ไม่รีบครับ ถึงได้บอกว่ารอถึงบ้านละทำด้วยกัน ปกติเค้าไม่ได้ขี้หงุดหงิดนะครับ แต่อาจเพราะเครียดเลยเป็นแบบนี้ ผมไม่ละเอียดเองด้วยแหละ เค้าบอกว่ายิ่งเค้าเศร้ายิ่งต้องการความเข้าอกเข้าใจ ผมอาจจะใช้เหตุผลมากไป ใช้ความเข้าใจน้อยไป

ก็นั่งคุยและปรับความเข้าใจกัน

อย่างเช่นเรื่องนี้ คราวหลังก็ถามไป เลยว่ารีบหรือเปล่า ให้เค้าย้ำให้ชัด รีบไม่รีบ เราติดงานอะไรยังไง

ท่านอาจจะมองว่าเรื่องเล็กน้อย แต่ผู้ ญ เค้าคิดไปไกล

อาจจะไปถึงว่าถ้าสร้างครอบครัวกันไป แบบโน้นแบบนี้ บลาๆ มันอยุ่ที่มุมมองและการคุยกัน

ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ คุณมองว่า เรื่องแค่นี้ งี่เง่า กับ แฟนบอก นี่คือเรื่องสำคัญ คนรักต้องมาก่อน สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน ฝืนไปมันไม่มีความสุขหรอก ถ้าไม่คุยปรับความคิดกัน

แต่การถอนหายใจยาว ถ้าตามความรู้สึกผม คือนี่ไม่ใช่ การกระทำแรกๆ ที่คุณทำให้เธอรู้สึกไม่ดี มีหลายครั้งแล้ว ที่คุณทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ การถอนหายใจยาว เหมือนว่า ชั้นเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

ถ้าครั้งแรก คงไม่มีคำว่าทนไม่ไหวหรอกถูกไหม อันนี้ ถ้าเป็นผมถอนหายใจยาวนะ

ผมเฉยๆนะ ถ้าเค้าเร่งมาแบบให้ช่วยเร่งด่วนถ้าทำผมไม่เป็นก็จะพยายามช่วยเค้า ที่นี่มันส่งมาแบบปลายเปิดหนิ ถ้างานไม่ได้เร่งก็แค่ทำเสร็จก็จบปะ นี่เหมือนหาเรื่องลบๆมาใส่กัน งงดี

ส่วนตัวเป็นผมภ้าไม่สะดวกก็แค่บอกตรงๆตอนนั้นไม่สะดวก แล้วลืมไปแล้ว จะถามตรงนั้นเลยว่าต้องรีบใช้ไหม ถ้ารีบก็ทำให้ตรงนั้น แต่อย่ามาใช้ข้ออ้างไม่ใส่ใจ คนละประเด็น จขม ขับรถ 2 ชม. ไปหาแค่เพราะบอกว่าอยากให้ขับมารับไปนอนด้วย ถ้านี่ยังไม่ใส่ใจ ผมว่าน่าจะมีปัญหาละ

มันเป็นเรื่องความรู้สึกแหละครับ แต่สำหรับผมคิดว่ามันเป็นเรื่ืองที่ถ้าต่างคนต่างเข้าใจกันมากกว่านี้ แคร์กันมากกว่านี้ จะไม่ลงเอยกันแบบนี้ ตอนนี้ต่างคนต่างมองว่าความรู้สึกตัวเองใหญ่กว่าอีกคน เป็นผมนะมันไม่ใช่การใช้ชีวิตคู่แล้วล่ะ เรื่องบางเรื่องทะเลาะกันได้มันเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อคุยด้วยเหตุผลที่น่ารับฟังแล้วน่าเข้าใจกันได้ นั่นคือ ชีวิตคู่

คุณจะเครียด จะสุข จะทุขก์ จะแฮปปี้ยังไง .. เหตุผลต้องเหนือความรู้สึกให้ได้

ถ้าคุณบอกว่ายังไม่เซฟรูปเลย แต่เดี๋ยวถึงบ้านแล้วเค้าเซฟแล้วทำให้นะ เดี๋ยวมาดูกันว่าจะแก้ไขยังไง แบบนี้น่าจะดูซอฟกว่า ที่จะพูดว่าเรื่องมันเล็กๆเอง

