เอาตาม Google Map ว่า แต่ก็ดูว่าใช่เส้นทาง
1. น่าน-แพร่-อุดดิต-พิดโลก-คอนหวัน-กทม.
2. น่าน-แพร่-ลำปาง-ตาก-คอนหวัน-กทม.
มั้ย

โดยความเห็นผม
ทางที่ 1 เท่าที่ผมจำได้ ผมรู้สึกว่าช่วงพิดโลก-คอนหวัน จะค่อนข้างไม่มีอะไรริมทางนัก จะแวะปั๊ม แวะไรอาจจะยากหน่อย แต่นั่นก็อย่างน้อย 5 ปีแล้วที่เคยขับลง กทม. เส้นนี้ (ทางที่ 1 มันคือทางหลวงหมายเลข 11 ซึ่งมันคือทางหลวงรองจากเส้นทางที่ 2 ถ้าถามถึงความเจริญมันย่อมน้อยกว่าทางเลือกที่ 2 อยู่แล้ว) สำหรับทางเลือกที่ 1 คนไม่เคยขับทางไกล ขับขึ้นเขา อาจจะรู้สึกเหนือยตรงช่วง แพร่-อุดดิต แต่ผมว่าก็เหนื่อยน้อยกว่าขึ้นเขาช่วง แพร่-ลำปาง มาเหนื่อยทางตรงยาวช่วง อุดดิต-พิดโลก มากกว่า

ทางที่ 2 จะมายากตรงแพร่-ลำปาง แต่ถ้าเทียบ แพร่-อุดดิต, แพร่-ลำปาง ผมว่าทางขึ้นเขา แพร่-ลำปาง เหนื่อยกว่า แต่สั้นกว่า แพร่-อุดดิต แต่พอลงลำปางได้แล้ว ที่เหลือเราคุ้นเคยแล้วไง เพราะเราขับไปเชียงใหม่มาแล้ว

ถ้า Google มันแนะนำ จากน่าน ผมว่ามันน่าจะแนะนำไปทางเลือกที่ 1 เพราะระยะทางไปถึง กทม. มันสั้นกว่า

แต่ถ้าให้ผมแนะนำจากข้อมูลของ จขกท. เท่าที่ไล่อ่านมา ผมว่าลองมาทางเลือกที่ 2 เหมือนที่ จขกท. เสนอมา ผมว่าน่าจะโอเค มาเหนื่อยช่วง แพร่-ลำปาง หน่อย แค่นั้น แต่เราเคยขับผ่านแล้ว ชินทางในระดับนึง และ เป็นทางหลวงหมายเลข 1 ทางหลักอยู่แล้ว ปั๊ม ที่พักริมทางน่าจะมีเยอะและสะดวกกว่า

พอดีเห็นมีท่านนึงไม่แนะนำไปทางเด่นชัย แต่สำหรับผม เท่าที่เคยขับไปน่านจากเชียงใหม่มา เท่าที่ทราบจะไปน่านก็ต้องผ่านแพร่ (ถ้ามาจากเชียงใหม่) ถึงแยกแม่แขมก็มีแค่ซ้ายไปแพร่โดยผ่าน อ.ลอง กับ ไปทางเด่นชัย (ซึ่งระยะทางต่างกันไม่เกิน 30 นาที เด่นชัยจะนานกว่า) ถามว่าทางไปเด่นชัย มืดมั้ย หลอนมั้ย ใช่อยู่ แต่ทางไป อ.ลอง ช่วงจะถึงตัวเมืองแพร่ (ผ่าน อ.ลองไปแล้ว) จะเป็นทางขึ้นเขา โค้ง 2 เลนสวน ด้านที่เราขับไปซ้ายมือจะเป็นเหว ซึ่งมันไม่ได้มีระยะทางยาวมากนักหรอก แต่คนไม่เคยไปผมกลัวจะขับแล้วเครียด ถ้าคนชินทางแล้วมักจะไปทาง อ.ลอง เพราะมันเร็วกว่า 30 นาที หรือ ถ้ามาจากตัวเมืองแพร่ ซ้ายมือเราจะเป็นภูเขา ไม่ใช่หน้าผา มันก็ขับได้ปลอดภัยหน่อย ปล. ตรงช่วงนี้ก็ไม่มีคลื่นโทรสับ)

เรื่องผีสางเวลาขับรถทางไกล ปกติไม่ค่อยสนใจ กลัวอันตรายจากคนมากกว่า แต่โดยทั่วไปแล้วคนขับรถทางไกล กลางคืน ผมก็อยากแนะนำว่าเห็นอะไร ได้ยินอะไร อย่าทัก อย่าขานรับ สวดมนต์ก่อนออกรถ คิดจิตเป็นกุศล ถ้าไม่สบายใจก็นึกในใจว่าหนูขออนุญาตผ่านทาง อะไรล่วงเกินไปขออภัย แต่ส่วนใหญ่ผมวิ่งขวา เพราะเลนซ้ายมักจะสะดุ้งตรงชาวบ้านเดินมืดๆ กลางคืนริมทาง นึกว่าผี กับหมา แมว วิ่งตัดหน้า ขับรถทางไกลมา 14 ปี ไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับอะไร

ไปน่านจากแพร่ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนิดนึง ถ้าคุณขับรถสีขาว แล้วเห็นกลุ่มหมาเป็นฝูงริมทาง เตรียมชะลอรถ เพราะไม่รู้ทำไมวิ่งไล่วิ่งเห่าประจำ เดี๋ยวจะวิ่งตัดหน้าแล้วเกิดอุบัติเหตุ สงสัยเพื่อนมันเคยโดนรถสีขาวชน

เรื่องจอดปั๊ม พยายามจอดหน้า 7-11 มันสว่าง จอดตรงกล้องวงจรปิดมองมาเห็นได้ยิ่งดี เพราะระวังโดนยัดยาเสพติด กับ แอบขโมยของ จอดเว้นช่องจากรถตู้ รถกระบะ ไม่ใช่แค่ขึ้นลงง่าย แต่ระวังคนโปะยาลากขึ้นรถ จอดเสร็จค่อยเดินไปห้องน้ำ ดูหน้าหลังดีๆ มีใครตามมั้ย เดี๋ยวโดนทำร้ายในห้องน้ำ เข้าห้องน้ำคนพิการได้ ไม่มีใครว่าหรอก แต่ถ้าดูแล้วว่าไปจอดหน้า 7-11 แล้วต้องเดินผ่านจุดเปลี่ยว มืด หรืออาจจะมีคนไม่น่าไว้ใจอยู่ จอดหน้าห้องน้ำเข้าให้เสร็จก่อน แล้วค่อยออกมาย้ายรถไปจอดซื้อของใน 7-11

เรื่องเครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าไม่ไหวจริงๆ สูตรที่แนะนำ ไล่จากง่วงน้อย-ง่วงมาก
1. แบรนด์

2. วีต้าเบอรี่ อันนี้ช่วยเรื่องสายตา เวลาขับรถนานๆ ตาจะล้า ง่วงง่าย แต่ถ้ากินแล้วขี้ก็ skip ไป

3. กาแฟ พยายามเลือกเป็นกาแฟดำ ไม่มีน้ำตาล เพราะจะได้ไม่สูญเสียน้ำในร่างกายจากการทำละลายน้ำตาลในเลือด ถ้าน้ำตาลเยอะ เลือดหนืด ร่างกายดึงพลังงานไปเผาผลาญน้ำตาล แรกๆ อาจจะตื่นแต่ซักพักอาจจะเพลีย เรื่องอาหารก็พยายามลดแป้ง อย่ากินแป้งเยอะไป อย่างที่ท่านึงบอก กินอย่ากินจนอิ่มจะง่วง

4. กาแฟ เอาแบบดีดๆ จริงๆ กาแฟ 7-11 ตาแข็งแน่

5. เอ็ม 150 จิบเรื่อยๆ มันมีทอรีนช่วยให้ตื่นตัว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่แนะนำไปมันแค่ช่วยให้ตื่นตัว แต่ถ้าสมองไม่ตื่น อาจหลับใน หรือ ตัดสินใจผิดพลาดในสถานการณ์คับขัน เพราะงั้นพักผ่อนให้เพียงพอ

(หมายถึงถ้าง่วงมากให้กินรวมทั้งหมด 1-5 ไม่ใช่โดดไปกิน 5 ไม่กิน 1-4 นะ แต่ก็ดูสภาพร่างกายตัวเองด้วย)


วิตามิน
ถ้าปกติไม่ได้เป็นคนกินวิตามิน ใน 7-11 มีขาย ดูส่วนประกอบหลังซองดีๆ อย่ากินทอรีนเยอะไป ใจจะสั่น เน้น

วิตามิน B , เลซิติน หรือ แบนเนอร์ถุงสีแดง ช่วยเรื่องสารสื่อประสาท

วิตามิน A เรื่องสายตา

วิตามิน C เรื่องความสดชื่นอ่อนเพลีย

น้ำมันตับปลา OMEGA 3 เรื่องความข้นเหนียวของเลือด การนั่งขับรถอยู่ในห้องโดยสารนานๆ เราจะขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองทำให้ง่วงง่าย เลือดที่ข้นทำให้ส่งออกซิเจนได้ช้าและน้อย OMEGA 3 ช่วยเรื่องเลือดไม่ข้น แต่ถ้าเป็นคนโรคเลือดออกง่าย หรือทานยาที่มีผลละลายลิ่มเลือด ลดการแข็งตัวของเลือดอยู่แล้วก็อย่าไปกิน เสี่ยงเลือดออกในอวัยวะภายใน

จิบน้ำเรื่อยๆ เตรียมกระบอกฉี่แบบ ผญ ไว้หน่อยก็ดี พวกที่เป็นกรวยน่ะ กับขวดเปล่า เผื่อไว้ในรถ เผื่อหาห้องน้ำไม่ทันจริงๆ เพราะ ผญ อั้นได้น้อยกว่า ผช.

