ไลฟ์สไตล์ เรียกว่ามีผลละกัน แต่ปัญหาจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์

ปัญหาอยู่ที่ความคิดครับ หมายถึงว่า กับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันนั้น เรารู้สึกยังไง และเรามีการกระทำออกไปยังไงมากกว่า

ซึ่งมันค่อนข้าง Relate กับนิสัยเรา ถ้าความแตกต่างกันนั้น ไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก ก็แค่ดูว่าทั้งสองฝ่ายมีการฟังให้กัน มีความเข้าใจให้กันรึเปล่า

ซึ่งเป็นตัววัดได้ดีนะ ความแตกต่างระหว่างสองคนมันไม่ได้มีแค่ไลฟ์สไตล์อะ ถ้าเรื่องนี้ไม่เข้าใจกัน เรื่องอื่นมันก็มีแนวโน้มไม่เข้าใจกัน ถ้าเรื่องนี้เข้าใจกัน เรื่องอื่นมันก็มีแนวโน้มจะเข้าใจกันเช่นกัน


ถ้าเรื่องไม่ใหญ่เช่น ชอบกินถูกเจอกับคนชอบกินแพง หรือคนชอบเก็บตัวเจอกับคนชอบเที่ยว หรือ Mindset ในการใชีชีวิตต่างกันอันนี้เห็นบ่อย สุดท้ายถ้าคุยกันเข้าใจก็รอดทุกคนนะ

ปัญหาใหญ่จริงๆในประเด็นนี้คือ คนมักคิดว่าตัวเองเปิดใจฟังเต็มที่ แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง แต่จริงๆไม่ได้ฟังกันทั้งคู่ ที่สำคัญทั้งคู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จุดที่เป็นการฟังมันอยู่ตรงไหน ได้ยินเข้าหูก็คิดว่าฟังแล้ว อันนี้แทบจะเป็นต้นเหตุของปัญหาใหญ่ทุกเรื่อง ซึ่งถ้ามันไม่ไปเกิดที่เรื่องไลฟ์สไตล์ มันก็จะไปเกิดเรื่องอื่นอยู่ดี


แต่ถ้าเป็นเรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เช่นไลฟ์สไตล์ต่าง และดันเป็นเรื่องที่เรามีปมด้วย กันนี้ต้องคุยกันหนักๆ และพยายามไม่เลือกแต่แรก

เช่น ผมเคยมีแฟนเป็นคนเที่ยวกลางคืน ผมพยายามไว้ใจ แต่สุดท้ายเขาก็นอกกายไปหาคนที่เจอในผับนั้นแหละ มันเลยเป็นปมว่าไม่เอาคนเที่ยวกลางคืนนะ ทั้งที่คนอื่นที่เที่ยว อาจจะไม่ได้มีนิสัยเหมือนแฟนเก่าผมก็ได้ และคนที่ไม่เที่ยวก็นอกใจผมได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ความคิดผม เข้าใจนะว่าไม่ได้เป็นทุกคน แต่ใจมันไม่ได้แล้วอะ