ลองไปดูพวกโพสรับสมัครงานครูดูสิ

เคยเห็นมีรับครูขอ Toeic มากกว่า 400 แล้วมีคนมาต่อเหลือ 200 ได้มั้ย(ต่อเป็นกางเกงยีนเลย ชิบหาย)
คืออ้างว่าไม่ได้เอกอังกฤษ (ถ้าได้เอกอังกฤษแล้วได้แค่ 400 ก็เผาปริญญาทิ้งเหอะ จะเรียนมาทำถ้วยอะไร)


เห็นอีกตรรกะที่ชอบอ้างเยอะๆว่าเรียนครูมาแล้ว จะมีทักษะการสอนที่ดีกว่าคนที่จบป.ตรีธรรมดา คือทักษะการสอนมันสามารถหัดกันได้ แต่ถ้าไม่มีความรู้ในศาสตร์นั้นๆ ทักษะดีแค่ไหนก็สอนให้มีความรู้ไม่ได้หรือเปล่า


หรือลองดูพวกสถาบันกวดวิชาก็ได้ เทียบ%อาจารย์ที่จบศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์มันมีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสาขาวิชาอื่นๆ ดังนั้นมันก็ตามนั้นแหละ

เอาจริงๆนะ เกือบทุกอาชีพในไทยเลย ที่ทำงานในระบบไม่ได้ ศักยภาพ

ไม่ใช่ แค่ครู ทหาร ตำรวจ หรือ ข้าราชการ ที่เป็นข่าวดังๆหรอก ผมว่าเกือบทุกอาชีพเลย

เหตุผลหลักๆ คือ คนไทยยังยึดติดการท่องจำ และ ความเชื่อนิยมที่ถูกส่งต่อกันมา มากเกินไป

มีไม่กี่อาชีพ ที่ผู้ปกครองจะอนุมัติให้ลูกเรียนได้ 2อาชีพแรกที่ถูกยกเป็นเทพเจ้าเลย คือ หมอและวิศวะ

คราวนี้เมื่อเด็กส่วนที่สอบไม่ได้ จะไปไหนต่อ คำตอบที่ได้ต่อมา คือ อะไรก็ได้ ให้มีงานทำไปก่อน แล้วไปสอบราชการ

คราวนี้พอส่วนนึงที่สอบราชการไม่ได้อีกไปไหนละ ที่บริษัทไหนก็ได้ ให้มีเงินเดือน

พอมันวนลูปแบบนี้ เราก็ไม่มีทางได้ คนที่ทำงานตรงตำแหน่ง และ ได้ศักยภาพจริงๆของงาน

สุดท้ายมันต้องกลับไปแก้ตั้งแต่ต้นตอของมัน อันดับแรก ลดความเชื่อ และ เพิ่มความรู้เรื่องอาชีพก่อน

ทุกๆอาชีพ ควรได้รับสิทธิและการรับยอมเท่าเทียมกัน แล้วให้เด็กเป็นผู้เลือกเรียนที่อยากจะเรียน

คนเก่งๆที่ชอบการสอน ผมว่าเขาเลือกไปเป็นอาจารย์มหาลัยมากกว่านะ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ไม่มีใครจบครุ นอกซะจากอาจารย์สายครุ ครูตอนนี้มันไม่ใช่ tier1 เลย

ดูจากคะแนน addmission ก็พอรู้แล้ว เด็กทอปๆไปสายสุขภาพ สายวิศวกรรม กฏหมาย วิดยา ถาปัดกันหมด

ผมก็ว่าเอาจบอะไรมาก็ได้ แล้วมาสอบแข่งกัน ให้เงินเดือนสูงขึ้นเพื่อจูงใจคนเก่งๆ มาสอบ

เรียนครูมาสอนเก่งแล้วไง แต่ความรู้และความฉลาดไม่มี จะสอนเด็กให้ดีได้ยังไง

คนเก่งมันหาวิธีสอนได้ดีกว่าคนจบครูที่ถูกสอนมาอีก

มันมีดราม่ากันอยู่ช่วงนึง จริงๆเหมือนครูวิทย์เนี๊ยะมันมีคณะวิทย์อยู่แล้วจากนั้นก็ไปเรียนวิชาชีพครูเพิ่ม ครูจริงๆมันต้องเป็นคนเก่งๆในศาสตร์วิชานั้นๆ ยิ่งครูโรงเรียนเอกชนนี่หนักกว่าครูรัฐบาลเยอะรับเอาแต่วุฒิ สะท้อนให้เห็นว่าการศึกษาไทยโคตรน่าเป็นห่วง ดูคนสอบผ่านภาคก ในแต่ละปีได้โคตรน้อย

ส่วนตัวผมก็คิดว่าไม่ควรมีครุศาสตร์ ควรเอาคนที่จบด้านนั้นโดยตรงนั่นแหละมาเรียนเพิ่มเติมในด้านที่ต้องใช้เกี่ยวกับการเป็นครู

เพราะจากประสบการณ์ตรงสมัยที่ผมเรียน มหาลัยผมนั้นครุศาสตร์คือคณะที่คนที่ไม่ได้จากคณะที่ตัวเองต้องการจะหนีมาเข้าครุกัน สิ่งที่ได้คือคน ๆ นั้นไม่ได้เก่งในด้านวิชาการมากพอจะไปสอนใคร เคยเจอคนเรียนครุไปสอนฝึกหัดแล้วกลายเป็นถูกสอนซะเองแทนมั้ยล่ะ ผมเคยเจอนะ คือเหมือนเด็กมีข้อสงสัยแต่คนสอนตอบไม่ได้แล้วก็แถไปเรื่อย ถกก็แล้วก็ยังหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้เพราะเขาไม่ได้เข้าใจเรื่องนั้น ๆ มาก สุดท้ายกลายเป็นเด็กที่เรียนไม่ได้อะไรเลยเพราะคนสอนไม่ได้แน่นวิชาการ ต้องไปถามคนที่รู้เรื่องในด้านนั้นโดยตรงจริงๆ

ดังนั้นยังไงก็ตามก่อนจะมาคุยกันเรื่องศาสตร์ความเป็นครู สิ่งที่ควรดูก่อนเลยคือความรู้ในด้านวิชาการของสิ่งที่คุณจะสอนมันพอรึยัง และถ้ายิ่งในระดับมหาวิทยาลัยคนสอนควรจะมีประสบการณ์การทำงานมาได้ระดีบนึงถ้าเป็นไปได้ ไอระบบที่คนจะสอนได้ต้องจบครูทุกวันนี้มันเลยเกิดเคสที่ว่า สอนไปก็ใช้ไม่ได้เพราะคนที่สอนก็ไม่ได้รู้เรื่อง ไม่เคยใช้ ไม่เคยทำงาน แต่แค่ได้มาสอนเพราะเขียนหลักสูตรมา+บุคลากรมีเท่านี้ก็ต้องดั้นด้นสอนกันไป

ยกเลิกคณะครูไปแล้วเปิดให้แข่งขันเสรีสอบเอาใบบรรจุ สอบสองรอบ รอบแรกใบอนุญาตผู้ช่วยครูแล้วจับฝึกสอนและวิธีการสอนอีกปีครึ่งพอครบกำหนดระยะเวลาก็มาสอบเอาใบบรรจุจริง ๆ เป็นการปิดท้าย

ควรจะต้องเรียนวิธีสอนด้วย การทำงานกับเด็กต้องมีความเข้าใจสูง

ผมว่าปัญหาครูไทยไม่ได้อยู่ที่ด้านความรุ้เท่าไหร่ แต่อยู่ที่ทัศนคติเกี่ยวกับงานวิชาการมากกว่า

เช่นการยอมรับคำวิจารณ์ การตัดสินอย่างไม่มีอคติ การอัพเดทความรู้(ความรุ้ 4-5 ปีก่อน มาปีนี้อาจจะผิดแล้ว) การแก้ปัญหา(ทุกวันนี้ยังเห็นบอกว่าไม้เรียว/ผมเกรียนสร้างคนอยู่เลย ชาตินี้คงตามแวดวงวิชาการสากลทัน)

ด้วยความเคารพต่ออาชีพครู ผมยอมรับว่าการเป็นครูไม่ง่ายนะ เพราะงั้นผมแนะนำให้พัฒนาครูก่อนดีกว่า

แต่ถ้าพัฒนาให้ตายก็ยังไม่ได้คุณภาพ หรือครูเองไม่อยาพัฒนาให้มันเหนื่อย แบบนั้นคงต้องผลักดันให้แข่งขันเสรี

ผมว่ายากอีกอ่ะ ถ้ายุบคณะคุรุศาสตร์ทิ้ง แล้วเอาคนจบป.ตรี ไม่เป็นครู ครูน่าจะไม่พอ

สมมติจบวิศวะมา งาน บ.เอกชน กับ เป็นครู จะเลือกอะไร

ผมว่าต้องคนชอบที่จะสอนจริงๆถึงจะเลือกเป็นครู

ไหนจะเงินเดือน ไหนจะลักษณะงานที่ไม่ได้มีแค่สอนหนังสือ

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะที่เอาคนที่เก่งที่สุดของสายนั้นๆ มาเป็นผู้สอนจากปสก.คนเหล่านั้นเก่งจริง แต่ถ่ายทอดหรือสอนไม่รู้เรื่อง คนไม่เก่งจะตามไม่ทัน

คนที่จะมาสอนได้ ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่แน่นอนต้องมีความรู้ที่แน่น สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ดี อธิบายเรื่องยากให้เข้าใจง่ายๆ สำคัญสุดคือสามาถสอนให้คนไม่เก่งให้เข้าใจได้ ส่วนผู้เรียนที่เก่งๆ เค้าสามารถไปต่อยอดเองได้อยู่แล้ว

พูดในฐานะครูคนนึงที่ผ่านการสอบบรรจุมา ข้อสอบมันวัดได้มากกว่านั้นครับ
ไม่งั้นถ้ามันง่ายใครก็ตามที่สมัครก็ควรได้เป็นครูกันหมด ข้อสอบที่เห็นแชร์กันตามเพจไม่ใช่ข้อสอบจริงที่เอามาสอบบรรจุครูเลยครับ ระบบในนี้มันห่วยจริงแต่วิธีการคัดคนเข้ามาไม่ได้ห่วยขนาดนั้นครับ ท่าน

ผมอยากให้อาชีพครูเป็นอาชีพที่เราให้ความสำคัญที่สุดเพื่อให้เกิดการแข่งขัน เพราะครูเก่ง จะให้อะไรเราได้มากกว่า ท่องจำ แต่ทุกวันนี้มองกลับไป ครูบางคนยังต้องมีงานธุรการงานการเงิน บัญชี พัสดุ บลาๆ
ไม่เข้าใจทำไมไม่จ้างคนแยก ให้ครูโฟกัสการเรียนการสอนอย่างเดียวพอ

จบทหารครับ.......ต่อยอดไปได้หม้ดดดดดดดดดดดดด

ยืนยันอีกเสียงครับว่าข้อสอบข้าราชการมันคัดคนได้ระดับหนึ่งเลยแหละ
แต่พอมาอยู่ในระบบราชการที่ห่วยแตก มันทำให้ทุกอย่างห่วยตามไปด้วย