ถ้าคุณเป็นริชาร์ด อาร์โนล ,จอห์น เมอร์ทัฟ ,เอริค เทนฮาก กับกรณีเมสัน กรีนวู้ดจะต้องตัดสินใจอย่างไรบ้าง ผมลองไล่ดูแล้วแนวทางปฏิบัติในเชิงบริหารก็ยังถือว่าเป็นงานยากทีเดียวครับ

กรณีไม่ให้ไปต่อ
ถ้าตัดสินใจไม่ให้ไปต่อก็ต้องเรียกมาเจรจา และ ทำ mutual agreement หรือการยกเลิกสัญญาโดยมีการเจรจาเรื่องค่าชดเชยกันว่าจะมีหรือไม่มี ซึ่งในกรณีนี้ถือเป็นงานยากพอสมควรไม่เหมือนเคสคริสเตียโน่ เพราะอันนี้เจ้าตัวต้องการออกไปจากทีมอยู่แล้ว และ สัญญาที่เหลืออยู่ก็เพียงระยะเวลา 6 เดือน ในขณะที่เมสัน กรีนวู้ด เหลือสัญญายาวถึง 2025 ตัวนักเตะน่าจะไม่ยอม

และ ถ้าฝั่งนักเตะไม่ยอมด้วยกฏหมายแรงงานตามปกติ เมื่อในทางคดีไม่ได้ตัดสินออกมาในรูปแบบกฏหมาย การจะยกเลิกสัญญาอาจจะต้องจ่ายชดเชยเต็มตามค่าแรงที่เหลือในสัญญาทั้งหมด

กรณีให้ไปต่อ
สโมสรต้องสอบสวนให้เคลียร์เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยว่าความจริงเป็นอย่างไร คีย์สำคัญสุดสำหรับกรณีให้ไปต่อคือทั้งคู่กลับมาคบกันจริงมั้ยเพราะในแง่ภาพลักษณ์ถือเป็นงานหนักมากที่ต้องมา take action หลายอย่างร่วมกัน อย่างแรกอย่างน้อย สโมสรต้องลงโทษสั่งปรับเงิน แบบกรณีเคิร์ท ซูม่า เตะแมว อาจจะสั่งพักงานต่อจนจบฤดูกาลไปเลยก็ได้ เพื่อให้เห็นว่าสโมสรไม่ได้สนับสนุนหรือเห็นด้วยนะได้จัดการลงโทษสถานหนักแล้ว ถือเป็นผิดครั้งแรก และ ให้ Second Chance แต่ต้องปรับปรุงพฤติกรรม ให้สจ๊วต การ์ดเนอร์ เป็นสัมภาษณ์ออก MUTV อธิบายตัวเอง ขอโทษต่อสังคม ต่อสโมสร กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ส่วนในแง่ส่วนตัวทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องแสดงให้เห็นใน Public บ่อยหน่อยว่าเหตุการณ์ผ่านมาแล้วเป็นลิ้นกับฟันกระทบกระทั่งกันแต่ยังรักและพร้อมให้อภัยกัน ยิ่งถ้าข่าวว่าจะหมั้นจะแต่งงานกันเป็นเรื่องจริงก็อาจจะต้องรีบดำเนินการเลย สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเรื่องในมุ้งของสามีภรรยากันไป

ส่วนในแง่สภาพนักเตะก่อนคงต้องเรียกสภาพหลายเดือนเพราะไม่ได้ซ้อมในระดับอาชีพไป 1 ปี รวมถึงในด้านสภาพจิตใจที่คงต้องไปจัดโปรแกรมฟื้นฟูเตรียมรับกระแสต่อต้านหนักหน่วงอีกทั้งแฟนฝั่งตัวเองและแฟนทีมตรงข้าม น่าจะไม่พร้อมสำหรับฤดูกาลนี้หรอกมั้ง

