ผมเข้าใจความรู้สึกของเพื่อน จขกท. มากๆเลยครับ ผมก็เคยเป็นมาก่อน
ตอนเข้างานใหม่ๆ ตะบี้ตะบันทำงานมาก ไม่เสร็จ ไม่เพอร์เฟ็ค กูไม่กลับ
เพราะคิดว่าเงินเดือนเราที่ได้เนี่ยะส่วนนึงมาจากภาษีของคนอื่น เราต้องทำให้เต็มที่
แต่พอทำไปนานๆสัก 3-4 ปี OT ก็ได้ไม่ค่อยครบชั่วโมง บางเดือนก็ไม่ได้สักกะบาท
แถมพอรู้ว่าเราทำงานได้หลายอย่าง กลับกลายเป็นโดนเอาเปรียบมากขึ้นๆจากคนอื่นๆ ซะงั้น คิดไรไม่ออกก็บอกให้เราช่วยๆๆๆๆ

อดทนทำมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งผมตกผลึกได้ว่า แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าขยัน มันเรียกว่า"โง่" นี่หว่า
ทุกวันนี้เลยใส่เต็มที่แค่ในเวลา 9 ชั่วโมงต่อวันพอละครับ แค่นี้ก็เหนื่อยมากๆแล้ว เสียทั้งสุขภาพ เสียทั้งเวลา
หลังจากนี้จะทุ่มแรงนอกเวลางานปกติ คือต้องได้ OT ครบ หรือ คนสนิทซี้มากๆ มาขอให้ช่วยเท่านั้น

อยากรีเซ็ตระบบราชการในประเทศเราใหม่ชิหัย "โครตล้าหลัง" ทั้งระบบและแนวคิด

ถ้าคุณกำลังมองว่าการทำงานของคุณเป็นการเสียสละ และอยากให้คนอื่นมาซึ้งหรือรู้สึกเป็นบุญคุณ ผมว่ามันเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้องละนะ แล้วเพื่อนคุณเองก็พูดถูก อาจจะใช้คำดูแรง แต่มันก็ตามนั้นจริงๆ ตัวคนทำเองยังไม่รู้จักคุณค่าตัวเอง ยอมให้เขาใช้งานเหมือนใช้ฟรี ก็สุดแล้วแต่จะทำเถอะครับ

น่าคิดนะครับเวลางานเอาไปทำอะไรหมด ถึงต้องมาทำฟรีนอกเวลางาน

1 ระบบราชการมันห่วย
2 ต้องบริหารเวลาให้ดีงานต้องจบในชั่วโมงทำงาน
สุดท้ายก็ต้องย้อนกลับมาที่ระบบเหมือนเดิมบางงานอาจทำไม่ทันในเวลาแต่ควรมีชดเชยอะไรให้กันบ้าง

ต้องเข้าใจก่อนแหละว่า งานราชการ และระบบราชการ มันมีข้อจำกัดเยอะ

เรื่องเงินๆ ทองๆ มันเลยไม่ค่อยจะตรงไปตรงมา เอาแค่เรื่องโอทีนะ

จะเห็นบ่อยๆเลย ทำงานเลยเวลา แต่ไม่มีโอที

ทำเรื่องเบิกโอที แต่ไม่ได้ทำงานจริงๆ เพราะเบิกมาเป็นงบบริหาร

ระเบียบหลายๆอย่าง ที่แม่ม ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการสัมมนา ประชุม ที่ประชุม สัมมนา จริงแค่ครึ่งวัน นอกนั้นเที่ยวยับๆ

ทุกวันนี้ก็คิดตลอดว่า งบประมาณที่เอามาใช้ๆกัน ถ้าใช้ให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์จริงๆ

ป่านนี้ไทยแม่งแซงสิงคโปร์ไปแล้ว

แต่ละเม้น

อันนี้ผมว่ามองได้2มุมนะคือ 1 เพื่อนแม่งขยันจริงๆ เจ้านายมอบงานมาเยอะ
กับ2 ข้ออ้าง ไม่อยากมาเจอเพื่อน อาจจะกลัวโควิท อื่นๆ แต่ไม่ได้ปฏิเสธตรงๆ

สุดๆจริงๆ ข้าราชการทำงานล่วงเวลาเพราะเห็นแก่ประชาชนแต่โดนด่า

พอข้าราชการทำงานเห็นแก่ตัว เลิกตรงเวลา เช้าชามเย็นชามก็ด่าอีก

เพื่อนท่านคงเป็นคนดีครับ

ก็เตือนสติหน่อยละกัน

อาจจะโดนเอาเปรียบไปเรื่อยๆ สุดท้ายเป็นทุกข์ เครียด

มีโอทีให้ ถึงทำอะครับ

คำตอบเพื่อนราชการคุณเหมือนจะหล่อนะครับ แต่ผมคิดแบบเพื่อนเอกชนคุณเลย

ไม่แน่ใจว่าเอกชนเขาตั้งงบโอทีกันยังไง แต่ของราชการมันไม่สามารถตั้งงบโอทียาวทั้งปีงบประมาณได้
เวลาจะทำโอทีแต่ละครั้ง ต้องดูปริมาณงาน ต้องดูความเร่งด่วนของงานว่าสมควรที่จะทำโอทีไหม

