ขำผลโพล คะแนนกระจายจัด

หลัง 5 หรือนานกว่านั้นคับ เมื่อไรที่ยังไม่มีที่ชารจทั่วประเทศ, ช่างยังซ่อมไม่เป็น และยังไม่เห็นประเทศที่พัฒนาแล้วใช้อย่างกว้างขวาง ผมรอเรื่อยๆ ยังไม่ได้เดือดร้อนกับการจ่ายค่าน้ำมัน

และพอดีมีเพื่อนอยู่ ea กับ ปตท หน่วย ev ก็พูดเหมือนกัน ว่าอย่าใช้เลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับ การใช้งานส่วนบุคคลนะครับ คหสต

ถ้ารักษ์โลกก็ซื้อได้เลย แต่ถ้าคิดว่าประหยัดกว่าผมว่าไม่ประหยัดนะ
- ราคาเริ่มต้นต่างกันเท่าไร
- แบตเตอรี่ใช้ได้กี่ปี ราคาลูกละเท่าไร (ขายต่อยาก ทุกคนกลัวราคาแบตเตอรี่)
- ประหยัดค่าน้ำมันเท่าไร
บวกลบแล้วไม่น่าประหยัดกว่า รถ EV ไม่น่าจะอยู่นาน น่าจะโดนรถไฮโดรเจนเข้ามาแทน

ถ้าวิ่งใกล้ๆซื้อได้เลย(ชาทบ้าน) ถ้าวิ่งไกลๆรอให้มีฟาสชาททุกอำเภอ

จริงจังตอนนี้ก็ใช้ได้นะ ถ้าที่พักมีที่ชาร์จ

มีงบถึง ตัวท๊อป พวก BYD หรือ Tesla จัดเลย ไม่ต้องรอ

ถ้ายังไม่ถึง รอไปก่อน

ผมไม่ได้กังวลเรื่องที่ชาร์จเลย เพราะตั้งใจว่าจะเอามาใช้เป็นรถในเมืองอยู่แล้วก็ขับมาจอดบ้านชาร์จเอาไม่ต้องไปชาร์จข้างนอก คันเล็กที่บ้านผมถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วแต่ตอนนี้ยังไม่มี ev คันเล็กๆ แบบที่อยากได้ออกมา
ก็รออันนี้หนึ่งอย่าง
กับอีกอันที่รอดูก็คือเรื่องประกันกับศูนย์นี่แหล่ะ อยากรู้ว่าจะยังไง เคลมยังไง ครอบแบทเผยอตีเป็นเปลี่ยนแบต อย่างงี้ไม่โอเค ไปตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนว่าเอาไงจะจัดการกันยังไง เอาให้สรุปกันได้นิ่งๆ รอดูคนอื่นเคลมแล้วไม่มีปัญหาค่อยว่ากันอีกที
จริงๆ มีอีกอย่างที่รอดู แต่อันนี้ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ คือรอดูตอนเลิกใช้ว่ามีวิธีจัดการยังไงมั่ง ขายต่อสะดวกไหม มีคนรับซื้อไหม หรือต้องเอาไปเทิร์นเป็นรถไฟฟ้าคันใหม่ไปเรื่อยๆ หรือยังไง เพราะตอนนี้ผมมองรถ ev ว่ามันเหมือนมือถืออะ คือไม่ใช่แค่เรื่องแบตเสื่อมอะไรอย่างเดียว แต่มันมีซอฟท์เเวร์อะไรด้วย มันจะเหมือนไอโฟนสี่ไหม ที่ถึงจุดนึงมันอัพอะไรไม่ได้แล้วถ้างั้นจะทำยังไง ขายต่อคงไม่ได้
อันนี้อยู่นอกเหนือความคุ้นเคยจากรถน้ำมันที่ต่อให้เป็นรถเก่าสี่ห้าสิบปีถ้าจะขายก็ยังขายได้อยู่

