จักก้จะรู้ปัญหา หรือรู้ว่านักเรียนคนนี้พัฒนาอะไรได้บ้าง ทำเคสได้ ให้คำปรึกษาได้ มีเวลาวางแนวทางเฉพาะบุคคลได้ ผมว่าแบบนั้นน่าจะดีนะครับ การศึกษาอาจจมีคุณภาพมากขึ้นก้ได้

นี่น่าจะเป็นการตอบมู้ที่ยาวที่สุดของผมแล้ว

มีพรรคไหนบ้างไหมครับที่ไม่มีนโยบายเอาใจครู
ปล.เพราะนโยบายนี้แหละผมเลยไม่ชอบก้าวไกล 5555+

ในข้อ1ผมมีคำถามหลายข้อเลยครับ
1.1เป็นเพราะครูพวกเยอะเสียงดังเรียกร้องแล้วมีโอกาศได้เยอะใช่ไหมครับคุณเลยคิดว่าทุกอาชีพมีสิทเรียกร้องเพราะข้าราชการอื่นเรียกร้องไปก็เท่านั้นโอกาสได้ยากมาก(สำหรับผมคิดว่าทุกอาชีพควรอยู่ในกรอบไม่ใช่อะไรอะไรก็มีแต่เรียกร้องซึ่งตอนนี้อาชีพครูหลุดกรอบมาเยอะแล้วควรให้กลับเข้าไปอยู่ในกรอบได้แล้ว)
1.2ที่ว่าครูเงินเดือนน้อยเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ ฟินแลน อย่างงี้ทุกข้าราชการก็เงินเดือนน้อยน่ะสิเพราะครูกับข้าราชการอื่น15000เหมือนกันข้าราชการมันมีฐานเงินเดือนชัดเจนอยู่แล้ว
1.3ฟินแลนกับสิงคโปร์ที่ว่าครูเงินเดือนเยอะเป็นครูข้าราชการหรือครูเอกชนครับ?
1.4ฟินแลนกับสิงคโปร์เงินเดือนข้าราชการอื่นเทียบกับข้าราชการครูใครเยอะกว่ากันครับถ้าเอาระดับป.ตรีเท่ากัน?
1.5ตำแหน่งน้อยบรรจุใหม่ อายุงานน้อย เงินเดือนน้อย งานเยอะผมว่าเป็นทุกข้าราชการนะครับเพราะพวกหัวหน้า รุ่นพี่ มักโยนงานมาให้รุ่นน้องทำไม่ใช่แค่ครูหรือคุณคิดว่าข้าราชการอื่นไม่เป็น?(ผมว่าไอ้ตรงที่ว่าครูงานเยอะวิธีแก้ปัญหาที่ถูกจุดไม่ใช่ลดงานให้ครู ไม่ใช่เพิ่มจำนวนแต่เป็นการดัดสันดานครูแก่ๆที่มันชอบเอาเปรียบครูอายุน้อยโดยการโยนงานกับโยน ชม.สอนมาให้มากกว่านะครับ)
1.6ถ้าอยากให้คนเก่งๆมาเป็นครูจริงๆแค่เปิดสอบครูโดยรับป.ตรีทุกสาขาเท่านี้ก็น่าจะเป็นการเพิ่มการแข่งขันทำให้ได้คนเก่งมามากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินอย่างการเพิ่มเงินให้ครูนะวิธีนี้คุณว่ามันถูกไหมครับ?
1.7สมมติถ้ารัฐบาลเพิ่มเงินให้ครูจนเท่าหมอขอถามหน่อยครับว่าคุณที่เป็นครูกับพวกครูรอบๆตัวคุณเก่งเทียบเท่าหมอจนคู่ควรที่จะได้เงินเท่าหมอไหมครับ?
ข้อ4และข้อ5 หน่วยงานอื่นก็เป็นนะครับถ้าจะให้จ้างคนเพิ่มจะเอาเงินมาจากไหนเพราะต้องจ้างพวกพัสดุ รปภ การทุกหน่วยงานเลยครับ
ข้อ7ถ้ามาสอบวัดความรู้ครูด้วยเอาไหมครับความยากประมาณ9วิชาสามัญ?