ทีมเล็กเจ้าของทีมไม่รวยมาก ซื้อตัวก็ยาก นักเตะเก่งๆก็ย้ายมายาก

โอกาสลืมตาอ้าปากก็ยากตาม บางครั้งก็เห็นใจทีมเบี้ยน้อยหอยน้อย

จริงๆควรกำหนดไปเลยว่าใช้จ่ายแบบ maximum การซื้อแต่ละปี

อย่างน้อยไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกันเกินไป ทุกทีมต้องเท่าเทียมกัน

ยกเลิกก็ดีกับทีมใหญ่ครับ ลงบัญชีชัดๆเลยว่านำเงินส่วนตัวหรือเงินจากที่อื่นเข้ามา อย่างนี้ก็คงไม่มีใครมาปลอมบัญชี

แต่กฎ FFP มันดีสำหรับป้องกันทีมเล็กที่ไม่มีเงินจริง ไปกู้หนี้ใช้เงินอนาคตมา สุดท้ายบริหารไม่รอด ความเสียหายเป็นวงกว้าง

จุดมุ่งหมายคือตามชื่อกฎ แต่อีกแง่นึงคือทีมใหญ่ที่มีเงินความห่างชั้นมันก็จะsnowballไปเรื่อยๆครับ ทีมเล็กที่มีความทะเยอทะยานก็เกิดได้ค่อนข้างยากหรือเจ้าของที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาจริงๆ ซึ่งการพัฒนามันหลีกเลี่ยงการใช้เงินค่อนข้างยาก ทีมเล็กค่อนข้างต้องใช้เวลานานมากๆ แต่ทีมใหญ่ไปไหนต่อไหนกันแล้ว ทีมเล็กต้องพัฒนาไปเรื่อยๆแล้วฟลุ้คได้แชมป์เรื่อยๆแล้วรั้งนักเตะได้อ่ะครับถึงจะเริ่มทัดเทียมทีมใหญ่ได้ การเข้าถึงทรัพยากรทางการเงินทีมใหญ่ได้เปรียบกว่าเห็นๆ เวนเกอร์ยังบอกคิดที่ผลักดันกฏนี้ แต่แกลองคิดอีกแง่นึงคือตามข้างบน

ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดงบต่างๆแบบจขกท.บอก กฏเขาเน้นให้สโมสรโตแบบยั่งยืนมากกว่า แต่ถ้าเข้มไปมันจะเป็นแบบลาลีก้า

จุดประสงค์มันไม่ได้ทำมาเพื่อความเท่าเทียมแต่แรกแล้ว

ซึ่งผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความเท่าเทียมอยู่ดี


ใครทำอะไรได้เท่าไหร่ ก็ควรได้รับผลตอบแทนตามที่ตัวเองทำ มากกว่า

ตอนที่ทีมใหญ่ๆมันพัฒนาทีมจาก 0 ไอ้ทีมที่ร้องไม่แฟร์มันไปทำอะไรกันอยู่ละ มันคิดจะพัฒนาโครงสร้างทีมไหมละ ก็ไม่ทุมแต่จะเอานักเตะพอเล่นได้มาก่อน ฟลุ๊คๆได้แชมป์ค่อยพัฒนา


แบบนี้ ผมถามหน่อยพวกที่เค้าพัฒนาไปไกลเแล้ว ทำไมจะต้องหันกลับมามองทีมที่ไม่ทำอะไรเลยตั้งแต่แรก มันจะไม่อยู่ในสายตาด่วยซ้ำไป ดีแค่ไหนแล้วที่มีกฏมาบังคับมันไว้ เราเห็นกี่ทีมแล้วที่ล้มละลายหายไป กว่าจะกลับมาได้เป็น 10 ปีเพราะอะไรละ เพราะทีมพวกคุณมันใช้เงินเกินตัว และ โครงสร้างทีมมันแย่ไง

ถามว่าไอ้ปัญหาพวกนึ้มันเกิดเพราะใคร ?? เพราะทีมใหญ่ เพราะกฏ หรือเพราะแนวคิดของเจ้าของทีมเอง

มันไม่แฟร์หรอกตอนนี้อะ เพียงแต่เค้าไม่อยากให้ทีมพวกนี้มันหายไปกับการใช้เงินที่มันเกินตัว

ไม่ได้แฟร์ทุกทีม
แต่ดีกว่าไม่มี เพราะช่วยกดเพดานความรวย

ไม่แฟร์หรอก FFP มันแค่ออกมาเพื่อกดหัวทีมอื่นไม่ให้โตขึ้นมาแข่งกับหัวตาราง ไม่ต่างจากกฏหมายผูกขาด

