รถไปที่ฝึกสภาพเป็นไงครับ ถ้ารุ่นเก่ามากๆจะขับยากนะเพราะบางทีเราเหยียบให้สุด เวลาค่อยๆผ่อนมันแล้วเริ่มเหยียบคันเร่งมันจะชอบดับง่ายๆเลย ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์เป็นลองเหยียบคลัชกะเหยียบคันเร่งให้สมดุลกันก่อนก็ได้ครับ จับจังหวะมันก่อน

ขับเท้าเดียวพอนะครับ เกิดขับสองเท้าขึ้นมา เดี๋ยวกระทู้งอกบานเลย

เหยียบคันเร่งพร้อมค่อยๆปล่อยครัชครับ ลองเลี้ยงครัชแบบนี้ไปก่อน

ต้องถามว่าใช้เท้าไหนเหยียบเบรคครับ

สภาพรถก็มีผลนะ เกียร์กระปุกถ้ารถเก่า ครัชใกล้หมด ครัชแข็ง มือใหม่ก็จะขับยาก
แต่ถ้ารถใหม่ ๆ ขับแป๊บเดียวก็ชิน แนะนำเริ่มแรกให้หัดช้า ๆ ไม่ต้องรีบครับ ช้าที่สุดเลยเอาให้เราจำขั้นตอนได้
พอคล่องค่อย ๆ เร็วขึ้นมาหน่อย

ผมเริ่มจากเกียร์กระปุก ขับเกียร์กระปุกเป็นส่วนใหญ่ แต่เจอเกียร์กระปุกบางคันผมก็ยังออกตัวดับก็มีครับ แต่ละคันมันไม่เหมือนกันต้องจับจังหวะให้ได้ก่อน

รถติดๆนี่เมื่อยเลย เกียร์ปุก ผมเน้นสบาย ออโต้ดีก่า
ผมหัดอยุ่แปปเดียว พอเหมือนกัน

ถ้าบ้านไม่มีเกียร์กระปุก หรือไม่มีโอกาสได้ขับจริงๆผมว่าเรียนออโต้อย่างเดียวพอ

เพราะผมก็เรียนกระปุกและชอบมากตอนนั้น ขับมันส์ เพลินมาก แต่เรียนจบไม่มีโอกาสได้ขับเลย

4-5ปีต่อมาพอลองขับกระบะ ปรากฎว่าดับรัวๆไม่แตะอีกเลยผม เรียนไปไม่ได้ใช้ยังไงก็ลืม

กมผู้รถๆเกียร์ๆ ผมละกลัวดราม่า

ผมหัดขับออโต้ แล้วไปเจอของจริงกระปุกก็เกือบแย่ครับ แนะให้ขับบ่อยๆ ถ้าเป็นพวกกระบะขับมันส์ๆ ต้องไปไหลก่อนสักทีสองที แล้วจะเป็นงาน

ถ้าไม่เคยยุ่งกับพวกระบบครัชเลยน่าจะจับยากนิดนึง
ที่บอกโยกแล้วงงหมายถึงเกียใช่มั้ย?
แล้วใช้รถรุ่นอะไรหัด ถ้าพวกเครื่อง 3 สูบอะดับง่ายเห็น ร.ร. สอนชอบใช้พวกนิสสันอเมร่ากัน

เอางี้ดีกว่าถ้าท่านจะซื้อรถ หรือรถที่บ้านเกียออโตผมว่าข้ามไปออโต้เลยมั้ยได้ไม่ยุ่งยาก

แต่ถ้าอยากได้ความขับสนุกๆก็พยายามกระปุกต่อไป แต่กระปุกถ้ายังไม่แข็งเจอที่จอดห้างหรือรถติดตรงคอสะพานชั้นๆมีเหงื่อแตกเลยนะ แต่ถ้าเป็นรถตัวท๊อปสมัยนี้มีเทคโนโลยีช่วยแล้ว

ไม่แปลกครับ วันแรกๆก็แบบนี้แหละ

ฝึกไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ชินมือชินเท้าเอง

เลี้ยงคลัชไม่ให้รถดับได้เดี๋ยวอย่างอื่นก็ตามมาเอง

เห็นด้วยกับความเห็นก่อนหน้าครับ รถบางรุ่นเกียร์กระปุกขับยากจริง ครัชอย่างแข็ง พวงมาลัยยังไม่หมุนสบายเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ ทุกวันนี้ ไม่เหมาะกับการเอามาลองหัดขับ
ตอนแรกที่บ้านสอนให้ผม ผมก็กระตุกแล้วดับทุกครั้งเลย

พอไปเรียนเท่านั้นแหละ เค้าแทบไม่ได้สอนอะไรเลย แค่รถคนละรุ่น ขับได้ซะอย่างนั้น

หาที่เรียบ ๆ รถไม่ไหลนะ

เหยียบคลัชแล้วเข้าเกียร์ 1
จากนั้นค่อย ๆ ถอดเท้าออกจากคลัช

ไม่ต้องสนใจคันเร่งเลยนะ
ค่อย ๆ ถอนเท้าออกมาทีละนิด ๆ
หากถอนเร็วไปเครื่องจะกระตุก ๆ และจะดับ

ถ้าเหยีบยคลับให้จมลงไปเพื่อป้องกันเครื่องดับไม่ทัน ก็ start เครื่องแล้ว

เอาใหม่

ค่อย ๆ ถอนเท้าออกมาให้สมูท เนียน ๆ
ถ้าได้ระดับการถอนเท้าที่ดีพอ รถจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง

คาอย ๆ ถอนเท้าออกมาให้หมด อีกเท้าเลี้ยงเบรกไว้ก่อน (ไม่ต้องกดเบรกนะ เผื่อฉุกเฉินเฉย ๆ)

ปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ
พอทำใจได้แล้ว เหยียบคันเร่งนิดนึง พอเป็นพีธี

เหยียบคลัช จัดเบรกให้รถหยุด
แล้วเริ่มใหม่

การฝึกมันควรจะมีแบบแผนนิดนึง ผมคนนึงที่ฝึกหัดขับเกียร์กระปุกตอนสมัยเรียนมหาลัย 2วันแรกผมก็ลงถนนใหญ่เลน เข้าเมือง แต่เอาจริงๆมันควรฝึก ประมาณนี้ตามลำดับ
การเข้าเกียร์ ปล่อยครัชเพื่อออกตัว ให้รู้จังหวะรถเริ่มเคลื่อนที่ จากนั้นก็ฝึกเปลี่ยนเกียร์เพิ่มความเร็ว จะได้รู้ว่าความเร็วประมาณไหว รอบเท่าไหร่ควรเปลี่ยนเกียร์ จากนั้นก็ฝึกการเลี้ยว ซ้ายขวา การเปลี่ยนเกียร์ขณะเลี้ยว เกียร์ต่ำ เกียร์สูง
การถอยหลังฝึกสุดท้ายเลย ฝึกเดินหน้า เลี้ยวซ้ายขวา ให้คล่องๆ

ขั้น advance ก็ฝึกตอนออกตัวบนสะพาน ก็หาที่ฝึกที่ปลอดภัย

เท่าที่อ่านมา ผมว่าลองฝึกคลัชเพียวๆแบบท่านนี้บอก เวิร์คสุดครับ

เหมือนให้เท้าซ้ายเรามีการ Muscle memory เกี่ยวกับการถอนคลัช กดคลัชให้ชินก่อน แล้วค่อยไปประยุกต์ใช้ร่วมกับการเหยียบคันเร่งขณะถอนคลัชในภายภาคหน้าครับ