ไปเจอคอมเม้นที่อ่านแล้วทำให้ฉุกคิด ใครมีความรู้ด้านศาสนาเยอะเข้ามาอธิบายได้นะครับ เพื่อนๆคิดว่ายังไงแนวคิดนี้

คอมเม้นที่ไปเจอมา
ขออธิบายนะครับ ผมคนนึงที่ปฏิบัติที่มาจากคนไม่เชื่อมาก่อน บอกได้คำเดียวกลางๆไว้ครับ ถ้ายึดว่าเชื่อไม่เชื่อ มันคือการยึดซ้ายขวา เวลาเข้าสมาธิฝรั่งเรียก Meditation มันคือวิทยาศาสตร์ด้านคลื่นสมองบำบัดที่มีอยู่ในสากล เพียงแต่จะสังเกตหรือปล่อยผ่านไม่ให้ค่า การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องความเชื่อครับ อภิญญาอะไรนั่นคือของแถม ศาสนาพุทธก็ไม่ได้ให้ค่าเพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้น แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ต้องเชื่อใครก็ได้ครับ กลางๆไว้ก่อน หลังจากพิจารณาจนตกผลึกถ้าสมเหตุสมผลหรือไม่สมเหตุสมผลแล้วเราจะรู้เองว่าควรเชื่อหรือไม่เชื่อครับ ทางศาสนาเรียกว่าปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนแต่ต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนไม่มีทางลัดแบบกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์(เข้าหลักอริยสัจ4) ส่วนหลักฐานคือผลจากการทดลองครับ(มรรค) ทุกๆความไม่รู้ที่เกิดขึ้นหรือทุกๆปัญหาที่เราตั้งคำถามย่อมมีทางออกหรือSolutionหรือจุดดับของมัน และสิ่งที่เรารู้ หลักฐานที่เราเจอก็ดับได้เช่นกันหากมีความรู้ใหม่ๆ หลักฐานใหม่ๆอัพเดท เพราะความรู้และไม่รู้ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าโดยมีตัวแปรคือระยะเวลาหรือTiming(เข้ากฎไตรลักษณ์) มันก็แฝงกุศโลบายด้วยคือให้มีสติ ตื่นรู้ รู้จักใช้ปัญญาพิจารณาบ่อยๆให้เกิดนิสัย เป็นต้น ผมคนนึงเคยตรรกะสมองซ้ายจัดมาก่อน ผมเอะอะก็หลักฐานอย่างเดียวเหมือนกัน บางคนต่อให้เจอหลักฐานก็ยังไม่เชื่อเพราะใจมีอคติไม่เป็นสภาพกลางก็มี แต่ก่อนจะเชื่อหลักฐานมันก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณาก่อนพระพุทธเจ้าจึงสอนว่าอย่าเชื่ออะไรก่อนจะได้ลองด้วยตัวเองแม้แต่ครูบาอาจารย์หรือพระพุทธเจ้าเอง(พูดง่ายๆใช้ทั้งสติปัญญาพิจารณาก่อนทุกดอกทุกโมเมนต์จริงๆ)


ธรรมะ(พุทธ)=พูดเรื่องธรรมชาติ
เช่น กรรม(การกระทำ)=ผลกรรม

วิทยาศาสตร์=อธิบายธรรมชาติ
เช่น Action(การกระทำ)=Reaction
เค้าถึงบอกว่ามันคือสิ่งเดียวกันครับ

ศาสนาแปลว่าทางรอด
แต่ศาสนาพุทธคือศาสนาแห่งปัญญาไม่ใช่ศาสนาแห่งความเชื่อ=ทางรอดด้วยสติปัญญา

เอาแค่ให้รู้ประมาณนี้ก่อนครับ เบื้องต้น เพราะมันเทียบในระดับควอนตัมได้ด้วยแต่นั่นเป็นเชิงลึก อธิบายไปคนไม่ฝึกจะไม่เข้าใจ

หัวข้อที่จขกท ถามค่อนข้างดีนะ การตอบก็ควรจะมีความรู้ทั้งสองส่วนถึงจะพอเปรียบเทียบได้

หลายคนรู้เรื่องพุทธศาสนาเพียงผิวเผินเพียงเปลือกนอก ทำไมตอบด้วยความมั่นใจขนาดนั้น

ไม่วิทยาศาสตร์ตั้งแต่ ดอกบัว7ก้าวอะไรนั่นแล้ว

ถ้าจะเรียก ควรเรียกว่า ปรัชญามากกว่า

ปรัชญา ไม่เท่ากับ วิทยาศาสตร์

ก็ทำนองเดียวกับ อริสโตเติลอะ

ก็มีอธิบายธรรมชาติ ตามความเข้าใจของตัวเอง ในยุคนั้น

แต่ไม่เคยพิสูจน์ว่าจริงไหม ก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง

ก็ถือว่า เป็นนักปรัชญา

ไม่วิทยาศาสตร์ตั้งแต่ ดอกบัว7ก้าวอะไรนั่นแล้ว

ถ้าจะเรียก ควรเรียกว่า ปรัชญามากกว่า

ปรัชญา ไม่เท่ากับ วิทยาศาสตร์

ก็ทำนองเดียวกับ อริสโตเติลอะ

ก็มีอธิบายธรรมชาติ ตามความเข้าใจของตัวเอง ในยุคนั้น

แต่ไม่เคยพิสูจน์ว่าจริงไหม ก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง

ก็ถือว่า เป็นนักปรัชญา

วิทยาศาสตร์มันสดใหม่และร่วมสมัยกว่าครับ หาทฤษฎีมาหักล้างกัน อันไหนพิสูจน์ได้ก็พิสูจน์กัน แล้วยอมรับ หักล้างทฤษฎีเก่าไป มันดูแฟร์ดีตามยุคตามเทคโนโลยี ซึ่งจับต้องได้มากกว่าศาสนาที่เชื่อต่อๆกันมากี่ร้อยกี่พันปี เปลี่ยนกฎอะไรก็ไม่ได้ ไอ่คนสอนก็สอน คนรับฟังก็ฟังอย่างเดียว จะไปโต้แย้งอะไรได้ คนตั้งกฎตายมาเป็นพันปีแล้ว
เว้นเสียแต่ว่า ไปโคลนพระพุทธเจ้าขึ้นมาใหม่ แล้วมาปรับเปลี่ยนกฎ ถึงเวลานั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน

อยากรู้เลยว่าศาสนาพุทธ กับ ควอนตัมมีความคล้ายกันทางความเชื่อยังไง

ธรรมะ(พุทธ)=พูดเรื่องธรรมชาติ
เช่น กรรม(การกระทำ)=ผลกรรม

วิทยาศาสตร์=อธิบายธรรมชาติ
เช่น Action(การกระทำ)=Reaction

สิ่งนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย ยิ่งถ้ายกคุณสมบัติของกฎนิวตันมากางจะยิ่งชัดเจนว่าไม่ใกล้เคียงกัน แค่อุปโลกเพราะคำไทยมันใกล้ๆ กันเฉยๆ


ถ้าพระพุทธเจ้าอยู่ในยุคหลังๆ จะมีความคล้ายอริสโตเติลคือนักคิด นักปรัชญา(ก็นั่งเฉยๆ 6 เดือนไม่ฟุ้งไงไหว บางคนคืนเดียวก็ฟุ้งไปไกลแล้ว) แต่รายนั้นมีนักวิทยาศาสตร์มาคอยพิสูจน์แนวคิด แล้วแสดงให้เห็นเชิงประจักษ์

ส่วนตัวผมมองว่า พุทธศาสนาเป็นปรัชญาแขนงหนึ่ง หรือจะเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งก็ได้

ความพยายามโยงพุทธศาสนา=วิทยาศาสตร์มันเป็นเหมือนกับความพยายามปรับตัวให้เข้ากับยุค ใช้คำแรงหน่อยคือ โหน

วิทยาศาสตร์เป็นรูปแบบและกระบวนการพิสูจน์ แต่การฝึกจิตนั้นต้องรู้ด้วยตนเองไม่สามารถสอนให้ใครเข้าใจได้จนกว่าเขาจะเรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วมันจะเป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร

ผมมองว่าเรื่องสมาธินั้นยังต้องใช้เวลาอีกมากในการพิสูจน์ การฝึกจิตมันผันผวนเกินไป องค์ความรู้นั้นถูกถ่ายทอดมาแบบปากต่อปากมากกว่าการใช้การจดบันทึกอย่างมีระเบียบ ส่วนมากเป็นการบอกเล่าความรู้สึกมากกว่า ทีนี้มันไม่มีคนมาบันทึกว่า มีกี่คนที่รู้สึกเช่นนั้น และไม่มีการหาสาเหตุของความรู้สึกหรือประสบการ์ณทางสมาธิอย่างเป็นรูปธรรม ฉนั้นผมมองว่ามันไม่วิทย์ศาสตร์เลย การที่คนพยายามโยงควอนตัม ... เขาจะรู้ไหมว่ามีเครื่องคำนวนทางควอนตัมแล้ว และถ้ามันคำนวนได้ มันต้องหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

