BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7344
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 19:46
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
jjmarket พิมพ์ว่า:
ลืมคำนวณโบนัสป่าว
โบนัสออกที ซื้อซิวิค ได้คันนุง ก็ไม่ต้องผ่อนแล้วนี่นา
แต่ส่วนใหญ่กระสันไปเล่นยุโรป กันน่ะซี่
แล้ว benefits ดีๆ นี่แทบไม่ต้องซื้อ health insurance แล้วนา
ส่วนบ้านแถวๆ CBD 20m+ แต่ fixed assets ดีๆแบบนี้ อย่าไปคิดมากเลย ซื้อไว้มีแต่กำไรนะ  


โบฯมันไม่แน่นอนน่ะสิครับ 2-3 เดือนมันก็สองสามแสน ก็ไม่พอไปออกซีวิคโดยไม่ผ่อนแล้วนะ แต่บ้านผมเห็นด้วยนะ ผมก็ซื้อคอนโดเพิ่มตอนเงินเดือนเท่านั้นแหล่ะ เพราะบ้านผมซื้อก่อนหน้านั้นนานแล้ว อยู่ออกมานอกเมือง มาซื้อคอนโดใกล้เมืองมากขึ้น แต่ก็เอาปล่อยเช่าอยู่ดี 55
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7344
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 19:48
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
Spoil
MizU2 พิมพ์ว่า:
ToonLF พิมพ์ว่า:
MizU2 พิมพ์ว่า:
ผมเห็นด้วย จขม. มากๆนะ ที่พิมพ์มามันถูกเอาต้องเลยสำหรับการเป็นชนชั้นกลางคนนึงซึ่งเผชิญกับ middle income trap ในยุคนี้

อาจจะมีบ้างที่ผมเห็นแย้ง ไม่ว่าจะเป็น income ที่ควรคิดจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
หรือถ้าจะคิดจากกรณีชายโสด ก็ไม่ควรอยู่บ้านที่ต้องผ่อนหนักขนาดนั้นรึเปล่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเรื่องปลีกย่อย ในองค์รวมแล้ว ผมเห็นด้วยมากๆครับ

อย่างกรณีผมนี่โชคดีหน่อยที่ net income(ใน+นอกระบบ) หลุดจาก 100k ต้นๆมาได้หลายปีแล้ว
อีกทั้งไม่มีภาระทางบ้านเลย ให้พ่อแม่แค่ขำๆไว้ให้ท่านดีใจ หรือจะแฟนผมที่รายรับพอๆกันหรือมากกว่าในทุกๆเดือน
ในขณะเดียวกันเนื่องจากผมอายุ 32 แฟน 28 เราเลยยังไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อบ้านที่ผ่อนเดือนละ 50-70k
กลับกันเราอยู่2คนที่คอนโดผ่อนเดือนละ 10k ซึ่งทุ่นรายจ่ายตรงนี้ไปได้เยอะ(แต่กรณีผมไปหนักที่รถแทน เหลืออีก2ปี)
ค่ารักษาพยาบาลผมก็ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท ส่วนของแฟนก็รักษาตามสิทธิ์บุคลากรทางการแพทย์ของต้นสังกัดเขาไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณบริษัทมากๆ ที่ให้สวัสดิการดีๆ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายหลายๆมิติลงไปทั้งรักษาพยาบาล การเดินทาง กินอยู่ในเวลางาน ทำให้เหลือค่าใช้จ่ายแค่ที่อยู่ กินอยู่ส่วนตัว ลงทุนแค่นั้นเอง

โดยรวมแล้ว 2 คนรวมกัน เหลือไปออมในสินทรัพย์ต่างๆได้ราวๆ 60% ของ income
ซึ่งเราทั้ง 2 คนก็หวังว่าจะหลุดจากสถานะ middle income นี้ให้ได้ก่อน 40 สาธุๆๆ  


ผมเห็นด้วยเกือบทั้งหมดเลยครับ แตถ้าวันนึงต้องย้ายจากคอนโดที่ผ่อนเดือนละ 10k มาผ่อนเป็น เดือนละ 60k แบบถ้าไม่โปะ ผ่อน 30ปี ก็จะรู้ว่า middle income trap นั้นมันกว้างเหลือเกิน 555  


