เอาง่ายเลยๆ ถ้าท่านเจอแพทย์แนะนำให้ท่านสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ไม่ออกกำลังกาย ไม่แนะนำให้ทานยา อันนี้ครับที่แย่ๆ

ระบบ รพ.รัฐมันบั่นทอนคนทำงานครับ
ยังไงผู้ให และรับ บริการ ก็จะต้องต่างคนต่างเจอ negative vibe

บอกได้แค่ว่าสังคมมันหล่อหลอมให้เราร้ายเองครับ

จบมาแรกๆใสๆตั้งใจทำงาน พออยู่ๆไปบางทีเจอคนไข้ไม่ฟัง เรื่องมาก เจอบ่อยๆมันก็ไม่ไหว

คนไข้ดีก็มี แต่คนไข้ไม่ดีก็เยอะ นึกสภาพอารมณ์ดีแต่เช้า เจอคนไข้วีนเหวี่ยงพูดไม่รู้เรื่องวันนั้นทั้งวัน

จะให้คนทำงานยิ้มแย้มก็คงไม่ใช้

ถ้าไม่ได้เข้าไปทำงานใน รพ เองไม่รู้หรอกว่าก่อนที่เค้าจะร้ายพูดไม่ดี เค้าต้องเจออะไรบ้างจนทำให้พฤติกรรมคนมันเป็นแบบนั้น

ไม่ใช่ว่าแบบแตะไม่ได้เลย คนที่เค้าบริการด้วยดีก็มี แต่อยากให้เข้าใจว่า บางครั้งงานมันหนักมีหงุดหงิดมันคุมอารมณ์ไม่อยู่ตลอดหรอก

เคยเจอคนไข้มีอะไรตอนอยู่กับหมอไม่บอกหมอ มาบอกพยาบาล พยาบาลให้กลับไปคุยกับหมอ พอเจอหมอก็ไม่พูดสุดท้ายพยาบาลโดนหมอด่า ส่งคนไข้มาทำไม

เรื่องปกติของงานราชการในไทย ขนส่ง สรรพากร การไฟฟ้า การประปา เวลาไปใช้บริการคนเยอะๆก็ดุเหมือนกันนั่นแหละ

ถ้าเรื่องจริงก็จะแนะนำวิธีจัดการให้ เวลาผมเจอเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติงานไม่ดี ผมเอาเรื่องหมดอะ

เชื่อว่ายังไงก็มีคนทำไม่มีทางลาออกหมดจนโรงบาลเปิดไม่ได้หรอก

ก็อยู่โลกเดียวกับคุณนั่นแหละครับ ผมไม่ได้เหมารวมผมพูดถึงคนที่ไม่อยากจะทำเเล้วมาเหวี่ยงคนไข้ตามที่จขโพสต์สื่อ

สมัยใช้ทุน

เพื่อนฉัน ไปทำแผลให้คนเมา ขับรถมอไซค์ล้ม

คือล้างแผลเอาเศษดิน เศษหินออก ก็ต้องทนเจ็บนิดนุงใช่ป่าว
นี่มาบอก ไอ้หมอ เมิงทำเบาๆหน่อยสิวะไอ้เวน

คือ.. นี่กุก็กำลังช่วยรักษาเมิงอยู่นะไอ้เวน เอิ่ม..

แต่ peak หนักกว่านั้นคือเพื่อนฉันเคยโดนคนไข้อาละวาดต่อยปากแตกอะ

คือแม่งทำไปได้เนอะ เขามาช่วยรักษา คุณเมิงไม่พอใจไปล่อเขาจนปากแตก เหอะๆ

เอือมระอา กะคนจำพวกนี้จริงๆ เงินนี่ไม่อยากจ่าย แต่ขอรับบริการแบบ vip
ปล่อยให้นั่งเลียแผล แมงหวี่ตอมไปดีกว่าเนอะพี่ สมใจเขาแหละ

จขกท.ก็ยังเล่าไม่ละเอียดเลยรู้ได้ไงว่าเหวี่่ยงจริง

อ่านจากชื่อกระทู้แทบไม่ต้องใช้สมองผมก็รู้เเล้วครับว่าเค้าคงมาชมมั๊ง อีกอย่างผมก็บอกอยู่ว่าไม่ได้เหมารวมคนดีๆก็ทำไปคนไหนไม่อยากทำก็ออก

