รถEV ควรรอกี่ปีถึงซื้อใช้จริงจัง

ไม่น่าต่ำกว่า 5 ปีนะ

กว่าจะรออะไหล่หรือ พวกศูนย์บริการที่แพร่หลาย

ไหนจะพวกฝีมือช่างซ่อมอีก

ดีไม่ดี 10 ปีเลยครับ

เมื่อไหร่ปั๊มน้ำมันมีหัวจ่ายไฟมากกว่าหัวจ่ายน้ำมันเมื่อนั้นถึงจะคิดซื้อครับ

รอให้ มีแบตวิ่งได้ 500กิโลเมตรเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ ชาร์ตไว ไม่เกิน 15 นาที มีสถานีชาร์ตทั่วประเทศ ไม่ต้องรอต่อคิวยาว

เอาจริงๆ อยู่ที่ มุมมองว่า ซื้อรถ EV มาใช้เพื่ออะไร ? อย่างเพื่อนผม ซื้อมาเพราะอยากประหยัดค่าน้ำมัน
ผมมองว่า ใช้ก่อน คุ้มก่อน ..ดูจากรายเดือนที่เสียไปเพราะรถน้ำมันค่อนข้างมาก จากเดือนละ 6-7พัน
เหลือค่าชาร์ตไฟรถ EV ที่เพิ่มมาเดือนละ 8-9ร้อยบาท หากนับเรื่องการประหยัด ก็คุ้มตั้งแต่เริ่มใช้เลยยย

อยู่ประเทศโลกที่1ซื้อได้เลย อยู่ไทยรออีกสิบปี

แย่งที่ชาจจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมต่ำเกินไป ถนนโลกที่สามไม่รู้อีก5ปีแบตจะมีสภาพไหน ชาจตามห้างชาตหลอกเอาที่จอดเฉยๆ ชาจเต็มแต่ไม่มาขนับเพราะเสียที่จอดไม่หาใหม่ วนๆลูปไป

5-10ปี+

ถ้ามีรถน้ำมันใช้อย่างน้อย 1 คัน ซื้อได้เลยครับ ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานก็พร้อมระดับนึงแล้ว

สัก 3-4 ปีน่าจะพอได้ ถ้ากราฟยังเป็น exponential แต่ถ้ากราฟเป็น linear อาจจะต้อง 5 ปี++ เลย

สำหรับตอนนี้เลยก็ได้ถ้าเงินพร้อม

ไทยมีความพร้อมนะ
ตอนนี้คนที่ใช้ จองไว้ สนใจ อีวี ไม่ค่อยกังวลเรื่องตู้ชาร์จกันแล้ว
ยกเว้นคนที่ข่าวสารเป็นชุดเก่าอยู่ (ไม่ได้ผิดนะ)
ใช้ก่อน ประหยัดก่อน เท่านี้เอง
เทสลา สร้างอีวี ตัวแรกที่ขายจริงจัง 2017
มาถึงปีนี้ เทคโนโลยี่เดินทางมาถึงจุดหนึ่งแล้ว
ทำไม หลายๆค่ายต้องมีโปรเจครถไฟฟ้าละ? เพราะมันมาแน่ๆครับ
หลายประเทศถึงกับบอกว่า ปีนั้นปีนี้จะเลิกใช้รถน้ำมัน
ขณะที่ไทยเอง ดันสุดลิ่ม ปลอดภาษี มีเงินอุดหนุน ให้สร้างโรงงาน
เหล่านี้ ณ ปัจจุบัน มันเร็วมากนะ 271% คือจำนวน อีวี ที่เพิ่มจากปีที่แล้ว
ทำท่าจะไม่หยุดแค่นี้
ลองหันมาดูข้อมูลสักนิดไม่เสียหายครับ อะไรทำให้มันมาได้ขนาดนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ใครจะสันดาปภายใน ใครจะ ไฮบริด หรือ อีวี
“ล้วนแต่เงินใครเงินมันทั้งนั้น”
เอาที่ตัวเองสะดวกครับ

ซื้อตอนนี้เลยก็ได้แต่ต้องไม่ใช่รถคันเดียวของบ้าน

จากข่าวรถค่ายนึงล้านต้นๆ
แต่ค่าซ่อม
เฉพาะค่าแบต ปาไปเกือบ9แสน

เท่ากับรถคันนี้ห้ามแบตพัง ไม่งั้นยับแน่ๆ

ผมคงรออย่างน้อย5ปีน่ะครับ
รอค่าแบตถูกกว่านี้ก่อน

จริงๆคือไม่ต้องรอแล้ว ซื้อได้เลย ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ
1. อยู่บ้านติด wall charge ได้ อยู่คอนโดไม่ได้
2. แทบไม่ใช้ไปต่างจังหวัด หรือมีคันอื่นใช้แทนได้
ถ้าต้องไป


ตอนนี้ราคารถไฟฟ้าถือว่าอยู่ในจุดที่ราคาสมเหตุสมผลแล้ว
(เพราะไม่มีภาษีนำเข้า)

เรื่องชาร์จไฟ ถ้าชาร์จที่บ้านทุกวันไม่มีปัญหาเลย
แถมเดี๋ยวนี้ชาร์จ DC 15 นาทีวิ่งได้อีก 100km

มีเงินมีบ้านติดที่ชาร์จได้ก็ตอนนี้เลย มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรขนาดนั้น