ไอ้ส่วนมีประโยชน์อ่ะน้อย ไปหนักส่วนไร้ประโยชน์ซะมาก

ก็หมอ พยาบาล นี่ก็ข้าราชการ( ถึงหลังๆแทบไม่ได้บรรจุ ) ที่ทำงาน ในโรงบาลรัฐบาล ทั้ง ในเมือง ตจว. ชายแดน ช่วยรักษาคน ไม่ได้รายได้เงินดีแบบหมอเอกชน

ก็ด่าเหมารวมข้าราชการไปแล้ว มันไม่ด่าหมอ ตรงไหน ? พวกทำงานแบบเช้าชามเย็นชามมันก็มี แต่คนที่ทำงานเต็มที่ และทำงานจนเกินเวลาไปมันก็มีเยอะ แค่เขาอยู่หลังบ้านไม่ได้หน้าฉากให้เราเห็น

ก็หมอ พยาบาล นี่ก็ข้าราชการ( ถึงหลังๆแทบไม่ได้บรรจุ ) ที่ทำงาน ในโรงบาลรัฐบาล ทั้ง ในเมือง ตจว. ชายแดน ช่วยรักษาคน ไม่ได้รายได้เงินดีแบบหมอเอกชน

ก็ด่าเหมารวมข้าราชการไปแล้ว มันไม่ด่าหมอ ตรงไหน ? พวกทำงานแบบเช้าชามเย็นชามมันก็มี แต่คนที่ทำงานเต็มที่ และทำงานจนเกินเวลาไปมันก็มีเยอะ แค่เขาอยู่หลังบ้านไม่ได้หน้าฉากให้เราเห็น

ข้าราชการ ไม่เยอะหรอก แต่ปัญหามันเยอะ

- หลายๆหน่วยงาน ข้าราชการ ไม่พอกับเนื้องานด้วยซ้ำ ทำงานโคตรทาส เช่น สาธารณสุข นี่หละ งาน หมอ พยาบาล โคตรหนัก ผลตอบแทนถ้าเทียบกับเอกชนนี่คนละเรื่องเลย

- เงินเดือน ไปหนักข้างบน พวกข้าราชการข้างล่าง นี่บอกเลย ทำงานเหมือนกับไทยยังไม่ได้เลิกทาส

- บางหน่วยงานกลับกัน คนเยอะ วันๆแทบไม่มีงาน โคตรสบาย ถ้ายกตัวอย่าง ผมให้หลายๆ กอง ของ รถไฟไทย อะ กอง ไหนงานหนัก ทำเป็นทาส กองไหนงานเบา นั่งจิบกาแฟไถมือถือได้ทั้งวัน แต่เงินเดือนพอๆกัน


- หน่วยงานไหน ที่ต้องมีการติดต่อกับ ประชาชน = ใต้โต๊ะ กันรวย

กรมที่ดิน สมอ โยธา ตำรวจ พวกออกใบขออนุญาติให้ประชาชนทำมาหากินต่างๆ


- ต่อจากข้างบน ประชาชน ธรรมดา ถ้าไม่ยัด ไม่มีเส้น ก็ทำธุรกิจยาก ต้องหนีไปทำแบบนอกระบบ ไม่ก็เลิกทำ

- พอออกนอกระบบ ก็เก็บภาษีไม่ได้ รัฐฯ ก็ไม่มีรายได้ ก็ไปกดค่าแรง ข้าราชการล่างๆ หรือ ไม่มีงบให้บรรจุข้าราชการเพิ่ม


พอจะให้แก้ รื้อระบบ ไอ้พวกสบาย พวกรับเงิน พวกบนๆ ก็ไม่ยอมหรอก แล้วพวกนี้มีปากมีเสียงไงเพราะตำแหน่งสูง พวกทำงานเป็นทาสล่างๆ มีเสียง มีสิทธิ พูดกันที่ไหน

