ประเทศไทยมันเหลื่อมล้ำสูง ถ้าจะแบ่งลำดับชนชั้นต้องตัดพวก top 1%/top 3% ออกก่อน ไม่งั้นมันดึง mean (เชื่อไหมว่าถ้าเอา 10% top เข้าไปเฉลี่ย รายได้ต่อหัวจะเหลือแค่ประมาณ 40k/m) แล้วก็ต้องตัดกลุ่ม bottom20 ออกเพราะจะดึง mean เหมือนกัน (เพราะกลุ่มนี้แทบไม่มีรายได้จริง) แล้วการแบ่งแบบย่อยส่วนใหญ่มันไม่ได้แบ่งชนขั้นล่างค่อนบน มันแบ่งชนชั้นกลางเป็นกลางบนกับกลางล่าง

ทีนี้ถ้าเอาแบบข้อมูลเชิงสถิติอ้างอิงจากรายงานความเหลื่อมล้ำในปี 2560 90% ของประชากรไทยมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 20k ในคณะที่กลุ่ม bottom 40 รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5k/m

แน่นอนว่าการวัดเฉพาะรายได้เฉลี่ยแต่ละเดือน มันไม่นับรวมทรัพย์สิน แต่ลองคิดดูว่าคนที่มีรายได้ต่ำ 20k ต่อเดือนจะมีสักกี่คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินมากกว่า 10 ล้านบาทหรือเป็นเจ้าของกิจการที่ขาดทุนสะสม

หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการมีรายได้ 100k/m มีบ้านราคา 10 ล้านมันทั่วไป ใคร ๆ ก็มี ซึ่งไม่จริง คุณคิดแบบนั้นเพราะคุณมองไปที่กลุ่ม top 1%/top 3% (top1 คือคน 7 แสนคน/top3 คือคน 2 ล้านคน) ในคณะที่กลุ่ม mid50 จริง ๆ มีรายได้เฉลี่ยแค่ 6.5k และ bottom 30 ล้วนเป็นกลุ่มชนชั้นแรงงานในภาคการเกษตรในต่างจังหวัด

เพราะงั้นถ้าคุณมีบ้านราคา 10 ล้าน คุณไม่ใช่แค่ชนชั้นกลาง คุณคือชนชั้นบนของประเทศตามสถิติ ถ้าจะเถียงก็เอาสถิติมากางเถียง แต่คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นชนชั้นบนเพราะไอ้กลุ่ม top1/top3 มันรวยแบบที่คุณไม่มีทางเทียบได้

เข้าใจในมุมแต่บางทีก็พูดยาก บ้านนึง พ่อเงินเดือน 120.000 แม่ไม่ทำงาน หรืเงินเดือน30,000
หรือ พ่อ90,000 แม่90,000
อาจจะต้องดู household และความสามารถในการชำระหนี้

ให้มองเป็นกราฟระฆังคว่ำอ่ะ ล่าง,บนจะน้อยๆหน่อย กลางจะเยอะสุด

ถ้าดู household ส่วนใหญ่ก็ไปดู GDP ประกอบนั่นแหล่ะครับ แต่ของผมไม่ได้มองในมุมสังคมหรือการพัฒนาความเป็นอยู่น่ะครับ ของผมมันเป็นตัวเลขมาจากพวก research agency ที่ทำการตลาดในผม เค้าแบ่งแบบนี้ ผมเลยยึดถือเลขชุดนี้เป็นหลัก เพราะมัน make sense ต่อการมองของผม

แต่เห็นด้วยครับ ว่าถ้ามองในมุมการพัฒนาชีวิตและคุณภาพความเป็นอยู่ของคน มันต้องไปมองในเลเวล household และความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ด้วยเหมือนกัน