อันนี้ว่าในแง่การจัดการในมุมที่เราต้องเป็นผู้บริหารนะครับ ว่ามันน่าจะมีทางเลือกอะไรได้บ้าง ที่จริงมันยังมีกรณีว่าถ้าติดกฏหมายไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้แล้วสโมสรไม่อยากใช้งาน จะดองไว้จนหมดสัญญาอะไรแบบนี้อีก แต่เห็นว่ากรณีแบบนี้ลูกจ้างสามารถไปร้องเรียงตามกฏหมายแรงงานว่าปฏิบัติแบบไม่เป็นธรรมได้สุดท้ายน่าจะไปเข้ากรณีบังคับจ่ายค่าชดเชยเต็มยกเลิกสัญญาอยู่ดี ส่วนตัวเลยคิดว่าไม่น่าจะออกหน้านี้เพราะถ้าแบบนั้นไปในกรณีแรกตัดสินใจไม่ไปต่อเลยดีกว่า หรือไม่อีกกรณีก็คือไม่ยกเลิกสัญญาแต่ให้เอเยนต์พยายามไปเสนอขายหรือปล่อยยืมกับทีมในต่างประเทศจนหมดสัญญาอันนี้ก็เป็นอีกแนวทางนึงที่เป็นไปได้ครั

เหมือนกระแสสังคมที่นู่นตัดสินไปแล้วว่า GW คือ rapist ตอนนี้ยังให้น้ำหนักไม่ไปต่อมากกว่า เว้นแต่สุดท้าย GW ได้แต่งงานกับแฟน รอดูกระแสสังคมที่นู่นอีกที

ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมเป็นหลักฮะ

ผมไม่ค่อยรู้นิสัยคนที่อังกฤษ..แต่ถ้าเกิดขึ้นในไทยแล้วยังมีกระแสต่อต้านจากสังคมอยู่ ผมคงเลือกปล่อยยืมไปนอกประเทศซัก 1-2 ปี

อาจจะไปอยู่ในลีคที่ไม่ได้เป็นไฮไลต์ให้คนจับจ้องมากอย่างลีคเบลเยี่ยม, ฮอลแลนด์ ฯลฯ

รอให้เรื่องมันซาลงกว่านี้ก่อน+ได้ดูฟอร์มด้วยว่าเด็กมันยังพร้อมจะเล่นกับลีคสูงสุดอยู่มั๊ย..ถ้ามันคลิกทุกอย่างครบสัญญายืมก็เรียกกลับ

คือคนไทยลืมง่ายอ่ะ ลองย้ายไปแล้วฟอร์มอย่างแจ่ม ไม่มีเรื่องฉาวอะไรเพิ่ม กลับมาคนก็ลืมกันละ

ผมให้อยู่ต่อ เพราะเอาฟุตบอลมาก่อน
ส่วนภาพลักษณ์ ก็ค่อยๆแก้กันไป
เพราะยังไงแกก็ดีกับแฟนแกแล้ว
ขอแค่อย่าให้มีเรื่องอะไรแบบนี้อีก
แมนยูเคยเจอเรื่องประมาณนี้ แต่รอดมาได้ก็เยอะ
คันโตน่า กิ๊กซ์ แมกไกวร์

ประเด็นแรกเลยคือต้องดูว่าคดีจริงๆแล้วเป็นอย่างไร อ่านคร่าวๆเห็นแถลงการณ์ เหมือนยังเปิดช่องให้กลับมารื้อคดีใหม่ได้? (ไม่แน่ใจ ผมเข้าใจถูกมั้ย?)

ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้กรีนวู๊ดจะเหมือนกอดระเบิดไว้ตลอดเวลา แล้วทีมจะแบกรับความเสี่ยงนี้ต่อไปด้วยหรือเปล่า?



มุมมองที่จะขายนี่ยากเลย เพราะทีมอื่นคงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทีเท่ากันกับแมนฯยูไนเต็ดแล้วว่าจริงๆความรุนแรงมันคือประมาณไหน

นอกจากยกเลิกสัญญาให้นักเตะไปหาทีมเองนี่เป็นไปได้แน่นอน (เผลอๆจะเป็นทีมใหญ่ด้วย ใครออกตัวแรงๆแนะนำว่าให้คิดเผื่อหน่อย )


ถ้าให้ตัดสินใจผมคงทำแบบเดียวกับสโมสรตอนนี้แหละ ในเมื่อมันไม่ถูกตัดสินว่าผิดก็คงต้องเก็บไว้ก่อนแบบนี้แหละ

