คนจะคบกัน ไลฟ์สไตล์นี่สำคัญไหมครับ

เพราะว่าบางทีสังคมของคนสองคนมันไปคนละทางเลย

มันจะมีปัญหาไหม ถ้าเกิดคบกันขึ้นมาจริงๆ

อยากรู้ประสบการณ์ของแต่ละท่าน

ไลฟ์สไตล์ต่างกันไม่มีปัญหาหรอก ปัญหาคือเข้าใจกันรึป่าวมากกว่า

เคยคบกับคนนึง ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากแล้วมันไม่ไหวจริงๆ พอเลิกกันไปมาคนปัจจุบัน ผมhereตั้งแต่แรกเลยครับ

ผม เด็กเกรียน หัวขบถ เป็นไทป์ตั้งคำถามกับทุกอย่าง แฟนผม ลูกในระเบียบ ให้ทำไรทำ ทุกวันนี้ยังต้องจูนกันอยู่เลยฮะ 11ปีละ

สำคัญอันดับต้นๆเลยครับ สไตล์ไม่เข้ากันมันจะไปกันรอดได้ไง

อาหารการกิน การเที่ยว รสนิยม หลักการใช้ชีวิต

มีสิครับ มีมากด้วย

เช่น คนนึง ชอบเที่ยวกลางคืน ต้องไปทุกวัน หรือ ทุกอาทิตย์ แต่ อีกคนไม่ชอบเลย

ถ้าจูนกันไม่ได้ เลิกแน่นอน

หรือ เรือ่งใหญ่ๆ เช่น บางคน sex จัด ต้องมี วันเว้นวัน อีกคน ไม่อยากมี ได้แค่เดือนละ ครั้ง

ถ้าปรับกันไม่ได้ จะอยู่กันยังไง

ผมยืนยันได้เลยว่ารอดสบายๆ ถ้าเข้าใจกันนะ

ไลฟ์สไตล์ต่างกันมันก็อยู่ได้ แต่ถ้าเหมือนกันมันก็ดีกว่าครับ

ถ้าเราไม่เที่ยวผับบาร์ แล้วผู้หญิงชอบไปเที่ยวผับบาร์ ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆ ไปเจอผู้ชายจีบบ่อยๆ แบบนี้ผมก็ว่า ไม่น่าจะเข้ากันเท่าไร มั้งนะ

สำคัญสิครับ
คนนึงชอบเที่ยวกลางคืน อีกคนไม่เที่ยว
คนนึงฟุ่มเฟือย อีกคนไม่ใช้

อยู่กันไม่ได้หรอก

สำคัญ ถ้าคอนเซปป์ของการคบกันคือใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกัน

แต่ถ้ารับกับการต่างคนต่างอยู่ได้..ปัญหาก็ลดลง

ไอ้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่คือไลฟ์สไตล์ก็ต่างกัน แต่จำเป็นต้องอยู่แบบตัวติดกัน มันก็อึดอัด

จะบอกปรับตัว,เข้าใจกัน แต่ผมเห็นถึงเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ไอ้ที่เก็บๆมามันก็ระเบิดทั้งนั้น

สำหรับผมสำคัญอันดับต้นๆเลย อย่างน้อยเรื่องความชอบต้องมาเป็นหลักละ
ผมกับแฟนชอบฟังเพลงเหมือนกัน แต่คนละแนว ก็แบ่งกันฟังได้ มันฟังร็อคบ้างผมฟังป็อปบ้าง
แฟนผมชอบดูหนังเหมือนกัน แต่คนละแนว ก็แบ่งกันดูได้ผมดูรอมคอมบ้างมันดูทริลเลอร์บ้าง
มันไม่โพสอะไรลงในเฟสหรือไอจีเลย ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
มันไม่ชอบเที่ยวร้านเหล้า ซึ่งผมก็ไม่ชอบเลย ชอบนั่งร้านชำมากกว่า
มันไม่ชอบเที่ยว ผมก็ไม่ชอบเที่ยว
มันชอบออกกำลังกาย ผมออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ
ผมทำอาชีพกราฟิก มันก็ทำอาชีพกราฟิกเหมือนกัน


