ลองมาอยู่ก่อนก็ได้ครับ เพราะเพื่อนผมที่มาเรียนที่เชียงใหม่ คิดถึงเชียงใหม่กันทุกคน แทบจะทุกคนอะ จะต้องกลับมาเชียงใหม่อย่างน้อยปีละครั้ง ไม่รู้ชอบอะไรกัน55555555555555

ร้านคนเยอะๆ มี2อย่างครับ
1. เยอะเพราะรสชาติดั้งเดิม รสชาติแบบท้องถิ่นจริงๆ ไม่ได้ปรับแต่งอะไร อร่อยจริงๆ จะเยอะทั้งคนท้องถิ่น+นักท่องเที่ยว
2. เยอะเพราะนักท่องเที่ยวล้วนๆ แต่รสชาติไม่ใช่รสชาติที่คนท้องถิ่นเขากินกันครับ

ถ้าพวกร้านย่านนิมมาน หรือร้านแถวหลังมช.นั่นน่ะ บอกเลยเป็นแบบที่สองครับ

ใครมาอยู่ก็อยากเป็นคนเชียงใหม่ครับ

แต่ค่าครองชีพไม่ไหวครับ เท่ากทม เงินเดือน 12k

ตอบแบบคน ตจว ที่ที่อาศัยมา 18 ปีแล้วนะครับ
ตั้งแต่สมัยเรียน ตรี+โท ก่อนไปทำงาน กทม
ย้ายจาก กทม ทำงานที่นี่ถาวร
มึบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ตามบัตร ปชช ก็เชียงใหม่เต็มตัว
ส่วนตัวคิดว่า
“น่าเที่ยว แต่ไม่น่าอยู่แล้ว”
ถ้าเทียบกับตอนมาเรียนเมื่อ 18 ปีก่อน

.

.

สำหรับผม ผมรู้สึกว่าจะเหมือนกทม.ไปทุกวันแล้วครับ ประชากรเริ่มหนาแน่นมากขึ้น รถติดมากขึ้นทุกวัน ค่าครองชีพแพงจากเมื่อก่อนมากๆ เมืองมันโตเกินกว่าเมื่อก่อนจนน่ากลัวอะครับ

จะตอบร่างทรงคชโยธียังไงเนี่ย

ทำธุรกิจที่เชียงใหม่ให้รอด ต้องเลือกเอาว่า จะเน้นคนท้องถิ่น (รายได้น้อยแต่ได้เรื่อยๆ ยาวๆ) รึว่าคนต่างถิ่น ไม่ว่าจะนักศึกษาหรือนักท่องเที่ยว (รายได้เยอะเป็นพักๆ)
ช่วงนี้ทุนจีนถอนไปเยอะด้วย ซบเซาหนักไปอีก

ทนได้ก็อยู่ได้ ทนไม่ได้ก็ม้วนเสื่อ ไม่สามารถเอาฐานคิดคนกรุง เมืองอุตสาหกรรม ที่รายได้และกำลังซื้อสูงกว่ามาก มาใช้ได้เลย อย่างที่ท็อปคอมเม้นต์ว่าครับ

ที่คนชอบหลายคนจะชอบเรื่องความรุ่มรวยวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ศาสนสถานก็มาก เมืองช้าๆ สโลว์ๆ (ซึ่งจริงๆ มันไม่ได้ช้าขนาดนั้นถ้าไปย่านธุรกิจ) บรรยากาศเอื้อต่อนักท่องเที่ยว มีทุกรูปแบบน่ะครับ

อย่างตัวเมืองเชียงใหม่ คุณสามารถไปไหว้พระที่ดอยสุเทพ ชมดอกไม้ที่พระตำหนักภูพิงค์ ไปสวนสัตว์ ดูน้ำตกผาลาด แว็บไปตระเวนวัดในเขตคูเมือง หรือช็อปปิ้งตามตลาด ตามห้างได้ ในที่เดียว

แต่ขนส่งมวลชนนี่ถอยหลังลงคลองจริง

ส่วนเรื่องพหุวัฒนธรรมก็เอาเป็นจุดขายได้แต่เขาไม่ทำกัน ไม่รู้ทำไม เป็นเมืองค้าขายมาร่วมร้อยปีแท้ๆ

เมืองมันน่าเที่ยวจริงๆ นะ จะเอาฟีลเมืองเก่า เมืองราตรี ลุยป่าฝ่าเขา ทะเลหมอก ช็อปปิ้ง วิถีชีวิตได้หมด แต่อย่าไปถามคนท้องถิ่นเรื่องสถานที่เที่ยวหมดนะ เพราะหลายที่เกิดมาก็ไม่เคยไปเลย ถามได้แต่ร้านอาหารที่คนที่นั่นกินกัน