จริงมากๆครับท่าน topic นี้เป็นเรื่องที่ผมกับแฟนยังคิดไม่ตกกันซักทีว่าจะเอายังไง

ุถ้าซื้อหลังเล็กๆ <10M ก่อน ก็กลัวว่าอยู่ไป 10-20 ปี จะต้องเปลี่ยนอีกครั้งรึเปล่า ราคาตอนนั้นจะพุ่งไปขนาดไหน
กลับกัน ถ้าซื้อหลังใหญ่ๆไปเลย 15-20M ก็หมายความว่าจะต้องผ่อนกันทั้งชีวิต
แทนที่บ้านจะเป็น asset แต่บ้านที่เกินกำลังแบบนี้กลายเป็น liability ตลอดชีวิต
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลุดออกจากชนชั้นกลาง  
 


ผมกะแฟนรายได้รวมกันตอนนี้ก็เรียกได้ว่าสบายแหล่ะครับ เราสองคนซื้อบ้านกันราคาประมาณ 15m เพราะมองว่ามันคือการซื้อเพื่ออนาคต เพราะราคาที่มันขึ้นทุกวัน ส่วนประกันสุขภาพอันนี้ก็หวังพึ่งขององค์กรนั่นแหล่ะ 555

ที่เหลือคือลงทุนกับไปเที่ยวแล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2013
ตอบ: 641
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 20:15
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
MizU2 พิมพ์ว่า:
ToonLF พิมพ์ว่า:
MizU2 พิมพ์ว่า:
ผมเห็นด้วย จขม. มากๆนะ ที่พิมพ์มามันถูกเอาต้องเลยสำหรับการเป็นชนชั้นกลางคนนึงซึ่งเผชิญกับ middle income trap ในยุคนี้

อาจจะมีบ้างที่ผมเห็นแย้ง ไม่ว่าจะเป็น income ที่ควรคิดจากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
หรือถ้าจะคิดจากกรณีชายโสด ก็ไม่ควรอยู่บ้านที่ต้องผ่อนหนักขนาดนั้นรึเปล่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเรื่องปลีกย่อย ในองค์รวมแล้ว ผมเห็นด้วยมากๆครับ

อย่างกรณีผมนี่โชคดีหน่อยที่ net income(ใน+นอกระบบ) หลุดจาก 100k ต้นๆมาได้หลายปีแล้ว
อีกทั้งไม่มีภาระทางบ้านเลย ให้พ่อแม่แค่ขำๆไว้ให้ท่านดีใจ หรือจะแฟนผมที่รายรับพอๆกันหรือมากกว่าในทุกๆเดือน
ในขณะเดียวกันเนื่องจากผมอายุ 32 แฟน 28 เราเลยยังไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อบ้านที่ผ่อนเดือนละ 50-70k
กลับกันเราอยู่2คนที่คอนโดผ่อนเดือนละ 10k ซึ่งทุ่นรายจ่ายตรงนี้ไปได้เยอะ(แต่กรณีผมไปหนักที่รถแทน เหลืออีก2ปี)
ค่ารักษาพยาบาลผมก็ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท ส่วนของแฟนก็รักษาตามสิทธิ์บุคลากรทางการแพทย์ของต้นสังกัดเขาไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณบริษัทมากๆ ที่ให้สวัสดิการดีๆ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายหลายๆมิติลงไปทั้งรักษาพยาบาล การเดินทาง กินอยู่ในเวลางาน ทำให้เหลือค่าใช้จ่ายแค่ที่อยู่ กินอยู่ส่วนตัว ลงทุนแค่นั้นเอง

โดยรวมแล้ว 2 คนรวมกัน เหลือไปออมในสินทรัพย์ต่างๆได้ราวๆ 60% ของ income
ซึ่งเราทั้ง 2 คนก็หวังว่าจะหลุดจากสถานะ middle income นี้ให้ได้ก่อน 40 สาธุๆๆ  


