ถามคนเรียนโทครับฟิวเหมือนเรียน ปตรีไหม เรื่องการเรียน เพื่อนสังคม สภาพแวดล้อม
คิดถึงสมัยเรียน ตรี ชิบ ถ้าไปเรียนโท ฟิวจะเหมือนกันไหมครับ

คนละเรื่องเลยครับ เเต่ผมเรียนแผนข.ภาคพิเศษเสาร์ อาทิตย์

ไม่รู้ว่าภาคปกติเค้าเรียนยังไงนะครับ

ป.ตรี คือมัธยมที่มีอิสระสูงสุด แบบไม่จำกัดให้ดูแลตัวเอง

ป.โท คือเรียนก้าวขาลองไป ป.เอก เรียนด้วยตัวเอง สงสัยเอง หาคำตอบเอง แล้วก็ตอบตัวเอง

ไม่เหมือนครับเรียนแค่สองปี ปีแรกเรียนในห้อง ของผมไม่แน่นสอบ แน่นความเข้าใจโดยการให้หัวข้อแล้วไปทำความเข้าใจมาแล้วอธิบายให้อาจารย์ฟัง
ปีสองทำวิจัย ตรงนี้แหละที่แตกต่าง ทั้งต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษา หาหัวข้อ เขียน paper หาตีพิมพ์ แล้วไปตีพิมพ์ เขียนเล่มจบ ตรวจสอบ แล้วสอบจบอีก มันไม่ได้เหมือนเรียนเล่นๆแบบตอน ป ตรี อะครับ

ทำวิจัยคนละเรื่องกับป.ตรี ที่ส่วนใหญ่ป.โทเครียดกันหนักก็เพราะวิจัยนี่แหละ

อาจจะไม่เหมือนกันทุกคณะ และ ม.

สำหรับผม ป.โท เรียนไปทำงานไปด้วย (ส อา) ก็โคตรเหนื่อยตอนทำ SP ตอนเรียนไม่ค่อยเนื่องจากเรียนวิชาที่ถนัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ป.โท คือชีวิตจริงเลย กำหนดตัวเอง เรียนเอง จบเอง จ่ายเอง อ.ช่วยให้แค่คำแนะนำดีมาก แต่อยู่ที่ตัวเราต้องเดินเข้าไปเองด้วย

ผมเรียน โท M. บริหารภาค เสาร์-อาทิตย์ ครับ

ทฤษฏีง่ายก็ตอนป.ตรี ที่เรียนวิศวะมามาก

เมากันทุกเสาร์วันอาทิตย์ไปนั่งแฮงค์กันในห้องเรียน

ยากตอนทำ thesis การจัดเล่มทำเล่มมากกว่าทำตัวชิ้นงาน

ได้เพื่อนกับได้สังคมวัยทำงานเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ

แตกต่าง อย่างมีนัยะสำคัญนะสำหรับผม

แต่อยู่ที่หลักสูตรที่คุณเรียนด้วย คำว่าเรียน โท มันมีหลายแบบ ตามหลักสูตร หรือ program , degree ที่คุณเลือก

1. โท บางอัน ไม่ต้องทำ thesis เรียนแค่ courseworks แล้ว จบ รับใบปริญญา
2. บางอัน ต้องทำ thesis ตามที่ requirements ของ program เช่น ต้องไปงานประชุมวิชาการ 1 ครั้ง ถึง จะจบรับใบปริญญาได้

ถ้าเรียนแบบ 1 มันก็คล้ายๆ ปตรี แหละ เอาความรู้อย่างเดียว เอา connection เพื่อน อาจารย์
แบบ 2 มันจะได้ประสบการณ์ในการทำ research ในวงการวิชาการ ว่าเขาทำกันยังไง ระบบเป็นยังไง

คำว่า program/degree ที่เลือกเรียน ก็จะต่างกันไปตามแต่ละมหาลัย ด้วยเลยนะ บางที่ชื่อเหมือนกัน แต่ระบบการเรียนไม่เหมือนกัน บางที่ต้องทำอันนู้น บางที่ต้องทำอันนี้ ไรเงี้ย