ชม. ถ้าคุณไปทำธุรกิจ กลุ่มลูกค้าจะมี2ประเภท หลัก

1 นศ พวกนี้กินง่ายไม่อะไรมาก เน้นคุ้มค่า = ร้านลับ ตามมุม ตามซอก ตามหลืบ
2 นทท กลุ่มนี้เน้น ร้านดัง ร้านสวย ราคาไม่เกี่ยง = ร้านดังตามโซเชี่ยล

นักธุรกิจหวังให้ร้านตัวเองได้ลูกค้าแบบ2 แต่ความจริงแล้วถ้าจะให้อยู่ได้ต้องได้แบบ1
เพราะโฟกัสผิดจุด โซนท่องเที่ยวจึงมีร้านหมุนเวียนกันเปิดไม่ซ้ำยังไงล่ะ

จริงครับ ผมไม่เคยตอบเพื่อนได้เลยว่าเวลามาเชียงใหม่เที่ยวไหนดีวะ เพราะตอนอยู่รร.เลิกเรียนก็กลับบ้านเลยอะ เสาร์อาทิตย์ก็เรียนพิเศษ หรือไม่ก็อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนเลย แต่ถ้าเรื่องกินอะได้ พวกร้านลับๆงี้ แต่ตอนนี้ร้านพวกนั้นไม่ค่อยลับละ555555555555555

ก็เห็นด้วยนะครับ

1. Loyalty ไม่มีจริง คนเชียงใหม่ชอบลอง อะไรฮิตคือฮิตแบบเอาเป็นเอาตาย
ต่อคิวกันหลัก 2-3 ชม.ได้เลย เช่น ช สเต็ก ซึ่งไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย แบบไม่มีเลย
ก็ต่อคิวกันแบบต่ำๆสมัยฮอตๆต้องมี1ชั่วโมง

2. ค่าแรงต่ำ อาชีพดีดี บริษัทดีดีในเชียงใหม่ถือว่าน้อยมากๆ
ถ้าไม่จบหมอมา โอกาสที่ first jobber จะเงินเดือน 50k++ ถือว่าน้อยมากๆ

3. ต่อเนื่องมาจากค่าแรงต่ำ ด้วยความที่ค่าตอบแทนน้อย บริษัทดีดีน้อย
ทำให้คนที่มีศักยภาพไม่มีทางเลือก นอกจากหนีเข้ากรุง หรือทำธุรกิจเอง
ซึ่งการทำธุรกิจแบบไม่ได้ล้ำไม่ได้เทพอะไรมาก ก็คือเปิดร้านอาหาร เปิดร้านกาแฟ เปิดร้านเหล้า
เปิดร้านซักรีด เปิดหมูกระทะ ชาบูบลาๆๆ ซึ่งคนที่พอมีเงินหน่อยอะไรหน่อยก็มาทางนี้ทั้งนั้น

และก็อย่างที่บอก ร้านใหม่ที่ทำดีดีหน่อยมักได้แต้มเสมอ ขอแค่แตกต่างและดีหน่อย คนพร้อมสนับสนุน
ร้านเก่าที่ทำดีพอกัน แต่คนเริ่มชิน มักจะเสีย market share

4. จึงทำให้การแข่งในตลาดสูงมากๆ อะไรดีจะมีคนที่มีศักยภาพมีความพร้อม มาลุยแข่งเสมอ
ืซึ่งสุดท้ายจะนำไปสู่ marketing campaign ทั้งค่าโฆษณา ทั้งค่าลดแลกแจกแถม ทำให้marginบาง

5. ก็อย่างที่ท้อปเม้นบอก ว่าค่าเช่าที่สูง ซึ่งส่วนนึงก็มาจากการแข่งขันที่รุนแรง
วัยรุ่นเพิ่งจบใหม่ๆบ้างพอมีตัง ก็มักจะทำธุรกิจ ซึ่งรวยจริงๆมีน้อยที่จะถึงขั้นซื้อที่ทางเองได้ ในทำเลเทพๆ
ส่วนมากก็เช่าทั้งนั้น แต่ด้วยความจบใหม่ทำให้ไม่เก๋าพอ และคนพวกนี้มีเยอะมากๆ มีมาทุกรุ่น
พวกนี้จะมาด้วยไฟ มาด้วยความฝัน คิดว่าทำได้คุ้มทุนแน่ ทำให้ราคาเช่าอาจจะสูงก็สู้
เป็นผลให้ landlord มีความสามารถในการต่อราคาได้สูงมากๆ

และประเด็นคือ landlord หลักๆของเชียงใหม่ เท่าที่ทราบถ้าไม่ใช่คนร่ำรวยมากๆของเชียงใหม่เอง
ก็เป็นระดับประเทศทั้งนั้น ก็ไม่แปลกที่เค้าจะมีอำนาจต่อรองสูงมากๆ


