EXCLUSIVE: Liverpool เป็นผู้นำการแข่งขันเพื่อเซ็นสัญญากับ Jude Bellingham ในช่วงซัมเมอร์หน้า

Jurgen Klopp ระบุว่า Bellingham วัย 18 ปี จะช่วยเสริมตำแหน่งกองกลางของเขา ซึ่งตัวเลือกหลักของเขา ได้แก่ Jordan Henderson, 31, และ Fabinho, 28 ที่ 90 ล้านปอนด์ มันจะทำให้ Bellingham Liverpool มีค่าตัวมากที่สุด ค่าตัวแพงที่เคยมีมาก่อนของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ค่าตัว 75 ล้านปอนด์




- The Mirror





ปล.
ถ้าได้น้องจูด กับ ฮาแลนด์ 2 ตัวฤดูกาลหน้าพอใจกันมั้ยครับ

ทีมเรา JK มีเครือข่ายที่ดีกับดอร์ทมุนนะหวังว่าจะช่วยได้ถ้าทีมมีแรงเงินในการใช้จ่ายอ่ะนะ

สำหรับคนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับการซื้อนักเตะแพงๆ

วันนั้นผมฟังสเตฟานเล่าถึง กฎ ffp (เท่าที่ผมเข้าใจนะ ถ้าผมเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย)

สมมติ ซื้อนักเตะ ราคา 100 ล้าน สัญญา 5ปีนั้น เราจะเอา ค่าตัว 100/ สัญญา 5 ปี=ปีละ 20 ล้าน

กล่าวคือ ในงบการเงิน เราจะนำค่าตัวนักเตะคนนั้นมาลงบัญชี เป็น รายปี ปีละ 20 ล้าน เป็นเวลา 5ปี ตามระยะสัญญา

ถ้านักเตะเล่นครบ 5ปี ก็เท่ากับ เราจ่ายเงิน 100 ล้านเต็มๆ

แต่ถ้านักเตะ เล่นไป 3ปี แล้วย้ายทีม ก็เหมือนกับเราต้องลงบัญชีรายจ่ายไปแค่ 60 ล้านเท่านั้น (20*3)

แต่ถ้าเราขายต่อนักเตะคนนั้นได้ 150 ล้าน เงินจะเข้าบัญชีในปีนั้นทั้งหมดทันที 150 ล้าน

นั้นคือ ในทางบัญชี เหมือนเอา 150 ลบด้วย 60 (ไม่ได้ลบด้วย 100 ล้านที่เป็นค่าตัวเต็มๆ)

นี่เป็นที่มาของดีลแลกตัว ระหว่าง อาตูร์ กับเปียนิช ที่ยูเว่ ทำกับบาซ่า

ดังนั้น ต่อให้เราซื้อนักเตะมาแพงแค่ใหน ถ้าคิดว่าขายต่อได้มากกว่าที่ซื้อมา นั่นคือกำไร

จึงเป็นที่มาของลิเวอร์พูลที่มักจะซื้อนักเตะอายุไม่มาก มีแววขายต่อได้ราคา

และมักจะไม่เก็บนักเตะที่อายุเยอะๆไว้ ถ้านักเตะคนนั้นไม่สำคัญและมีอิทธิพลต่อทีมจริงๆ

และอย่าแปลกใจ ถ้าทีมจะขาย มาเน่ ฟีโน่ และ ซาร่า

เพราะถ้าต่อสัญญาฉบับต่อไป นักเตะเหล่านี้จะหมดสัญญาตอนอายุ 33-34 ซึ่งไม่สามารถขายต่อได้ราคาอย่างแน่นอน

นั่นคือ ถ้าขายซัมเมอร์หน้า อาจได้ค่าตัวกลับมาคนละ30-40ล้านได้ ซาร่าอาจได้มากกว่าที่ 60-70ล้าน

แต่ถ้าไม่ขายก็คือ เสียตัวฟรีๆ เงินก็ไม่ได้ซักปอนด์

นี่เป็นทางเลือกสำคัญที่ผู้บริหารของลิเวอร์พูลต้องจัดการให้ดี

ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบแบบใหน ได้แต่หวังว่า คนที่บริหารทีมมูลค่าขนาดเป็น 100,000 ล้านบาท

จะหาทางออกที่ดีที่สุดให้ทีมได้

ปล.ส่วนเรื่องการลงบัญชี ffp ที่ผมฟังมาจากสเตฟาน ผมก็ไม่มั่นใจว่าถูกต้อง 100 % หรือไม่

ถ้าผมเข้าใจผิดอันใด ก็ขออภัยอีกครั้ง

กราบบอร์ดบริหารเลยแหละ

ไม่ต้องฮาลันด์หรอก

เอาแค่ได้จู๊ดก็เกินคาดแล้ว

ไม่เห็นไปเปิดดีลกับดอร์ทมุนซักที

ผมว่ายาก หงส์ไม่จัดนักเตะเเพงขนาดนั้นหรอก
จูด90m ไปเอากลางB+ มาปั้นชัวร์ ซากาเรีย เเคสซี่ เบิร์ก พวกนี้ได้หมดเลย

ก็ไม่แน่ครับถ้า JK อยากได้จริง ๆ

75ลป กับฟานไดร์ที่ทีมอื่นไม่กล้าทุ่มทีมเรายังจัดมาแล้ว

ยากส์ แต่อยากได้นะ

สำหรับคนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับการซื้อนักเตะแพงๆ

วันนั้นผมฟังสเตฟานเล่าถึง กฎ ffp (เท่าที่ผมเข้าใจนะ ถ้าผมเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย)