รสนิยม ความชอบ การมองโลก ไลฟสไตล์ สำหรับผมพวกนี้สำคัญมากครับในการจะคบกับใครอะ

แต่ก็มีขัดกันบ้างแหละ มันขี้เกียจผมขยัน มันนอนตื่นสายผมนอนตื่นเช้า


ถ้าให้ผมไปคบเด็กบัญชีไรพวกนี้ผมคงคุยกับเขาไม่รุ้เรื่องอ่ะครับ เหมือนคุยคนละภาษาไปแล้ว
เอาแค่เพื่อนผมที่เรียนคณะวิท ผมยังรุ้สึกคุยกับมันไม่รุ้เรื่องเลย
ผมดูหนังละเอียดมาก ผมแชร์ในเฟสว่า kingdom ซอมบี้เกาหลีไม่สนุก
เพื่อนผมที่เรียนคณะวิทบอก มึงจะเอาอะไรมากกับแค่หนังวะ เขาทำมาให้ดูบันเทิง

ไลฟ์สไตล์มันเรื่องนิสัยส่วนตัว+สังคมรอบข้างหล่อหลอมครับ
มันอยู่ที่ว่าถ้าอยู่ด้วยกันสามารถปรับเข้าหากันได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างถ้าคนนึงสายปาร์ตี้จ๋า แต่อีกคนไม่ชอบก็ต้องเลือกเอาว่าปรับหาได้ไม๊ จะเลือกทาง ห้ามไม่ให้ไป/ลดการปาร์ตี้ลง/หรือไปด้วยกันไปเลย
หรือบางคนชอบเที่ยวลำบากเข้าป่าปีนเขา อีกคนชอบช็อปปิ้ง มันก็ต้องหาตรงกลางครับ
ถ้ามันเจอจุดที่บาลานซ์กันได้โดยที่ไม่กระทบกับอีกคน หรือถ้าเค้าปรับตัวเข้าหาเรามาใช้ชีวิตแบบเราเลยแบบนี้ยิ่งโคตรดี

สำคัญมากกกกก ผมเคยเจอคนเที่ยวกลางคืน แต่ผมไม่เที่ยว ให้ไปก็ห่วง ไม่ให้ไปก็แลงี่เง่า จะไปด้วยผมไม่ดิ่มเพราะแพ้ แถมยังไม่สนิทกับกลุ่มเขาไปนั่งเบื่อแทนอีก

ของผมจะแบ่งไปตามเปอร์เซ็นครับ

60 เปอร์เซ็น เป็นความชอบอะไรที่คล้ายกัน ชอบดูหนัง ฟังเพลง แนวเดียวกัน ดูคอนเสิร์ต ชอบไปเที่ยวธรรมชาติ ทะเล ภูเขาบ้าง
สนใจอะไรคล้ายกัน แต่ก็ไม่ต้องเหมือนกันทั้งหมดก็ได้
ผมจะยึดทางนี้เป็นหลักเลย เพราะต่อจากนี้มันจะคุยหรือคบกันไปเรื่อยๆแล้วมันจะมีเรื่องคุยหรือให้ทำกิจกรรมอยู่ตลอด
ไม่ฝืนตัวเอง และไม่น่าเบื่อ

20เปอร์เซ็น พวกไลฟสไตล์การใช้ชีวิต ในรูปแบบของตื่นนอน เข้านอน การทำงาน ออกกำลังกาย การแต่งตัว

20เปอร์เซ็น คือความเข้าใจกัน ทัศนคติต่างๆ

รวมๆกันมันก็ประมาณนี้ครับ

อยูทีว่ายินดีจะปรับตัวเข้าหากันหรือไม่

ใหม่ๆ อะไรก็ยอม แต่ถ้าฝืนมากเกินไป ต้องหาทางนั่งคุยกัน

ถ้าเหนื่อยหนักแต่แรก อย่าฝืน