จบการสนทนาแออกจากห้องแชทไปเลย

ตอนคุยก็คุยปกติที่ไม่ให้เกินกว่าคำว่าปกติครับ เช่น อาจจะคุยแบบจริงจังก้ได้ ไม่ต้องมีตลกโปกฮา เหมือนทำให้เค้ารู้สึกว่าเราคิดกับเค้าแค่เพื่อนร่วมงานไม่ได้พิเศษ จะได้ไม่รู้สึกต่อต้าน

พลาดแล้วตัวท่านก็รีบฮึดขึ้นมา
เวลาคุยอะไรก็ให้ปกติสุด ถ้ายิ่งไปคุยแบบเราเศร้าๆ รู้สึกผิด หรือจะขอโทษอยู่นั่น
อีกฝั่งจะอึดอัดครับ
คุยแต่เรื่องงานไปก่อนก็ได้ครับ
ให้เค้ารู้สึกว่า เราไม่มีท่าทีจะไปจีบแล้ว
ค่อยกลับมาคุยปกติ

ใช้วิธีตีมึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องพยายามชวนคุยเงียบๆดีสุด ถ้ามีโอกาสก็คุยตามปกติ

การพยายามไปเคลียนั่นนะมันทำให้อึดอัด

จากประสบการณ์ที่ลูกน้องมาปรึกษาและมีเพื่อนผู้หญิงเยอะ อย่าเข้าไปขอเคลียร์ตรงๆ ทำตัวปกติพูดแต่เรื่องงาน
ผู้หญิงเค้าไม่ได้เป็นแบบผู้ชายพูดแล้วจบ เค้าจะอยู่กับความรู้สึก ความรู้สึกเค้ายังไม่โอเค

คุณอาจจะพึ่งทำลายให้พื้นที่ที่เค้ากั้นไว้ การไปเคลียร์คือการเพิ่มเลเวลรุกล้ำความรู้สึกเค้าอีก
เค้าถ้ารู้สึกไม่สบายใจ ถอยมาคุยกันปกติโอเคกว่า ให้เวลาเดี๋ยวโอเคเอง ผมเจอแบบนี้เยอะมาก

ส่วนผู้หญิงที่เคลียร์ได่ตรงๆมีจริง แต่เค้าจะพูดใส่หน้าท่านตรงๆก่อนเลย จะได้จบ
แต่คนที่ท่านเล่าอ่ะไม่ใช่ เค้าถอยเพื่อสร้างระยะห่างแล้ว อย่ารุกเพิ่ม

ปล. หาใหม่ครับ จีบสาวเฟลบ่อยๆ เดี๋ยวหลังๆก็เซียนเอง

เอาจาก ปสก. ผมนะ ผมว่าท่านคาดหวังมากกว่า หลัจากที่ไปออกตัวประมาณนึงแบบนั้นเขาก็เริ่มเอะใจแล้ว ถ้าเขาไม่ต้องการสัมพันธ์แบบนั้น เขาก็ตัองระวังตัวมากกว่าเดิม ส่วนที่บอกว่าคาดหวังคือ ท่านอาจจะคาดหวังให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม หรืออาจจะคิดว่า ทำไมเขาดูเย็นชาใส่เราจัง

แน่แหล่ะครับ มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้ท่านรู้สึกว่า มันจะเหมือนเดิมไหมนะ เราทักไปเขาจะตอบกลับมาแบบเดิมหรือเปล่า ซึ่งผมเข้าใจนะ ผมเองก็เป็น ปกติกลับบ้านด้วยกันช่วงแรก ตามสถานการณ์ไม่มีใครชวนใคร พอคุยกันไปซักพัก สนิทกันมากขึ้น ผมรู้สึกเริ่มมอยากกลับกับเขาบ่อยขึ้น

เริ่มมากลายเป็นผมตั้งใจละ ผมคาดหวังละว่า ต้องได้กลับกับเขา พอมีวันนึงไม่ได้กลับก็แอบซึม แล้วก็พอมานั่งไล่ดูดี ๆ ที่เราได้กลับกับเขาช่วงหลัง ๆ คือผมเป็นคนเริ่มชวนเขาก่อนทั้งนั้นเลย จนผมก็เริ่มถอย อะรอดูบ้างกว่าเขาจะชวนผมกลับไหม ปรากฎว่าไม่จ้า มีวันนึงเขาเดินผ่านหน้าผมไปเลย