ผมเห็นด้วยเกือบทั้งหมดเลยครับ แตถ้าวันนึงต้องย้ายจากคอนโดที่ผ่อนเดือนละ 10k มาผ่อนเป็น เดือนละ 60k แบบถ้าไม่โปะ ผ่อน 30ปี ก็จะรู้ว่า middle income trap นั้นมันกว้างเหลือเกิน 555  


จริงมากๆครับท่าน topic นี้เป็นเรื่องที่ผมกับแฟนยังคิดไม่ตกกันซักทีว่าจะเอายังไง

ุถ้าซื้อหลังเล็กๆ <10M ก่อน ก็กลัวว่าอยู่ไป 10-20 ปี จะต้องเปลี่ยนอีกครั้งรึเปล่า ราคาตอนนั้นจะพุ่งไปขนาดไหน
กลับกัน ถ้าซื้อหลังใหญ่ๆไปเลย 15-20M ก็หมายความว่าจะต้องผ่อนกันทั้งชีวิต
แทนที่บ้านจะเป็น asset แต่บ้านที่เกินกำลังแบบนี้กลายเป็น liability ตลอดชีวิต
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลุดออกจากชนชั้นกลาง  


สิ่งนี้คือสิ่งที่คนใน ญป เจอตั้งแต่10ปีก่อน แต่ยังดีที่ ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศโตเกียวเท่าไหร่
แต่กำลังเกิดขึ้นปัจจุบันเลยในเกาหลีตอนนี้ คนอายุ30-40 ใช้เงินกับของฟุ่มเฟือยเป็นผักปลาเลย เลิกล้มความคิดที่จะซื้อบ้านหรือ อพาร์ทเมนต์ในโซลแล้ว เพราะราคามันสูงเกินเอื้อม ไม่รู้มันกำลังจะเริ่มเกิดกับไทยในอนาคตกี่ปี ที่แม้กระทั้งคอนโดในเมืองก็ราคาซื้อไม่ไหว TT
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Oct 2007
ตอบ: 233
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 20:29
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
ที่จขกท.พูดก็ถูกและอีกหลายๆคนพูดก็ถูกอีกเหมือนกัน

เอาในแง่ของจขกท.ก่อน ที่ว่าเงินเดือน 100k แล้วรู้สึกว่าการใช้จ่ายยังไม่สบายก็ตามนั้นเลย ต้องมีผ่อนนู่นผ่อนนี่ทำให้เหลือเก็บอยู่แค่เท่านี้ ซึ่งจำนวนขนาดนี้จะเรียกว่าสบายมันก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก

หรืออย่างหลายๆคนที่พูดว่า พอเงินเดือนเยอะขึ้น(ในกระทู้นี้เอา base ที่ 100k ละกัน เพราะผมถือว่าสูงล่ะ)แต่ละคนก็อยากให้คุณภาพชีวิตตัวเองดีขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นการอัพรถ อัพบ้าน หรือบางคนไปรถยุโรป กินห้างบ่อยขึ้น นู่น นี่ นั่น ซึ่งถ้าเอารถญี่ปุ่นราคากลางๆ บ้านตก 2-3 ล้าน หรือกินห้างน้อยลง 100k มันก็น่าพอในระดับที่สามารถใช้คำว่า "เกือบสบาย" ได้ หรือบางคนอาจจะสบายได้เลยเพราะประหยัดกว่านี้ก็ถือว่าเก่งมากๆ

อย่างสำหรับผมก็ยอมรับตามตรงว่า พอได้เงินเพิ่มขึ้นมันก็อยากเพิ่มคุณภาพชีวิตตัวเองแหละ พูดตรงๆ ยังดีที่บ้านกับรถไม่ต้องผ่อนแล้ว แต่ตอนนี้เอาแค่ Maintain ให้เงินตรงนี้ไม่ร่อยหรอลงไปกว่าเดิมก็ถือว่าเหนื่อยแล้ว เพราะลำพังแค่ ค่าประกัน ผม เมีย ลูก 2 + ค่าเทอมคนโต(ดีที่คนเล็กยังไม่เข้าเรียน) ปีๆนึงน่าจะเกือบ 600k ยังไม่รวมค่าอย่างอื่นเลยนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jul 2022
ตอบ: 372
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 20:39
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
SerraAvatar พิมพ์ว่า:
ceoflow พิมพ์ว่า:
SerraAvatar พิมพ์ว่า:
สำหรับผมนี่สบายแล้วนะ เงินเดือนเกินแสนนี่มันไม่ถึง 10% ของประชากรแล้วล่ะ ถ้า top 10% ยังไม่สบาย ผมก็ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าสบายแล้วล่ะ หรือต้องมีร้อยล้านพันล้านถึงจะเรียกว่าสบาย อันนั้นมันก็สุดขั้วไปนะ ชีวิตมันคงไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก  