ศาสนา แค่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับคนไม่มีทางไปเท่านั้น กับ สอนให้คนทำความดี ไม่มีอะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย
ปัจจุบัน พุทธศาสนา = พุทธธุรกิจ กับ ให้บางพวกหาเงินเท่านั้น พระดีๆก็มี แต่ก็เหมือนตำรวจแหละ

ไปหาดูใน Youtube ช่องวิทยาศาสตร์ ไม่ต้อง Youtube เอาทุกเรื่องในโลกอินเตอร์เน็ต ชาวพุทธต้องโยงเข้าหาตัวเองให้ได้ เสมือน ว่าพุทธ เป็นเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลทุกๆสิ่งหมุนรอบตัวเอง ต้องได้โยงเข้าหาตัว

ทั้งๆที่ จักรวาลของพุทธ กับ วิทยาศาสตร์ คนละจักรวาล ทุกวันนี้ชาวพุทธอ้างถึงความเป็นเหตุผล ความเป็นวิทยาศาสตร์ ก็เหมือน 2 ชุดความคิด/ 2 วาทกรรม ที่พยายามแข่งขันกันช่วงชิง ทางพุทธพยายาม เคลม เป็นของตัวเอง ซึ่งตามที่บอกข้างต้น พุทธจะมีเรื่องปรัมปรา จักรวาลก็คนละความหมายกัน เดินได้ 7 ก้าว เหาะเหินเดินอากาศถอดจิต บลาๆ ซึ่งไปคนละเวย์กับวิทย์ แต่ก็นะพยายามโยงเข้าหาวิทย์ ว่า นี่วิทย์เป็นส่วนหนึ่งของฉันนะ

ไปหาดูใน Comment ช่องยูทูป/pantip เรื่องวิทยาศาสตร์ได้ ต้องมีพวกพวกพุทธ เอาๆไปโยง เอาไปเคลม เอาดีเข้าหาพุทธ ว่านี่ไปยังไงเป็นส่วนหนึ่งของพุทธนะ ตูละหน่าย

เออไอ้เดิน7เก้าคนพุทธหรืออะไรเขาก็รู้ว่ามันคือเรื่องแต่งมันคือนิทานนะ

มีแต่ไอ้พวกจะปั่นนั่นแหละ ที่เอาเรื่องนี้มานะ

แล้วเอามาสอนในหลักสูตรเพื่อ?

ศาสนาพุทธที่ยังอยู่ได้เดียวนี้เพราะมีคำสอนลักษณะการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอยู่ แต่มันก็ไม่ได้ตามสมัยทัน เหมือนนักคิดคำสมัยนี้แบบพวกนิ้วกลม และอีกหลายๆ คน
ศาสนาในทางที่เกี่ยวกับจิต สมอง สมาธิ มันก็ไม่ได้สูงส่งเท่าเก่าเพราะวิทย์สายแพทย์ปัจจุบันอ่านคลื่นสมองจนรู้ละเอียดเกินกว่านั้นกันไปแล้ว จนทุกวันนี้อีลอนฝังชิพเข้าไปควบคุมสมองสิ่งมีชีวิตอื่นแล้ว

ไม่จริงถ้าคุณหาเหตุผลมาหักล้างพุทศาสนาคุณจะเป็นคนบาป แต่ถ้าเอาเหตุผลไปหักล้างวิทยาศาสตร์ได้คุณเป็นคนเก่ง
เอาแค่จุดยืนก็ต่างแล้ว
ยิ่งไอ้เรื่องกรรมนี่หนักเลยก็เห็นๆกันอยู่ในปัจจุบันว่ามันใช่ที่ไหน

มันก็มีหลายอย่างที่ ปญอ อยู่ในหลักสูตรครับ

ต้องระบุให้ชัดว่า พุทธศาสนา ที่ท่านถามเนี่ย
= พุทธศาสนา ที่เป็นคำสอนของกลุ่มไหน
เถรวาท
ไทยเถรวาท
มหายาน
คำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า
ถ้าในตัวคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า มีแนวทางแบบวิทยาศาสตร์\มนุษย์นิยม\อเทวนิยม แน่นอนครับ

จากที่ผมบวชมา 1 พรรษา เคยเดินธุดงค์ในทุ่งใหญ่

ขอตอบว่า บุดด้า คือบุคคลที่เข้าใจหลักธรรมชาติได้อย่างดีคนนึงครับ