ผมเจอมากับตัว บีบแตรลากยาวเลย คนแก่เนี้ยข้ามถถนใต้สะพานลอย
ถนน 8 เลนด้วยแถวๆ นนท์ มันยุ่งยากตรงไหนกันเชียว
ความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมถนน แลกกับความสบายแค่วิ่งๆไปเดี๋ยวรถเห็นก็คงหยุดให้แหละ
คิดกันงี้หรอ แค่สละเวลาเดินขึ้นบันได ถึงจะดูไม่ดีต่อแข้งขา แต่ก็ไม่ควรเอาชีวิตเสี่ยงอันตรายแบบนี้

R.I.P ไรเดอร์

อย่าว่างั้นงี้เลย ต้นเหตุแม่งผังเมือง
ไปต่างประเทศ ถนนมันตัดๆกัน
เส้นยาวๆใหญ่ข้ามถนนไม่ได้มันก็ไฮย์เวย์
ถนนในชุมชนมีคนข้ามปกติมันก็ตัดๆกัน ข้ามได้ที่แยก
เมืองไทยนี่โง่หลายเด้ง สะพานลอยนี่สร้างหมดกันไปเป็นหมื่นล้านแล้วมั้ง
ผมก็ว่าไม่ถูกนะ แต่ก็ยังไม่เคยแก่ขนาดนั้น แม่แฟนเก่าก็เคยพูดประมาณนี้ แก่แล้ว อ้วนด้วย สะพานสูงปีนไม่ไหว

ผมแบ่งสาเหตุออกเป็นหลายส่วนประกอบครับ
1.สะพานลอยไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ควรทำทางม้าลายแทนไหม
2.คนเดินข้ามถนน ไม่ดูรถดูลาอะไรเลย
3.รถเมล์วิ่งเลนขวา และวิ่งเร็วมาก เหมาะสมไหมในพื้นที่ชุมชน
4.ผู้เสียชีวิตขี่มาด้วยความเร็วมาก

เคสนี้จะบอกว่ามีครบทั้ง ความซวย, ประมาท, มักง่าย และ วิธีการข้ามถนนที่ไม่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แม่ง final destinationชัดๆ

มอเตอร์ไซค์ 1 หยุดกระทันหันเพราะเจอคนแก่ข้ามในระยะประชิด
เก๋งป้ายแดง เบรคกระทันหันเกือบทัน มีจูบท้ายมอไซค์1แบบเบาๆ น่าจะโดนแค่บังโคลนหลัง แต่มอไซค์ไม่สนใจขับออกไปเลย
รถเมล์1 ขับเร็ว ชิดขวา เบรคไม่ทัน แรงเฉื่อยมหาศาล ทั้งๆที่ระยะห่างก็พอมี จูบท้ายเก๋งป้ายแดงจนพังยับ
มอเตอร์ไซค์2 ขับแทรกออกขวา ไม่เร็วมาก แต่น่าจะเพลินไปนิด เลยชนท้ายรถเมล์1 แล้วเซล้มไปทางรถเมล์2
รถเมล์2 ขับเลนกลางไม่เร็วมาก ไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหต แต่ล้อหลังก็ไม่พ้นเหยียบมอไซค์2


สรุป รถเมล์1 รถเก๋งป้ายแดง โดนกันคนละข้อหาจราจรเบาๆคนละ1-2ข้อ
รถเมล์2 โดนข้อหาประมาท ถึงแก่ความตาย แต่น่าจะยกฟ้อง
มอไซค์2 คงได้แค่ พรบ. ประกันต่างๆ ฟ้องร้องใครก็น่าจะไม่ได้
มอไซค์1 หายไปแล้ว น่าจะไม่โดนข้อหาอะไร
คนข้ามถนน ก็น่าจะโดนข้อหาทางจราจรเบาๆ แต่อาจสู้ได้ว่าข้ามสะพานลอยไม่ไหวอะไรก็ว่าไป

เห็นเหมือนท่านบนว่านะ ปัญหาแรกคือสะพานปลอดภัยจริงแต่ก้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

ปัญหาสองคนข้ามถนน ถึงจะบอกว่าข้ามสะพานลอยไม่ไหวแต่ก้มักง่ายไปแล้วตัวเองเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุที่มีคนตาย แต่ตัวเองไม่มีความผิดอะไร