เทคนิคการเข้าโค้งบนเขา
ใช้วิธีตัดโค้งจะลดภาระการหมุนพวงมาลัยได้ เช่น ถ้าทางที่กำลังวิ่งไปจะเป็นโค้งซ้าย ให้เราวิ่งชิดซ้าย (เลนไหล่ทาง) เพราะเวลาเข้าโค้งมันจะมีแรงเหวี่ยงออกไปหาเกาะกลางถนน รถเราจะไถลไปทางขวาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยู่ขวามาก่อนพอเข้าโค้งซ้าย ที่เราจะไถลไปต่อคือเกาะกลางหรือข้ามเลนไปฝั่งตรงข้าม

ในทางกลับกัน ถ้าโค้งไปทางขวาเราควรอยู่เลนขวา (เลนชิดเกาะกลาง) เวลาเข้าโค้งเราจะไถลไปเลนซ้าย (เลนไหล่ทาง)

ทั้งนี้ ดูหน้าดูหลังดีๆ ว่าไม่ได้โค้งแล้วจะไปปาดใคร ก็อย่าใช้พร่ำเพรื่อ ถ้ารู้สึกว่าเข้าโค้งแล้วเอารถไม่อยู่ก็ชะลอความเร็วลง เพราะถนนแต่ละเส้น องศายกโค้งไม่เหมือนกัน

จำง่ายๆ จะโค้งไปทางไหนเริ่มอยู่เลนนั้น (เลนในโค้ง) โค้งซ้ายอยู่เลนซ้าย โค้งขวาอยู่เลนขวา

เทคนิดขึ้นเขา
เล่นกับเกียร์ให้มากกว่าเบรก อย่าแช่ครัช (ถ้า Manual)
เกียร์ Manual - ขึ้นเขาต้องใช้เกียร์ต่ำอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่มีแรง อันนี้เข้าใจกันทุกคน แต่ตอนลงเขา ถ้ารู้สึกว่าชักจะพุ่งเร็วไปแล้ว ให้เปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ต่ำก่อน ตอนถอนครัชค่อยๆ ถอน อย่าถอนพรืดเดียว รถจะกระตุกแรง อาจจะเครื่องน็อก แล้วค่อยเปลี่ยนตีนมาเลี้ยงเบรก (แต่ถ้าฉุกเฉินก็ถอนครัชพรืดเดียวไปเถอะ ไม่ต้องกังวลมาก)

เกียร์ออโต - ใช้เกียร์ S, L เกียร์ 3 ให้เป็น
เกียร์ S คือ Speed รอบเครื่องจะจัดขึ้น จะรู้สึกว่าเครื่องมันเบาขึ้นเพราะมันเปลี่ยนไปใช้เกียร์ตัวเล็ก แต่เวลาขึ้นเขาอย่าเล่นเกียร์นี้เพราะเกียร์ตัวเล็ก (เฟืองเล็ก) หมุนถี่ แต่ไม่มีกำลัง ลงเขาก็จะลงเร็วไป เอารถไม่อยู่ ใช้ทางราบเวลาแซงได้
เกียร์ D มันไต่ระดับตามปกติอยู่แล้ว
เกียร์ 3 คือ ถ้าในกรณีที่เราอยู่ D แล้วรถไม่มีกำลังขึ้น หรือ ลงเขาเร็วไป ปรับมาเป็น 3 ก่อน เพื่อให้เฟืองใหญ่ขึ้น มีกำลังมากขึ้นเวลาขึ้นเขา หรือ ช่วยชะลอความเร็วโดยไม่ต้องใช้เบรกเวลาลงเขาได้
เกียร์ L คือต่ำกว่าเกียร์ 3 ไปอีก ถ้าเกียร์ 3 ยังเอาไม่อยู่ค่อยปรับมาเป็น L

บ่อเกลือผมเคยเอา Honda City ของแฟนไปก็ขึ้นได้อยู่ แต่เอาจริงๆ ถ้ายังไม่เคยไปก็ใช้ความระมัดระวัง ใช้ความเร็วให้เหมาะสม หรือ จ้างคนพื้นที่ชำนาญทางเช่ารถขึ้นไปดีกว่า

เอาจริงๆ ไม่ยากหรอกนะ ผมอาจจะแนะนำเยอะไปจนดูน่ากังวลไปหมด แต่ลองดูเถอะ ไม่ชัวร์ก็ช้าหน่อย อย่าห้าว ดูหน้าหลังซ้ายขวาเรื่อยๆ ไม่ไหวอย่าฝืน นอนพัก หา รร นอน ขับเส้นทางเส้นนึงผ่านทีเดียวก็รู้อะไรเยอะแล้ว  

งานหยาบละ เพิ่งรู้ตัวว่าลืมขาตั้งกล้อง