[RE: น้าแวนบอก "ปู่ครัฟฟ์" คงขายหน้าพฤติกรรมบุญโยก]
๐mC๐ พิมพ์ว่า:
ZinedineZidane พิมพ์ว่า:
๐mC๐ พิมพ์ว่า:
ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคันโยกเลย ยิ่งโยก 1 โยก 2 นี่ยิ่งจำเป็น เพราะเส้นตายมันใกล้ ยังไงก็ต้องเอาแก้ไขเฉพาะหน้า
เพียงแต่ว่าแทนที่จะเอาเงินมาจัดการนักเตะก่อนหน้า เคลียร์หนี้กับนักเตะสิ เคลียร์แล้วขอแก้ไขสัญญาก็ได้ ตัวที่มีก็ไม่ได้ขี้กากอะไร
แต่ดันเอาไปเซ็นตัวใหม่รัว ๆ ถ้าขายตัวเก่าได้เยอะแยะมันก็โอเค แต่นี่ขายก็ไม่ขาย ตัวใหม่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น เพราะตัวปีที่แล้วมันก็เล่นได้
พอโยกรัว ๆแล้วแฟนบอลยังปากแจ๋ว ก็เอากับเขาซะหน่อย
ตัวที่มีไม่ได้ขี้กากอะไร แต่ไม่ได้ดีพอที่จะประสบความสำเร็จไงครับ
การที่เขาลงทุนเพิ่มบนความเสี่ยง ก็เพื่อว่ามันจะงอกเงยเป็นกำไร ทั้งในสนาม และการตลาด
ถ้าคิดว่า มีเงินในกำมือ แล้วเคลียร์หนี้ทั้งหมด เงินนั้นก็จะหายวับไป (เป็นหนี้เพิ่ม) แต่ไม่มีอนาคต
แล้วตัวที่มีอยู่เดิมมันก็ไม่ได้จะสร้างแรงดึงดูดรายได้อะไร ทั้งความสำเร็จและการตลาดที่ถดถอย
มันจะยิ่งหนักกว่านี้อีกในอนาคต
ประเด็นบาซ่าลงทุน ผมแฟนมาดริด เห็นด้วยอย่างสุดตัว ว่าทำถูกต้อง และต้องเร่งรีบทำด้วย
ถ้าไม่ทำตอนนี้ บาซ่า ที่เคยรู้จัก ได้หายวับไปกาลเวลาอันใกล้แน่
ส่วนกรณี การดูแลนักเตะ อันนี้เห็นด้วย ที่บริหารจัดการได้ไม่ดี
อยากขาย นักเตะไม่อยากย้าย แต่มันมีวิธีการจัดการละมุนละม่อมกว่านี้
แต่จะเอาการดูแลนักเตะไปเหมารวม โยก 1 โยก 2 โยก 3 ผมว่าคนวิจารณ์ วิสัยทัศน์แคบไปหน่อย
เปรียบเทียบเล่นๆ ทำไมคนถึงกู้ยืม (ยอมเป็นหนี้) เพื่อทำธุรกิจครับ
ทั้งที่การกู้ยืม มันต้องเสียดอกเบี้ย บางทีก็แพง หรือเสี่ยงมาก ในการลงทุน
เพราะเขาต้องการสร้างโอกาส...
- โอกาสหายใจอย่างหนึ่ง (ที่เรียกว่าสภาพคล่องทางธุรกิจ)
- โอกาสต่อยอดทางธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง (ผลกำไรจากการลงทุน)
บางยูส วิจารณ์แค่เอามันส์ (อ่านแล้วเหมือนเด็กขี้อิจฉาจริงๆนั่นแหละ)
แต่จริงๆมันไม่ใช่เด็กขี้อิจฉาอะไรหรอก
มันเกิดจาก
1. คนมันไม่เคยทำธุรกิจ วิสัยทัศน์มันจะแคบ มองเห็นแค่ระยะใกล้ มีหนี้ใช้หนี้ คิดแค่นั้น
แต่มันไม่เคยคิดต่อว่าใช้หนี้จบ ต้นทุนหมด แล้วตอนต่อไปจะต่อยอดอย่างไร
2. คนทำธุรกิจมันต้องมองไกลกว่านั้นครับ ใช้หนี้ส่วนนึง ลงทุนเพื่ออนาคตไปด้วยส่วนหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่ผ่านไป มันจะได้มีอะไรงอกเงยกลับมาด้วย
งั้นก็มารอดูกันนะ กู้ กับ ขายสมบัติแดก มันไม่เหมือนกันนะ
ซื้อตัวใหม่มา แล้วภาระเก่ายังอยู่มันสมควรไหม ผมก็บอกแล้ว ถ้ามันขาย ๆไป ซื้อตัวใหม่ทดแทนมันก็เข้าใจได้
ใช้หลักสิบแก้ไขปัญหาเดิม ไม่เอา กูอยากใช้หลักร้อย ซื้อมากอง ๆไว้ ปัญหาเดิมก็ยังอยู่
ซื้อ ๆมาใหม่ ทำไมยังเสมอราโย เอาเป็นว่ารอดูละกัน อนาคตเป็นไง
เงินจากการทำธุรกิจฟุตบอล ไม่ได้มาจากแค่ชัยชนะบนสนามครับนู๋
มันมาจากหลายปัจจัย ถ้าบาซ่าไม่มีแรงดึงดูด จะเอารายได้จากไหนครับ
ตัวที่ซื้อแต่ละตัวคือระดับท็อป ในตลาดเกือบหมด นั่นคือความทะเยอทะยานครับ
ภาพมันก็ยังชัดอยู่ว่าต้องการไปอยู่ในจุดประสบความสำเร็จทางฟุตบอลสูงสุด
มูลค่ามันก็ไม่ได้ตกลงไปครับ (ส่วนเรื่องในสนามผลการแข่งขัน มันก็ต้องไปลงดีเทลกันครับ)
เกมพึ่งเริ่มนัดแรก ครับ มีเวลาอีกเยอะ
ถึงสรุปสุดท้าย บาซ่าจะชวดทุกแชมป์ มูลค่าทางการตลาดมันก็จะไม่ตกลงไปมากนักอยู่ดีครับ
นั่นคือการลงทุน...