แต่ฝ่ายผู้หญิงก็ต้องเข้าใจด้วย แม้ตัวเองจะเครียดแค่ไหน แต่เรื่องตัวเองไม่ได้สำคัญสำหรับคนอื่นเสมอไป

เรื่องพวกนี้ผมคุยกับแฟนตลอดนะ ความรู้สึกใครก็ความรู้สึกมัน แต่เหตุผลนั้นสำคัญ ต้องคุยกันปรับความเข้าใจกันเสมอ เรื่องไหนช่วยได้เราก็จะช่วยอยู่แล้ว เรื่องไหนช่วยไม่ได้ก็คือไม่ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็อยู่การจัดการชีวิตคู่ของท่านแล้วล่ะครับ

สอบถามหน่อยครับพอดีแฟนผมอารมณ์คล้ายๆ เคสนี้เลย แถมน้องเป็นโรคซึมเศร้าด้วย

ผมควรดูแลเค้ายังไงดีครับเรื่องเล็กๆก็ทะเลาะกันเพราะผมก็ชอบพูดเหมือนเจ้าของทู้เลย

ถ้าอธิบายว่ายังไม่สะดวก เดี๋ยวทำให้นะ ก็คงไม่ใหญ่โตอะนะท่าน อาจจะบ่นๆแต่คงไม่เฟลหนัก ถ้าเป็นเราที่กำลังว้าวุ่นใจอยู่แล้วแฟนบอกว่า เรื่องแค่นี้เอง เราก็คงเทศนากลับ




ลองขอโทษให้ตรงจุดดูรึยังคะ ขอโทษกับคำพูด และที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้รู้สึกแบบนั้นเลย จะย้ำไปก็ได้ว่า เรื่องของเค้าก็สำคัญกับคุณนะ

(ไม่ต้อง emotional ไม่ต้องไหว้อะค่ะ พูดให้ตรงจุดพอ ละระวังคำพูดด้วย)

ถ้าใจเย็นลง ขอโทษแล้วดึงมากอดซักทีก็น่าจะอ่อนลงนะคะ อาจจะโดนสะบัด555 แต่เค้าน่าจะอุ่นใจขึ้นบ้าง

เพิ่ม*
ถ้าเย็นทั้งคู่แล้วก็ควรคุยกันหน่อยนะคะว่าการพูดคุย/การกระทำแบบไหนที่แต่ละคนทำแล้วไม่ค่อยโอเค ควรปรับ เพราะทางนั้นก็อารมณ์นำมากเหมือนกัน ควรต้องทบทวนตัวเองเหมือนกันว่าบางทีเบากว่านี้ก็ได้

คงไม่ได้มีบุคลที่สามปลอบอยุ่หรอกนะ -*-
ไม่รู้สิ การไม่รับโทรศัพท์สองวันสำหรับผมเรื่องใหญ่นะ ถ้าเค้ารักและแคร์เรามันคงไม่เกิน 24hr หรอก

คล้ายๆกันเลย แฟนผมบอกให้ทำแบนเนอร์ให้ คือผมทำแปบเดียวก็เสร็จ
แต่ผมแทบไม่มีเวลาเลย เค้าก็รู้ สุดท้ายผ่านไป 2 วัน เห็นโหลดแอป canva มาทำเอง
จบ ไม่ต้องทะเลาะกัน

ละไม่อธิบายไปหล่เ

เป็นผมนี่ดีใจเลย ไม่ต้องเสียเวลาขอเลิก

ผมไม่ชอบคนผลัดครับ
จะทำอะไรควรต้องทำเลย

ถ้าเป็นโรคซึมเศร้าผมแนะนำอะไรไม่ได้หรอกครับ คงต้องไปพบแพทย์ครับ แต่ถ้าแฟนผมเป็นคนขี้หงุดหงิดทะเลาะผมอาจจะเลิกครับ ไม่ทน 555 แต่ผมก็เป็นบ้างนะบางที บอกแฟนว่าเอาไว้ก่อนเดี๋ยวทำให้แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บางทีก็ไม่ทำให้เลย แต่เค้าก็ไม่โกรธผมนะหรือโกรธแต่ไม่แสดงออกไม่รู้