โดยสรุปคือ
- ต้นทุนในการทำเรียกว่าสูงเลย
- ผู้บริโภคต้องการของพรีเมี่ยม แต่ต้องถูก ซึ่งแปลกมากๆ
(ใครอยากทำให้ได้ดี คนเชียงใหม่ต้องยอมรับว่าคุ้ม ซึ่งคำนี้มันยากมากๆ ที่คนเชียงใหม่จะให้นิยามคำว่าคุ้ม
เทียบกับกรุงเทพแล้ว ถ้ากรุงเทพ5/10 เชียงใหม่ก็ 50/10 แหละอย่างต่ำๆ)
- เบื่อง่ายหน่ายเร็ว
- ทำอะไรผิดนิดเดียวคือพัง เพราะเชียงใหม่มันแคบกว่าที่คิดมากๆ ทั้งๆที่พื้นที่ใหญ่กว่ากรุงเทพเป็น10เท่า
(แต่ผู้บริโภคตัวจริง เชื่อเถอะ คนรู้จักไม่เกิน3ทอด รู้จักกันทั้งเชียงใหม่)
- เกลียดนักท่องเที่ยว (อันนี้เอาแบบทำธุรกิจนะ) ร้านไหนนักท่องเที่ยวเยอะ คนเชียงใหม่จะน้อยทันที
ร้านไหนคนเชียงใหม่เยอะ นักท่องเที่ยวก็จะน้อยมาก ซึ่งจะกลับกันแบบนี้ตลอดเวลา
แปลว่าร้านไหนจะเอาทั้งคู่นี่คือโคตรจะยากเลย
(แต่ก็แปลกร้านไหนคนท้องที่เยอะจะยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่ เพราะตามกระแสกันแบบสุดของสุด)

โดยส่วนตัวคิดว่า ทั้งจริง และไม่จริง

ไม่จริง คือ ทั้งประเทศที่ไม่ใช่กรุงเทพ มันก็เป็นเมืองปราบเซียนหมดแหละ เพราะกำลังซื้อไม่สูง(ปัญหาเดียวกับเชียงใหม่)

จริง คือ ภาพลักษณ์เป็นเมืองใหญ่ที่เพียบพร้อมทุกด้าน ถูกยกให้เป็นเบอร์ 2 รองจาก กทม. (ทั้งที่จริง ๆ หลายจังหวัดน่าจะใหญ่กว่าในเชิงเศรษฐกิจและประชากรเช่น ชลบุรี และจังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพ) แต่ด้วยค่าแรงเฉลี่ยที่ต่ำจนน่าเกลียด ทำให้กำลังซื้อจริง ๆ ต่ำ อะไรที่เป็นกระแสมักทำได้ดีที่นี่ ส่วนนึงคงเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่พวกที่กะจะลากธุรกิจให้โตยาว ๆ นี่ยากถึงยากมาก ๆ

1.ค่าครองชีพสูงกว่าเดิมมาก แต่เงินเดือนวิศวกรจบใหม่ยัง 13-15k
2.น่าเที่ยวจริง ร้านรวง คาเฟ่ ผุดอย่างกับเห็ด ราคาไม่ได้ถูกเลย
3.เพื่อนส่วนใหญ่จะมาถามว่า เชียงใหม่เที่ยวไหนดี กินอะไรดี
ผมก็บอกมันไปว่า มึงไปเปิดกูเกิลเลย หาเอา ตามนั้นแหละ
ถามกุก็ เดินห้าง อยู่บ้าน กินเตี๋ยว เย็นมาก็หมูทะ
4.ถ้าผมไม่ได้ย้ายกลับมาด้วยเงินเดือนหลวง ผมก็คงไม่รู้จะทำอะไรให้พอค่าผ่อนบ้านเลย 555

1. ทำธุรกิจอะไรจะมีคู่แข่งเยอะ แล้วแข่งกันตัดราคา
2. การคมนาคมโดยระบบขนส่งสาธารณะแย่มาก ส่วนใหญ่ยังพึ่งรถสองแถว
3. เขตตัวเมืองขาดการวางผังเมืองมาเป็นเวลานาน
4. ด้วยความที่เป็นจังหวัดใหญ่แหล่งท่องเที่ยวอยู่ห่างไกลกันมาก
5. ธุรกิจหลายอย่างมีเจ้าถิ่นอยู่แล้ว

การไปอยู่ที่เชียงใหม่อย่างน้อยจะต้องมีมอเตอร์ไซค์ครับ ค่าครองชีพ ถ้าเทียบกับกรุงเทพฯแล้วก็อยุธยา ค่าครองชีพที่เชียงใหม่จะถูกกว่า แต่ถ้าไปอยู่ ก็ลำบากนะครับที่จะ create ธุรกิจอะไรขึ้นมาเพราะว่ามันมีคู่แข่งเยอะรวมไปถึงมีเจ้าถิ่นอยู่แล้ว