ผมเคยอ่านหนังสือชื่อ"การลาออกครั้งสุดท้าย"นะ

เอาจริงๆโดยคอนเซปท์มันก็ดีครับ แต่อย่างที่ความเห็นบนๆบอก ทำธุรกิจส่วนตัวไม่ได้สบายนะครับ เหนื่อยกว่าเป็นพนักงานออฟฟิศเยอะมาก เวลางาน/ส่วนตัวมันทับซอนกันไปหมด จนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยครับ

แล้วยิ่งถ้าคุณเป็นพนักงานออฟฟิในตำแหน่งสูงๆแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ คุณไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรของตัวเองเลยครับ เงินเดือนซื้อบ้านหลังละ 15-20 ล้านได้ไม่ยาก รถยุโรปก็มีขับได้ เที่ยวต่างประเทศได้ทุกปี ฯลฯ

เออ ถ้าอยากขับ Cayenne บ้านหลังละ 40-50 ล้าน อันนั้นก็อีกเรื่อง

ไม่จริงครับ มันอยู่ที่ความต้องการคุณไปหยุดอยู่ที่จุดไหน ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆผมคิดว่า จบเงินเดือนที่50K ชีวิตจะสบายมาก ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้วชีวิตกรู ผ่านไป3ปี ผมทำได้ตามเป้า แต่ชีวิตก็ยังต้องการอะไรหลายอย่างเพิ่มมาอีก คิดว่า100k จบแน่นอน ผ่านไปอีก7ปี ตอนนี้ทะลุ100k ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองสบายไม่ต้องกระเสือกกระสนอยู่ดี ยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมาเงินเก็บเกลี้ยงเลย บ้านก็ยังต้องผ่อน ส่งตังช่วยเหลือพ่อ ยังอยากมีเงินลงทุนธุรกิจของตัวเอง ยังอยากมีรถคันใหม่ ยังอยากมีหลักประกันที่มั่นคงให้ชีวิตครอบครัวในอนาคต
.
.
.รายได้จะพอก็ต่อเมื่อเป้าหมายในชีวิตถูกกำหนดไว้ครบและคุณมีแผนการที่จะบรรลุได้เรียบร้อยแล้วครับ

ความคิดผมส่วนตัวนะคับ

คนที่เป็นลูกจ้าง พนง.เงินเดือน ที่ ไม่พอใจชีวิตตัวเอง สับสนกับชีวิตการทำงานว่ามีความสุขไหมนะ อิจฉา อยากได้อยากมีแบบคนที่มีเยอะๆ แบบคนที่มีต้นทุนชีวิตมากกกว่า + สวัสดิการสังคมแบบประเทศเรา มันเยอะครับ

ก้เลยจับจุดนี้ มาเพื่อหาผลประโยชน์


ผมเคยไปแบบฟรีมานะ แฟนเก่าลากไป

ธุรกิจส่วนตัว ณ ปัจจุบัน บ่น เจ๊งไปหลายรายแล้วครับ

ถ้าพูดถึง ดีกว่า ในเรื่องอนาคต เหมือนธุรกิจส่วนตัว มันชัดเจน ในเรื่องอิสระและรายรับ

แต่ในชีวิตจริง มันมีอะไรหลายๆอย่าง ที่เป็นปัจจัย

ไหนจะ ลักษณะนิสัย

ไหนจะ เรื่องการแข่งขัน

ไหนจะ สายป่าน

สุดท้ายแล้ว คือเรื่องจริตล้วนๆ

ถ้าทุกคนคิดแต่จะทำธุรกิจส่วนตัว แล้วจะเอาลูกน้องเก่งๆดีๆ มาจากไหน

ผมเลิกตามพวกเพจไลฟ์โค๊ชแล้ว เสียเวลามีแต่คำคม รกหน้าฟีด คุณตั้งเป้าหมายและทำในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายให้ได้ เดี๋ยววิธีการจะมาเอง ว่าจะทำยังไง เพจคำคมรกสมอง

ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนระดับบริหาร กินสวัสดิการ บ. ดี ๆ จัด Work life balance ได้
แล้วยังมีสวนปาล์ม สวนยางได้ จ้างลูกจ้างไม่กี่บาท แบบไม่ต้องลงมาทำงานรูทีนเอง คุณจะคิดไปอีกแบบครับ

เอาที่ตัวเองสบายใจดีกว่าครับ หรือเอาในส่วนที่อ่านมามาปรับใช้กับตัวเองก็ได้ตามความเหมาะสม

มนุษย์เงินเดือนไม่ได้แย่ แต่บริษัทที่ทำอยู่นั้นให้โอดาสในการเจริญเคิบโต รับฟังไอเดียหรือรับข้อผิดพลาดของตัวเองไหมละครับ

สำหรับผมถ้าเจอบริษัทมห้ทำเดิม ๆ แบบเดิมๆ พัฒนาอะไรไม่ได้เนื่องด้วยอายุ แล้วจะทำไปทำไม เสี่ยงทำของตัวเองเีกว่า

ทำงานประจำ เดือนละเเสน +โบนัส +สวัสดิการเจ็บป่วย ไม่ดีตรงไหนถ้าได้เเบบนี้
ผมว่าจริงๆมันอยู๋ที่การบริหารจัดการ พนักงานประจำก้ต้องบริหารดีๆ
เจ้าของกิจการมีโอกาศในการเติบโตเเบบก้าวกระโดดเเต่ก็เสี่ยงสูง ทำ 100 คน
จะโดดขึ้นมาได้เเค่ 1-2 กิจการเเค่นั้นเเหละ

คำว่ารวย แต่ละคนไม่เท่ากัน