ผมแยกตามไลฟ์สไตล์ และต้องมีเงินซัพพอร์ตไลฟ์สไตล์นั้น

คนหาเช้ากินค่ำ หรือไม่มีเงินทำอะไร ชั้นล่าง

เช่น มนุษย์เงินเดือนที่มีรถ มีบ้าน มีเงินเก็บเป็นคนชั้นกลางหมด

ชนชั้นสูงน่าจะแค่ 1%อะ เจ้าของบริษัทใหญ่ยักษ์และเผ่ามังกรฟ้า
เจ้าของ sme ดาราแนวหน้า แนวหน้าแต่ละวงการ รายได้ 10ล้าน++ ถึงจะชนชั้นกลาง ส่วนจะอยู่ส่วนในของชั้นกลางค่อยว่ากันอีกที
ส่วนพนักงานเงินเดือนต๊อกต๋อยอย่างเราๆ เต็มที่ก็ชนชั้นล่างค่อนบน

จริงๆแค่เปลี่ยนจากชนชั้นล่างค่อนบนเป็น ชนชั้นบนค่อนล่างนี่ตรงเป๊ะเลยนะ

มันไม่ใช่ศัพที่ใช้กันทั่วไป ปกติก็ใช้ ล่าง กลาง บน กันตลอด ถ้าจะนิยามใหม่ก็เขียนมาบอกเลยจะได้เข้าใจตรงกัน

เขียนดีมากครับ สงสัยนิดนึง คำว่าชนชั้นบนในนิยามของท่านตัดที่ top กี่ % ครับ

ทำไมข้อมูลของท่าน byrd.tt กับท่าน Wolvesgangster ไม่ตรงกันหว่า

ท่าน byrd.tt บอกว่า คนไทย 20% (14 ล้านคน) มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 77,xxx บาท

แต่ท่าน Wolvesgangster บอกว่า มีคนไทยแค่ 10% (7 ล้านคน) ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 20k

สำหรับผมถ้าจะนิยามชนชั้นทางเศรษฐกิจในไทย ให้ตัด top3 กับ bottom30 ออกก่อนค่อยแบ่ง แต่ผมก็ไม่เคยเห็นบทวิเคราะห์จากฐานข้อมูลช่วงดังกล่าวเหมือนกัน

บนฐานข้อมูลดังกล่าว ถ้าให้ลองหลับตาตัดในหัวคร่าว ๆ คิดว่า top5 รายได้6หลัก ทรัพย์สินรวม8-9หลัก น่าจะตัดได้เป็นกลุ่มชนชั้นบน

เพราะอ้างอิงบนฐานข้อมูลคนละส่วนครับ ข้อมูลของท่าน byrd อ้างอิงจาก marketing target ที่เป็นชนชั้นกลางค่อนบนที่เป็นกำลังซื้อหลักของบริษัทเอกชนในไทยครับ พูดง่าย ๆ คือเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคลที่(น่าจะ)ตัด top3 และ mid50ออก (แต่อันนี้ผมไม่แน่ใจเรื่องความถูกต้องของข้อมูล เพราะจำนวนผู้เสียภาษีเงินได้ไทยมีแค่ 11 ล้านคน)

ส่วนข้อมูลที่ผมยกมามาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติมันจะเป็นข้อมูลโดยรวมของรายได้ครัวเรือนทั้งประเทศ ซึ่งอย่างที่บอกว่าประเทศไทยมันเหลื่อมล้ำสูง พวก top3 กับ bottom20 ข้อมูลมันจะดึง mean

ถ้าจากข้อมูลนี้ ถ้าเงินเดือนเกิน 50 K ก็จะเป็น 1% แรกของประเทศสินะครับ

เวลาอ่านพวกรายงานเรื่องแผนการลดความเหลื่อมล้ำของไทยมันถึงได้ตลกไงครับ คือแค่ data analysis ง่าย ๆ ถ้าข้อมูลมันสวิงมากจะมาแบ่งการกระจายของข้อมูลในเชิง linear แล้ววิเคราะห์ มันไม่ได้ นักวิชาการพูดปากเปียกปากแฉะเรื่องรวยกระจุกจนกระจาย รัฐทำรายงานสนใจแต่การเปรียบเทียบเฉพาะกลุ่ม