เอาแฟร์ๆกันทั้งสองฝ่ายเลยนะ
ฝ่ายรพ. ก็ไม่ควรเจอคนไข้เหี้ยๆ
ฝ่ายคนไข้ ก็ไม่ควรเจอหมอพยาบาลเหี้ยๆ
เมื่อคนไข้เจอฝ่ายรพ.เหี้ยๆ ควรมีการ feedback อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่ตัดหัวเสียบประจานลงเฟสบุ๊คหรือสำนักข่าว เอาให้หากินไม่ได้ ได้รับความอับอายขายหน้า
เมื่อฝ่ายรพ.เจอคนไข้เหี้ยๆ ควรมีการจัดการอย่างเหมาะสม แจ้งความ ดำเนินคดี ไม่ใช่โดนบอกว่าทำไมไม่อดทน งานบริการต้องให้ลูกค้าเป็นพระเจ้า ผอ.รพ.ไม่สนใจลูกน้องปล่อยให้โดนลงตีนตามลำพัง
โลกนี้มันมีคนงี่เง่าทั้งสองฝ่าย แต่มัน not all และไม่ควรมีฝ่ายไหนควรโดนประสบการณ์ที่ไม่ดีในการทำงาน
สรุปแบบนี้ โอเคกันมั้ยทั้งคู่

ผมว่าคุณเข้าใจผิดนะผมหมายถึงคุณรู้ได้ไงว่าโรงพยาบาลที่ จขกท.เจอเขาทำผิดจริงในเมื่อรายละเอียดอะไรก็ไม่มี มีแต่คำพูดฝ่ายเดียวซึ่งก็เห็นมานักต่อนักแล้วว่าส่วนใหญ่ชอบเล่าเข้าข้างตัวเองไม่ก็บอกไม่หมดว่าทำอะไร

ยังไงก๋ฝ็ไม่น่าหมดครับ พอคนเก่าไป คนใหม่ก็มา
แต่ผมคิดว่าน่าจะเกิดภาวะสมองไหลได้ คนที่ทำเก่งๆเทพๆทนไม่ได้ก็ไปเอกชน มีหน้าใหม่เข้ามาอยู่เพราะระบบทุน
แล้วก็มาบ่นว่าโรงบาลรัฐเหมือนโรงเชือด

เก่าไปใหม่มา ถ้าเป็นอาชีพอื่นอาจจะทดแทนได้ เพราะคนรุ่นใหม่น่าจะมีไฟ มีไอเดียมากกว่าคนเก่าๆใช่มั้ยหละครับ

แต่งานของแพทย์พยาบาล ตอนทำงานใช้ประสบการณ์และความเก๋า สูงมากครับ นอกเหนือจากองค์ความรู้ทางการแพทย์

เด็กจบใหม่ไม่มีทางรักษาคนไข้ดีกว่าหมอเก๋าๆแน่นอน ซึ่งหมอคนนึงกว่าจะเก๋าได้ ต้องผ่านประสบการณ์ ลองผิดลองถูก

มีรุ่นพี่ช่วยแนะช่วยสอน กว่าจะมีความรู้ความเฉียบ พอจะเห็นคนไข้ปุ๊บรักษาได้ปั๊บ เรียนจบเป็น 10 ปีโน่นเลย


ปัญหาตอนนี้คือ พอหมอคนไหนเริ่มเก่ง ความรู้ตกผลึกแล้ว ก็มักจะลาออกไปเอกชน ถามว่า แล้วหมอใหม่ๆจะเรียนรู้จากใคร

ลองผิดลองถูกก็ไม่ได้แล้ว รุ่นพี่คอยช่วยเหลือก็ไม่ค่อยอยู่ พลาดมาโดนฟ้อง โดนลงโซเชียล อาจหมดอนาคตทางการแพทย์เลย

สุดท้ายหมอใหม่ก็ออกตามหมอเก่า คนเก่งก็ไปอยู่เอกชนบ้าง คนไม่เก่งมากก็ไปทำงานที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อวิชาชีพบ้าง

สุดท้ายผลจะเกิดกับระบบนี้เป็นวงจรอุบาทว์ ผลิตเพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ แถมแรงงานแพทย์พยาบาลเนี่ย จะนำเข้าแรงงานต่างชาติ

มาทำแทนก็ไม่ได้ซะด้วย ซึ่งทุกวันนี้วงจรอุบาทว์นี้มันกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่ผมไม่เห็นทางออกในอนาคตอันใกล้เลยครับ

ไม่มีทางออกครับ
คนบนหอคอยงาช้างไม่แคร์คนทำงาน
คนรับบริบาลไม่แคร์คนให้บริบาล
คนให้บริบาลก็ไม่แคร์ระบบงานและทำงานoverloadครับ