ผมอยากให้คุณปล่อยวางความถูกผิดไปเลย ถ้าอยากกลับมาคุยกัน

บางประเด็นที่เรามองว่าถูก หรือมองเป็นเรื่องเล็ก มันคือเรื่องที่ผิด หรือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา

มันไม่ใช่แค่ความคิดเห็นต่างกัน แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่มันซ่อนอยู่ในเรื่องพวกนั้น

ซึ่งคุณควรจะเป็นคนที่ใส่ใจและรู้ความรู้สึกพวกนั้นให้ได้มากที่สุดครับ

ถ้าคุณเก็ทความรู้สึกแฟนคุณจริงๆแต่แรกว่าแฟนคุณกำลังรู้สึกแย่แค่ไหน ต้องการกำลังใจแค่ไหน คุณจะรีบทำมันให้สมบูรณ์ที่สุดเลย

ละเขาก็มองว่าฝั่งเขากำลังรับมือจัดการอะไรหนักมาก ละเขาก็แบ่งเรื่องง่ายๆมาให้คุณทำเพื่อหวังว่ามันจะเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วและเคลียร์ออกไปจากสมองเขา แต่สิ่งที่เขารับรู้จากคุณคือ คุณไม่ได้ช่วยเหลือเขาเต็มที่อะ ทั้งๆที่มันน่าจะเสร็จ

ที่พูดมาทั้งหมดนี่แค่ 1 เด้งนะ และไม่ใช่เรื่องใหญ่ในประเด็นนี้


เรื่องสำคัญกว่าและใหญ่กว่าเด้งที่ 2 คือคุณดันไปสวนว่าเรื่องแค่นี้เอง(ซึ่งสิ่งที่คุณทำอยู่มันคือการเอาชนะเขาคืน) เพราะสำหรับเขาการเคลียร์เรื่องพวกนั้นคือเรื่องสำคัญที่มันจะทิ้งสิ่งที่รกสมองเขาออก และเขาก็ไว้ใจให้คุณที่เป็นแฟนได้ลงมือทำ แต่คุณดันไปสวนเขาอย่างนั้น มันตอกย้ำอีกทีนึงว่าคุณก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะเข้าใจความรู้สึกเขา เขาเลยยิ่งเรียกร้องให้คุณใส่ใจ และเข้าใจสิ่งที่เขาเผชิญอยู่

ถ้าตอนนั้นมันมีประโยคเช่น "ขอโทษนะรู้นะว่ากำลังเครียด เดี๋ยวถึงแล้วรีบทำให้" หรือ "เค้าก็ยุ่งเหมือนกันแต่พยายามเต็มที่แล้วนะขาดอย่างเดียว" เรื่องมันจะเบาลงกว่านี้มากๆ

สิ่งที่ผมเห็นจากคุณในตอนนี้คือ
1.ส่วนลึกในใจคุณก็ไม่ได้มองว่าการช่วยเหลือแฟนคุณคือการซัพพอร์ท แต่คุณรู้สึกกับมันว่าเป็นภาระที่ถูกโยนมาอีกทีหนึ่ง
2.คุณเป็นคนที่ยังไม่มีความสมารถในการรักษาความสัมพันธ์ เรื่องที่แฟนคุณมองเป็นเรื่องใหญ่ คุณกลับมองไม่เห็น พอเริ่มทะเลาะอีกฝั่งอารมณ์ร้อน คุณกลับไม่ทำให้เขาเย็นลงแต่กลับไปสวนเขาเหมือนเขาผิด นั่นทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นไปอีก
3.คุณไม่ได้สื่อสารสถานการณ์ฝั่งคุณให้ชัดเจนว่าคุณยังไม่สะดวกแค่ไหน คุณวางแผนจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทำให้สิ่งที่แฟนคุณคาดหวังจากคุณมันไม่ตรงกับสถานการณ์จริงที่คุณเจออยู่


เด้งที่ 3 เด้งนี้มันเป็นเรื่องอาฟเตอร์ช็อคคือถ้าคุณง้อหรือโทรไปด้วยความถี่เดิม หรือการกระทำเดิม แล้วเขาไม่รับ นั่นหมายถึงเขาต้องการการะทำในระดับสูงกว่านี้ครับ เช่นเขาอยากให้คุณโทรหาถี่กว่านี้ อยากให้ Miss Call สัก 100 ครั้ง ไม่ก็อยากให้คุณไปตามหาเขาให้เจอ ไปง้อเขาถึงที่เป็นต้น

ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ทำในระดับที่มากขึ้น มันจะยิ่งไปตอกย้ำเรื่องก่อนหน้านี้ ว่าคุณก็ไม่ได้ใส่ใจเขาขนาดนั้นอะ ตอนนั้เขาต้องการความพยายามจากคุณเพื่อเป็นหลักพิสูจน์ว่าคุณใส่ใจเขาจริงๆ ถ้าไม่ได้ทำก็เท่ากับว่าสิ่งที่เขาคิดในหัวเป็นเรื่องจริง คุณไม่ได้ใส่ใจเขาขนาดนั้นหรอก

และถ้าความคิดนี้ฝังหัวเขาเมื่อไหร่ มันจะบั่นทอนความสัมพันธ์จนแหลกสลายได้เลยในระยะยาว จะบอกว่าที่คนที่รักกันอยู่ดีๆแล้วนอกใจกัน หรือเบื่อกัน มันเริ่มมาจากเรื่องทะเลาะพวกนี้ แล้วไม่ยอมเคลียร์กัน ไม่ยอมกันนี่แหละครับ



ทั้งหมดนี่ผมไม่ได้บอกว่าคุณผิดนะ ผมจะบอกว่าคุณไม่ผิดเลย แฟนคุณมีแนวโน้มผิดมากกว่าคุณอีก

ที่บอกทั้งหมดคือ missing ในฟากของคุณ ในกรณีที่เป้าหมายของคุณคือ "อยากให้สถานการณ์ความสัมพันธ์กลับมาดีดังเดิม" มันต้องจัดการตัวเองประมาณนี้

ในมุมของผมคือเอาสถานการณ์ให้มันเคลียร์ก่อน ยอมไปก่อน จัดการในฟาก missing ของเราก่อน
พอมันเคลียร์จริงๆ แล้วค่อยมาอธิบายกันทีหลัง

ไร้สาระสุดครับแบบนี้ ถ้าบอกว่างานแค่นี้ แล้วทำไมไม่ทำเองละ
ส่วนตัวถ้างานของตัวเองจะไม่พยายามให้อีกฝ่ายทำให้

ยกเว้นเค้าว่างและเต็มใจนะ ถ้าเค้าไม่ว่างและไม่เต็มใจ ทำเองครับ ทำไม่ได้ไปจ้างครับจบ
ถ้ามาชวนทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้ ปวดหัวตายเลยแบบนี้

สิ่งที่ขอให้ทำมันเร่งด่วนไหม ถ้าเร่งด่วนและเราสามารถทำได้เลยก็ควรทำให้ ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแล้วพอถึงบ้านท่านทำให้เลย ผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีปัญหา ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึก แต่ต้องรู้ด้วยว่าแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ในแต่ละวัน ผมมองที่ผลลัพธ์มากกว่า ได้งานไหมอะไรแบบนั้น

ขับรถไปรับ 2 ชั่วโมงจะว่าไม่สนใจมันก็ไม่ใช่อะ แล้วผมก็เกลียดมากเลยพวกชอบลองใจ เห็นเราเป็นลูกไก่ในกำมือ ต้องร้อนรนทำนู่นนี่นั่นให้ พอพอใจแล้วค่อยหายโกรธ