BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10124
ที่อยู่: bangkok
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 14:36
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Spoil
Antivist พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


gat pat คะแนนมีอายุ 2 ปี สอบได้ปีละครั้ง สามารถเลือกใช้คะแนนปีที่ดีที่สุดได้ มันไม่แฟร์ยังไงครับ

สมมุติผมเป็น dek64 ผมสอบปีผม และผมจะซิ่วผมก้ต้องมาสอบแข่งกับ dek65 ผมมีโอกาสเลือกคะแนนปีที่ดีที่สุดแต่แลกมากับระยะเวลา 1 ปี  


มันไม่แฟร์ตรงที่ ข้อสอบมันไม่มาตรฐานไงครับ เดี๋ยวยากเดี๋ยวง่าย นั่นแหละครับประเด็น ส่วนเรื่องซิ่วนั่นอีกเรื่องนึงเลย แต่ถ้าคุณจะมองว่าแฟร์ก็แล้วแต่ดุลยพินิจเลย สำหรับผมไอ้การจัดสอบแบบนี้ยังไม่เห็นมันจะลงตัวสักทีเลย ข้อสอบก็มีประเด็นแทบทุกปี ตั้งแต่สมัยใช้ระบบ Gat pat แรกๆ รุ่นผม มาจนรุ่นนี้แล้ว ก็ยังมีปัญหานี้มาตลอด ประมานนั้นแหละครับ  
 


ใช่ครับข้อสอบไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้จน ทปอ ไม่ไว้ใจ้ให้ สทศ ออกข้อสอบให้ทั้งที่หน้าที่หลักของ สทศ คือการจัดสอบระดับชาติทุกสนาม พอ ทปอ มาออกเองโดยให้ มธ มศว ช่วยออกสรุปยากกว่า สทศ อีกจากที่นักเรียนบ่น

ผมก้เริ่มคิดแล้วแหละพอข้อสอบมันไม่ได้มาตรฐาน มันทำให้เด็กเสียเวลาต้องไปสอบใหม่ ทั้งที่ถ้าข้อสอบมาตรฐานเท่ากันทุกๆปี เด็กก้คงไม่ต้องเสียเวลา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 14:40
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Spoil
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


gat pat คะแนนมีอายุ 2 ปี สอบได้ปีละครั้ง สามารถเลือกใช้คะแนนปีที่ดีที่สุดได้ มันไม่แฟร์ยังไงครับ

สมมุติผมเป็น dek64 ผมสอบปีผม และผมจะซิ่วผมก้ต้องมาสอบแข่งกับ dek65 ผมมีโอกาสเลือกคะแนนปีที่ดีที่สุดแต่แลกมากับระยะเวลา 1 ปี  


ประเด็นมันไม่เกี่ยวกับเสียเวลา 1ปีครับ
ประเด็นมันคือความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก


เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  
 


โอเคคุณกำลังบอกว่าข้อสอบควรยากง่ายในมาตรฐานที่เท่ากันใช่มั้ยครับ การสอบทุกสนามมันคือการเตรียมตัวถูกมัย ทีนี่ถ้าผมอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63% แต่ผมได้แค่ 60% ผมก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ ใช่ครับในกรณีที่ผมไม่ติดรอบ 2 ผมก้ยังมีรอบ3ให้ยื่นอีก 10 อันดับถ้าไม่ติดอีกผมลุ้นคณะที่จะเข้าเปิดรอบ4 แต่ถ้าไม่ได้เลยแล้วผมอยากเรียนจริงๆผมจะซิ่วครับ ถ้าผมซิ่วนั่นเท่ากับว่าผมมีเวลาเตรียมมากกว่าเด็ก ม.6 ปัจจุบัน 1 ปีถูกมั้ยครับ แล้วผมมาเจอข้อสอบยากจัดๆคะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58% และผมได้แค่55% ซึ่งถ้าใช้คะแนนยื่นผมจะไม่ติด ผมเลยไปใช้คะแนนปีก่อนที่ได้ 60% ซึ่งแน่นอนผมติดแต่ไม่ได้แปลว่าผมเก่งขึ้นแต่เพราะผมมีคะแนนปีก่อนสำรองไว้

เพราะผมมีคะแนนสำรองปีก่อนมันเลยไม่แฟร์กับ ม.6 ปีปัจจุบันใช่มั้ยครับ ทีนี้ถ้ามองเวลาเป็นทรัพยากรอ่ะ ผมแลก 1 ปีมาสอบใหม่ เท่ากับว่าผมจะจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ปี ในขณะที่เพื่อนๆเรียนจบ ทำงาน 1 ปีเงินเดือน 15k ปีนึงได้ 180k ซึ่งตรงนั้นผมหายไป เพราะเอาเวลา 1 ปีมาสอบใหม่

แล้วความจริงนะครับ ตั้งแต่มี tcas มาอ่ะระบบปรับเปลี่ยนย่อยๆในทุกๆปีตั้งแต่การมี 5 รอบ ปรับมาเหลือ 4 รอบ จนมายกเลิก ad2 ยกเลิก onet แล้วการสอบติดไม่ติดอ่ะมันไม่ได้อยู่ที่คะแนนอย่างเดียวด้วย มันอยู่ที่การวางแผนการเข้าในแต่ละรอบ วางแผนการยื่นคะแนนเพราะก่อนจะยื่นคะแนนได้นักเรียนทุกคนจะรู้คะแนนของตัวเองว่ามีเท่าไหร่ควรจะยื่นในลำดับเท่าไหร่

คุณจะเอาอะไรมาวัดว่าข้อสอบยากง่ายเท่ากันทุกๆปี ถ้าตามกระบวนการการออกข้อสอบมันต้องมีข้อยากข้อง่ายผสมกัน ต้องหาค่าความเที่ยง ความเชื่อมั่นบลาๆ ข้อสอบที่ดีคือข้อสอบที่แยกคนได้ใช่มั้ยครับ ผมคงเป็นพวกไม่เก่งแต่เอาสิ่งที่ตัวเองมีมาแลกคือเวลาเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย

ถ้าจะเอาให้แฟร์แบบนี้ก้ให้อายุคะแนนมีแค่ปีต่อปีดีครับ คุณว่ายังไงดีครับ  


ผมเห็นด้วยเลยครับว่าคะแนนควรใช้ได้แค่ปีต่อปี
น่าจะยุติธรรมมากกว่าการจะพยายามให้ข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกัน
ขอบคุณมากครับ ผมก็ลืมมองวิธีนี้ไปเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10124
ที่อยู่: bangkok
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 14:42
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Spoil
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


gat pat คะแนนมีอายุ 2 ปี สอบได้ปีละครั้ง สามารถเลือกใช้คะแนนปีที่ดีที่สุดได้ มันไม่แฟร์ยังไงครับ

สมมุติผมเป็น dek64 ผมสอบปีผม และผมจะซิ่วผมก้ต้องมาสอบแข่งกับ dek65 ผมมีโอกาสเลือกคะแนนปีที่ดีที่สุดแต่แลกมากับระยะเวลา 1 ปี  


ประเด็นมันไม่เกี่ยวกับเสียเวลา 1ปีครับ
ประเด็นมันคือความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก


เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  
 


โอเคคุณกำลังบอกว่าข้อสอบควรยากง่ายในมาตรฐานที่เท่ากันใช่มั้ยครับ การสอบทุกสนามมันคือการเตรียมตัวถูกมัย ทีนี่ถ้าผมอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63% แต่ผมได้แค่ 60% ผมก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ ใช่ครับในกรณีที่ผมไม่ติดรอบ 2 ผมก้ยังมีรอบ3ให้ยื่นอีก 10 อันดับถ้าไม่ติดอีกผมลุ้นคณะที่จะเข้าเปิดรอบ4 แต่ถ้าไม่ได้เลยแล้วผมอยากเรียนจริงๆผมจะซิ่วครับ ถ้าผมซิ่วนั่นเท่ากับว่าผมมีเวลาเตรียมมากกว่าเด็ก ม.6 ปัจจุบัน 1 ปีถูกมั้ยครับ แล้วผมมาเจอข้อสอบยากจัดๆคะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58% และผมได้แค่55% ซึ่งถ้าใช้คะแนนยื่นผมจะไม่ติด ผมเลยไปใช้คะแนนปีก่อนที่ได้ 60% ซึ่งแน่นอนผมติดแต่ไม่ได้แปลว่าผมเก่งขึ้นแต่เพราะผมมีคะแนนปีก่อนสำรองไว้