ผมซื้อมาแล้ว คุ้มครับ
อยู่ที่กิจวัตรประจำวันท่านเลย ถ้าใช้รถวันละไม่เกิน350 โล
กลับมาบ้านเสียบชาร์จ เช้าก็เต็มแล้วครับ
ไม่จำเป็นต้องชาร์จสถานีข้างนอกเลย ยกเว้นนานๆ จะเอารถไปเที่่ยวต่างจังหวัด ก็วางแผน หาสถานีชาร์จ ล่วงหน้าไว้หน่อย ทุกๆ 300-350 กิโล ที่กะแค่นี้ เพราะเผื่อต้องวนหาสถานีฮะ

ผมอยากได้ฟอดมัสแตงครับ

ปัญหาคือเรื่องอะไหล่มากกว่านะ ถ้าสามารถจัดการปัญหานี้ได้ ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา ตอนนี้ใช้อะได้ แต่อย่าไปชนหรือเป็นอะไรหนักๆนะ จริงๆวางแผนผลิตรถไม่ใช่แค่ผลิตรถออกมาแต่ต้องมีอะไหล่สามารถรองรับได้ด้วย เคยเข้าอบรมของโรงงานนานมาล่ะว่า % อะไหล่ที่มีต่อรถรุ่นนึงต้องเท่าไหร่จำมะได้ล่ะ

5++ ครับ

ถ้าเอาสายชอบความท้าทาย 5 ปี
ถ้าชอบความแน่นอน 10 ปี
ถ้าหุนหันพลันแล่นและเงินเหลือ จะซื้อเลยก็ได้

ถ้ามองว่า มันต้องทดแทนรถน้ำมันได้ทั้งหมด
- ใช้ประจำวัน
- ใช้ไปนานๆ บำรุงรักษาได้
- ใช้เดินทางไกล
- ความทนทาน สเถียรภาพของรถ
10 ปีชัวร์ๆ ครับ ถึงจะมีคำตอบที่แน่นอนกับคำถามพวกนี้

ถ้าตัดตัวเลือกบางอย่างทิ้ง เช่นการเดินทางไกล สเถียรภาพรถ ก็รอซัก 5 ปี
ถ้า สนแค่วันนี้ มันเป็นรถ วิ่งได้ ไม่มองระยะยาว ก็ซื้อวันนี้

ถ้าคิดว่าเหมาะกับตัวเอง กับ life style ไม่ติดขัดเรื่อง ชาร์จไฟฟ้า

คิดว่าซื้อตอนนี้เลยก็ได้นะครับ

ส่วนผม รถสันดาบ ต่อไปเพราะขี้เกียจชาร์จไฟ ช่วงนี้อยู่คอนโดบ่อยด้วยเติมน้ำมันทีเดียวจบ ไม่ต้องไปหาที่ชาร์จ

มันพร้อมแล้วครับ อยู่ที่ตัวคุณเอง พร้อมหรือยัง?

- อยู่บ้าน สามารถชาร์จบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องติด Wall Charge ด้วยซ้ำ ที่ชาร์จแถมโง่ๆ กับปลั๊ก3ตา ก็ใช้ได้
เพราะความจริง ชีวิตคนเมือง ขับรถวันนึงไม่ถึง 100km กลับถึงบ้าน 2-3ทุ่ม ชาร์จไป 10ชม. ออกจากบ้าน 6 โมง ก็ได้มาเกือบเต็มละ

- รถ EV ยิ่งรถติด ยิ่งประหยัด ถ้ารถน้ำมัน นอกจากเครียดรถติดแล้ว ยังต้องเครียดว่ามันเปลืองน้ำมันด้วย แต่กลับกัน วิ่งไกลๆถนนโล่งๆจะเปลืองกว่า

- ถามว่าจะมาแทนที่รถน้ำมันเลย มันไม่มีทาง อย่างมากคือ 50/50 และจะไปกระจุกอยู่ในเมือง

- สถานีชาร์จ? จริงๆไม่ได้จำเป็นเลย เพราะอย่างที่บอก รถไฟฟ้า ณ วันนี้ เน้นใช้ในเมือง นานๆออกตจว.ที ก็ไปสถานี บอกเลยว่าไทยถือว่าสถานีโคตรเยอะแล้ว infrastructure ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอคนอย่างเดียว