ส่วนที่คุณว่าขายสมบัติแดก นั่น
ถ้ามีให้ขายแดก ก็ต้องขายก่อนครับ เพราะมันมีให้ขายไงครับ (มูลค่ามันยังมีอยู่)
ถ้าไม่มีมันจึงต้องกู้ยืม หรือหาวิธีหาเงิน ก็เป็นเรื่องปกติ (เด็กอมมือยังรู้)
ขายไปแล้ว รายได้แค่ลดลงครับในส่วนธุรกิจลิขสิทธิ์ต่างๆ
ซึ่งมันมีกำหนดจำนวนเวลาที่ขายกี่ปี กี่ปีเอาไว้ ไม่ได้ขายไปตลอดกาลนาน(เทอญ)
แล้วเอาเงินที่ขายไปลงทุนในนักเตะใหม่
เพื่อให้นักเตะใหม่เป็นภาพลักษณ์และผลงาน ในการรักษามูลค่า(ของสโมสร) ว่ายังคงทะเยอทะยานระดับสูง
แบบนี้สปอร์นเซอร์หรือนักลงทุน เขาก็อยากลงทุน อยากสปอร์นเซอร์ครับ
แบบนี้บาซ่า(จึง)จะไม่ตายด้วยเหตุผลประการฉะนี้ครับ
แล้วการที่เขาขายสมบัติแดก คือ มันเป็นสมบัติเขาครับ (หนักหัวใครครับ) ประเด็นมันอยู่ตรงนี้
เขามีเงิน เงินอยู่ในกระเป๋าเขา ถ้าเขาใช้ยังไงก็เรื่องของเขาครับ
(เราคนนอก) วิจารณ์หรือแสดงความเห็น(เชิงสร้างสรรค์ได้ครับ)
แต่ถ้าถึงกับขนาดต้องไปกะเกณฑ์เงินในกระเป๋าคนอื่น
ผมว่าอันนี้คือ (เผือก) นะครับ
ไม่ต้องไปรอดูไกลหรอกครับ เอาแค่...
ก่อนโยก 1 โยก 2 โยก 3 บาซ่า (แทบจะ)เหลือแต่ชื่อ
ผมคนนึงเฉยๆเวลาบาซ่าลงเล่น เพราะไม่มีการเล่นสวยๆให้ดู ไม่มีซุปตาร์ให้ชมฟอร์ม
แต่หลังโยก 1 โยก 2 โยก 3
มันก็ดึงดูดแฟนบอลกว่าเดิม ก่อนโยก 1 โยก 2 โยก 3 (ชัดเจน)
อยากเห็นเลวาน อยากเห็นราฟินญ่า อยากเห็นคุนเด้ อยากดูคริสเตียนเซ่น
ฟอร์มจะมาแบบไหน ในลาลีก้าปีนี้
ไอสิ่งนี้แหละ คือสิ่งแรก ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุน (มูลค่าสโมสร)
ซึ่งมันเกิดขึ้น และดีขึ้นกว่าเดิมในเวลาแค่ไม่ถึง 3 เดือน
ทิศทางมันจึงเป็นบวก มากกว่าลบ
ฐานะแฟนบอล ควรจะดีใจ ตื่นเต้นด้วยซ้ำ
ที่ได้ประโยชน์จากการดูนักเตะระดับโลกรวมทีมลงฟาดแข้ง
ดังนั้นหายใจลึกๆ เปิดใจกว้างๆ...ท่องไว้ เงินเขา ไม่ใช่เงินเรา (ไม่เผือกดิ)
ปล.จากแฟน มาดริด ที่เขียนเกี่ยวบาซ่า