เพราะผมมีคะแนนสำรองปีก่อนมันเลยไม่แฟร์กับ ม.6 ปีปัจจุบันใช่มั้ยครับ ทีนี้ถ้ามองเวลาเป็นทรัพยากรอ่ะ ผมแลก 1 ปีมาสอบใหม่ เท่ากับว่าผมจะจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ปี ในขณะที่เพื่อนๆเรียนจบ ทำงาน 1 ปีเงินเดือน 15k ปีนึงได้ 180k ซึ่งตรงนั้นผมหายไป เพราะเอาเวลา 1 ปีมาสอบใหม่

แล้วความจริงนะครับ ตั้งแต่มี tcas มาอ่ะระบบปรับเปลี่ยนย่อยๆในทุกๆปีตั้งแต่การมี 5 รอบ ปรับมาเหลือ 4 รอบ จนมายกเลิก ad2 ยกเลิก onet แล้วการสอบติดไม่ติดอ่ะมันไม่ได้อยู่ที่คะแนนอย่างเดียวด้วย มันอยู่ที่การวางแผนการเข้าในแต่ละรอบ วางแผนการยื่นคะแนนเพราะก่อนจะยื่นคะแนนได้นักเรียนทุกคนจะรู้คะแนนของตัวเองว่ามีเท่าไหร่ควรจะยื่นในลำดับเท่าไหร่

คุณจะเอาอะไรมาวัดว่าข้อสอบยากง่ายเท่ากันทุกๆปี ถ้าตามกระบวนการการออกข้อสอบมันต้องมีข้อยากข้อง่ายผสมกัน ต้องหาค่าความเที่ยง ความเชื่อมั่นบลาๆ ข้อสอบที่ดีคือข้อสอบที่แยกคนได้ใช่มั้ยครับ ผมคงเป็นพวกไม่เก่งแต่เอาสิ่งที่ตัวเองมีมาแลกคือเวลาเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย

ถ้าจะเอาให้แฟร์แบบนี้ก้ให้อายุคะแนนมีแค่ปีต่อปีดีครับ คุณว่ายังไงดีครับ  


ผมเห็นด้วยเลยครับว่าคะแนนควรใช้ได้แค่ปีต่อปี
น่าจะยุติธรรมมากกว่าการจะพยายามให้ข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกัน
ขอบคุณมากครับ ผมก็ลืมมองวิธีนี้ไปเลย
 


ผมก้ว่าดีนะครับ ถ้ารุ่นพี่อยากมาแข่งกับรุ่นน้องก้ต้องใช้ข้อสอบที่มาตรฐานของรุ่นน้องเจอ ถ้ารุ่นพี่ยังไม่ติดอีกก้ต้องยอมรับความจริง ความสามารถตัวเองแล้ว มีเวลาเตรียมตัวมากกว่าน้องด้วยซ้ำแต่กลับทำไม่ได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 14:54
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


คณะรองๆอาจจะไม่มีผลมาก แล้วต่อให้เลือกได้100อันดับ ในใจเขาก็มีเป้าหมายอยากเข้าไม่กี่ที่หรอกครับ

อย่างผมจบคณะที่เด็กซิ่วเยอะพอสมควร อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย คนที่จบปี2-3ซิ่วมาเข้าปีหนึ่งคณะผมก็เยอะ



ประเด็นสำคัญที่สุดคือข้อสอบแต่ละปีมันไม่ควรจะยากง่ายต่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบครับ

คนพร้อมซิ่วเพื่อตามฝันอะเยอะมาก ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถเขาถึง ไม่ใช่มาแย่งที่เด็กรุ่นนี้ เพราะดวงดีได้ข้อสอบง่าย

แต่เคสนี้คือเหมือนทำลายฝันเด็กรุ่นปัจจุบันเลย แถมถ้าเด็กปีนี้จะซิ่ว ก็ไม่สามารถเอาคะแนนปีนี้ไปรอยื่นปีหน้าได้อีก เพราะข้อสอบยากคะแนนน้อย ต้องไปสอบแข่งกับเด็กรุ่นต่อไปใหม่อีก โคตรน่าสงสารเลยครับ


ปล.อันนี้พูดจากมุมคนที่เอาคะแนนตอนม.5ยื่นแล้วติด เพราะปีต่อมาข้อสอบยากขึ้นจัดๆนะครับ (สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้)

ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด มาสอบบ่อยๆไม่ได้เยอะแล้ว
แต่ผมยังโคตรได้เปรียบมากกว่าเดิม เพราะตอนปีผมม.5 ข้อสอบง่ายกว่าปีผมม.6แบบคนละโลก
ผมก็เอาคะแนนตอนม.5ยื่นติดแบบชิวๆ
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด เพราะเจอข้อสอบสุดที่ยากกว่าเยอะ

ซึ่งเคสผมเนี่ย จะบอกว่าไม่เหมาะสม ก็พูดไม่ได้เต็มปากแบบเคสนี้ด้วย เพราะเป็นการสอบตรง คณะคัดเลือกเอง
แต่เคสนี้คือ ส่วนกลางไงครับ ถ้ายังกำหนดว่า สามารถยื่นคะแนนเก่าได้ ก็ควรจะทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละรอบเท่าๆกันครับ  


ปัญหาที่ท่านบอกมานะ
1. สมัครปีละหลาย ๆ รอบ
2.ได้เปรียบเพราะอยู่กทม
3.ไม่มีเงินบินมาสอบ
4.การสอบกั๊กที่

เค้าก็แก้ไขหมดแล้วหนิคับ
สมัยนี้เค้าเลยรวม สอบตรง+แอดมิดชั่น เหลือสอบครั้งเดียว

แล้วก็สามารถสอบที่ไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องบินมาสอบที่กทมแบบเก่าแล้ว

เด็กเลยเลือกได้ 10 อันดับแล้วรันผล 2 รอบก็เพื่อยืนยันสิทธิ์กันพวกกั๊กที่ไง

คือ ท่านไม่ได้อัพเดตข้อมูลเลย สักนิดเดียว
 


ผมขอเน้นบรรทัดเดียวคำถามเดียวก่อนนะครับ ท่านอยากถกหรืออยากเถียงชนะผมครับ ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะไม่ได้เถียงต่อ

ผมก็เขียนอยู่ว่าสอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้

แล้วประเด็นมันก็คือท่านบอกว่า ไม่แฟร้ไงอะ

ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าไม่แฟร์เพราะ ความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก

เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  


คืออีก 9 อันดับที่เลือกไปเนี่ย เด็กไม่อยากเรียนเลยว่างั้น

ต้องได้เรียนแค่คณะที่เลือกอันดับ 1 เท่านั้น ไม่ติดก็จะซิ่วให้จงได้

ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ

ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน


ปล2
อ้างอิงจาก:
สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้  


มันจะเทียบกันได้ยังไงคับ สมัยนี้ สอบตรงมันก็คืออันเดียวกับภาคระบบกลางอะ

อ้างอิงจาก:
ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด  


เค้าปรับแล้วนะไม่มีความได้เปรียบแบบนี้แล้ว

อ้างอิงจาก:
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด  


สอบที่ไหนก็ได้แล้วนะ ใกล้ที่ไหนก็ไปสอบได้เลย  
 



ผมก็ยังคิดว่าความยากของข้อสอบแต่ละปีที่มันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กแต่ละรุ่นได้เปรียบเทียบเสียเปรียบกันอย่างไม่ยุติธรรมครับ

อ้างอิงจาก:
ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ  

ปีนั้นเป็นเพราะคนยังไม่รู้ว่าคะแนนตัวเองยื่นได้ประมานไหนครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมาตรฐานข้อสอบ เหมือนที่เขาแซวกันว่าใครกล้ายื่นจุฬาตอนนั้นก็ติดหมด

อ้างอิงจาก:
ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน  

อันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมาตรฐานข้อสอบไม่เท่ากันอยู่ดีครับ
คะแนนสูงขึ้นเพราะการแข่งขันสูง คนเก่งอยากเรียนมากขึ้น