ปัญหาผมมองว่ารถเมมาไวเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นเลนขวาก้เหอะ ส่วนมอไซก้มาขวามาเลย คือถ้าชนแล้วล้มมาทางขวาก้คงรอด

เหตุการณ์นี้นี่รวมตัวแปรหลายอย่างเลย ผังเมือง ความมักง่าย ประมาท ซวย อุบัติเหตุ

เคสเดียวสื่อให้เห็นถึงความล้มเหลวทางจราจรบ้านเราได้เพียบเลย ช่วงหมอกระต่ายเสียใหม่ๆ มอไซค์แถวที่ทำงานผม ซึ่งปกติมันมีทางม้าลาย ไอ้พวกนี้ไม่ค่อยหยุดหรอก แต่พอมีเคสหมอ มอไซค์มี่มุดมาก็มาไม่ได้เบานะ เจอคนข้ามม้าลายก็เบรค ด้วยความมีมารยาท แต่ไอ้มอไซค์ที่ตามมาคันหลังดันมาไวกว่าเบรคไม่อยู่ จิ้มดากกันลงไปทะเลาะยกใหญ่ ผมซึ่งนัางขับในรถได้แต่มองจะไปไปบ่นว่าจะขับกันช้าๆเดี๋ยวก็หาว่าไปหยามเค้าจ่ายภาษีเท่ากัน บลาๆๆ ข้ออ้างเยอะอะพวกมอไซค์หลายๆคน ขับมุดขับปาดขับแทรกจนเคยตัว ขับที่ห้ามขับยิ่งชอบ ยิ่งตรงเส้นพหลข้างในตั่งแต่สี่มุมเมืองยาวๆขาออกไปนี่แมร่งชอบมุดมากันจังแล้วไม่ได้ขับช้าด้วย วันนั้นก็ตายไปหนึ่งสงสัยจะตายฟรี คนจะเปลี่ยนเลนใครจะคิดว่ามอไซจะมุดมาก็เค้าห้ามเข้า

ผมดูแล้ว ไงมอไซก็ตายฟรีล่ะ ขับขวา แทรกเลน เปลี่ยนเลนกระทันหัน ชนท้าย จริงๆเอาแค่ชนท้ายมันก็โทษใครไม่ได้แล้วล่ะ กฏหมายมันเป็นแบบนั้น

อีลุงคนข้ามถนนควรติดคุกไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอะไรก็ตามที่ไม่ยอมขึ้นสะพานลอย

แล้ว ช ญ ที่กระโดดโหยงอยู่เกาะกลางทางขวาตอนรถเมล์85เบรคจนชนใต้สะพานลอยคืออะไร ไม่ข้ามสะพานลอย

อ้าว ทางม้าลายมันก็ต้องหยุดมั้ย
เคสหมอกระต่ายเพิ่งเสียเมื่อตอนต้นปี ตอนนี้คงลืมไปกันหมดแล้ว
ประเทศไทยวินัยบนท้องถนนต่ำจริง ไม่ค่อยเห็นหัวคนเดินเท้า

ใช่ครับ ต้องหยุด ผมก็ชะลอทุกทางม้าลายนั่นแหละ ถ้าเห็นคนข้ามก็หยุด แต่หมายถึงว่าถ้าหลังมันมาเร็วๆให้ผมทำยังไงอะครับ

เพิ่ม เคยหยุดให้คนข้าม คนข้ามก็ยึกๆยักๆ ผมโดนชนท้ายมาแล้ว

ถ้ามอไซ ไม่ หลบ ก็รอดตาย แต่ก็ติดคุก อีก เวณกรรมประเทศไทย

ถ้าจะเดินข้ามถนนใต้สะพานลอย ผมไม่จอดนะ ขับหลบเซฟกว่า
สงสารคนตายเลย RIP ครับ

ในฐานะคนขับรถเมื่อก่อนผมโคตรด่าเลยนะพวกข้ามถนนไม่ใช้สะพานลอยหรือไม่ข้ามตรงทางข้ามเลย
แต่พอค่อยๆคิด ค่อยๆนึก เวลาได้เห็นข่าวอุบัติเหตุ ได้เจอคนข้ามถนน ได้เป็นคนข้ามถนนเองแล้วก็เลิกด่า ออกแนวเห็นใจตัวเองและคนอื่นที่มีชีวิตในประเทศเส็งเคร็งนี่จริงๆ
โอเคเเหล่ะคนข้ามถนนเฮงซวยมีไหม มี แต่มันไม่ใช่ทุกคนไง หลายคนนี่มันออกแนวไม่มีทางเลือกด้วยซ้ำไป

