ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้า 10 ล้าน ถ้ามันจะทำเลวกับลูกเรามันก็ทำ

งานแต่งเป็นเรื่องของคนสองคน
แต่ดันเดือดร้อนผู้ชายต้องหาเงินมากองให้พ่อแม่เจ้าสาวเอาไปอวดป้าข้างบ้าน

พิธีกรในงานยังประกาศด้วยนะ ว่าสินสอดกี่บาท ทองกี่บาท อื่นๆกี่บาท
ควรเลิกได้แล้วล่ะมั้ง

อย่าว่าแจ่เก็บเลยครับ งานแต่งงานยังไม่ต้องจัดเลย แค่ จดทะเบียน กินเลี้ยงกัน 2 ครอบครัวพอ

ในนี้มีใครไม่เก็บจริงๆ บ้างครับ เข้าใจว่าเจ้าบองมู้ สมมุติว่า...ถ้า แต่มันอีกนานเลยกว่าจะถึงวันนั้น อยากฟังคนทีมีลูกสาวกำลังจะแต่งงานด้วยครับ มันใกล้เคียงกว่า

"เก็บแต่คืนให้เพื่อทดสอบเจ้าบ่าว" กูหรรม จำข่าวที่ไปเช่าสินสอดมาวางได้ไหม ไม่ได้ทดสอบไรผู้ชายหรอกเรื่องนี้ มันไปยืมคนอื่นมาวาง เช่าเอามาให้พ่อตาแม่ยายก่อนได้เหมือนกัน และก็ไม่ได้รับประกันด้วยว่าเขาจะดูแลลูกสาวเราดี

ผมไม่เอาสักบาทเลย ดูแค่นิสัย การทำ ความคิดก็พอ ถ้าเหมาะสมกับลูกสาวเรา แล้วลูกสาวเรารักมากก็ไฟเขียวเลย
ไม่สนว่าจะรวยหรือจน ไม่ต้องเอาเงินมากอง ดูแลลูกเราให้ดีก็พอแล้วครับ

ไม่เรียกอ่ะ ฝั่งนั่นพ่อแม่เขาก็ไม่ได้เลี้ยงมาด้วยหญ้าข้างทาง เขาก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน

ส่วนงานแต่งก็แล้วแต่ อยากจัดก็จัด ไม่อยากก็ผูกข้อไม้ข้อมือจบ

มีน้องสาว(ลูกน้า)ครับ
น้าสาว/น้าเขยไม่เรียกร้องอะไรเลยแม้แต่พิธีแต่งงาน ตอนน้องสาวออกเหย้าไปอยู่กับสามี ก็มีแค่ชวนญาติสนิท(พี่น้องแม่ กับรุ่นลูกที่โตมาด้วยกัน)มากินข้าวกัน ราวๆ 2 โต๊ะจีน เพื่อเป็นการแจ้งกับญาติอย่างเป็นทางการมากกว่า ซึ่งจริงๆญาติฝั่งแม่ผมก็กินข้าวกันแบบนี้เป็นปรกติอยู่แล้วครับ

ส่วนสองคน จะไปเลี้ยงเพื่อนอะไรยังไง ก็แล้วแต่พวกเขา ไม่มีพิธีอะไรที่เกี่ยวข้องกับญาติผู้ใหญ่แล้ว

ท่านไม่เชื่อว่าผมจะไม่เก็บในอนาคตก็ไม่เป็นไร

แต่ตัวอย่างที่ Visible ก็คุณตาผมไงครับ ขนาดเขาหัวโบราณกว่าผมเยอะ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ไม่ได้อยู่สบาย ฐานะก็ด้อยกว่าครอบครัวฝั่งผู้ชาย ยังไม่เก็บเลย

กลับมาที่ตัวผมที่เป็นเด็กหัวขบถกับธรรมเนียมไทยมาตั้งแต่เด็ก ผมยังมองไม่เห็นตรรกะที่เมคเซนส์อะไรของการเก็บสินสอดเลย

เรียก เก็บแล้วก็ฝากไว้ ถ้าลูกเขยทำตัวดี ไม่มีปัญหา อยุ่กันรอด4-5 ปีก็คืนให้ มีความจำเป็นต้องใช้ ก็คืนให้

ผมจะให้มีพิธีสู่ขอ รดน้ำอวยพร ไม่ต้องมีสินสอด ไม่ต้องมีงานเลี้ยง ถ้าจะจัดงานแนะนำให้ไปจัดกันเองแบบฝรั่ง พ่อแม่ไม่เกี่ยว

ไม่เด็ดขาด แล้วจะให้มันจบที่รุ่นผมด้วย

ผมบอกกับแฟนละ ถ้าพ่อแม่เธอเรียกสินสอดคงไม่ให้นะ ผมไม่โอเค

[size=18]ผมจะขอดู สเตจเม้นย้อนหลัง2ปีครับ กลัวจะมาเกาะลูกสาวผมกินครับ[/size]

ไม่เรียกเลย ทั้งแบบคืนหรือไม่คืน

มีวิธีเยอะแยะ ในการดูคน ไม่จำเป็นต้องมาลองใจ ทกสอบด้วยการเรียกแล้วให้คืนไรหรอก

เอาง่ายแค่ลูกผมหาเงิน หางาน เองได้นะ ผมจะไม่ยุ่งกับมันอีกเลย

จากมู้ผมใช่มั้ยครับ

ส่วนตัวผมก็ไม่ได้กะเลวกะลาดอะไรนะ ทำงานสุจริตปกติ เงินเดือน40K เงินออกปุ๊บหักเข้าบัญชีร่วม สำหรับจัดงาน20Kเลย แล้วตัวเองก็เก็บเพิ่มอีก10K เท่ากับว่าทุกวันนี้ผมใช้แค่วันละไม่ถึงร้อยห้าสิบบาทด้วยซ้ำ

ตอนแรกผมก็ไม่ได้เครียดอะไรนะ วางแผนว่าช่วยๆเก็บด้วยกัน ได้สัก7แสน น่าจะพร้อมสำหรับจัดงานแล้ว คือพวกค่าโรงแรม ค่าชุด ค่าแหวน ค่าถ่ายรูปพรี นู่นนี้นั่น

พอฝั่งบ้านแฟนบอก สินสอดควรเตรียมไว้ล้านนึง ผมเลยนั่งคำนวนแล้วคำนวนอีก ยังไงด้วยตัวเองคนเดียว ไม่น่าเก็บเงินนี้ แบบ individually ได้ในปีครึ่ง ถ้าไม่หักจากกองกลาง หรือมีคน support แปลว่าทางออกที่เป็นไปได้ น่าจะต้องเลื่อนไปก่อนอีกต่ำๆเกือบๆ2ปี ถึงจะมีเงินเย็นมาวางเป็นสินสอดล้านนึงได้


ปัญหาที่ผมเจอคือ ค่างาน 6แสน กับ สินสอดล้านนึง นี่มันก็ตึงมือมนุษย์เงินเดือนอย่างผมสุดๆเหมือนกัน

ถ้าสินสอดเหลือ4แสนนี่ ผมแทบไม่มีปัญหาเลย

ถ้ามีลูก ผมคงเรียกเก็บเป็นพิธีครับ แล้วก็คืน แต่สุดท้ายคงแล้วแต่ว่าที่เมีย