ผมว่าผมกับท่านคงคิดไม่ตรงกันจริงๆครับ แต่ผมเคารพความคิดเห็นท่านนะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าการทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกันคงเป็นได้ยาก ถึงพยายามก็คงทำได้แค่ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

ผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิกอีกท่านว่าควรให้ใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีน่าจะยุติธรรมขึ้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 14:58
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Spoil
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


gat pat คะแนนมีอายุ 2 ปี สอบได้ปีละครั้ง สามารถเลือกใช้คะแนนปีที่ดีที่สุดได้ มันไม่แฟร์ยังไงครับ

สมมุติผมเป็น dek64 ผมสอบปีผม และผมจะซิ่วผมก้ต้องมาสอบแข่งกับ dek65 ผมมีโอกาสเลือกคะแนนปีที่ดีที่สุดแต่แลกมากับระยะเวลา 1 ปี  


ประเด็นมันไม่เกี่ยวกับเสียเวลา 1ปีครับ
ประเด็นมันคือความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก


เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  
 


โอเคคุณกำลังบอกว่าข้อสอบควรยากง่ายในมาตรฐานที่เท่ากันใช่มั้ยครับ การสอบทุกสนามมันคือการเตรียมตัวถูกมัย ทีนี่ถ้าผมอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63% แต่ผมได้แค่ 60% ผมก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ ใช่ครับในกรณีที่ผมไม่ติดรอบ 2 ผมก้ยังมีรอบ3ให้ยื่นอีก 10 อันดับถ้าไม่ติดอีกผมลุ้นคณะที่จะเข้าเปิดรอบ4 แต่ถ้าไม่ได้เลยแล้วผมอยากเรียนจริงๆผมจะซิ่วครับ ถ้าผมซิ่วนั่นเท่ากับว่าผมมีเวลาเตรียมมากกว่าเด็ก ม.6 ปัจจุบัน 1 ปีถูกมั้ยครับ แล้วผมมาเจอข้อสอบยากจัดๆคะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58% และผมได้แค่55% ซึ่งถ้าใช้คะแนนยื่นผมจะไม่ติด ผมเลยไปใช้คะแนนปีก่อนที่ได้ 60% ซึ่งแน่นอนผมติดแต่ไม่ได้แปลว่าผมเก่งขึ้นแต่เพราะผมมีคะแนนปีก่อนสำรองไว้

เพราะผมมีคะแนนสำรองปีก่อนมันเลยไม่แฟร์กับ ม.6 ปีปัจจุบันใช่มั้ยครับ ทีนี้ถ้ามองเวลาเป็นทรัพยากรอ่ะ ผมแลก 1 ปีมาสอบใหม่ เท่ากับว่าผมจะจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ปี ในขณะที่เพื่อนๆเรียนจบ ทำงาน 1 ปีเงินเดือน 15k ปีนึงได้ 180k ซึ่งตรงนั้นผมหายไป เพราะเอาเวลา 1 ปีมาสอบใหม่

แล้วความจริงนะครับ ตั้งแต่มี tcas มาอ่ะระบบปรับเปลี่ยนย่อยๆในทุกๆปีตั้งแต่การมี 5 รอบ ปรับมาเหลือ 4 รอบ จนมายกเลิก ad2 ยกเลิก onet แล้วการสอบติดไม่ติดอ่ะมันไม่ได้อยู่ที่คะแนนอย่างเดียวด้วย มันอยู่ที่การวางแผนการเข้าในแต่ละรอบ วางแผนการยื่นคะแนนเพราะก่อนจะยื่นคะแนนได้นักเรียนทุกคนจะรู้คะแนนของตัวเองว่ามีเท่าไหร่ควรจะยื่นในลำดับเท่าไหร่

คุณจะเอาอะไรมาวัดว่าข้อสอบยากง่ายเท่ากันทุกๆปี ถ้าตามกระบวนการการออกข้อสอบมันต้องมีข้อยากข้อง่ายผสมกัน ต้องหาค่าความเที่ยง ความเชื่อมั่นบลาๆ ข้อสอบที่ดีคือข้อสอบที่แยกคนได้ใช่มั้ยครับ ผมคงเป็นพวกไม่เก่งแต่เอาสิ่งที่ตัวเองมีมาแลกคือเวลาเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย

ถ้าจะเอาให้แฟร์แบบนี้ก้ให้อายุคะแนนมีแค่ปีต่อปีดีครับ คุณว่ายังไงดีครับ  


ผมเห็นด้วยเลยครับว่าคะแนนควรใช้ได้แค่ปีต่อปี
น่าจะยุติธรรมมากกว่าการจะพยายามให้ข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกัน
ขอบคุณมากครับ ผมก็ลืมมองวิธีนี้ไปเลย
 


ผมก้ว่าดีนะครับ ถ้ารุ่นพี่อยากมาแข่งกับรุ่นน้องก้ต้องใช้ข้อสอบที่มาตรฐานของรุ่นน้องเจอ ถ้ารุ่นพี่ยังไม่ติดอีกก้ต้องยอมรับความจริง ความสามารถตัวเองแล้ว มีเวลาเตรียมตัวมากกว่าน้องด้วยซ้ำแต่กลับทำไม่ได้  


ช่วยที่ผมเข้ามาเรียนปีหนึ่งแล้วผมยังมีแอบคิดเลยครับว่าผมเหมาะสมที่จะได้เข้ามาเรียนคณะดีๆแบบนี้จริงๆหรอ เหมาะสมที่จะได้เรียนกับอาจารย์ดีๆ เพื่อนและสังคมดีๆ คอนเนคชั่นที่โคตรดีแบบนี้หรอ

ผมได้พรากสิ่งเหล่านี้ไปจากคนๆนึงเพียงเพราะผมดวงดีได้ข้อสอบง่ายกว่าเขาหรอ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 2433
ที่อยู่: ท่าพระจันทร์
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 15:10
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


คณะรองๆอาจจะไม่มีผลมาก แล้วต่อให้เลือกได้100อันดับ ในใจเขาก็มีเป้าหมายอยากเข้าไม่กี่ที่หรอกครับ

อย่างผมจบคณะที่เด็กซิ่วเยอะพอสมควร อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย คนที่จบปี2-3ซิ่วมาเข้าปีหนึ่งคณะผมก็เยอะ



ประเด็นสำคัญที่สุดคือข้อสอบแต่ละปีมันไม่ควรจะยากง่ายต่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบครับ

คนพร้อมซิ่วเพื่อตามฝันอะเยอะมาก ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถเขาถึง ไม่ใช่มาแย่งที่เด็กรุ่นนี้ เพราะดวงดีได้ข้อสอบง่าย

แต่เคสนี้คือเหมือนทำลายฝันเด็กรุ่นปัจจุบันเลย แถมถ้าเด็กปีนี้จะซิ่ว ก็ไม่สามารถเอาคะแนนปีนี้ไปรอยื่นปีหน้าได้อีก เพราะข้อสอบยากคะแนนน้อย ต้องไปสอบแข่งกับเด็กรุ่นต่อไปใหม่อีก โคตรน่าสงสารเลยครับ


ปล.อันนี้พูดจากมุมคนที่เอาคะแนนตอนม.5ยื่นแล้วติด เพราะปีต่อมาข้อสอบยากขึ้นจัดๆนะครับ (สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้)

ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด มาสอบบ่อยๆไม่ได้เยอะแล้ว
แต่ผมยังโคตรได้เปรียบมากกว่าเดิม เพราะตอนปีผมม.5 ข้อสอบง่ายกว่าปีผมม.6แบบคนละโลก
ผมก็เอาคะแนนตอนม.5ยื่นติดแบบชิวๆ
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด เพราะเจอข้อสอบสุดที่ยากกว่าเยอะ

ซึ่งเคสผมเนี่ย จะบอกว่าไม่เหมาะสม ก็พูดไม่ได้เต็มปากแบบเคสนี้ด้วย เพราะเป็นการสอบตรง คณะคัดเลือกเอง
แต่เคสนี้คือ ส่วนกลางไงครับ ถ้ายังกำหนดว่า สามารถยื่นคะแนนเก่าได้ ก็ควรจะทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละรอบเท่าๆกันครับ  