คือสบายของแต่ละคนผมว่าไม่เหมือนกัน
ภาพคนกรุงที่ยึดติดทุนนิยม
-รถต้อง c segment ขึ้น
-1เดือนต้องไปร้านอาหารในห้าง3 ครั้ง
-ข้าวปกติมื้อละ 60-100
-เครื่องแต่งกายมีแบรนด์ปะปลาย
-บ้าน 5-6m+
-สนองกิเลส ส่วนตัวเล็กๆน้อยเริ่มที่เดือนละ 3k-5k
-เงินเก็บอีก
คิดภาพดูถ้าต้องมีครอบครัว ร่ายจ่ายมันจะเริ่มรัดตัวคืออยู่ได้แต่ตกงานไม่ได้รายได้หายไม่ได้เลย  


ความสบายมันอยู่ที่แต่ละคนจริงแหละ แต่ผมถามว่าคนได้เงินเดือนเกินแสน ในกทม. จะมีซักกี่ % ถ้าเงินเดือนเกินแสนแล้วยังไม่อยู่สบาย ผมว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ได้เท่าไหร่แล้วล่ะ อยู่ที่จะใช้ยังไงมากกว่า ถ้าคนส่วนใหญ่ยังอยู่ได้ด้วยเงินเดือน 15000-30000

ผมก็มองแบบคุณแหละ คือรถก็ต้อง camry accord หรือไม่ก็ต้องยุโรป ต้องได้ไปเที่ยวเมืองนอก ปีละ 2-3 ครั้ง บ้านต้องบ้านเดี่ยว ต้องบ้านใหญ่ๆหน่อย ต้องมีอาวุธแบรนด์เนม ต้องมีประกันเต็มสูบ ต้องมีเงินเก็บ ลูกต้องเรียนนานาชาติ ถ้ามีขนาดนี้รายเดือนมันจะตืดก็ไม่แปลกหรอก แต่ก็ถามหน่อยว่าแล้วไอ้ที่มี มันยังไม่เรียกว่าสบายอีกหรอ? สุดท้ายมันอยู่ที่เราจะใช้ยังไงมากกว่าแหละ  

ผมเข้าใจชนชั้นกลางในมุมที่เค้ามองนะ
อย่างบ้านเนี่ย ทาวน์เฮาวส์สมันก่อนกับสมัยนี้สังคมมันคนบะเรื่องเลย ต้องยอมรับจริงๆอย่างน้อยบ้านเดี่ยวที่ 7 8 m+
สภาพสังคมจะมีมารยาท
เรื่องการศึกษาถ้าไหวก็ต้องลุยกันเต็มที่ โรงเรียนวัดกับโรงเรียยรัฐบาบต้นๆหรือเอกชนหรือนานาชาติ สังคมมันจะหล่อหลอมไปอีกแบบนึง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 13274
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 08, 2022 21:04
[RE: รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ]
แล้วแต่บริบทชีวิตครับ ถ้าทะเยอทะยานอยากเรื่อยๆ ก็ต้องวิ่งหาต่อไม่จบสิ้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Wildly-Vet
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 8987
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 09, 2022 07:19
รายได้ต่อเดือน ที่ใช้ชีวิตได้"สบาย"ในกรุงเทพ
ดูการใช้ชีวิตแล้ว สองแสนก็ไม่พอมั้ง จริงๆสามารถบริหารจัดการให้สบายๆได้ แต่เป็นความพอใจส่วนบุคคลมากกว่า
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


#ForzaMilan #ฉันภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ ๙
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel