kuroisha พิมพ์ว่า:
ประตูขึ้นนำ พิมพ์ว่า:
ใครช่วยบอกทีว่า ผมเป็นฝั่งไหน
1. ผมไม่เห็นด้วยกับท่าที แนวคิดกลุ่มคนชู3นิ้วหลายอย่าง ฟัง+อ่าน+คุยก็รู้สึกไม่เห็นด้วยหลายอย่าง
2. เลือกตั้งครั้งก่อน ผมเลือกอนาคตใหม่ ครั้งต่อไปก็จะเลือกพรรคคนรุ่นใหม่ ที่เล็งไว้ก็ก้าวไกล
3. สถาบันจะมีหรือหายไป จะถูกปฏิรูปหรือไม่ถูกปฏิรูป ผมได้หมด
4. ผมไม่เห็นด้วยกับคนด่าพี่ตูนโดยเฉพาะช่วงที่พี่แกแต่งงานเมียท้อง แต่ถ้าลูกแกโตม.ต้นม.ปลายแล้ว แกยังแสดงท่าทีแบบนี้ ผมจะด่าพี่ตูนด้วย
5. ปัจจุบันผมอ่าน+ฟัง thecloud voicetv สนธิ thestandard เนชันบ้าง springnewsบ้าง ปวินและเจียมนิดหน่อย
6. ทุกครั้งที่เกิดการชุมนุมแนวการเมืองผมไม่เคยไปเข้าร่วม
.
.
7. ผมไม่ต้องการให้ประเทศไทยปกครองแบบ USA UK France Japan China ผมมองว่าภาพรวมคนไทยมีความแตกต่างจากคนชาติอื่นมาก
8. ผมมองว่าประเทศไทยมีหลายจุดที่ปรับปรุงได้เต็มไปหมด แต่ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนทำโดนจุดที่ผมเห็นแม้สักนิด (ไล่ตั้งแต่พฤษภาทมิฬไล่มาเรื่อยๆ)
9. แนวคิดแบบ Global Citizen ผมเคยสนใจเมื่อหลายปีก่อนแต่พอเจอยุคโควิดเข้าไป ก็เห็นแล้วว่า มันเป็นเพียงแนวคิดตอนโลกเราอยู่ในภาวะปกติสุข
10. ผมทำธุรกิจโดยมีแนวคิดสร้างงาน พัฒนาคน
ธุรกิจผมไม่ได้ตั้งอยู่บนแนวคิด"กำไรสูงสุด"
ธุรกิจผมตั้งอยู่บนแนวคิด "อยู่ได้ในทุกสภาพการณ์"
11. เลือกตั้งครั้งก่อน พรรคอนาคตใหม่ชวนเพื่อนผมให้เป็น ส.ส. และเกือบได้ด้วย แต่ผมรู้จักเพื่อนผมคนนี้พอสมควรเขาไม่ได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองอะไร เข้าร่วมเพราะมองว่าเป็นโอกาสนึงในชีวิตที่เข้ามา
ก่อนการเลือกตั้งครั้งก่อน ผมถามเขาว่าถ้าไม่ได้ ครั้งหน้าจะลงอีกไหม เขาบอกว่าไม่อ่ะซึ่งผมมองว่าคิดแบบนี้เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
ข้อ1 สำคัญมาก ผมอธิบายอย่างนี้
ไม่เห็นด้วยบางเรื่องเป็นเรื่องปกติครับ เพราะในกลุ่มคนจำนวนมากย่อมมีความหลากหลาย แต่ในหลักการแล้ว คุณให้ค่าของความเป็นมนุษย์เท่ากันมั้ยครับ?
ไม่ใช่เท่ากันในแง่ของเงินตรา ชื่อเสียง อำนาจนะครับ แต่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่ากันมั้ย?
ทำไมบางครอบครัว ถึงได้เงินภาษีประชาชนไปใช้ตามใจชอบ ทั้งๆที่มีทรัพย์สมบัติหลายแสนล้านถึงหลายล้านๆ
ทำไมบางครอบครัว บังคับให้คนก้มกราบ ใครไม่กราบโดนอะไรบ้าง
ทำไมบางครอบครัวมีสิทธิ์ปิดถนนและที่สาธารณะ
ทำไมบางครอบครัวถึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง
ทำไมบางครอบครัวถึงได้มีกฎหมายคุ้มครองโดยเฉพาะ
ทำไมศักดิ์ศรีความเป็นคนถึงไม่เท่ากัน ประชาชนเป็นแค่ขี้ดินเศษฝุ่น ส่วนพวกตัวเองเป็นสมมติเทพ
ตอบผมทีครับ?
1. ค่าความเป็นมนุษย์ย่อมเท่ากันอยู่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย
ความเป็นมนุษย์ของยามไม่ได้ต่างอะไรกับเจ้าสัวเลยแม้แต่นิดเดียว ครูเท่ากับนักเรียน
เด็กทารกไม่ต่างกับพ่อแม่
แต่ประเด็นคือ "มนุษย์เราสร้างผลกระทบได้ไม่เท่ากันครับ"
2. ในเรื่องกราบไหว้ ผมมีประสบการณ์แบบนี้ครับ
บริษัทผมมีพนักงานคนนึง อายุ24 เขาเป็นคนเดียวในออฟฟิศที่ไม่ยกมือไหว้ใคร
แต่บางครั้งเขามาถึงออฟฟิศพร้อมกับเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆ
แล้วพนักงานคนอื่นๆ ยกมือไหว้ผม
น้องคนนี้ก็จะยกมือไหว้แบบขอไปที (สีหน้าท่าทางฟ้องชัดเจน)
วันนึงผมชวนไปหาอะไรกิน และได้คุยกันส่วนตัว ก็ถามเขาตรงๆ
เขาบอกเขาไม่ชอบไหว้ใคร ออฟฟิศที่เขาเคยทำงานอยู่ก็ไม่ต้องไหว้
ผมฟังผมก็เลยบอกว่า ถ้าข้างในมันไม่อยากไหว้ก็ไม่ต้องฝืน ฝืนแล้วมันดูแปลกๆ
พออยู่กันไปสักระยะนึง
วันนึงเขาก็ไหว้ของเขาเอง เขาบอกเขาอยากไหว้ผม
เขาบอก"พี่ไม่เหมือนเจ้านายที่ผมเคยเจอ"
ผมได้ยินก็รู้สึกดีแต่ก็คิดต่อว่าน้องเขาก็ไม่ได้เจอเจ้านายมาเยอะอะไร ตื่นๆ อย่าหลงตัวเอง
เวลาผ่านไปน้องเขามีลูก ผมได้ช่วยเหลือบ้างเป็นบางโอกาส
ลูกเขาเริ่มโต เขาก็สอนให้ลูกเขาไหว้ผม บางครั้งลูกเขาติดมือถือก็ไม่ไหว้ เขาก็จะดุลูก
และผมก็จะห้ามเขาไม่ให้ดุลูก ก็คบหากันในลักษณะนี้
ผมคิดว่า สถาบันกษัตริย์ไม่ว่าที่ใดในโลกก็ไม่ได้บังคับใครให้กราบไหว้บูชาตั้งแต่แรกหรอกครับ
แต่คงทำดีต่อกันมากจริงๆ จนผู้คนในยุคนั้นๆ อยากกราบกัน จนถึงกับอบรมลูกหลานให้กราบไปด้วย
ผมคิดว่าการจะมาบังคับขู่เข็ญกัน ยังไงก็ย่อมเกิดการต่อต้านแน่นอนเป็นธรรมดา
องค์กรใดก็ตามบังคับกันเรื่องแบบนี้ ไม่อยู่มาได้นานเป็นร้อยๆปีแน่นอน
แต่เวลามันก็ผ่านมายาวนาน จนคนรุ่นหลังๆหลงลืมแก่น เห็นแต่เปลือก
มีขึ้นก็ย่อมมีลง มียุครุ่งเรืองก็ย่อมมียุคเสื่อมถอย ตามเหตุปัจจัยล่ะนะไม่ว่ากัน
.
.
3. ผมคิดว่าผมกราบไหว้พระพุทธรูป มันไม่ได้ลดศักดิ์ศรีในตัวผมลงเลยนะครับ
เช่นเดียวกับการกล่าวคำขอโทษ ก็ไม่ได้แปลว่าแพ้นะครับ
คิดว่าอยู่การตีความของแต่ละคนรึเปล่า?
4. ส่วนเรื่องกฎหมายคุ้มครองโดยเฉพาะ ใครๆก็มีกฎหมายคุ้มครองกันอยู่แล้วนะครับ เราต่างก็ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายครับ
แต่สำหรับสถาบันกษัตริย์มีเพิ่มบทลงโทษพิเศษเพิ่มเข้าไป ซึ่งก็ตามบทบาท ตามสถานะภาพทางสังคม
และกฎหมายคุ้มครองมันก็ไม่ได้ไปมุ่งทำร้ายใครก่อนก็มีไว้เพื่อป้องกันตัวไม่ใช่เหรอครับ?