ปัญหาที่ท่านบอกมานะ
1. สมัครปีละหลาย ๆ รอบ
2.ได้เปรียบเพราะอยู่กทม
3.ไม่มีเงินบินมาสอบ
4.การสอบกั๊กที่

เค้าก็แก้ไขหมดแล้วหนิคับ
สมัยนี้เค้าเลยรวม สอบตรง+แอดมิดชั่น เหลือสอบครั้งเดียว

แล้วก็สามารถสอบที่ไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องบินมาสอบที่กทมแบบเก่าแล้ว

เด็กเลยเลือกได้ 10 อันดับแล้วรันผล 2 รอบก็เพื่อยืนยันสิทธิ์กันพวกกั๊กที่ไง

คือ ท่านไม่ได้อัพเดตข้อมูลเลย สักนิดเดียว
 


ผมขอเน้นบรรทัดเดียวคำถามเดียวก่อนนะครับ ท่านอยากถกหรืออยากเถียงชนะผมครับ ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะไม่ได้เถียงต่อ

ผมก็เขียนอยู่ว่าสอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้

แล้วประเด็นมันก็คือท่านบอกว่า ไม่แฟร้ไงอะ

ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าไม่แฟร์เพราะ ความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก

เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  


คืออีก 9 อันดับที่เลือกไปเนี่ย เด็กไม่อยากเรียนเลยว่างั้น

ต้องได้เรียนแค่คณะที่เลือกอันดับ 1 เท่านั้น ไม่ติดก็จะซิ่วให้จงได้

ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ

ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน


ปล2
อ้างอิงจาก:
สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้  


มันจะเทียบกันได้ยังไงคับ สมัยนี้ สอบตรงมันก็คืออันเดียวกับภาคระบบกลางอะ

อ้างอิงจาก:
ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด  


เค้าปรับแล้วนะไม่มีความได้เปรียบแบบนี้แล้ว

อ้างอิงจาก:
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด  


สอบที่ไหนก็ได้แล้วนะ ใกล้ที่ไหนก็ไปสอบได้เลย  
 



ผมก็ยังคิดว่าความยากของข้อสอบแต่ละปีที่มันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กแต่ละรุ่นได้เปรียบเทียบเสียเปรียบกันอย่างไม่ยุติธรรมครับ

อ้างอิงจาก:
ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ  

ปีนั้นเป็นเพราะคนยังไม่รู้ว่าคะแนนตัวเองยื่นได้ประมานไหนครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมาตรฐานข้อสอบ เหมือนที่เขาแซวกันว่าใครกล้ายื่นจุฬาตอนนั้นก็ติดหมด

อ้างอิงจาก:
ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน  

อันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมาตรฐานข้อสอบไม่เท่ากันอยู่ดีครับ
คะแนนสูงขึ้นเพราะการแข่งขันสูง คนเก่งอยากเรียนมากขึ้น

ผมว่าผมกับท่านคงคิดไม่ตรงกันจริงๆครับ แต่ผมเคารพความคิดเห็นท่านนะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าการทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกันคงเป็นได้ยาก ถึงพยายามก็คงทำได้แค่ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

ผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิกอีกท่านว่าควรให้ใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีน่าจะยุติธรรมขึ้น  


แต่ดูท่านจะไม่มีปัญหากับคะแนน gpax บ้างเลยนะ

ท่านคงจะเชื่อมั่นว่ามาตรฐานในการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

never give up , HAZARD 10
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2007
ตอบ: 8394
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 15:29
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


การที่เด็กซิ่วว่าง 1 ปี ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เค้าต้องได้เปรียบกว่าเด็กที่เพิ่งจบม.6 ไงครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 2433
ที่อยู่: ท่าพระจันทร์
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 16:00
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
timematoom พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


การที่เด็กซิ่วว่าง 1 ปี ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เค้าต้องได้เปรียบกว่าเด็กที่เพิ่งจบม.6 ไงครับ  


แหม พูดง่ายจังเลยนะคับว่าง 1 ปี แต่มันก็อยู่แล้วคับ มีเวลาอ่านหนังสือเยอะกว่าหนิ

จะไม่ให้ได้เปรียบยังไง งง ท่านอธิบายถึงความได้เปรียบให้ฟังหน่อยสิคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

never give up , HAZARD 10
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2007
ตอบ: 8394
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 16:37
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


การที่เด็กซิ่วว่าง 1 ปี ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เค้าต้องได้เปรียบกว่าเด็กที่เพิ่งจบม.6 ไงครับ  


แหม พูดง่ายจังเลยนะคับว่าง 1 ปี แต่มันก็อยู่แล้วคับ มีเวลาอ่านหนังสือเยอะกว่าหนิ

จะไม่ให้ได้เปรียบยังไง งง ท่านอธิบายถึงความได้เปรียบให้ฟังหน่อยสิคับ  


ปัญหาคือ เค้าไม่ได้ได้เปรียบเนื่องจากเค้ามีความรู้มากกว่าไง เค้าได้เปรียบเนื่องจากข้อสอบปีที่เด็กรุ่นนี้ไม่มีสิทธิสอบ มันง่ายกว่า คะแนนมันเฟ้อกว่าไง เค้าถึงได้เปรียบ ไม่ได้เกี่ยวกับเวลาอ่านหนังสือเยอะอะไรเลย
แก้ไขล่าสุดโดย timematoom เมื่อ Sun Mar 13, 2022 16:37, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8613
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 17:03
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
jabkungza พิมพ์ว่า:
Caramel Macciato พิมพ์ว่า:
เอาตรงๆ ผมเองก็สงสัยนะว่าระบบ ระเบียบของหน่วยงานราชการไทยหรือหน่วยงานอิสระในไทยแม่งมีปัญหาตรงไหนกันแน่

ระหว่าง "มันไม่รู้ว่าสิ่งที่มันทำอยู่คือปัญหา"
หรือ "มันรู้แหละว่าสิ่งที่มันทำอยู่คือปัญหาแต่ไม่รู้จะแก้ยังไง"
กับ "มันรู้ว่าสิ่งที่มันทำอยู่คือปัญหาแต่ไม่คิดจะแก้เพราะกูจะตามน้ำด้วย"

เลยมีประเด็นว่า "คนข้างใน" ไม่อยากพูดเพราะกลัวตัวเองมีปัญหาหรือเพราะกลัวตัวเองจะตามน้ำไม่ได้  


จากใจผมนะ คนละหน่วยงานกับในมู้แต่เป็นคนทำงานละดับล่าง
คนทำงานระดับล่างรู้ปัญหาครับ รู้ทุกอย่าง เสนอเรื่องไปก็โดนปัดตกครับ เพราะฝ่ายบริหาร ที่ไม่ได้ลงมาเจอปัญหาจริงๆ คิดจะทำอย่างที่เค้าทำครับ ถ้าหน.ดีหน่อย รับฟังคอยช่วยก็ดีครับ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นสั่งลงมา แบบเอาแบบนี้แหละ จะเอาแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจคนทำงานจริงๆ พวกมดงานอย่างผมก็ขี้เกียจเสนอแล้วครับ ขี้เกียจจะคิดด้วยซ้ำว่าต้องแก้ปัญหายังไง เพราะต่อให้คิดทบทวนดีๆเสนอไปเค้าก็ไม่รับฟังอยู่ดี ทุกวันนี้ก็ทำเท่าที่ไหวครับ  

ครู อาจารย์ ดีๆ มีเยอะนะ ไทยไม่ขาดบุคลากรครูหรอก

แต่สิ่งที่ครูพวกนี้ขาดคืออำนาจ แค่นั้นเอง  


อัตราส่วนครูมีคุณภาพในไทย ต้องมาถามกันจริงๆ ว่ามีถึง 10% มั้ยด้วยครับ
เพราะครูที่เก่ง ยังไงส่วนใหญ่ก็ได้อยู่ในจุดที่เด็กมีฐานะ สภาพแวดล้อมดีด้วยซะเกือบหมด

สิ่งที่ไทยควรต้องเลิกให้ได้ แต่ผมก็ไม่เห็นทางเหมือนกันว่าจะทำได้ยังไง
ก็คือ การให้เด็กที่สอบไม่ติด ไม่มีความรู้มาเรียนครู (ราชภัฏ) ครับ

