ไม่นับที่ทำธุรกิจส่วนตัวนะครับ เอาเฉพาะพนักงาน

ราชการ ทำล่วงเวลาไม่ได้เงิน vs เอกชนได้โอที
ราชการ ไม่ได้โบนัส vs เอกชนสิ้นปีได้โบนัส เป็นก้อน
ราชการ ถ้าไม่กู้ก็มีรถบ้าน ยาก vs ส่วนเอกชนเอาโบนัสไปดาวน์แปปเดียวหมด
การรักษา ราชการจ่ายตรง vs เอกชนมีประกันสังคม

แต่สงสัยเวลาสอบราชการคนสอบเยอะมากๆแย่งกันสอบ สรุปอันไหนดีกว่ากันครับ

เอกชนที่ไม่มีโบนัส ไม่มีโอที

เอกชนที่ไม่มีโบนัส ไม่มีโอที

รับไรก็ไม่สู้ รับหลายๆทาง

ก็ไม่รู้สินะ
ทหารบางคนไม่เห็นมีกิจการส่วนตัว
ทรัพย์สินยังหลัก4000ล้านได้เลย
ราชการคงดีกว่าแหละ

ในโลกนี้ไม่มีอะไรดีที่สุดหรอก
ยกเว้นผม

เอาสาระก็ ผมโตมาในครอบครัวราชการเป็นเสาหลัก มันก็เรื่อยๆนะไม่มีช่วงที่ลำบาก แต่ก็ไม่ได้มีช่วงที่รวย
แต่เพื่อนที่พ่อแม่ทำอย่างอื่น ก็ดูอู้ฟู่กว่า ถามว่าเคยมีตอนลำบากขัดสนไหม ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยเห็น (เค้าอาจไม่เคยแสดงออกมา)

เอกชนหลายๆที่ก็ไม่มีโอทีนะครับ

ความรับผิดชอบล้วนๆ(หน.กดดัน)

บางทีวันหยุด แมร่งยังโทรมาถามเรื่องงานเลย

ท่านพิมพ์มาขนาดนั้นยังถามอีกหรอครับ ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

รัฐวิสาหกิจ อยู่ตรงกลาง

ถ้าเก่งระดับ tier 1 ศักยภาพสูงๆ ไม่ควรมาราชการอยู่แล้วครับ

แต่ถ้าเก่งระดับกลางๆ ทั่วไป มนุษย์เงินเดือนหมื่นต้นๆ ทำงานราชการก็ไม่เสียหาย

บ้านผมก็ราชการ ชีวิตก็จะเรื่อยๆนะ

ตอนนี้ทำเอกชน รู้สึกว่าชีวิตมันขึ้นๆลงๆดี ชอบแบบนี้มากกว่า

เอกชนบางที่ ก็ไม่มีโอทีคับ
เอกชนบางที่ ก็ไม่มีโบนัสคับ หรือ อย่างมากเป็นเงินช่วยเหลือ หลักพัน หลัก 1หมื่นคับ
เอกชนบางที่ ก็ไม่สามารถเอาโบนัสไปโปะได้คับ เพราะมันน้อยนิด หรือ อาจจะไม่มีคับ
เอกชนบางที่ อาจจะมีประกันกลุ่มให้ หรือ บางที่อาจจะมีแค่ประกันสังคมคับ แต่เท่าที่เข้าใจ บางคนอาจจะยอมเสียเงินหา รพ.เอกชนคับ

คหสต.
1. ทำงานเอกชน คุณสามารถเรียกเงินเดือนได้ตามความสามารถคับ แต่ถ้าทำราชการก็ต้องขยับขั้นขึ้นเรื่อยๆ แล้วน่าจะได้เงินขึ้นตามขั้นคับ
2. เอกชนคุณสามารถเลือกบริษัท ที่เค้ามีโอที โบนัส ได้คับ ขึ้นอยู่กับความสามารถ
3. ทำงานเอกชน ถ้าหยุดพัฒนาตัวเองเมื่อไหร่ ก็เตรียมตัวคับ หรือ ถ้าอายุเยอะขึ้น เอกชนก็สามารถโดนเด้งเอาดื้อได้คับ แต่ถ้าราชการ คุณสามารถอยู่ไปแบบ เรื่อยๆได้ยันเกษียณคับ
4. ถ้าทำราชการคุณจะได้รับเงินเกษียณ เป็น บำเน็จ หรือ บำนาญก็ว่าไป แต่มากน้อย ผมคิดว่าอยู่ที่ ขั้นของคุณคับ ส่วนเอกชน ทำงาน งกๆ ขยับตำแหน่งสูงๆ เก็บเงินเก็บทองใช้ตอนแก่เองคับ

เอกชนตั้งตัวได้เร็วกว่า แต่ในระยะยาวๆราชการมั่นคงและสบายกว่า

วัดกันจากงานหน้าเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ตัวบุคคลและหัวหน้างานด้วย

ราชการต้องไปสายเทาๆถึงจะรวย+มีอำนาจ ยิ่งเล่นการเมือง รู้จักคนเยอะยิ่งดี สายอยู่เป็น เวลขึ้นไว งานน้อย

แต่ถ้าเราตัดข้างบนออกไป ส่วนใหญ่ก็ราชการต๊อกต๋อย เงินเดือนน้อย กู้ได้หนัก เดือนชนเดือน

ส่วนตัวถ้าไม่รู้จักคนเยอะ ไม่เล่นการเมือง สายเทา เส้นสาย ตัดทิ้งดีกว่าราชการ เอกชนดีกว่าเยอะ

ถ้าจะพูดถึงสวัสดิการเอกชนที่ใหญ่ๆดีกว่าอีก

ถ้าพูดถึงบำนาญราชการกว่าจะเกษียณอายุ 60+ มีเงินเดือนให้ยันแก่ตาย แต่เอกชนพัฒนาตัวเองทำเงินเดือนเยอะๆ+โบนัส 4-10เดือน เงินเดือนหลักแสน แล้วไปลงทุน เกษียณตัวเองก่อน 60 มีเงินใช้ยันแก่ตายได้ไวกว่าด้วยซ้ำ

สรุปคืองานราชการ ถ้าชอบเรื่อยๆมั่นคง ชิลๆก็น่าจะเหมาะอยู่
สายเอกชนถ้าพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ เป็นคนเก่ง เทพๆ อัพเงินเดือน+ที่ทำงานดีๆได้ = ดีกว่า

ตัวผมเองทำเอกชน ถ้าเลือกได้จริงๆก็อยากไปราชการแบบงานชิลๆอยู่ เอาเวลาว่างไปทำธุรกิจส่วนตัว+ลงทุน

อะไรก็ได้ครับ ยุคนี้ ขอให้ได้ทำ จะเอกหรือราช

ผมคิดว่าราชการดีกว่าทุกกรณีครับ อย่าลืมว่าประเทศนี้เป็น "รัฐราชการ" นะครับ

จากโครงสร้างทางสังคมแบบรวมศูนย์ซึ่งมันไม่เคยขยายไปต่างจังหวัด เลยทำให้แรงงานจำนวนมากต้องไปกระจุกกันที่ กทม ไงครับ

ถ้าคุณจะมาทำงานต่างจังหวัด คิดว่าจะมีงานอะไรให้ทำครับ

มันมีคำพูดเล่นๆในวงเหล้าว่าถ้าราชการถูกเลิกจ้างนั่นคือคนในประเทศ (ที่จ่ายภาษี) อาจจะตายไปค่อนประเทศแล้วมั้ง