หมายถึงธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ก็คือ การสืบพันธุ์ เพื่อให้เผ่าพันธุ์อยู่รอดต่อๆไป เท่ากับแนวคิดรักเดียวใจเดียวทำให้การสืบพันธุ์ของมนุษย์ลดต่ำลง (มีเมียเยอะย่อมมีลูกได้ทีเดียวจำนวนมากกว่า) เท่ากับเป็นแนวคิดที่ฝืนธรรมชาติมั้ยครับ

มีลูกทิ้งๆขว้างๆมันจะมีผลต่อการอยู่รอดของลูกน่ะครับ ธรรมชาติเลยคัดสรรมาให้มนุษย์อยู่กันเป็นคู่ ช่วยกันเลี้ยงลูก

ช่ายครับ เราต้องน้อมนำคำสอน

ใช่
แต่ไม่ได้มีผลต่อการสืบเผ่าพันธุ์โดยรวม มันอยู่ที่คุณภาพ มีเยอะประชากรล้นแต่ไม่มีคุณภาพก็ยิ่งแย่

ส่วนตัวคิดว่าไม่ครับ

สังเกตจากการดูครอบครัวที่เป็น Polygamy ส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นพวกท็อปๆทั้งฐานะและหน้าตา ต่อให้มีลูกเยอะก็คงไม่ได้สืบพันธุ์ให้รุ่นต่อไปมีคุณภาพเท่าไร

ครอบครัว Monogamy ปกติน่าจะช่วยดำรงให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เรามีคุณภาพต่อไปเรื่อยๆมากกว่า

แล้วจะมีมนุษย์เยอะๆไปทำไม

ในเมื่อมนุษย์ไม่ได้มีศัตรูทางธรรมขาติมาทำให้ตาย แถมอายุยืนกว่าชาวบ้านเค้าอีก

ก็ต้องตอบว่าเป็นการฝืนธรรมชาติครับ
- สัตว์เกิดมาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ขยายพันธุ์
- มนุษย์ต่างจากสัตว์ทั่วไป คือมีสิ่งที่เหนือว่าสัญชาตญาณคือศาสนา
- ลองย้อนกลับไปที่ลิงสิครับ ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด จ่าฝูงจะมีเมียเยอะระดับฮาเร็มเลย
- กลับมาพูดถึงศาสนา ที่ให้ผัวเดียวเมียเดียวเพื่อลดปัญหาการแย่งกันหรือการบาดหมางกัน

ผมว่ามันคือแนวคิดที่เป็นการ"ควบคุมปัญหา"ที่ดีนะ จริงที่สิ่งมีชีวิตต้องสืบพันธ์เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ แต่มันช่วยให้

เราไม่ได้สืบพันธุ์ไปเรื่อยเปื่อยไม่งั้นปัญหาที่ตามมามีเยอะไปหมดประชากรล้น ประชากรไม่มีคุณภาพ ทรัพยากร

ไม่พอบลาๆ เพราะมนุษย์ไม่ได้มีศัตรูทางธรรมชาติที่ชัดเจน คนต่างจากสัตว์ตรงเรารู้จักควบคุมบ้างนี่แหละ

ไม่ครับ เพราะธรรมชาติสร้าง ช กะ ญ มาให้ปริมาณพอๆ กันอยู่แล้ว มีลูกส่วนใหญ่ก็ครั้งละคน สมมุติมี ช 5 ญ 5 ถ้าผู้ชาย 1 คนมีเมีย 5 คน แล้ว4 คนที่เหลือหละครับ หรือถ้าทั้ง 5 คนสลับคู่กันทุกคน มันก็ไม่ทำให้ประชากรเพิ่มกว่าการ 1-1 อยู่ดี

แต่ทุกวันนี้คนไม่อยากมีลูกกันด้วยซ้ำ ไม่รู้อันนี้เรียกฝืนไหม

ช ปริมาณการเกิดน้อยกว่า ญ นะครับไม่เท่ากันเลยประชากรในตอนนี้

ถ้าจะมองเรื่องธรรมชาติการสืบพันธุ์ขยายเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ผมว่าการคุมกำเนิดเป็นตัวสำคัญในการฝืนธรรมชาติมากกว่าเรื่องรักเดียวใจเดียวนะ

แต่ก็ล้เวยังไง ในเมื่อมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีปัญญามากที่สุดในโลก ฉะนั้นคิดอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปทำตามที่ธรรมชาติกำหนดเหมือนสัตว์อื่นๆหรอก