คือเอาจริงๆนะ การที่คุณสอบตรงหรืออื่นๆ แล้วยื่นไม่ติดเนี่ย มันก็ค่อนข้างจะสื่อชัดแล้วนะว่าไม่มีความรู้ แต่ดันให้คนกลุ่มนี้มาเรียนครู ซึ่งต้องเป็นคนถ่ายทอดความรู้เนี่ยนะ

ผมสิงอยู่ในกลุ่มครูนะ พวกที่รอสอบบรรจุ บางคนเป็นครูภาษาเอาแค่อังกฤษก่อน แต่ไม่ได้อังกฤษ แล้วคือในโพสต์อย่างเยอะเลยนะที่บ่น คือสงสารเด็กไปกันใหญ่อ่ะรุ่นนี้

แต่เรื่องแบบนี้ก็พูดออกไปไม่ได้อีก จะโดนหาว่าเหยียดอีก ปวดหัวครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 17:04
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:

IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


คณะรองๆอาจจะไม่มีผลมาก แล้วต่อให้เลือกได้100อันดับ ในใจเขาก็มีเป้าหมายอยากเข้าไม่กี่ที่หรอกครับ

อย่างผมจบคณะที่เด็กซิ่วเยอะพอสมควร อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย คนที่จบปี2-3ซิ่วมาเข้าปีหนึ่งคณะผมก็เยอะ



ประเด็นสำคัญที่สุดคือข้อสอบแต่ละปีมันไม่ควรจะยากง่ายต่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบครับ

คนพร้อมซิ่วเพื่อตามฝันอะเยอะมาก ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถเขาถึง ไม่ใช่มาแย่งที่เด็กรุ่นนี้ เพราะดวงดีได้ข้อสอบง่าย

แต่เคสนี้คือเหมือนทำลายฝันเด็กรุ่นปัจจุบันเลย แถมถ้าเด็กปีนี้จะซิ่ว ก็ไม่สามารถเอาคะแนนปีนี้ไปรอยื่นปีหน้าได้อีก เพราะข้อสอบยากคะแนนน้อย ต้องไปสอบแข่งกับเด็กรุ่นต่อไปใหม่อีก โคตรน่าสงสารเลยครับ


ปล.อันนี้พูดจากมุมคนที่เอาคะแนนตอนม.5ยื่นแล้วติด เพราะปีต่อมาข้อสอบยากขึ้นจัดๆนะครับ (สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้)

ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด มาสอบบ่อยๆไม่ได้เยอะแล้ว
แต่ผมยังโคตรได้เปรียบมากกว่าเดิม เพราะตอนปีผมม.5 ข้อสอบง่ายกว่าปีผมม.6แบบคนละโลก
ผมก็เอาคะแนนตอนม.5ยื่นติดแบบชิวๆ
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด เพราะเจอข้อสอบสุดที่ยากกว่าเยอะ

ซึ่งเคสผมเนี่ย จะบอกว่าไม่เหมาะสม ก็พูดไม่ได้เต็มปากแบบเคสนี้ด้วย เพราะเป็นการสอบตรง คณะคัดเลือกเอง
แต่เคสนี้คือ ส่วนกลางไงครับ ถ้ายังกำหนดว่า สามารถยื่นคะแนนเก่าได้ ก็ควรจะทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละรอบเท่าๆกันครับ  


ปัญหาที่ท่านบอกมานะ
1. สมัครปีละหลาย ๆ รอบ
2.ได้เปรียบเพราะอยู่กทม
3.ไม่มีเงินบินมาสอบ
4.การสอบกั๊กที่

เค้าก็แก้ไขหมดแล้วหนิคับ
สมัยนี้เค้าเลยรวม สอบตรง+แอดมิดชั่น เหลือสอบครั้งเดียว

แล้วก็สามารถสอบที่ไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องบินมาสอบที่กทมแบบเก่าแล้ว

เด็กเลยเลือกได้ 10 อันดับแล้วรันผล 2 รอบก็เพื่อยืนยันสิทธิ์กันพวกกั๊กที่ไง

คือ ท่านไม่ได้อัพเดตข้อมูลเลย สักนิดเดียว
 


ผมขอเน้นบรรทัดเดียวคำถามเดียวก่อนนะครับ ท่านอยากถกหรืออยากเถียงชนะผมครับ ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะไม่ได้เถียงต่อ

ผมก็เขียนอยู่ว่าสอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้

แล้วประเด็นมันก็คือท่านบอกว่า ไม่แฟร้ไงอะ

ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าไม่แฟร์เพราะ ความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก

เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  


คืออีก 9 อันดับที่เลือกไปเนี่ย เด็กไม่อยากเรียนเลยว่างั้น

ต้องได้เรียนแค่คณะที่เลือกอันดับ 1 เท่านั้น ไม่ติดก็จะซิ่วให้จงได้

ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ

ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน


ปล2
อ้างอิงจาก:
สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้  


มันจะเทียบกันได้ยังไงคับ สมัยนี้ สอบตรงมันก็คืออันเดียวกับภาคระบบกลางอะ

อ้างอิงจาก:
ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด  


เค้าปรับแล้วนะไม่มีความได้เปรียบแบบนี้แล้ว

อ้างอิงจาก:
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด  


สอบที่ไหนก็ได้แล้วนะ ใกล้ที่ไหนก็ไปสอบได้เลย  
 



ผมก็ยังคิดว่าความยากของข้อสอบแต่ละปีที่มันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กแต่ละรุ่นได้เปรียบเทียบเสียเปรียบกันอย่างไม่ยุติธรรมครับ

อ้างอิงจาก:
ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ  

ปีนั้นเป็นเพราะคนยังไม่รู้ว่าคะแนนตัวเองยื่นได้ประมานไหนครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมาตรฐานข้อสอบ เหมือนที่เขาแซวกันว่าใครกล้ายื่นจุฬาตอนนั้นก็ติดหมด

อ้างอิงจาก:
ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน  

อันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมาตรฐานข้อสอบไม่เท่ากันอยู่ดีครับ
คะแนนสูงขึ้นเพราะการแข่งขันสูง คนเก่งอยากเรียนมากขึ้น

ผมว่าผมกับท่านคงคิดไม่ตรงกันจริงๆครับ แต่ผมเคารพความคิดเห็นท่านนะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าการทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกันคงเป็นได้ยาก ถึงพยายามก็คงทำได้แค่ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

ผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิกอีกท่านว่าควรให้ใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีน่าจะยุติธรรมขึ้น

 

แต่ดูท่านจะไม่มีปัญหากับคะแนน gpax บ้างเลยนะ

ท่านคงจะเชื่อมั่นว่ามาตรฐานในการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน

 


การพูดถึงปัญหาหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าต้องละเลยอีกปัญหาหนึ่งครับ

ซึ่งถ้าถามถึงการใช้เกรดเฉลี่ยมาคำนวณคะแนนเข้ามหาลัยผมก็ไม่เห็นด้วย มาตรฐานแต่ละโรงเรียนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว


แก้ไขล่าสุดโดย Brunswick เมื่อ Sun Mar 13, 2022 17:06, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10124
ที่อยู่: bangkok
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 17:55
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Spoil
Brunswick พิมพ์ว่า:
KwanThoopE พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


gat pat คะแนนมีอายุ 2 ปี สอบได้ปีละครั้ง สามารถเลือกใช้คะแนนปีที่ดีที่สุดได้ มันไม่แฟร์ยังไงครับ

สมมุติผมเป็น dek64 ผมสอบปีผม และผมจะซิ่วผมก้ต้องมาสอบแข่งกับ dek65 ผมมีโอกาสเลือกคะแนนปีที่ดีที่สุดแต่แลกมากับระยะเวลา 1 ปี  


ประเด็นมันไม่เกี่ยวกับเสียเวลา 1ปีครับ
ประเด็นมันคือความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก


เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  
 


โอเคคุณกำลังบอกว่าข้อสอบควรยากง่ายในมาตรฐานที่เท่ากันใช่มั้ยครับ การสอบทุกสนามมันคือการเตรียมตัวถูกมัย ทีนี่ถ้าผมอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63% แต่ผมได้แค่ 60% ผมก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ ใช่ครับในกรณีที่ผมไม่ติดรอบ 2 ผมก้ยังมีรอบ3ให้ยื่นอีก 10 อันดับถ้าไม่ติดอีกผมลุ้นคณะที่จะเข้าเปิดรอบ4 แต่ถ้าไม่ได้เลยแล้วผมอยากเรียนจริงๆผมจะซิ่วครับ ถ้าผมซิ่วนั่นเท่ากับว่าผมมีเวลาเตรียมมากกว่าเด็ก ม.6 ปัจจุบัน 1 ปีถูกมั้ยครับ แล้วผมมาเจอข้อสอบยากจัดๆคะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58% และผมได้แค่55% ซึ่งถ้าใช้คะแนนยื่นผมจะไม่ติด ผมเลยไปใช้คะแนนปีก่อนที่ได้ 60% ซึ่งแน่นอนผมติดแต่ไม่ได้แปลว่าผมเก่งขึ้นแต่เพราะผมมีคะแนนปีก่อนสำรองไว้

เพราะผมมีคะแนนสำรองปีก่อนมันเลยไม่แฟร์กับ ม.6 ปีปัจจุบันใช่มั้ยครับ ทีนี้ถ้ามองเวลาเป็นทรัพยากรอ่ะ ผมแลก 1 ปีมาสอบใหม่ เท่ากับว่าผมจะจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ปี ในขณะที่เพื่อนๆเรียนจบ ทำงาน 1 ปีเงินเดือน 15k ปีนึงได้ 180k ซึ่งตรงนั้นผมหายไป เพราะเอาเวลา 1 ปีมาสอบใหม่

แล้วความจริงนะครับ ตั้งแต่มี tcas มาอ่ะระบบปรับเปลี่ยนย่อยๆในทุกๆปีตั้งแต่การมี 5 รอบ ปรับมาเหลือ 4 รอบ จนมายกเลิก ad2 ยกเลิก onet แล้วการสอบติดไม่ติดอ่ะมันไม่ได้อยู่ที่คะแนนอย่างเดียวด้วย มันอยู่ที่การวางแผนการเข้าในแต่ละรอบ วางแผนการยื่นคะแนนเพราะก่อนจะยื่นคะแนนได้นักเรียนทุกคนจะรู้คะแนนของตัวเองว่ามีเท่าไหร่ควรจะยื่นในลำดับเท่าไหร่

คุณจะเอาอะไรมาวัดว่าข้อสอบยากง่ายเท่ากันทุกๆปี ถ้าตามกระบวนการการออกข้อสอบมันต้องมีข้อยากข้อง่ายผสมกัน ต้องหาค่าความเที่ยง ความเชื่อมั่นบลาๆ ข้อสอบที่ดีคือข้อสอบที่แยกคนได้ใช่มั้ยครับ ผมคงเป็นพวกไม่เก่งแต่เอาสิ่งที่ตัวเองมีมาแลกคือเวลาเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย

ถ้าจะเอาให้แฟร์แบบนี้ก้ให้อายุคะแนนมีแค่ปีต่อปีดีครับ คุณว่ายังไงดีครับ  


ผมเห็นด้วยเลยครับว่าคะแนนควรใช้ได้แค่ปีต่อปี
น่าจะยุติธรรมมากกว่าการจะพยายามให้ข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกัน
ขอบคุณมากครับ ผมก็ลืมมองวิธีนี้ไปเลย
 


ผมก้ว่าดีนะครับ ถ้ารุ่นพี่อยากมาแข่งกับรุ่นน้องก้ต้องใช้ข้อสอบที่มาตรฐานของรุ่นน้องเจอ ถ้ารุ่นพี่ยังไม่ติดอีกก้ต้องยอมรับความจริง ความสามารถตัวเองแล้ว มีเวลาเตรียมตัวมากกว่าน้องด้วยซ้ำแต่กลับทำไม่ได้  


ช่วยที่ผมเข้ามาเรียนปีหนึ่งแล้วผมยังมีแอบคิดเลยครับว่าผมเหมาะสมที่จะได้เข้ามาเรียนคณะดีๆแบบนี้จริงๆหรอ เหมาะสมที่จะได้เรียนกับอาจารย์ดีๆ เพื่อนและสังคมดีๆ คอนเนคชั่นที่โคตรดีแบบนี้หรอ

ผมได้พรากสิ่งเหล่านี้ไปจากคนๆนึงเพียงเพราะผมดวงดีได้ข้อสอบง่ายกว่าเขาหรอ

 


ถ้าคุณพรากสิ่งเหล่านั้นไปเพียงเพราะคุณดวงดี ต่อให้คุณสละสิทธิ์แล้วจะมั่นใจได้ไงว่าเขาจะเข้าได้ คุณพอจะเข้าใจระบบการรันคะแนนกับลำดับในรอบที่ 3 เกณฑ์ ad1 มั้ยครับ

ผมเข้าใจว่าคุณกำลังจะบอกว่ามาตรฐานข้อสอบมันไม่ดี แล้วแต่ดวงของเด็กแต่ละรุ่นว่าปีนั้นจะเจอยากหรือง่ายใช่มั้ยครับ แต่การทำให้ข้อสอบมีมาตรฐานความยากง่ายเท่ากันทุกปีมันเป็นไปได้ยากมากๆอยู่แล้ว การให้ใช้คะแนนปีต่อปียังดูเป็นไปได้มากกว่า

สุดท้ายมันก้ต้องกลับมามองที่เด็กว่าเด็กแต่ละคนเตรียมตัวมามากน้อยแค่ไหน ถ้าคนที่เริ่มอ่านหนังสือตอน ม.6 กับคนที่เริ่มทำข้อสอบเก่าๆตอน ม.6 คนหลังย่อมได้เปรียบกว่า เพราะงั้นเด็กหลายๆคนเลยเลือกที่จะเข้ารอบพอร์ตมากกว่า
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 2433
ที่อยู่: ท่าพระจันทร์
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 18:17
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:

IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


คณะรองๆอาจจะไม่มีผลมาก แล้วต่อให้เลือกได้100อันดับ ในใจเขาก็มีเป้าหมายอยากเข้าไม่กี่ที่หรอกครับ

อย่างผมจบคณะที่เด็กซิ่วเยอะพอสมควร อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย คนที่จบปี2-3ซิ่วมาเข้าปีหนึ่งคณะผมก็เยอะ



ประเด็นสำคัญที่สุดคือข้อสอบแต่ละปีมันไม่ควรจะยากง่ายต่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบครับ

คนพร้อมซิ่วเพื่อตามฝันอะเยอะมาก ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถเขาถึง ไม่ใช่มาแย่งที่เด็กรุ่นนี้ เพราะดวงดีได้ข้อสอบง่าย

แต่เคสนี้คือเหมือนทำลายฝันเด็กรุ่นปัจจุบันเลย แถมถ้าเด็กปีนี้จะซิ่ว ก็ไม่สามารถเอาคะแนนปีนี้ไปรอยื่นปีหน้าได้อีก เพราะข้อสอบยากคะแนนน้อย ต้องไปสอบแข่งกับเด็กรุ่นต่อไปใหม่อีก โคตรน่าสงสารเลยครับ


ปล.อันนี้พูดจากมุมคนที่เอาคะแนนตอนม.5ยื่นแล้วติด เพราะปีต่อมาข้อสอบยากขึ้นจัดๆนะครับ (สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้)

ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด มาสอบบ่อยๆไม่ได้เยอะแล้ว
แต่ผมยังโคตรได้เปรียบมากกว่าเดิม เพราะตอนปีผมม.5 ข้อสอบง่ายกว่าปีผมม.6แบบคนละโลก
ผมก็เอาคะแนนตอนม.5ยื่นติดแบบชิวๆ
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด เพราะเจอข้อสอบสุดที่ยากกว่าเยอะ

ซึ่งเคสผมเนี่ย จะบอกว่าไม่เหมาะสม ก็พูดไม่ได้เต็มปากแบบเคสนี้ด้วย เพราะเป็นการสอบตรง คณะคัดเลือกเอง
แต่เคสนี้คือ ส่วนกลางไงครับ ถ้ายังกำหนดว่า สามารถยื่นคะแนนเก่าได้ ก็ควรจะทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละรอบเท่าๆกันครับ  


ปัญหาที่ท่านบอกมานะ
1. สมัครปีละหลาย ๆ รอบ
2.ได้เปรียบเพราะอยู่กทม
3.ไม่มีเงินบินมาสอบ
4.การสอบกั๊กที่