อาจจะให้ลองลงเล่นฤดูกาลหน้าว่านักเตะกลับมาได้แค่ไหน ไม่ใช่เรื่องความฟิต ร่างกายที่ถดถอยอย่างเดียว สภาพจิตใจนี่สำคัญมาก ผมอ่านข่าวกรีนวู๊ดไม่ถึงชั่วโมง เดอะซันเล่นไป 3 รอบ ซึ่งมันจะโดนแบบนั้นไปอย่างน้อยๆก็เป็นปี

ถ้าไม่ไหวก็ค่อยขายทิ้ง ดูจะเป็นทางลงที่ดีกว่าการยกเลิกสัญญาแล้วเสี่ยงมีปัญหาโดนนักเตะฟ้องอีก

เรื่องของเรื่องคือผมยังไม่รู้ว่าเค้าดีกันกับมาคบกันจริงรึเปล่า หรือแฟนแม่งลือกันไปเองนะสิ

ต้องใช้ความเก่ง อุดปากแบบคันโตน่า
แต่โอกาสติดทีมชาติอีก คงค่อนข้างเลือนลาง ไม่ใช่ในช่วง 3-4 ปีแน่ๆ

ใช่เลย ผมว่าทั้ง 3 คน ริชาร์ด อาร์โนล ,จอห์น เมอร์ทัฟ ,เอริค เทนฮาก ตัดสินใจลำบากแน่ๆ ไม่ว่าทางไหน สโมสรอาจต้องลงแรง ลงทรัพยากรของสโมสรแน่ๆ

ปล. แต่ 6 เดือนที่ผ่านมา คิดว่าทั้ง 3 คน จะตัดสินใจสิ่งที่ดีที่สุดให้สโมสรแน่ๆละนะ

ผมไม่แน่ใจถึงวัฒนธรรมของคนฝั่ง UK เท่าไหร่ แต่ผมเชื่อว่ามีผลกับการตัดสินใจแน่ๆ

ร้อยทั้งร้อย คนที่อยู่ฝั่งไม่สนับสนุนคือ บอกว่าได้ดูคลิปเสียงแล้วรับไม่ได้ รวมถึงหลักฐานบลาๆ ก็ออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะทางกฏหมายไม่ได้บอกว่า บริสุทธิ์เต็มร้อย เพียงแต่หลักฐานมันนำไปส่งฟ้องไม่ได้

ส่วนฝั่งคนที่ยังซับพอร์ตก็บอกว่า มันเป็นเรื่องของคนสองคนแล้วในตอนนี้ แล้วก็อ้างในส่วนที่ตำรวจชี้แจงมาว่า ไม่ผิด

พอมาๆ มองย้อนดีๆ เรื่องไอ้เขียวเป็นเรื่องฉาวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทีมเจอมาละ กิ๊กหรือรูนี่ย์ยังไม่ขนาดนี้ อาจจะเพราะสื่อด้วย กระแสสังคมด้วย ถ้าเกิดซัก 10 ปีก่อน อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ เพราะมันไม่มีโซเชียล

ผมว่าเรื่องนี้มันต้องทำงานกันหลายส่วนมากๆ ทั้งฝั่งเขียวกับแฟน ครอบครัว และสโมสร ต้องทำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่ามันต้องออกมาดี อย่างที่คุณโจ้บอก ซึ่งถ้าสโมสรจะเอาไว้ ผมคิดว่า ควรเริ่มจากแถลงซัพนักเตะก่อน และให้ลงไปซ้อมเรียกฟิตเงียบๆ ไปก่อน กำหนดกลับมาคือปีหน้าไปเลย ระหว่างนั้นก็ไม่ต้องให้ข่าวอะไรเลย เหมือนซานโช่

ผมอาจจะหัวโบราณไปหน่อย ด้วยความที่เขียวมันเป็นเด็กปั้นแถมอายุไม่เยอะก็อยากให้โอกาสน้องมัน คนเราก็พลาดกันได้ แต่คนในเมืองอาจจะไม่คิดแบบนั้น ลองคิดสภาพคนที่โดนคดีข่มขืน ทำร้ายผญ มาเดินเล่นในเมือง ก็คงแปลกพิลึก