ถ้าถามผมๆ ว่า "ใช่" นะครับ ฝืนธรรมชาติ

แต่..หลายๆ คนคงนับถือศาสนาพุทธและถือศีล 5 ที่เป็นหนทางจะไม่เป็นทุกข์ ซึ่งถ้าเรานับถือศาสนา เราจะไม่ทำ (เพราะทำไปก็เป็นทุกข์ ไม่ทุกข์กับเราก็ส่งต่อไป)

ซึ่งนี่ทำให้เราแตกต่างจากสัตว์ และแยกเราออกจากพวกเดรัจฉานทั้งหลาย ทั้งๆ ที่เราก็เห็นว่าครอบครัวแตกแยกเป็นไง ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่มันเป็นยังไง แบบนี้เราควรทำตามธรรมชาติและเห็นแก่ตัวอยู่อีกไหม?

ต้องถามก่อนว่าอะไรคือธรรมชาติล่ะ

ความถูกผิดมันก็มาจากกฎเกณฑ์ของสังคมที่สิ่งมีชีวิตนั้นๆพัฒนากันขึ้นมา
เพราะงั้น ผมว่าธรรมชาติมันพัฒนาหลากหลายได้

ถ้าคุณถามถึงธรรมชาติของมนุษย์ แสดงว่ามีหนึ่งเดียว มนุษย์พวกไหนไม่ทำแบบนั้นคือผิด ซึ่งจะว่าไปถ้าพูดถึงสัตว์ ผมว่าสัตว์ชนิดเดียวกันสมมติเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียวมันก็ต้องมีพวกหลายผัวหลายเมีย หรือ สัตว์หลายเมียมันก็ต้องมีตัวที่ชอบมีเมียเดียวแน่ๆ

อย่างเคยอ่านในพันทิป มีแถวๆน่าจะทิเบต ภูฐาน แถวนั้นผู้หญิงจะมีสองผัว เพราะแถวนั้นประชากรน้อย ผู้ชายต้องไปขายผ้าไกลๆนาน เข้าใจว่าแต่ก่อนโอกาสตายสูง ถ้าผัวตายเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาวก็ลำบาก หมดโอกาสขยายพันธ์อีก เลยพัฒนาทางสังคมให้หญิงมีหลายผัว ผู้ชายก็จะผลัดกันทำงานใกล้บ้านไกลบ้าน ใกล้บ้านเพราะปลูกล่าสัตว์ แล้วก็เดินทางไปขายของซื้อของไกลๆ สลับกัน มีช่วงหลับนอนสลับกัน เวลาลูกออกมาก็ช่วยกันดูแล แต่ก็รู้ว่าลูกใครแหละ แล้วเค้าไม่ได้มีกันมั่วซั่ว มันก็มีกรอบศีลธรรมกรอบความประพฤติกำกับอยู่ ถ้าเอาธรรมชาติมาจับแล้วสรุปว่าคนต้องผัวเดียวเมียเดียวก็แสดงว่าพวกเค้าผิดธรรมชาติ ซึ่งผมว่าไม่ใช่

ผมจึงสรุปว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติ ธรรมชาติเรื่องนี้ไม่มี เป็นเรื่องที่สิ่งมีชีวิตพัฒนากันขึ้นมาเองตามสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิต บางทีก็หลายผัวหลายเมีย บางที่ก็ผัวเดียวเมียเดียว

แต่ที่พิสดารคือมีประเทศที่ยึดคุณธรรมผัวเดียวเมียเดียว แต่คนที่ชาวบ้านยกย่องว่าเหนือกว่าผู้ใด มีบุญมีวาสนา มีคุณงามความดี มีคุณธรรม กลับมีหลายเมียโดยไม่สนศีลธรรม กฎเกณฑ์ใดๆในสังคมทั้งสิ้นแต่สังคมก็ยังคงยกย่องเค้า

ประชากรโลก ชายมีมากกว่าหญิงนะครับตอนนี้
ประชากรไทย ผู้หญิงมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่กี่คน หญิง 100 ต่อผู้ชาย 90 กว่าๆมัั้ง

เด็กเกิดใหม่นี่ผมไม่ทราบจริงๆ แต่คิดว่าไม่ได้ต่างกันขนาดให้ ช 1 คนต่อ ญ หลายคนได้นะ ผมเลยใช้คำว่าพอๆ กัน

ปริมาณการเกิดไม่น่าจะต่างกัน แต่มีช่วงที่ประชากรชายน้อยกว่าประชากรหญิงเพราะผู้ชายตายไปมากในสงครามมากกว่าครับ