เค้าก็แก้ไขหมดแล้วหนิคับ
สมัยนี้เค้าเลยรวม สอบตรง+แอดมิดชั่น เหลือสอบครั้งเดียว

แล้วก็สามารถสอบที่ไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องบินมาสอบที่กทมแบบเก่าแล้ว

เด็กเลยเลือกได้ 10 อันดับแล้วรันผล 2 รอบก็เพื่อยืนยันสิทธิ์กันพวกกั๊กที่ไง

คือ ท่านไม่ได้อัพเดตข้อมูลเลย สักนิดเดียว
 


ผมขอเน้นบรรทัดเดียวคำถามเดียวก่อนนะครับ ท่านอยากถกหรืออยากเถียงชนะผมครับ ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะไม่ได้เถียงต่อ

ผมก็เขียนอยู่ว่าสอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้

แล้วประเด็นมันก็คือท่านบอกว่า ไม่แฟร้ไงอะ

ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าไม่แฟร์เพราะ ความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก

เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  


คืออีก 9 อันดับที่เลือกไปเนี่ย เด็กไม่อยากเรียนเลยว่างั้น

ต้องได้เรียนแค่คณะที่เลือกอันดับ 1 เท่านั้น ไม่ติดก็จะซิ่วให้จงได้

ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ

ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน


ปล2
อ้างอิงจาก:
สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้  


มันจะเทียบกันได้ยังไงคับ สมัยนี้ สอบตรงมันก็คืออันเดียวกับภาคระบบกลางอะ

อ้างอิงจาก:
ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด  


เค้าปรับแล้วนะไม่มีความได้เปรียบแบบนี้แล้ว

อ้างอิงจาก:
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด  


สอบที่ไหนก็ได้แล้วนะ ใกล้ที่ไหนก็ไปสอบได้เลย  
 



ผมก็ยังคิดว่าความยากของข้อสอบแต่ละปีที่มันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กแต่ละรุ่นได้เปรียบเทียบเสียเปรียบกันอย่างไม่ยุติธรรมครับ

อ้างอิงจาก:
ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ  

ปีนั้นเป็นเพราะคนยังไม่รู้ว่าคะแนนตัวเองยื่นได้ประมานไหนครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมาตรฐานข้อสอบ เหมือนที่เขาแซวกันว่าใครกล้ายื่นจุฬาตอนนั้นก็ติดหมด

อ้างอิงจาก:
ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน  

อันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมาตรฐานข้อสอบไม่เท่ากันอยู่ดีครับ
คะแนนสูงขึ้นเพราะการแข่งขันสูง คนเก่งอยากเรียนมากขึ้น

ผมว่าผมกับท่านคงคิดไม่ตรงกันจริงๆครับ แต่ผมเคารพความคิดเห็นท่านนะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าการทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกันคงเป็นได้ยาก ถึงพยายามก็คงทำได้แค่ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

ผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิกอีกท่านว่าควรให้ใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีน่าจะยุติธรรมขึ้น

 

แต่ดูท่านจะไม่มีปัญหากับคะแนน gpax บ้างเลยนะ

ท่านคงจะเชื่อมั่นว่ามาตรฐานในการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน

 


การพูดถึงปัญหาหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าต้องละเลยอีกปัญหาหนึ่งครับ

ซึ่งถ้าถามถึงการใช้เกรดเฉลี่ยมาคำนวณคะแนนเข้ามหาลัยผมก็ไม่เห็นด้วย มาตรฐานแต่ละโรงเรียนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว


 


ท่านจะให้อายุสอบมันมีผลปีเดียวใช่มั้ย ถึงจะยุติธรรม

แล้วถ้าผมยากจนละ ผมต้องมาเสียตังสอบใหม่ปีหน้ายังงี้หรอคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

never give up , HAZARD 10
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 2433
ที่อยู่: ท่าพระจันทร์
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 18:22
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
timematoom พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


การที่เด็กซิ่วว่าง 1 ปี ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เค้าต้องได้เปรียบกว่าเด็กที่เพิ่งจบม.6 ไงครับ  


แหม พูดง่ายจังเลยนะคับว่าง 1 ปี แต่มันก็อยู่แล้วคับ มีเวลาอ่านหนังสือเยอะกว่าหนิ

จะไม่ให้ได้เปรียบยังไง งง ท่านอธิบายถึงความได้เปรียบให้ฟังหน่อยสิคับ  


ปัญหาคือ เค้าไม่ได้ได้เปรียบเนื่องจากเค้ามีความรู้มากกว่าไง เค้าได้เปรียบเนื่องจากข้อสอบปีที่เด็กรุ่นนี้ไม่มีสิทธิสอบ มันง่ายกว่า คะแนนมันเฟ้อกว่าไง เค้าถึงได้เปรียบ ไม่ได้เกี่ยวกับเวลาอ่านหนังสือเยอะอะไรเลย  


ทำไมท่านถึงรู้ว่า "คะแนนปีนี้จะง่ายกว่าคะแนนปีหน้าเสมอละคับ"

อยากรู้ว่าท่านใช้อะไรคำนวนหรอคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

never give up , HAZARD 10
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4432
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 13, 2022 18:24
[RE: dek65 นี่ลำบากจริงๆกว่าจะมีที่เรียนมหาลัย]
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:

IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
IceCoffeeMate พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นว่าข้อสอบยากจะเป็นปัจจัยยังไง ในเมื่อทุกคนสอบข้อสอบ"ยาก"เดียวกัน


รุ่นผมสอบรุ่นน้ำท่วม PAT1 คะแนนเฉลี่ยจากปกติรอบอื่นๆ 60 กว่าๆ เหลือ 30 กว่าๆ รอบแรกที่ไม่มีคนทำได้เต็ม ก็เหมือนกันปะ  


pat มันมีอายุ 2 ปีหรือเปล่าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งไอ้การข้อสอบไม่มีมาตรฐานเนี่ย
ถ้าสมมุติคนนึงได้สอบปีที่ข้อสอบง่าย อีกคนไปสอบปีที่ได้ข้อสอบยาก แค่นี้ก็ไม่แฟร์แล้วมั้งถึงแม้มันจะสอบได้หลายครั้งก็เถอะ  


เค้าก็ปรับเหลือปีละครั้งแล้วไม่ใช่หรอคับ ไม่แฟร้ไงอะ  


ไม่แฟร์เพราะเขาไม่ได้แข่งกับคนที่ใช้ข้อสอบเดียวกันอย่างเดียวไงครับ

มีเด็กซิ่วที่เจอข้อสอบที่ง่ายกว่า พร้อมยื่นคะแนนเดิมมาแข่งกับเขาเยอะมาก


อย่างพวกที่ปีก่อน เกือบติด ปีนี้ข้อสอบยากขึ้น เขาแค่ยื่นคะแนนเดิม โอกาสติดนี่ใสๆเลย  


แต่เค้าก็ต้องแลกมาด้วยการว่าง 1 ปี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ

ท่านรู้ป่าวสมัยนี้เด็กเลือกได้เป็น 10 อันดับเลย รันผล 2 รอบอีก


 


คณะรองๆอาจจะไม่มีผลมาก แล้วต่อให้เลือกได้100อันดับ ในใจเขาก็มีเป้าหมายอยากเข้าไม่กี่ที่หรอกครับ

อย่างผมจบคณะที่เด็กซิ่วเยอะพอสมควร อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย คนที่จบปี2-3ซิ่วมาเข้าปีหนึ่งคณะผมก็เยอะ



ประเด็นสำคัญที่สุดคือข้อสอบแต่ละปีมันไม่ควรจะยากง่ายต่างกันเกินไป เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบครับ

คนพร้อมซิ่วเพื่อตามฝันอะเยอะมาก ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าความสามารถเขาถึง ไม่ใช่มาแย่งที่เด็กรุ่นนี้ เพราะดวงดีได้ข้อสอบง่าย

แต่เคสนี้คือเหมือนทำลายฝันเด็กรุ่นปัจจุบันเลย แถมถ้าเด็กปีนี้จะซิ่ว ก็ไม่สามารถเอาคะแนนปีนี้ไปรอยื่นปีหน้าได้อีก เพราะข้อสอบยากคะแนนน้อย ต้องไปสอบแข่งกับเด็กรุ่นต่อไปใหม่อีก โคตรน่าสงสารเลยครับ