สิ่งสำคัญคือ แฟนที่ซับต้องยืนข้างให้หนักๆ เลย เพราะว่าโดนโถมจากทุกทางแน่นอน รูนี่ย์ กิกส์ คีน โด้ ก็เคยถูกโห่ แม้กระทั่งแฟนทีมตัวเองก็ยังมี ต่อให้เรื่องมันไม่เลวร้ายเท่าเขียว แต่สุดท้ายผลงานถ้ามันออกมาดี มันจะทำให้เรื่องเงียบไปได้เอง ผมเชื่อแบบนั้นนะ

ยืมไป ตปท ก่อนดีกว่า สื่อ eng ตัวเหี้ยมเลย ถ้ามันเล่น โถมยับแน่ๆ

การยกเลิกสัญญานี่ยังไงก็ไม่เป็นประโยชน์ ตัดทิ้งไปได้เลย

ต่อมาคือ จะ soft landing ยังไงให้สวยที่สุด

ผมเป็นสโมสร ผมประกาศว่ายังไม่ให้ลงเล่นในฤดูกาลนี่ ประกาศว่าเพื่อเป็นการลงโทษ แต่จริงๆแล้วเพื่อให้นักเตะได้กลับมาซ้อมในระดับมืออาขีพ

หลังจากนั้นก็ต้องคุยกับกรีนวูดแหละ ว่าจะ PR ตัวเองยังไงให้คนด่าน้อยลง ที่แน่ๆก็ต้องมาขอโทษในสิ่งที่ทำ

พอฤดูกาลหน้า รอดูกระแส ถ้ายังไม่ตก อาจจะปล่อยยืมไปต่างประเทศซักปี เชื่อว่ามีทีมดีๆหลายทีมพร้อมรับดาวรุ่งพรสวรรค์สูงขนาดนี้ ส่งไปให้พี่รุด คอยดูแลก็น่าสนใจ เพิ่มความคมความมั่นใจ แถมลีกไม่ได้ยากมากด้วย

ถ้ากระแสมันซาแล้ว ก็จบ ลงเล่นได้เลย

ถ้ามองให้รอบด้าน ยกเลิกสัญญานักเตะแล้วเอาไปทำงานด้านอื่นในสโมสรแทน เพราะหลักฐานที่ปรากฏในสังคมมันชัดเกินที่จะเอาเรื่องการยกฟ้องมาอ้างว่าไม่ผิดได้

ได้ใจแฟนบอล ทุกคนในทีม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร

คือถ้าเคลียร์เลยนะ จูบปากแฟน แต่งงาน happy endingไป

แง่กฏหมายมันจบไปละ มันแบ่งเป็น2พวกไม่มีวันจบ เพราะมันตัดสินกันจากคนละมุม

พวกแรกบอกกฏหมายบอกไม่ผิด = บริสุทธิ์ ไม่ต้องไปสนคลิปอะไรก่อนหน้านี้ละเพราะมันไม่มีน้ำหนักว่าGWทำจริงหรือแค่role play

พวกที่2คือ ตราหน้าไปแล้วว่าGW เป็นrapistจากหลักฐานคลิปที่ออกมา โดยไม่สนการตัดสินทางกม.

คนสไตล์เทนฮากไม่น่าจะทิ้งเด็กมันแบบไม่ให้โอกาสกัน ส่วนอาร์โนล เมอร์ทัฟ คงตามการตัดสินใจETHและคงเตรียมแนวทางปฎิบัติไว้หมดแล้ว ผมเชื่อว่ากรีนวุ้ดกลับมามันตั้งใจ ก้มหน้าก้มตาเล่นให้ETHแน่ๆ ส่วนแฟนทีมอื่นมันก็โห่หาเรื่องโจมตีอยู่ละ เด็กมันคงเตรียมใจไว่อยุ่ละ

กระแสสังคมจะแบ่งเป็น 2 ฝ่ายอยู่แล้วไม่ว่าจะเลือกทางไหน
ถ้าเป็นผมจะให้สิทธิ์กลับมา แล้วให้นักเตะเองตัดสินใจ
เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหนตัวเขาก็ไม่อาจหลีกหนีการโดนเหยียดโดนว่าอยู่แล้ว(แม้ว่าเขาจะทำจริงหรือไม่ก็ตาม)
มันเป็นเรื่องของสภาพจิตใจมากกว่า
สโมสรฟุตบอลไม่ใช่พ่อหรือแม่เขา
เราดูแลเท่าที่จะดูแลได้ แต่คนที่ต้องตัดสินใจก็คือนักเตะเองครับ