ข้าราชการสำหรับประเทศเรามันมีไว้ถมระบอบโครงสร้างอำนาจต่างๆที่ชนชั้นปกครองออกแบบไว้ ยิ่งมีข้าราชการเยอะระบอบก็ยิ่งมั่นคง เวลาเราอยากจะแก้ไขระบบให้มันดีขึ้นหรือออกแบบให้มันใหม่ขึ้นเราจะทำไม่ได้มันก็จะติดคนพวกนี้แหละที่จะไม่ยอมเพราะไม่อยากเสียผลประโยชน์

บริษัท ผมมี 3-4 คนที่ลาออกจากทหารอากาศ ได้รับเงินบำนาญ เดือนละ 10000 กว่าบาททุกเดือน โคตรดี ไม่ต้องทำอะไรเลย

อยากให้เอาสัดส่วนของญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบ จะได้เข้าใจเรื่องการกระจายอำนาจ

ของไทยอยู่ในเมืองเกินครึ่ง
ของญี่ปุ่นอยู่นอกเมืองเกินครึ่ง

ผมคิดว่าหลายๆหน่วยคงอัตราไม่พอ โดยเฉพาะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อนๆผมในสายนี้ ลาออกกันแทบจะหมดแล้วครับ
เห็นมีปัญหาเรื่องตกเบิกเงินเดือน ทำงานหนักด้วยมั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด น่าสงสารมาก หมอๆแต่ละท่านทำงานกันหนักเหลือเกิน

คหสต. ของผม เป็น รสก. ที่ผ่านๆมาที่ทำงานผม กำลังลดอัตราครับ พยายามปรับขนาดองค์กร ล่าสุดเกษียณไป2 ลาออกเออรี่ไป 1 มั้ง รวม3คน ได้กลับมา1อัตราเอง อีก2อัตราไปไว้หน่วยอื่นซะงั้น
แล้วอยากจะบอกว่าคนมันไม่พออยู่แล้วครับ แต่เหตุผลที่ไม่พอคือ พวกพนักงานระดับเก่าแก่มันทำงานกันไม่ได้ครับ(ไร้ประโยชน์) งานแม้งเลยลงมาloadที่เด็กๆ เอาจริงๆถ้าไอ้พวกบนๆมันหัดทำการทำงานให้คุ้มเงินเดือนบ้าง ผมว่ายังไงส่วนผมคนก็พอครับ
แต่ก็สภาพตามนั้นครับ

แล้วก้สิ้นเดือนนี้ผมก้ลาออกกลับเอกชนแล้วครับ ไม่ไหวกับระบบจริงๆ เป็นเรื่องยากมากที่จะเปลี่ยน และเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าร่วม ออกแม้งเลยละกัน

ขอบคุณครับ

น้อยครับ

ผมรับราชการมา 3 กระทรวง
เคยได้ทำงานในหน่วยงานที่งานสบายมากๆ คนเบอะกว่างานก็มี

บางหน่วยงานนี่ก็ทำงานโคตรหนัก มาตั้งแต่ ยังไม่แปดโมง เลิกงานทุ่มสองทุ่ม และต้องมาทำเสาร์ อาทิตย์ ด้วย แบบนี้โดยไม่มีโอที

คืองานราชการมีขอบเขตกว้างมาก จนไม่อยากให้เหมารวมเท่าไรเลย

น้อยครับ เพราะภาระงานมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันลดลง ไอ้งานที่หัวเลียนายนี้แหละ มันเพิ่มขึ้นมา สั่งวันนี้ เอาพรุ่งนี้
คนลาออกก็เยอะ เพราะไอ้งานนอกพวกนี้แหละ

ต้อง not all ด้วยสินะ

5555555

เยอะไปจริงๆ ตัดออกได้30-40%เลยมั้ง แล้วเกลี่ยกระจายให้แต่ละหน่วยไม่งานเบาไปหรือหนักเกินไป

ระบบมันต่างหากที่กาก ต่อให้คนเก่งๆเข้าไปก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

เข้าใจว่านักการเมืองไม่ใช่ครับ ข้าราชกาลต้องสอบเข้า