[RE: ( LFC ) สนคว้า " น้องจู๊ด "เติมแดนกลาง]
zasd พิมพ์ว่า:
สำหรับคนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับการซื้อนักเตะแพงๆ
วันนั้นผมฟังสเตฟานเล่าถึง กฎ ffp (เท่าที่ผมเข้าใจนะ ถ้าผมเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย)
สมมติ ซื้อนักเตะ ราคา 100 ล้าน สัญญา 5ปีนั้น เราจะเอา ค่าตัว 100/ สัญญา 5 ปี=ปีละ 20 ล้าน
กล่าวคือ ในงบการเงิน เราจะนำค่าตัวนักเตะคนนั้นมาลงบัญชี เป็น รายปี ปีละ 20 ล้าน เป็นเวลา 5ปี ตามระยะสัญญา
ถ้านักเตะเล่นครบ 5ปี ก็เท่ากับ เราจ่ายเงิน 100 ล้านเต็มๆ
แต่ถ้านักเตะ เล่นไป 3ปี แล้วย้ายทีม ก็เหมือนกับเราต้องลงบัญชีรายจ่ายไปแค่ 60 ล้านเท่านั้น (20*3)
แต่ถ้าเราขายต่อนักเตะคนนั้นได้ 150 ล้าน เงินจะเข้าบัญชีในปีนั้นทั้งหมดทันที 150 ล้าน
นั้นคือ ในทางบัญชี เหมือนเอา 150 ลบด้วย 60 (ไม่ได้ลบด้วย 100 ล้านที่เป็นค่าตัวเต็มๆ)
ถ้าผมเข้าใจผิดอันใด ก็ขออภัยอีกครั้ง
ขออนุญาตเสริมท่าน zasd นิดนึงฮะ..เพราะผมเข้าใจว่าหลัก ffp ก็เอามาจากการจัดการบัญชีบริษัทฯทั่วๆไปฮะ
คือนักเตะที่ซื้อเข้ามาจะอยู่ในรูปสินทรัพย์(ที่สามารถ generate รายได้) จึงทดเป็นค่าเสื่อมตามอายุสัญญา..
เช่นเดียวกับเวลาเราซื้อเครื่องจักร, ยานพาหนะ ฯลฯ ค่าเสื่อมจะอยู่ที่ 5 ปี (หรือถ้าเป็นอสังหาฯค่าเสื่อมก็จะอยู่ที่ 20 ปี)
ก็เอาจำนวนเงินที่เราจ่ายไปหาร 5 แล้วทดแบ่งตามรอบบัญชีเป็นต้นทุนรายจ่าย.. (ถึงตรงนี้ยังตรงตามที่ท่าน zasd อธิบายอยู่ฮะ)
แต่ตอนขายจะต่างกันนิดนึง นั่นคือสมมติขายได้ 150 ล้าน..จำนวนเงินรายได้ในปีนั้นก็นับเป็น 150 ล้านจริงเช่นกันฮะ
แต่การหักลบว่ากำไร หักจากค่าใช้จ่าย 60 ล้าน (20 ล้าน*3 ปี ) แล้วถือเป็นกำไร 90 ล้าน อันนั้นไม่แน่ใจนะฮะ
ไม่แน่ใจว่าปีที่ 3 ที่ขายได้ 150 ล้านนั้น ทางบัญชีคือกำไร 150 ล้าน - ค่าเสื่อมปีนั้น 20 ล้าน = 130 ล้านไปเลยรึเปล่านะฮะ..
ซึ่ง 2 ปีแรกที่คำนวนแบ่งออกปีละ 20 ล้านนั้น ถือเป็นต้นทุน(ค่าเสื่อม)ในทางบัญชีอ่ะฮะ (กรณีไม่ได้ขายใครออกก็คือปีนั้นขาดทุน)
ที่ยูเว่ใช้วิธีนี้ในการ dressing บัญชี ต้องมีทีมที่ทำโจทย์ร่วมกัน..คือซื้อเข้า-ขายออก ถึงจะสมบูรณ์ฮะ (นั่นคือต้องมีจำเลย 2 ทีม)
วิธีก็คือ แทนที่จะแลกนักเตะกน แล้วจ่ายเงินแค่ส่วนต่าง..แต่กลับเป็นการ ซื้อขายแบบ makeup price ของนักเตะทั้งคู่ให้เวอร์ๆ
เช่น ปานิชตั้งซัก 60 ล้าน ส่วนอาตูร์ 70 ล้าน แยกคนละดีล..
ฝั่งยูเว่(ขายปานิช) ได้รายรับทันที 60 ล้าน แต่ฝั่งค่าใช้จ่าย/ค่าเสื่อม(ที่ซื้ออาตูร์) หารตามอายุสัญญาอาจจะเหลือแค่ 10 กว่าล้าน
ฝั่งบาซ่าเองก็เช่นกัน รายได้ในปีแรก +70 ล้าน ส่วนรายจ่าย/ค่าเสื่อมแค่ 10 กว่าล้าน..
นั่นเท่ากับปีแรกที่ดีลนี้เกิดขึ้น ทั้ง 2 สโมสรจะมีสถานะทางบัญชีเขียวสดใสมากๆ กำไรเหนาะๆทั้งคู่..
แต่ในปีต่อๆไปต้องหาดีลอื่นมาโปะลบบัญชีแดงให้ได้ เพราะเริ่มต้นตัวแดง 10 กว่าล้านจะโผล่ขึ้นมาทุกปี
และท้ายที่สุดถ้าสถานการณ์การเงินไม่ดีขึ้น และไม่ทำอะไร ก็จะไปติด ffp ในบั้นปลายอยุ่ดีฮะ (แต่ก็ถือว่าซื้อเวลาไปตายดาบหน้า)
ปล.อย่างที่ผมพิมพ์วันก่อนฮะ..เอาจริงๆ หงส์เองก็เสี่ยงในดีล โจต้า กับ คีร์ ฮูแฟร์เมื่อปีก่อนเช่นกัน ขอให้รอดฮะ
ปล.2 ขออนุญาต edit ปีที่ 4 และ 5 ก่อนแปบนะฮะ..เดี๋ยวขอหาข้อมูลทางบัญชีนิดนึงเพราะเริ่มไม่แน่ใจฮะ ว่าปกติเวลาขายสินทรัพย์ก่อนหมดค่าเสื่อม เค้าตัดค่าเสื่อมกันแบบไหน