สะพานลอย คนพิการนี่ตัดทิ้งไปก่อนเลย ขึ้นไม่ได้ ไม่มีทางขึ้นได้
คนแก่ คนไม่แข็งแรง คนอ้วนจัด ขึ้นไม่ไหวนะ แล้วบางทีสะพานนี่แม่มคนดีๆขึ้นยังแทบไม่ไหวเลย ชัน แคบ

พอจะมาข้ามทางม้าลายนี่หลายอันก็เข้าขั้นเชี่ยเลย คือเหมือนมุมมองของฝ่ายดูแลจราจรหรือทำถนนบ้านเราเนี่ย ทางม้าลายคือการเอาสีขาวไปทาสลับลายไว้ "ตรงไหนก็ได้" โดยที่มันไม่คิดเลยเวลาใช้งานจริงเป็นยังไง บางอันเอาไปอยู่ตรงยูเทิร์นให้รถกลับรถมาพุ่งชนพอดี บางอันเอาไปอยู่มืดๆ บางอันก็ไม่ติดไฟให้ บางอันก็อยู่ตรงหัวโค้งทางแพร่งที่คนข้ามจะมองไม่เห็นรถ บางอันก็เอาไปไว้ตีนสะพาน คือแต่ละอันนี่ใช้งานจริงเนี่ยอันตรายพอๆกับกูไปหาทางข้ามเองดีกว่า

แล้วยังถูกซ้ำเติมด้วยจิตสำนึกของคนขับรถที่เข้าขั้นบัดซบเข้าไปอีก จะด้วยรถติด ความเร่งด่วนของชีวิตหรืออะไรในประเทศนี้ก็เถอะมันหล่อหลอมให้พฤติกรรมคนขับรถบ้านเรากลายเป็นการดิ้นรนเอาตัวรอดจนไม่คิดถึงคนอื่นอ่ะ
มอไซค์ก็ขี่กันเหมือนเอาตรีนเหยียบพื้นไม่ได้ เบรกแล้วรถจะล้ม โลกจะแตก
รถยนต์ก็มุดก็ปาด ใครชลอเว้นช่องไม่ได้เจอเสียบเจอแทรก ถ้าพลาดไปวิเดียว ติดไฟแดงทีนี่กลายเป็นช้าเพิ่มไปสิบนาที
พอทุกอย่างรวมกันมันเลยทำให้คนเดินเท้านี่กลายเป็นสปีชีต่ำสุดของถนนอ่ะ ไม่อยู่ในสายตาคนขับรถเลย เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่พอไปต่างประเทศถึงได้รู้ว่า บ้านเรานี่แม่งไม่ปกติอย่างรุนแรงเลยนี่หว่า พอได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของกฏจราจร ได้เห็นทางม้าลายที่ไม่ใช่แค่เอาสีไปทาพื้น ได้เห็นรถหยุดที่ป้าย stop แม้ว่าถนนจะมันอยู่คันเดียว ได้เห็นสี่แยกที่รอยต่อระหว่างไฟเขียวไฟแดงจะมีเวลาสำหรับให้คนเดินข้ามด้วย
เชี่ยย บ้านกูนี่มันไม่ปกติแล้วจริงๆอ่ะ ปัญหาพันกันเป็นแหจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนเลย แล้วไอ้คนมีอำนาจนี่ก็ไม่สนใจจะทำอะไรให้มันดีขึ้นด้วย เหมือนปล่อยให้อยู่ๆกันไปอ่ะ แพ้ก็ตาย โคตรเซอร์ไวเวอร์เลย

เข้าใจว่าคนแก่ ขึ้นสะพานลอยไม่ไหว

แต่ใจคอคือลุงจะมาข้ามในจุดที่รถวิ่งกันเร็วแบบนี้เนี่ยนะ แล้วเดินก็ไม่ค่อยไหว ทำแบบนี้เห็นแก่ตัวฉิบหาย

สิ่งที่ลุงควรทำ คือเดินไปหาจุดที่รถมันไม่ได้วิ่งเร็ว จุดที่มันข้ามได้จริง ๆ อย่างเช่นทางม้าลาย