สมมติ ซื้อนักเตะ ราคา 100 ล้าน สัญญา 5ปีนั้น เราจะเอา ค่าตัว 100/ สัญญา 5 ปี=ปีละ 20 ล้าน

กล่าวคือ ในงบการเงิน เราจะนำค่าตัวนักเตะคนนั้นมาลงบัญชี เป็น รายปี ปีละ 20 ล้าน เป็นเวลา 5ปี ตามระยะสัญญา

ถ้านักเตะเล่นครบ 5ปี ก็เท่ากับ เราจ่ายเงิน 100 ล้านเต็มๆ

แต่ถ้านักเตะ เล่นไป 3ปี แล้วย้ายทีม ก็เหมือนกับเราต้องลงบัญชีรายจ่ายไปแค่ 60 ล้านเท่านั้น (20*3)

แต่ถ้าเราขายต่อนักเตะคนนั้นได้ 150 ล้าน เงินจะเข้าบัญชีในปีนั้นทั้งหมดทันที 150 ล้าน

นั้นคือ ในทางบัญชี เหมือนเอา 150 ลบด้วย 60 (ไม่ได้ลบด้วย 100 ล้านที่เป็นค่าตัวเต็มๆ)

นี่เป็นที่มาของดีลแลกตัว ระหว่าง อาตูร์ กับเปียนิช ที่ยูเว่ ทำกับบาซ่า

ดังนั้น ต่อให้เราซื้อนักเตะมาแพงแค่ใหน ถ้าคิดว่าขายต่อได้มากกว่าที่ซื้อมา นั่นคือกำไร

จึงเป็นที่มาของลิเวอร์พูลที่มักจะซื้อนักเตะอายุไม่มาก มีแววขายต่อได้ราคา

และมักจะไม่เก็บนักเตะที่อายุเยอะๆไว้ ถ้านักเตะคนนั้นไม่สำคัญและมีอิทธิพลต่อทีมจริงๆ

และอย่าแปลกใจ ถ้าทีมจะขาย มาเน่ ฟีโน่ และ ซาร่า

เพราะถ้าต่อสัญญาฉบับต่อไป นักเตะเหล่านี้จะหมดสัญญาตอนอายุ 33-34 ซึ่งไม่สามารถขายต่อได้ราคาอย่างแน่นอน

นั่นคือ ถ้าขายซัมเมอร์หน้า อาจได้ค่าตัวกลับมาคนละ30-40ล้านได้ ซาร่าอาจได้มากกว่าที่ 60-70ล้าน

แต่ถ้าไม่ขายก็คือ เสียตัวฟรีๆ เงินก็ไม่ได้ซักปอนด์

นี่เป็นทางเลือกสำคัญที่ผู้บริหารของลิเวอร์พูลต้องจัดการให้ดี

ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบแบบใหน ได้แต่หวังว่า คนที่บริหารทีมมูลค่าขนาดเป็น 100,000 ล้านบาท

จะหาทางออกที่ดีที่สุดให้ทีมได้

ปล.ส่วนเรื่องการลงบัญชี ffp ที่ผมฟังมาจากสเตฟาน ผมก็ไม่มั่นใจว่าถูกต้อง 100 % หรือไม่

ถ้าผมเข้าใจผิดอันใด ก็ขออภัยอีกครั้ง

เอา Hummels ด้วยสิ
จะเหมือนซิลวาของเชลซีมะ 5555555

จัดไป ให้กัปตันไปกล่อมหน่อย
น้องน่าจะมีใจอยู่แล้ว

ถ้าคิดจะซื้อจริงๆ นะ

พอใจครับ ชอบน้องจูด

ขัดกับหลักการซื้อขายของงทีมและ JK อย่างแรง
นอกจากจะเป็นตัวที่ JK พูดเองว่า ไม่ได้ก็ไม่เอาใครแบบ VVD จริงๆ
ก็มองไม่เห็นช่องที่ทีมจะทุ่มซื้อเลย

ไหนจะค่าตัว ค่าเหนื่อย การได้รับโอกาสลงเล่นที่ต้องมาจูนกันก่อนสไตล์ JK
ไหนจะมีดาวรุ่งในทีมที่รอโอกาสอย่าง เอลเลียต โจน มอตั้น
การซื้อดาวรุ่งราคาขนาดนี้มา ดูมันจะไม่ใช่สไตล์ JK เลยจริงๆ

ยิ่งจะเอาฮาแลนด์ นี่ยิ่งไม่ใช่เลยถ้าเอเยนต์ยังเป็น ไรโอล่า บอร์ดไม่ทำธุรกิจกับคนๆนี้แน่นอน
กับจู๊ด ก็ขอให้ผทคิดผิดแล้วกัน ถ้าบอร์ดมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าระยะยาว
และเกิด JK เอ่ยปากมาว่า กูจะเอาจริงๆ บอร์ดคงต้องยอม

จู๊ด + ฮาแลน ได้มาก็แชมป์เถอะ ได้จริงสงสัยเสียซาล่าแหงม

เก่งมากหรอปั้นโจนส์ต่อดีกว่ามั้งผมว่า

เอาจริงๆเอลเลียตอนาคตอาจไปแทนซาร่า ที่มีจริงๆก็คง โจนส์ มอร์ตัน

ตัวหลักๆที่ใช้ตอนนี้ Thiago milner henderson fabin ใช้อีก 2 ปีคงต้องถ่ายเลือด ส่วนพวกนักเตะที่ตอนนี้อายุ 26+ ox เกอิต้า พวกนี้ต้องดูว่าจะเจ็บอีกไหม แต่ที่แน่ ๆ milner อาจจะเป็นปีสุดท้ายสำหรับเขา

ผมว่าถ้าจะซื้อเพิ่มก็จังหวะนี้แหล่ะเหมาะสมสุด