สุดท้ายผมก็ทำใจ แต่ก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่ก็ห่างเขามากขึ้น แบบไม่ได้ตั้งใจจะรอกลับบ้านพร้อมเขาหรือปักธงกลับพร้อมเขาอีกแล้ว คือต้องบอกก่อนนะว่า แรกเริ่มผมก็ชอบเขาแหล่ะ แต่ผมยังไม่ได้คิดไปไกลเท่าไหร่ แต่พอคุยกันบ่อยขึ้น เวลาคุยกันแต่ละครั้ง เขาชอบถ่ายรูปส่งมาให้ดูทุกครั้ง

ตอนนี้กินอันนี้อยู่นะ ตอนนี้ฝนไม่ตกนะ (บ้านใกล้กัน) หรือตอนนี้แบบกำลังทำอะไรอยู่ ไหนจะเรื่องแยกกันถึงบ้านแล้ว โอเครายงานตัวว่าถึงบ้านก็น่าจะจบ แต่เขาก็ชอบเสริมต่อว่า อย่าลืมหาอะไรกินนะ แล้วก็ตอนบอกฝันดีก็มา Sweet dream บ้าง ส่งสติ๊กเกอร์หัวใจบ้าง ไม่ให้คิดได้ไงอะ

มีครั้งนึงนั่งกินข้าวกันกรุ๊ปใหญ่ ผมนั่งข้างเขา ก็คุยกันเรื่องหมูย่างเนี่ยแหล่ะ ว่าแบบชอบอันนี้ไหม ชอบอันนั้นไหม แล้วเขาก็ถามผมว่า แล้วชอบไหม ผมก็ถามไปด้วยความสงสัยว่า หมายถึงชอบอะไรนะ เขาก็เล่นมุขกลับมาว่า ชอบหนูไหม เล่นเอาผมเขินหน้าแดง แบบแดงจริง ๆ แต่เขาก็ขำ ๆ กับเพื่อนเขาประมาณว่า หยอกผู้ชาย เพราะเพื่อนเขาก็มีบางคนหยอกแบบนี้นะ แต่ผมแค่ยิ้มเฉย ๆ อาการไม่ออกเท่าคนนี้

นั่นแหล่ะครับ เล่าเรื่องของตัวเองเยอะไปหน่อย หลัก ๆ เลยคือจัดการกับความคาดหวังของตัวเองให้ได้ครับ เมื่อไม่คาดหวังเราก็จะไม่ผิดหวัง แล้วก็ระวังอย่ากลับไปใน Loop เดิมซำ้สองนะครับ เพราะของผมทิ้งระยะมาได้พักนึงแทบไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว ดันเกิดเหตุเขาต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้กลับมาคุยกันอีก

แล้วก็เหมือนเดิม เขาก็ยังส่งรูปรายงานว่า ให้น้ำเกลือนู่นนั่นนี่ ทานข้าวโรงพยาบาลจืดมาก อะไรแบบนี้ อ่ออีกเรื่องผมแพ้ผู้หญิงพูดคะด้วยแหล่ะ ก็เลยเจอแต่ละประโยคไปใจอ่อนทุกครั้งเลย

90% ของการเข้าไปเคลีย หรือการบอกว่าชอบก่อนตะล่อมจีบ แห้ววครับ ยกเว้นแต่ผู้หญิงจะชอบเราก่อน
เพราะฉะนั้นอย่าาาาเข้าไปพูดเรื่องนี้ต่อโดยเด็ดขาด!! การเข้าไปพูดคุยเคลีย มีแค่ทำให้ท่านสบายใจคนเดียวครับ แต่ทำให้ผู้หญิงเค้าอึดอัดมากขึ้น และความสัมพันธ์จะแย่ลงไปอีก
จะจีบผู้หญิงอยู่ที่การกระทำครับ ทำให้เค้าสบายใจ ให้เค้าสบายใจที่มีเราอยู่ด้วย ไม่ใช่เราอยู่ด้วยแล้วเค้าอึดอัดใจ
มองในมุมของเค้า ไม่ใช่มองในมุมของเรา
คนที่มีปัญหาตอนนี้คือตัวท่านคนเดียว เค้ามองท่านแค่เพื่อนอยู่แล้ว มีแต่ท่านที่กำลังร้อนรนตัวเองไปเอง