จะบอกว่าให้ค่อยๆปั้นทีมขึ้นมา
ในความเป็นจริงฟอร์มมันก็แค่ชั่วคราว
การจะสั่งสมฐานแฟนบอลให้ได้เทียบเท่าทีมชั้นนำ ต้องฟอร์มดีติดต่อกันอย่างน้อยก็10ปี
แต่แค่ฟอร์มดี1-2ปี ก็โดนทีมใหญ่รุมทึ้งตัวหลักแล้ว

ถ้าเอาตามเจตนารมณ์ที่ไม่อยากให้มีทีมล้มละลายแบบ Leed Portsmouth มาลาก้า ก็ควรดูแค่ไม่ให้ขาดทุน ไม่ให้กู้เกินตัว ไม่ใช่ไปวุ่นวายว่าสปอนเซอร์เจ้านี้ห้าม เจ้านั้นห้าม รับเงินสองกระเป๋าห้าม ทุกอย่างห้ามๆๆ

ส่วนถ้าอยากจะแฟร์จริงๆ ก็ทำแบบอเมริกาอะแฟร์ มีเพดานค่าเหนื่อยไปเลย ทุกทีมเท่ากันหมด แข่งกันแฟร์ๆ

reputation/มูลค่าการตลาด ต่างกัน การดึงดูดสปอนเซอร์ และจำนวนเงินก็ต่างกัน ดังนั้นแม้จะอยู่ในกฎเดียวกัน แต่รายได้มันต่างกันอย่างเลี่ยงไม่ได้

มันแค่ให้มันแฟร์ที่สุดที่จะเป็นไปได้แหละ จะไม่แฟร์กันตรงตกแต่งบัญชี บ.ไหนก็ผิดหมด

มันกันแค่พวกมาใช้เงินๆแล้วก็ โดดหนีไปเลย แบบ พอร์ทสมัธ ชัดสุดซื้อๆๆๆ พอไม่ได้ดังหวังโดดร่มหนีเลยกว่าจะเคลียจบทีมก็อยู่ก้นบ่อแล้วจนตอนนี้ยังหาทางกลับมาอยู่เลย เหมือนลีกอื่นก็มีแต่ไม่ชัวร์ว่า มาลาก้ารึป่าว

มองมุมนี้ ว่าชีคมี้เงิน2-3หมื่นล้านดอลล่า สามารถลงเข้าสโมสรเท่าที่ต้องการโดยไม่ติดกฎอะไรเลย

แน่ใจนะว่าแฟร์

กฏ FFP เค้าทำมาเพื่อสกัดทีมใหญ่ช่วยทีมเล็กด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้ทีมใหญ่เอาเงินมาฟาดรัวๆแบบกดสูตรได้ไม่จำกัดจนทิ้งทีมเล็กแบบไม่เห็นฝุ่นแบบปารีสในลีคเอิง

อีกอย่างการพัฒนาทีมมันมีได้หลายวิธีครับ อย่าง แมนยู ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล บาร์เยิร์น พวกนี้ก้าวมาเป็นยอดทีมได้จากการบริหารทั้งนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องไปใช้พวกเศรษฐีน้ำมันเลย ถามจริงคุณไม่ชอบเรื่องราวของเทพนิยายเลสเตอร์หรอ? คุณไม่ชอบวัฒนธรรมใช้แค่เด็กแคว้นบาสก์ของบิลเบาหรอ? คุณไม่ชอบเรื่อง Class of 92 หรอ? ถ้าทุกทีมมีเจ้าของเป็นเศรษฐีน้ำมัน มันจะมีเรื่องราวแบบนี้หรอ?

โกงก็คือโกงครับ อย่าไปหาความชอบธรรมให้การโกงโดยการมาอ้างความเท่าเทียม ทีมอื่นเค้าไม่ได้ตกแต่งบัญชีครับ เงินทำทีมฟุตบอลก็ควรมาจากฟุตบอลครับ ไม่ใช่น้ำมัน

พรีเมียร์big six นะ มัน2-3ทีมเหรอ นิวอีก เสริมได้เยอะเหมือนกันหมดอะ อยู่ที่ว่าจะเสริมหรือจะเอากำไรเข้าตัว

ทีมใหญ่ในอดีตก็ไม่ได้รวยนิ สร้างเนื้อสร้างตัวกันมา

อยากมีก็ต้องสร้างครับ ทีมเล็กๆรายได้มาจากการขายนักเตะเยอะน่ะ ขายออก1ซื้อได้เป็น10ก็มี ตัวมาแทนก็เล่นดีราคาพุ่ฝอีก

ถ้าไม่มีกฎนี้การเงินยิ่งไม่แฟร์ครับ
ทีมใหญ่ซื้อเอาๆ นิวคาสเซิลทุ่ม 1000 ล้านได้เลย