- แบตาราคาเท่าไร ???
คุณซื้อรถมาเปลี่ยนแบตเหรอครับ? มือถือคุณเปลี่ยนแบตไปรึยังละ? รถยนต์คุณต้องเปลี่ยนเครื่องด้วยมั้ย ? ถ้าไม่ได้ใช้แบบแทกซี่ คุณใช้ได้สบายๆในระยะประกัน 8-10ปี ไม่ต้องเปลี่ยน ทีรถน้ำมัน ประกันให้แค่ 3 ปี ไม่เห็นมีใครบ่น

- คนที่ได้ลิ้มลองรถไฟฟ้ากลุ่มแรกคือคนมีตัง มีรถสำรอง เค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว แต่คนที่เดือดร้อนแทน คือคนที่ไม่ได้ใช้ เสพแต่ข่าวแย่ๆ ที่เป็นกระแสเป็นช่วงๆ ก็จะมองแต่แง่ลบ

- ผมมีเพื่อน 2 คน ทั้ง 2 คน คือ stereotype คนที่ไม่เคยใช้รถไฟฟ้า กังวลแบบข้อด้านบนทุกข้อ พูดเสียงเดียวกัน ว่าปัจจุบันยังเร็วไป ต้องรออีก 5 ปี+ บลาๆๆๆ แต่ผมกล่อมทุกวัน เพราะดู lifestyle แล้ว เหมาะกับรถไฟฟ้ามากกว่าผมซะอีก จนได้ไปลองจริง จากมีแผนเปลี่ยนรถอีกเป็นปี กลายเป็นรีบหารถมาขับให้เร็วที่สุด สีไหน ศูนย์ไหนก็ได้ ทุกวันนี้ชีวิตดี ไม่มีคชจ.เรื่องรถเลย ขับกลับบ้านตจว.ใกล้ๆ ก็ไม่ต้องชาร์จ อย่างมากชาร์จครั้งนึง 100 กว่าบาท เข้าห้องน้ำออกมาก็ไปต่อได้ละ จากนานๆกลับบ้านที กลายเป็นกลับแทบทุกวีคแล้ว ญาติพี่น้อง ที่ด่าๆกัน ก็กลับมาแย่งกันใช้ จนออกรถตามๆกันหมด

- ถ้าคุณได้ลอง คุณจะไม่มีวันกลับไปรถน้ำมันอีกเลย แล้วที่ว่าเป็นติ่งเหม็นน้ำมัน มันเป็นงั้นจริงๆ ขับรถเงียบๆไม่มีเสียงเครื่องรบกวน กลิ่นน้ำมันก็ไม่มี จอดแช่ในบ้านยังได้ พอเห็นรถน้ำมันเก่าๆ เหม็นๆ ท่อดังๆ ล้อไม่หมุน มันจะพาคิดไปว่าทำไมมันล้าสมัยงี้วะ ??

โชคดีครับ

เคยคุยกับผู้บริหารหลายท่านในบริษัทกลุ่มพลังงานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รถ EV แค่ทางผ่าน เพราะถ้าเปลี่ยนมาใช้กันจริงจัง battery จะมีไม่พอ ตอนนี้เค้าวิจัยรถจากพลังงานไฮโดรเจนอยู่มีทั้งจากค่ายญี่ปุ่นและยุโรปแต่ยังไม่สำเร็จพร้อมใช้

อย่างไรก็ดีผมว่าระหว่างนี้ถ้าอยากประหยัดค่าน้ำมันและมีเงินเหลือก็ซื้อรถ EV ได้ตามอัธยาศัยเลยครับ

คนพร้อม เขาก็ออกรถไฟฟ้ากันเยอะแยะนะครับ

ไม่เห็นต้องรอเลย ยิ่งถ้าอยู่กทม.(มีบ้าน) ยิ่งสบาย