[RE: รอยคีนผู้คือต้นตำรับเอาคืน]
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
Spoil
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
Spoil
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
Spoil
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
เคยพูดถึงจนเบื่อ ถึงแม้จะมีข้อเท็จจริงว่าอัล์ฟ อิงเก้ ฮาร์ลันด์ไม่ได้เจ็บจากการโดนคีนยันจนต้องแขวนสตั๊ด บางคนก็ยังเลือกจะเชื่อแบบนั้นอยู่ดี
1. ฮาร์ลันด์เล่นจนจบเกมนั้น แล้วไปเล่นกับทีมชาตินอร์เวย์ต่อในอีก 4 วันให้หลัง และเล่นเจอกับลีดส์ทีมเก่าอีกนัดในสัปดาห์ต่อมา
2. จบฤดูกาลนั้นฮาร์ลันด์รับการผ่าตัดเข่า แต่เป็นข้างซ้ายไม่ใช่ขวาที่โดนยันแล้วหลังจากนั้นก็เรียกความฟิตกลับมาลงเต็มเกมส์ไม่ได้อีกจนแขวนสตั๊ด ซึ่งขาซ้ายเป็นข้างที่ฮาร์ลันด์เองมีประวัติเจ็บก่อนหน้าอยู่แล้ว
3. ฮาร์ลันด์เองก็พูดว่าไม่เคยบอกว่าคีนเป็นคนจบอาชีพการค้าแข้งตัวเอง
4. แมนฯซิตี้เองเคยตรวจสอบเรื่องนี้หลังจากคีนออกหนังสือ autobiography แล้วพยายามจะดำเนินคดี สุดท้ายพอไปตรวจสอบประวัติอาการบาดเจ็บก็ยกเลิกความพยายามไป
ผมเคยตั้งมู้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2162452
นักเตะที่เล่น 90 นาที ได้ตลอด ตั้งแต่เริ่มฤดูกาล โดนเปลี่ยนออกน้อยมาก
https://www.transfermarkt.com/alf-inge-haaland/leistungsdaten/spieler/107179/plus/0?saison=2000
หลังจากเกมนั้นที่แกถูกเตะ
แกไปเตะทีมชาติจริง แต่
เตะได้ 45นาที ก็เล่นต่อไม่ไหว โดนเปลี่ยนออก (ถามว่าแล้วไปเล่นทีมชาติทำไม ถ้าดูตามตาราง จะเห็นว่าแกไม่ใช่ตัวจริงทีมชาติ นานๆถูกเรียกตัว พอได้โอกาส แกก็ฝืนสู้ต่อ)
หลังเกมนั้น แกมาเตะให้สโมสร
ลงเล่นได้แค่ 68 นาที แล้วปิดม่านในฤดูกาลนั้น
(2เกมที่แกเล่น รวมทั้งในเกมแมนเซสเตอร์ดาร์บี้หลังถูกเตะ แกฝืนเล่นต่อด้วยสปิริตล้วนๆ ไม่ใช่ว่าแค่เจ็บถลอกๆ แล้วเล่นต่อแบบชิลล์)
ปีต่อมาแกเล่นทั้งฤดูกาล ได้แค่ 50นาที แล้วแขวนสตั๊ดทันที
https://www.transfermarkt.com/alf-inge-haaland/leistungsdaten/spieler/107179/plus/0?saison=2001
"ผมไม่เคยมีอาการบาดเจ็บมาตลอด8ปี แต่หลังจากจังหวะนั้น คุณคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญมั้ย ผมไม่เคยเล่นได้เต็มเกมอีกเลย"
"นั่นคือเรื่องจริง แต่ผู้คนจะตัดสินยังไงก็ได้ตามที่พวกเค้าคิด" ข้อความบรรทัดนี้ส่งถึงคีนและเหล่าแฟนแมนยูที่โจมตีแก
ผมไม่รู้หรอก ว่าแกมีอาการบาดเจ็บตรงไหนก่อนบ้างมั้ย แต่แกเป็นนักสู้ ลงเล่นเต็มเวลามาโดยตลอด (คนพยายามเบี่ยงประเด็น ว่าแกเคยเจ็บที่ขาอีกข้างมาก่อน แต่ดูตรงตารางการเล่น ถ้ามันเจ็บหนัก แกจะลงเล่นเต็มเกมรัวๆ จนกระทั่งถูกเตะได้ไหวเหรอ)
แต่หลังโดนเตะ แกก็ไม่เคยเล่นเต็มเกมอีกเลย (อย่าว่าแต่เต็มเกม หลังจากนั้น แกฝืนเล่นต่อแทบไม่ไหว)
คือลูกเตะนี้ มันเปลี่ยนชีวิตคนๆนึงไปตลอดกาล
คุณนี่อ่อนต่อโลกสมชื่อจริงๆ Cherry picking เอามา Dramatize เรื่องราว ควรไปเริ่มจากการแยก Fact กับ Opinion ก่อนเลยไปครับ
คุณบอกยังไงก็ได้ว่านักเตะไม่เคยเจ็บเลย แต่สิ่งที่เกิดคือหลังจากปีนั้นฮาร์ลันด์เข้ารับการผ่าตัดเข่าซ้ายครับ ไม่ใช่ขวา
ผมลองไปย้อนอ่านดูกระทู้ที่คุณตั้งนะ นี่ก็ Cherry picking อีกแล้ว
1. ฮาร์ลันด์เป็นคนไปตะคอกด่าว่าคีนสำออย "ไม่ได้บ่นใส่ หาว่าพุ่งล้ม" เปลี่ยนหนักเป็นเบาเลยอันนี้
2. ข้อความนี้เป็นความคิดเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่อาการบาดเจ็บสะสมจากการไม่กล้าลงน้ำหนักข้างใดข้างหนึ่ง ใช้เวลาเกิดหลายปีครับ ไม่ใช่ผ่านไปไม่กี่วันหรือสัปดาห์
"จริงๆเมื่อคุณมีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ขาด้านนึง หมอจะให้คุณเลิกเล่นฟุตบอลทันที เพราะเมื่อคุณจะไม่กล้าลงน้ำหนักขาข้างที่เจ็บ และจะทำให้ขาอีกข้างรับภาระหนัก จนง่ายที่จะมีอาการบาดเจ็บหนักที่เท้าอีกข้าง"
ผมไม่รู้ว่าหมอคนไหนเป็นคนพูด แต่ทีมแพทย์ขอซิตี้ลงความเห็นว่าอาการบาดเจ็บของฮาร์ลันด์นั้นไม่เกี่ยวกับการทำให้ฮาร์ลันด์ต้องเลิกเล่น จนซิตี้ต้องล้มเลิก legal action เรื่องนี้ไป
3. ฮาร์ลันด์ไม่เคยเจ็บตลอดเลยเป็นเวลา 8 ปี เรื่องนี้ก็ไม่จริงครับ ช่วงที่อยู่ลีดส์ฮาร์ลันด์ก็เคยได้รับบาดเจ็บอยู่หลายครั้ง
4. คุณคิดว่าแฟนผีเอามาเคลมจากคำประชดของฮาร์ลันด์ฮาร์ลันด์เองเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในปี 2002 ดังนี้ ลองอ่านดูครับ
'I want to make it clear that it was not the knee that took a knock in the Manchester derby, despite what some papers have reported.
'It's my left knee that's been bothering me and it was clearly shown on Sky that it was my right knee that took the knock. It's been bothering me for three months.'
เจ้าตัวพูดขนาดนี้ ว่าเจ็บที่ขาซ้ายมานาน 3 เดือนก่อนเกิดเหตุการณ์นั้นแล้ว
และผมมองไม่เห็นเหตุผลไหนเลยที่ฮาร์ลันด์จะต้องมาปกป้องคู่กรณีอย่างคีน หรือคุณจะบอกว่าจริงๆแล้วมันเจ็บ แต่ฮาร์ลันด์ตอแหล?
ผมไม่คิดจะเชิดชูหรือล้างมลทิลอะไรให้กับรอย คีนในเรื่องนี้เลย สิ่งที่คีนทำครั้งนั้นมันเลวร้ายครับ แล้วผมคิดว่าสมควรแล้วแก่การโดนประนามในการตั้งใจทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ
แต่ข้อเท็จจริงเรื่องการจบอาชีพของฮาร์ลันด์มันไม่ถูกต้อง ผมก็ขี้เกียจเขียนอะไรซ้ำๆนะ ลองไปย้อนอ่านดูแล้วกัน
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
นักเตะอาจจะมีอาการบาดเจ็บอีกข้างจริงก็ได้ แต่มันไม่ได้เจ็บขนาดที่ทำให้ต้องเลิกเล่นฟุตบอล (ยิ่งกับวัยของแกที่ยังไม่ได้ขึ้นเลข3)
มีจริงแน่นอนครับ เพราะฮาร์ลันด์เป็นคนพูดเอง แล้วไม่ได้อยู่ดีๆถึงเลิก แต่มีการผ่าตัดเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลแล้วฮาร์ลันด์เรียกความฟิตกลับมาไม่ได้
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
แต่พอโดนเตะ แกก็เล่นบอลได้ยากลำบากกว่าเดิมมาก จนสุดท้ายก็ต้องเลิกเล่นก่อยวันอันควร คิดง่ายๆดูคลิป จังหวะที่ถูกเตะ ดูยังไง คนนี้ก็กลับมาเล่นบอลได้สมบูรณืแบบเดิมไม่ได้แน่ๆ การที่แกจะฝืนสู้ มาเล่นต่อได้อีก 2 เกม แบบเต็มทน และเล่นได้ไม่เต็มเกมทั้ง 2นัด มันมาจากสปิริตของแก ไม่ใช่เพราะมาจากลูกถีบมันเบา จนไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย
คุณอาจจะดูภาพหรือมีความคิดเห็นยังไง มันไม่ใช่ข้อเท็จจริงครับ แต่แพทย์ของแมนฯซิตี้ที่ตรวจร่างกายและอาการบาดเจ็บของฮาร์ลันด์ลงความเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องทำให้แขวนสตั๊ดครับ
การที่แก กลับมาเล่นได้นิดหน่อย แล้วจะเบรมว่าการโดนถีบไม่มีผลอะไรเลย ส่วนที่แกต้องเลิก เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของแกเอง เป็นอะไรที่เกินไปมาก ถ้าอาการบาดเจ็บอันเก่าของแกหนักจริง แกคงเล่นเต็ม 90 นาที แทบทั้งฤดูกาลแบบนั้นไม่ได้
อีกครั้งนะครับ ไม่ได้เกิดจากการ "Blame" ของผมหรือใคร แต่เจ้าตัวเป็นคนพูดยืนยันด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เรื่องที่พูดกันมาหลายครั้งหลายปีแล้ว ทั้งเจ้าตัวและแพทย์ยืนยันไปในทางเดียวกัน
ถ้าคุณเก่งขนาดดูคลิปแล้ววินิจฉัยอาการบาดเจ็บได้ ฮาน มุลเลอร์-โวลฟาร์ตคงต้องยกตำแหน่งหมอเทวดาให้กับคุณแล้ว
อ่อนต่อโลก พิมพ์ว่า:
ส่วนเรื่องกฏหมาย ผมไม่ค่อยรู้ แต่การที่คนนึงไปทำร้ายอีกคนนึง แต่รอดข้อหาหนัก ก็ไม่ได้แปลว่า คนนั้นไม่ได้ทำผิดอะไรเลย และไม่ใช่ว่าผลนั้นไม่ส่งกระทบต่อคนอื่นเลย
สมมติมีคนขับรถชนคนอื่น (คนที่เป็นมะเร็ง อยู่ได้อีก 3 ปี) แต่หลังชน คนอื่นนั้นทนพิษบาดแผลได้ปีนึง แล้วไปตายในปีต่อมา (ทั้งที่ไม่โดนชน เค้าอาจอยู่ได้นานกว่าเดิมอีก 2 ปี)
แต่คนกลับมาเบลม ว่าคนนั้นมันตายเพราะมะเร็ง ยังไงๆ มันก็ต้องตายอยู่แล้ว คนชนทำผิดอะไร
อีกครั้งครับประเด็นคุณจะรู้กฏหมายหรือไม่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ
แต่คีนได้รับบทลงโทษไปแล้วทั้ง 2 ครั้ง คือตั้งแต่เกิดเหตุและออกหนังสือพูดเรื่องนี้ ไม่ได้ลอยนวลจากความผิด ไม่ได้เหมือนกับเคสที่คุณยกตัวอย่าง
แต่คุณตะหากที่พยายาม Overdramatize ให้มันใหญ่กว่าความจริง แล้วทำเหมือนคีนนั้นไม่ได้โดนลงโทษ ถ้าจะให้เทียบมันก็เหมือนกับเคสซีอุยที่ฆ่าคนตาย แต่โดนประนามว่าเป็นมนุษย์กินคนทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง โดนแขวนร่างไว้หลังตาย แม้ได้รับโทษไปแล้ว
ผมขี้เกียจละ ถ้าคุณไม่อ้างอิงข้อเท็จจริง เลือกจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองจะเชื่อ มันก็เรื่องของคุณ
แต่จะบอกว่าความเห็นของคุณเป็นข้อเท็จจริงมันคงไม่ใช่แน่ๆ เพราะผ่านความเห็นของเจ้าตัว สโมสร ทีมแพทย์ ทีมกฏหมายของสโมสร ไม่มีใครมีความเห็นแบบเดียวกับคุณนะครับ
เคสนี้ ผมไม่อยากพูดถึงคีน หรือบทลงโทษอะไรก็ตาม เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้ฮาลันด์กลับมาเตะบอลได้เหมือนเดิม
แต่อยากให้มองในมุมของเหยื่อบ้าง
1.ฮาลันด์ ถูกเข้าหนัก จนจบอาชีพค้าแข่งของตัวเอง (แม้จะมีอาการบาดเจ็บเดิมบ้าง แต่ก่อนหน้านี้ก็เล่นเต็มเกมมาได้ทั้งฤดูกาล เตะแทบไม่ต้องพัก)
2.มาเห็นบทสัมภาษย์ ที่คู่กรณีบอกว่าตั้งใจทำ (ที่ยิ่งกว่าคือคู่กรณีพูดมั่นหน้าว่าไม่เคยนึกเสียใจ)
3.คู่กรณีบอก เมิงเล่นต่อไหวนี่ แถมไปเล่นต่อเกมหน้าได้ ที่เมิงเจ็บ ไม่เกี่ยวกับตูนะ (ทั้งที่ไปเล่น ก็ฝืนลงไม่ได้ทั้งเกม และหลังจากนั้น ลงเล่นได้แค่เกมละไม่กี่นาที)
4.เจ้าตัวออกมาสัมภาษย์ เชิงประชด ว่าคนทำให้แกต้องจบชีวิตการค้าแข้ง
5.โดนแฟนผี(เมืองนอก)และคีน รุมโจมตีหาว่าเสแสร้ง หาเรื่องว่าร้ายคีน เป็นจอมมารยา
โดนตราหน้าว่า เมิงเจ็บก็เจ็บของเมิงเอง ถึงคีนไม่เตะ เมิงก็ต้องจบอาชีพการค้าแข้งในตอนนั้นอยู่ดี เพราะเมิงเจ็บของเมิงเอง (จุดนี้ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกแกเข้าไปอีก)
แกถึงพูดไงว่า ""นั่นคือเรื่องจริง แต่ผู้คนจะตัดสินยังไงก็ได้ตามที่พวกเค้าอยากคิด" (ถึงคีนและแฟนแมนยู)
ไปดูในคลิปตามมู้ที่ผมลง แกจบปิดท้ายแบบน้ำตาจะไหล บอกว่า "ผมจะจำแต่ส่วนดี อย่างน้อยก็ยังมีช่วงเวลาดีๆในอาชีพค้าแข่งให้จดจำ"
แทนที่หลายคนจำตำหนิคนทำผิด และเห็นใจเหยื่อ แต่นี่กลับหาเหตุผลมาเบลมเหยื่อ โทษว่าที่ต้องเลิกเล่นก็เป็นความผิดของเหยื่อเอง
เบลมเหยื่อ อะไร โคตรเลอะเทอะ
ความจริงคือ เขาไม่ได้แขวนด้วยข้างที่เจ็บก็แค่นั้น
ไอ้เรื่องเล่นรุนแรง จ้องอัดคู่แข่ง พูดเหมือนเหยื่อไม่เคยทำซะงั้น
กาวจัดๆ