ปล.อันนี้พูดจากมุมคนที่เอาคะแนนตอนม.5ยื่นแล้วติด เพราะปีต่อมาข้อสอบยากขึ้นจัดๆนะครับ (สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้)

ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด มาสอบบ่อยๆไม่ได้เยอะแล้ว
แต่ผมยังโคตรได้เปรียบมากกว่าเดิม เพราะตอนปีผมม.5 ข้อสอบง่ายกว่าปีผมม.6แบบคนละโลก
ผมก็เอาคะแนนตอนม.5ยื่นติดแบบชิวๆ
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด เพราะเจอข้อสอบสุดที่ยากกว่าเยอะ

ซึ่งเคสผมเนี่ย จะบอกว่าไม่เหมาะสม ก็พูดไม่ได้เต็มปากแบบเคสนี้ด้วย เพราะเป็นการสอบตรง คณะคัดเลือกเอง
แต่เคสนี้คือ ส่วนกลางไงครับ ถ้ายังกำหนดว่า สามารถยื่นคะแนนเก่าได้ ก็ควรจะทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละรอบเท่าๆกันครับ  


ปัญหาที่ท่านบอกมานะ
1. สมัครปีละหลาย ๆ รอบ
2.ได้เปรียบเพราะอยู่กทม
3.ไม่มีเงินบินมาสอบ
4.การสอบกั๊กที่

เค้าก็แก้ไขหมดแล้วหนิคับ
สมัยนี้เค้าเลยรวม สอบตรง+แอดมิดชั่น เหลือสอบครั้งเดียว

แล้วก็สามารถสอบที่ไหนก็ได้ด้วย ไม่ต้องบินมาสอบที่กทมแบบเก่าแล้ว

เด็กเลยเลือกได้ 10 อันดับแล้วรันผล 2 รอบก็เพื่อยืนยันสิทธิ์กันพวกกั๊กที่ไง

คือ ท่านไม่ได้อัพเดตข้อมูลเลย สักนิดเดียว
 


ผมขอเน้นบรรทัดเดียวคำถามเดียวก่อนนะครับ ท่านอยากถกหรืออยากเถียงชนะผมครับ ถ้าเป็นอย่างหลังผมจะไม่ได้เถียงต่อ

ผมก็เขียนอยู่ว่าสอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้

แล้วประเด็นมันก็คือท่านบอกว่า ไม่แฟร้ไงอะ

ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับว่าไม่แฟร์เพราะ ความยากของข้อสอบแต่ละปีมันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กรุ่นนี้เสียเปรียบเด็กซิ่วอย่างมาก

เอาง่ายๆสมมติปีคุณม.6 คณะที่คุณอยากเข้าคะแนนต่ำสุดที่ติดคือ 63%

แต่คุณได้แค่ 60% คุณก็ไม่ติด และรอซิ่วใช่ไหมครับ

แล้วถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่าๆเดิม ความสามารถและความขยันคุณเท่าๆเดิม อย่าว่าแต่เสียเวลา1ปีเลย จะอีก10ปีก็ยากที่จะติดใช่ไหมครับ

แต่ถ้าอย่างเคสเนี่ย ปีต่อมาที่คุณจะซิ่ว ข้อสอบแม่งดันยากจัดๆ คะแนนต่ำสุดที่ติดตกมาเหลือ 58%
คุณที่ยื่นคะแนนเก่าก็จะติดแบบซิวๆ ทั้งๆที่ถ้าให้คุณสอบใหม่ด้วยความสามารถเท่าเดิม คุณก็จะได้แค่55%และสอบไม่ติดเหมือนเดิม

ปล.เคสนี่มันคนละเรื่องกับการที่เด็กซิ่วสอบติด เพราะความสามารถมากขึ้นเลยอัพคะแนนและความสามารถตัวเองขึ้นมาจนติดนะครับ  


คืออีก 9 อันดับที่เลือกไปเนี่ย เด็กไม่อยากเรียนเลยว่างั้น

ต้องได้เรียนแค่คณะที่เลือกอันดับ 1 เท่านั้น ไม่ติดก็จะซิ่วให้จงได้

ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ

ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน


ปล2
อ้างอิงจาก:
สอบตรงไม่ใช่ภาคระบบกลางแบบนี้ แต่สถานการณ์อะไรคงพอเทียบกันได้  


มันจะเทียบกันได้ยังไงคับ สมัยนี้ สอบตรงมันก็คืออันเดียวกับภาคระบบกลางอะ

อ้างอิงจาก:
ผมมีเงินสมัครสอบปีละหลายๆรอบ บ้านอยู่ใกล้สนาม แค่นี้ผมก็ได้เปรียบคนที่เขาอยู๋ต่างจังหวัด  


เค้าปรับแล้วนะไม่มีความได้เปรียบแบบนี้แล้ว

อ้างอิงจาก:
ส่วนพวกเด็กต่างจังหวัดที่เก่งกว่าผมหลายๆคน ที่ไม่ได้มีเงินบินมาสอบ กทมบ่อยๆแบบผม ก็ไม่ติด  


สอบที่ไหนก็ได้แล้วนะ ใกล้ที่ไหนก็ไปสอบได้เลย  
 



ผมก็ยังคิดว่าความยากของข้อสอบแต่ละปีที่มันไม่เท่ากัน ทำให้เด็กแต่ละรุ่นได้เปรียบเทียบเสียเปรียบกันอย่างไม่ยุติธรรมครับ

อ้างอิงจาก:
ปล1 ช่วง gat pat ปีแรก คะแนนคณะวิทย์ ฬ หลายสาขาเหลือแค่ หมื่นต้นเองคับ  

ปีนั้นเป็นเพราะคนยังไม่รู้ว่าคะแนนตัวเองยื่นได้ประมานไหนครับ ไม่ใช่เป็นเพราะมาตรฐานข้อสอบ เหมือนที่เขาแซวกันว่าใครกล้ายื่นจุฬาตอนนั้นก็ติดหมด

อ้างอิงจาก:
ช่วง ละครบุพเพ ดัง ๆ คะแนนคณะโบราณ ศิลปากรก็คะแนนสูงขึ้นเหมือนกัน  

อันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมาตรฐานข้อสอบไม่เท่ากันอยู่ดีครับ
คะแนนสูงขึ้นเพราะการแข่งขันสูง คนเก่งอยากเรียนมากขึ้น

ผมว่าผมกับท่านคงคิดไม่ตรงกันจริงๆครับ แต่ผมเคารพความคิดเห็นท่านนะครับ

ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วว่าการทำให้มาตรฐานข้อสอบแต่ละปียากง่ายพอๆกันคงเป็นได้ยาก ถึงพยายามก็คงทำได้แค่ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

ผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิกอีกท่านว่าควรให้ใช้คะแนนได้แค่ปีต่อปีน่าจะยุติธรรมขึ้น

 

แต่ดูท่านจะไม่มีปัญหากับคะแนน gpax บ้างเลยนะ

ท่านคงจะเชื่อมั่นว่ามาตรฐานในการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน

 


การพูดถึงปัญหาหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าต้องละเลยอีกปัญหาหนึ่งครับ

ซึ่งถ้าถามถึงการใช้เกรดเฉลี่ยมาคำนวณคะแนนเข้ามหาลัยผมก็ไม่เห็นด้วย มาตรฐานแต่ละโรงเรียนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว


 


ท่านจะให้อายุสอบมันมีผลปีเดียวใช่มั้ย ถึงจะยุติธรรม

แล้วถ้าผมยากจนละ ผมต้องมาเสียตังสอบใหม่ปีหน้ายังงี้หรอคับ  


แล้วเด็กจนๆที่เก่งพอตัว แต่ดันสอบปีแรกไม่ติดเพราะปีนั้นข้อสอบยากกว่าปีก่อนๆเยอะมาก
เลยโดนเด็กซิ่วหลายๆคนกระดิกเท้าอยู่เฉยๆ1ปีแล้วคะแนนเก่ายื่นแย่งที่นั่งไปแบบชิวๆ แบบนี้ยุติธรรมไหมครับ

เด็กจนๆคนนี้ก็ต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลา1ปี เพื่อมาสอบใหม่ปีต่อๆไปวนไปเรื่อยๆอยู่ดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel