ในแง่ของภาพรวม การมีงานทำ รายได้ ความก้าวหน้า ความเหนื่อยของงาน

สาขาไหนดีกว่าครับ แล้วเพราะอะไรครับ

เอกชน บัญชี ดูไปได้ไกลและค่อยอดได้เยอะมากๆ ญาติเรียนจบม.เอกชนไม่ดังมาก ปัจจุบันเป็นAuditของBig4ละ ชีวิตก็ดูสบายชิวๆดี แถมน่าจะแตกแขนงไปได้อีกหลายสายนะ

กฏหมาย ถ้าราชการน่าจะดีกว่า แต่ผมไม่รู้เรื่องเกี่กับสายนี้เลย รู้แค่ว่าต้องไปดันด้นเป็นเนติ สอบอัยการ ผู้พิพากษา อะไรพวกนี้อีก

ส่วนเอกขนนี่ความรู่ผม=0เลย

นิติ ถ้าไม่ขยันอย่าหาเรียน

บัญชีผมว่างานหนัก

บัญชี ยังไงก้มีงานรองรับแน่ๆ แต่แบบเหนื่อยจริงเหนื่อยจัง นิ่งช่วงปิดงบนี่แบบ

ส่วนนิติผมมองว่าแล้วแต่คนแฮะ

ผมจบนิตินะ ขอแบ่งตามนี้นะครับ
ไม่คิดรับราชการ - ไปบัญชีสามารถไปไกลมากๆครับ มีเส้นทางเติบโต ทุกบริษัทต้องการบัญชี ตำแหน่งงานหลายๆตำแหน่งจบบัญชีเป็นพื้นฐานได้เปรียบคนจบสาขาอื่นมากๆครับ ไม่รวมถึงคนเก่งมากๆไปทางผู้สอบบัญชี

คิดจะรับราชการ - ไปนิติครับ วุฒินิติศาสตร์สามารถไปได้ไกล ในทุกสายราชการ และวุฒินิติศาสตร์คือวุฒิที่เปิดสอบเข้าราชการมากที่สุด การจบนิติในองค์กรพิเศษมีเงินประจำตำแหน่ง รวมถึงเงินพิเศษอย่าง พตก เงินค่าสำนวนสอบสวน หรืออื่นๆแล้วแต่จะเรียก ซึ่งจบวุฒิอื่นจะไม่ได้

ส่วนตัวผมถ้าย้อนกลับไปได้ก็อยากไปเรียนบัญชี(ปวช-ปวส) แล้วมาต่อนิติรามนะ อันนี้ไปได้ไกลกว่านิติธรรมดาสุดๆ

บัญชีครับ
เอกชน ความต้องการยังเยอะมากๆ
ราชการ การแข่งขันน้อยมาก คนเก่งๆไม่ค่อยมาทำกัน

สอบพวกสายงานบัญชี คนผ่านน้อยกว่าตำแหน่งที่รับประจำ
ถ้าขึ้นบัญชี คนที่ผ่านไงก็บรรจุจนหมด

บัญชีน่าเรียนกว่า เพราะสาวเยอะ

บัญชีครับ นิติ คุณต้องเป็นนักสู้ ถึก บึกบืนนน

ตอบจากคนเรียนนิติ

เรื่องการทำงาน

ถ้าสายราชการ ไปได้หลายตำแหน่ง ปลัด นิติกร ตร. ปปช. ปปท. อัยการ ผู้พิพากษา แล้วแต่ความสามารถ รายได้/สวัสดิการก็แล้วแต่ตำแหน่ง

สายเอกชน ก็ทนาย รายได้อยู่ที่ความสามารถ ชื่อเสียง

ความเหนื่อยของงาน สายกฎหมายต้องอ่านตลอดชีวิต ทั้ง กม. ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง แนวคำพิพากษา แนวปฏิบัติอะไรพวกนี้ ต้องอัปเดทตลอด

ส่วนสายบัญชี ทราบคราวๆ คือไม่ตกงานแน่นอน มีความต้องการในตลาดแรงงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