ถ้าไม่ไปล้ำเส้น ก็ไม่มีอะไรนะ
5. ส่วนเรื่องปกครองแบบประชาธิปไตย อันนี้ผมเห็นว่าคล้ายกับแม่ค้าแผงลอยตามฟุตบาทเลยครับ
ตำรวจ เทศบาลมาตรวจ แม่ค้าก็หายแว่บ
พอไม่ตรวจ ก็ขายกันเต็มทางเดิน
ประเทศไทยก็รับบทแม่ค้าแผงลอย
สหรัฐก็รับบทตำรวจโลก (ผู้ชนะสงครามโลก)
ประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย เพราะเห็นด้วย+เข้าใจ100%
แต่เลือกจะหยิบจับนำบางอย่างมาปรับใช้กับคนในสังคมมากกว่า จะเรียกว่าเอาตัวรอดจากตำรวจโลกก็อาจจะได้จึงกลายเป็น "ประชาธิปไตยแบบไทย"
ผมจึงเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสงครามของคน2กลุ่มมากกว่าครับ
เปรียบก็คล้ายดร.ซุนยัดเซน เหมาเจ๋อตุง โค่นราชวงศ์ชิง
โดยฝั่งกำลังน้อย ก็พยามสร้างวาทะกรรม ดึงคนกลุ่มตรงกลางที่ยังงงๆ มาเอี่ยว หนุนเสริมฝั่งตัวเองครับ
ชิงเหลี่ยมกันไป ไม่ได้ทำเพื่อคนทั้งชาติครับ
แต่พูดแบบนี้ผมก็จะขอเลือกพรรคคนรุ่นใหม่ต่อล่ะนะ
6. ความเห็นส่วนตัว
ผมเชื่อว่า ประเทศสามารถเจริญขึ้นได้ ผ่านธุรกิจที่ดี ผู้ประกอบการที่ดีครับ
และนี่เป็นสิ่งที่ผมเข้าใจมากกว่าการเมืองครับ
และตอนนี้มีคนตอบผมแล้วว่าผมเป็นนีโอสลิ่มแอ๊พกลาง ผมก็โอเคนะครับ ได้เข้าใจตัวเองในมุมมองคนรุ่นใหม่
ตอบ 1.
ตอบ 2.
ลองมีคนไปเดินผ่านใกล้ๆ แล้วไม่ทำความเคารพดูสิครับ ในเมื่อคุณเองก็เห็นด้วยว่าไม่ต้องฝืน แต่ความเป็นจริงคือถ้าฝืน แล้วโดนเล่นแน่นอนครับ
ตอบ 3.
กราบไหว้ไม่ได้ลดศักดิ์ศรีแล้วแต่คนจะตีความ ถูกแล้วครับ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรถูกบังคับ (ตอนนี้คือถูกบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อม)
ตอย 4.
มีกฎหมายเฉพาะเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเป็นเรื่องที่เฉพาะโดยตรง เช่น กฎหมายแพทย์ วิศวะ
คุณบอกว่า [แต่สำหรับสถาบันกษัตริย์มีเพิ่มบทลงโทษพิเศษเพิ่มเข้าไป ซึ่งก็ตามบทบาท ตามสถานะภาพทางสังคม] ทำไมวิจารณ์ไม่ได้ (วิจารณ์นะครับไม่ใช่หมิ่นประมาท) แล้วถ้าหมิ่นประมาท ทำไมไม่ใช่กฎหมายทั่วไป มันเป็นเรนื่องเฉพาะตรงไหน
ตอบ 5.
ตอบ 6.
ประเทศจะเจริญขึ้นได้ เพราะผู้นำที่ดีครับ ซึ่งข้อเสียของเผด็จการคือ เกิดคุณได้ผู้นำที่แย่มา จะไม่สามารถเปลี่ยนคนได้ เพราะเผด็จการจะสืบทอดอำนาจไปเรื่อยๆ
ระบอบการปกครองมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ประชาธิปไตยก็ใช่ว่าจะดีไปหมด แต่ประเทศส่วนใหญ่ที่เจริญ ปกครองโดยประชาธิปไตยครับ ดูเกาหลีใต้ พอพ้นจากเผด็จการทหาร แล้วเจริญขนาดไหนตอนนี้