ซึ่งบางงานเนี้ยมันไม่สามารถบอกได้ ไม่สามารถวางแผนเผื่อไว้ได้ บางงานจู่ๆ ก็เข้ามา ต้องทำให้เสร็จเร็วที่สุด
มันเลยต้องอยู่ทำโอทีโดยที่ไม่ได้เงิน ผมเข้าใจมุมมองของคนทำ และก็เข้าใจมุมมองของคนที่มองว่าไม่ควรทำ

การทำงานเกินเวลามันมีหลายสาเหตุนะครับ
จะมาตัดสินด้วยคำพูดไม่กี่คำลำบาก

มีอะไรบ้าง
1. งานเยอะ
2. งานช้า
และ 3. งานเข้า

1. งานเยอะคือ คนขาด/คนน้อย หรือนายจัดงานให้ไม่ตรงกับกำลังคนและเวลาที่มี
อันนี้ถ้าตัวงาน fixed อยู่กับใครซักคนแล้ว ควรเป้นอย่างยิ่งที่ต้องมี OT ให้
-------------------------------------------------------------
2. งานช้า
อันนี้ต้องด่าตัวเองล้วน ๆ คือ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าเพื่อนฝูงด่ากันเองก็จะประมาณ ทำไมมึงทำงานโง่แบบนี้วะ ทำไมมึงไม่จัดแบบนี้ เอาข้อมูลโยนเข้าใส่นี่ ดีดตัวเลขและ check ความถูกต้องผ่านทางนี้
เรียบร้อยแล้ว ค่อยจับมาลงตัวนี้ มึงไม่ check ข้อมูลก่อน ก็นั่งไล่ด้วยสายตาจนงานไม่เดินแหล่ะ (สมมุติ)

ลองพิจารณากลับกันว่า คนอื่น ๆ ใน office เดียวกันที่เค้าได้ปริมาณงานไม่ต่างจากเรา เค้าทำเสร็จทันมั้ย
ยิ่งทำงานซ้ำ ๆ ยิ่งต้องไวขึ้นหรือ หาเครื่องมทอมาช่วยให้มันไวขึ้นได้
-------------------------------------------------------------
3. งานเข้า
เช่นเลิกงาน 5 เย็น นายวิ่งมาบอก คุณเร่ง key ข้อมูลตรงนี้เข้าให้ผมหน่อยนะ มีบ้างไม่บ่อย (ส่วนใหญ่มาจากการประสานงานผิดพลาด) อันนี้ก็แล้วแต่ว่ายังไง แต่ส่วนตัวผม ผม OK นะ ช่วยได้ก็ช่วย
-------------------------------------------------------------


เพิ่มเติมอีกอัน งานที่มาจากความรับผิดชอบ (ซึ่งบางทีก็รับผิดชอบเกินตัว)
ส่วนใหญ่อันนี้เป็นคนดีนะ แต่บางทีก็ต้องประเมินร่างกายตัวเองด้วยว่า ควรบ่อยแค่ไหน ยังไง

ถ้าหน่วยงานของเพื่อนท่าน ทำงานล่วงเวลากันทุกคน ยังพอจะเชื่อได้ครับ ว่าทำเพื่อประชาชนกันจริงๆ

แต่ถ้าเป็นแค่เพื่อนท่านคนเดียว ความคิดแรกเลยคือโดนผลักภาระมาให้ละ ความคิดสองคือในเวลางานเพื่อนท่านทำอะไร

ถ้าเพื่อนคุณขยันทำงานไม่เคยอู้เลยแต่งานยังล้นมือนั่นแปลว่าการจัดการ Workload ขององค์กรมันห่วยแตกมากกำลังคนไม่พอกับงาน ข้าราชการถูกหล่อหลอมด้วยคำนี้มานานว่าให้ทำเพื่อประชาชน ความคิดเพื่อนคุณดีครับแต่ในขณะที่คุณทำเพื่อคุณอื่น ตัวเองก็ต้องได้รับการตอบแทนที่สำน้ำสมเนื้อด้วย เพราะฉนั้นในมุมมองเพื่อนฝั่งเอกชนไม่แปลกเลยครับที่เค้าจะคิดแบบนั้น