สำหรับผมไม่เหมือนเลยครับ ผมภาคพิเศษจะมีแต่คนทำงานมาเรียนกัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น อารมณ์ที่เจอคือทุกคนก็มาเพราะมีเป้าหมายมาเพื่อเรียนให้จบ คุยกันแต่เรื่องเรียน อาจารย์ การบ้าน เรื่องงาน แทบจะไม่มีเรื่องจิปาถะเลย พอเลิกเรียนก็มีกินข้าวกันบ้างนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเหมือนคนทำงาน เลิกงานก็แยกย้ายกลับบ้าน ถ้าเหมือนก็คงจะเป็นเรื่องสาวๆ มีให้ส่องแต่ก็จะเป็นวัยทำงาน แต่ผมว่าเหมาะเลยถ้าจะหาแฟนหรือคู่ชีวิตทัศนคติดีๆ ส่วนผมเรียนกับแฟนอยู่แล้ว ก็แพ้บายไปครับ

ท่านจะมีบทบาทสำคัญในห้อง ไม่ใช่แค่ตัวประกอบเหมือนตอนป.ตรี ส่วนสังคม/เพื่อนดีมากเอ็นจอยกันสุดๆ อาจจะคลาสผมยังอยู่ในรุ่น ๆ เดียวกันด้วย

ต่างกันแบบคนละขั้วเลย ส่วนตัวว่าโทง่ายกว่าตรีมากครับ อาจเพราะวุฒิภาวะสูงขึ้นจากอายุมากขึ้นด้วย ลำบากหน่อยตรง thesis แค่นั้น เรียนไปเถอะครับโทอ่ะได้ดีกรี

ป.โท เทียบกับ ป.ตรี ของผมเรียนเหมือนทำวิจัยตอนป.ตรี ทุกอาทิตย์ ทุกวิชาส่ง

เปรียบเทียบง่ายๆคือป.ตรีคุณเรียนจากความรู้ที่มีคนศึกษามาแล้ว ส่วนป.โท (บัณฑิตศึกษา) คุณต้องเรียนรู้และหาวิธีในการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆน่ะครับ

ห้องนึงคนเยอะมั้ยครับ ตอนผมเรียนตรี 100กว่าคน

เทียบกับผมที่จบ ป.ตรี รามนะครับ

ป.โทที่ต้องมาเรียน ต้องปรับตัวเยอะมากๆ ต้องหาเพื่อนที่พากันให้รอดไปได้จนจบ

เรียนโท ท่านจะพบคนหลากหลายประเภท
- ภาระที่ทำงานเยอะ ขี้โวยวาย คิดว่าเพื่อนร่วมห้องต้องเห็นใจ
- คนเพิ่งจบ ป.ตรีสดๆ มาเรียนต่อเลย ไม่ได้ทำงาน มีทั้งตั้งใจเรียนและประเภทติดเที่ยว
- คนมีลูก หายตัวไปบ่อย ชอบขอความเห็นใจ คนอื่นไม่มีลูกไม่เข้าใจ
- คนเก่งคนเดียว คนอื่นไม่เก่งเท่า อันนี้มีข้อดีคือแบกสุดๆ เพื่อนจ่ายเงินมาพอแล้ว แต่ก็จะมีประเภทเก่งมาก คนอื่นทำมันค้าน แล้วก็ไม่ช่วยอะไร
- คนอีกแบบคือไม่รู้ทำงานอะไร ว่างมานั่งเรียนทุกช่วงเวลา แต่เจอทุกรอบก็หลับ ง่วง แต่ให้ทำไรก็ช่วยงานตลอด
- คนน่าเบื่อสุดคือ คนอวดรวย ใช้คนอื่นทำงาน จ่ายเงินอย่างเดียว ส่วนมากให้ใครก็ไม่รู้มานั่งจดแทน

ส่วนตัวคิดว่า ป.โทจะออกแนวลงลึก เน้นทฤษฏี (ถ้าสายกฏหมาย) วิเคราะห์ วิจารณ์ บางวิชาให้เอาหนังสือเข้าไปในห้องสอบได้