อาผมที่เป็นนักบัญชีก็รายได้ดีมากนะ แต่เหมือนรับงานนอกทำบัญชีให้ บ. อื่นด้วย

เดาว่าถ้าตัวท๊อปนิติน่าจะรวยกว่า แต่ถ้าเฉลี่ยๆ บช น่าจะหางานง่ายกว่า ปล.ผมเดา ปล.2ชอบอันไหนเรียนอันนั้น

ถ้าเก่ง มีรายได้ดีทั้งคู่ครับ
รู้จักทนายที่เก่งๆ นั่นก็รับคดีนึงอยู่ได้ทั้งปี
ส่วนบัญชีรับปีๆนึง เซ็นโน่นเซ็นนี่ ได้เรื่อยๆเหมือนกัน หรือถ้าเป็นนักวางแผนภาษีรับบริษัทใหญ่ๆมาก็ได้เยอะ
กรณีที่เก่งนะ ย้ำอีกที ส่วนเงินดีก็เหนื่อยทั้งคู่ ทั้งทนาย ทั้งบัญชี ถ้าเรื่องใหญ่ก็อยู่ยันเที่ยงคืนทั้งคู่

จะเลือกอันไหนแล้วแต่ความชอบ เชื่อเถอะว่าคนที่จะเลือกเป็นทนายก็ได้ นักบัญชีก็ได้ มีน้อยจริงๆ
ถ้าเรียนนิติ แทบจะทิ้งบวกลบคูณหารไปเลย หนีคำนวณมาเป็นทนาย
ส่วนบัญชีก็จะอยู่กับตัวเลข การวางแผน บวก ลบ คูณ หาร ตลอดเวลา

ถ้าเลือกได้เลือกเรียนสาขา STEM and Accounting
Science
Technology
Engineer
Mathematic
บัญชีเติบโตไม่ได้ในสายบัญชาการก็เงินเดือนดีอยู่แล้ว ถ้าโตไปก็ยิ่งดี รักชอบกฎหมายไปเรียนราม มสธ.ได้
แต่วิทยาศาสตร์ไปเรียนเอง ไม่ทันเพื่อนเพราะความรู้วิ่งไปทุกวัน


หลีกเลี่ยงสาขาสังคม เพราะศึกษาวงแคบ และไม่ได้มีความต้องการทางตลาดมาก
สายกฎหมายถ้าไม่ได้เป็นผู้พิพากษา อัยการ นอกนั้นเงินเดือนน้อยถ้าเป็นลูกจ้างเขา
ต่อให้เป็นนายตัวเอง เดี๋ยวนี้ก็ต้องไปเกาะกระแส โหดกระแสเอางานเข้าตัว

แต่บัญชีไม่มีคำว่าลำบากวันนี้ สบายวันหน้านะคะ มีแต่ลำบากวันนี้ และเหนื่อยวันหน้า แต่ค่าตอบแทนก็คุ้มค่ากว่า

ผมก็ออกความเห็นเฉพาะสายนิติศาสตร์หละกัน สายนี้
ถ้าไปเป็นทนาย ลูกน้องเค้านี่เหนื่อยมาก กดดันจัด
ส่วนถ้าแค่ไปเป็น แค่นิติกร เงินเดือนก็แค่ระดับกลางๆ
ถ้าจะทำพวกแนวนี้ ต้องหาสำนักงานที่เป็นลอว์เฟิร์ม และใช้ความรู้ด้านภาษาด้วยถึงจะเงินเดือนพอได้

ถ้าสอบติด ศาล,อัยการ อันนี้ดีเลย งานหนักแต่ผลตอบแทนคุ้มค่า
ส่วนงานทนายความ ต้องมีพาวเวอร์ คอนเนคชั่น ถึงจะไปได้ไกลครับ

บัญชีเครียดงานหนัก แต่หางานง่ายกว่า เงินเดือนสูง ไปได้ไกลกับเอกชน

นิติศาสตร์ผมไม่ทราบ ถ้านิติผมชอบแบบไปทาง อัยการ ผู้พิพากษามากกว่า


บัญชีอยู่กับตัวเลข ความเป๊ะ ความถูกต้องละเอียดและเครียดมาก นิติจะไปทางความจำ การตีความ


ถ้าเลือกเรียนได้แค่ 2สาขานี้ ผมไปนิติแบบไม่คิดเลยอะ เพราะเกลียดตัวเลขมาก ไม่ชอบงานหนักด้วย